พฤศจิกายน 2561

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
30
 
 
29 พฤศจิกายน 2561
All Blog
ท่อน้ำทิ้ง..




 นานมาแล้ว.. 

ตอนที่ผู้เขียนกำลังก่อสร้างบ้านหลังใหม่เมื่อหลายปีก่อน

เมื่อมีเวลา ก็เลยแอบย่องเข้ามาตรวจตราความคืบหน้างานก่อสร้าง 

ว่าช่างเขาทำงานไปถึงไหนแล้ว..



ลองนึกภาพดูครับว่า 

การสร้างบ้านหลังหนึ่งนั้น งานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสา ตอม่อ คานคอดิน 

และระบบที่รองรับโครงสร้างของบ้านจะต้องถูก สร้างขึ้นตามแบบแปลนก่อน

รวมถึงระบบน้ำ ไฟ ต่างๆก็ต้องถูกวางแผนมาอย่างดีว่าจะต้องอยู่ตรงไหน ตำแหน่งไหน

เอาให้ชัวร์..



เพราะเมื่อบ้านสร้างเสร็จแล้ว

คงไม่มีใครอยากรื้อโน้น รื้อนี่ แล้วทำใหม่ให้เสียเวลา เสียอารมณ์.. 

แถม งานแก้ ยังมีค่าใข้จ่ายเพิ่มอีก

ก่อนที่จะมีผนัง หลังคา หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดานสีสวยๆ จนเป็นบ้านที่เสร็จสมบูรณ์นั้นไม่ง่ายเลย..

ลุ้นกันเหงื่อตกทีเดียว..



แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง

ผู้เขียนเคยสงสัยครับว่า

ขนาดของ ท่อน้ำทิ้ง หรือท่อน้ำเสีย ที่ทำหน้าที่เอาน้ำที่บ้านเราใช้แล้ว

ออกไปสู่รางระบายน้ำสาธารณะนอกบ้าน




หากลองสังเกตดีๆ จะพบว่า มันใหญ่มาก เลย หากเทียบกับ ท่อน้ำประปา ที่เข้าหน้าบ้าน

ก็เลยลองถามช่างว่าทำไม ท่อน้ำทิ้ง มันจึงใหญ่กว่า ท่อน้ำดี มากนัก

คำตอบแรกคือ ทำตามที่เขาเขียนแบบมาครับ.. 

อึ้งไปเลย.. โอเคไม่เป็นไร..


เลยไปถามอีกคนหนึ่ง พี่เขาตอบว่า น้ำประปามันสะอาด ส่วนน้ำทิ้งมันสกปรกมีขยะ

ถ้าท่อน้ำทิ้งมันเล็กมันจะอุดตันได้..  เออ พอเข้าเค้าหน่อย

แต่ก็ยังสงสัยต่อว่า 

เฮ้ย..!! บ้านคนเรามันจะทิ้งขยะลงไปในน้ำทิ้งเยอะขนาดไหนกันเชียว.. 

มันจะอุดตันง่ายๆขนาดนั้นเลยเหรอ..?



ไม่ได้ขี้เหนียวอยากจะลดขนาดท่อน้ำทิ้งนะ..

อะไรที่มันใหญ่ๆ โตๆ มันก็ดีอยู่แล้ว อันนี้เข้าใจได้..

เป็นไปตามมาตรฐานการก่อสร้างเหรอ อันนี้ก็ไม่เถียงเหมือนกัน



สุดท้ายคำตอบทางวิศวกรรม  ยังไม่ตอบโจทย์ในใจเท่าไหร่

ก็เลยเก็บความสงสัยเล็กๆอันนั้นเอาไว้ในใจลึกๆ

จนแทบจะลืมๆมันไปก็หลายปี..


จนได้มีโอกาสมาศึกษา ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า

บวกกับความรู้แนวๆจิตวิทยา หลายๆสำนัก 

ก็พบว่า..


" ความดีจงเพียรสร้าง ความชั่วจงเพียรละ ดูแลรักษาจิตใจให้สะอาดผ่องใส "

" กฏของการแทนที่ เมื่อมี ของเข้า ก็ต้องมี ของออก เสมอ "

เอาเข้าอย่างเดียวไม่เอาออกเลยก็ไม่ได้ 

จะเอาออกอย่างเดียวไม่เติมเข้าไปบ้างเลยก็ไม่ดี



มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม เกิดมาล้วนต้องเจอ ความทุกข์ เครื่องเศร้าหมอง

แต่ส่วนมากกลับชอบ อมทุกข์  กักเก็บทุกข์

แต่ไม่ชอบระบาย ไม่รู้วิธีผ่องถ่ายมันออกมาบ้าง



หากเปรียบว่า บ้าน คือ จิตใจ ของคนเรา

หากบ้านไหนที่ผลิตน้ำเสียเยอะๆ แต่ระบายออกมาได้น้อย..

กักเก็บ ตะกอน ฝุ่นผงเอาไว้มากๆ


ไม่นาน บ้านหลังนั้นจะเริ่มมี มลภาวะทางกลิ่น  รบกวน

มีน้ำเน่า มีเชื้อโรคสิ่งสกปรก เนืองนอง ยั๊วเยี๊ย 

พาลพาให้คนในบ้าน สุขภาพย่ำแย่ เจ็บป่วย จิตใจหม่นหมอง



ทางแก้คงไม่ได้อยู่ที่เราจะไปทุบทิ้ง เพื่อเปลี่ยน ขนาดท่อน้ำทิ้ง ให้ใหญ่ขึ้น.. อย่างเดียว

แต่.. ลืมดูว่า บ้านเรามี ปริมาณน้ำเสีย มากเกินกว่าท่อน้ำทิ้งจะระบายได้ทัน

เพราะหลายคนก็เคยพยายาม ทุบท่อน้ำเสียอันเดิม 

แต่สุดท้าย มันกลายเป็นการ ทุบบ้านทิ้งทั้งหลัง ไปเสียนี่..

แก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน  ปัญหามันจึงไม่จบ..



ทางแก้คงอยู่ที่ เราเจ้าของบ้าน ต้องหมั่นตรวจตราบ้านช่องของตนเอง

ต้องรู้ว่า บ้านเรา มีขยะสิ่งสกปรกมากน้อยเท่าใด วันๆหนึ่งบ้านเราผลิตน้ำเสียมากแค่ไหน

หากรู้ว่า บ้านเราเริ่มมีกลิ่นน้ำเน่า ก็ต้องรีบตรวจสอบ



หากทำเองไม่ได้ เราก็ต้องเรียกช่างมาดูว่า ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนกันแน่

ถ้ามันท่อน้ำทิ้งตัน น้ำมันไม่เดิน มันไม่ยอมระบาย มันเต็มไปด้วยขยะโคลนตม 

ก็คงต้องถึงเวลาลอก ถึงเวลาต้องทำความสะอาดสักที..

อย่าปล่อยเอาไว้นาน..



บางทีที่น้ำมันเน่าในบ้าน อาจเป็นเพราะ น้ำดี ที่เข้าบ้านมันน้อยเกินไปหรือเปล่า..

นันจึงไม่สามารถมา เจือจาง ชำระล้าง ไล่  น้ำเสียในบ้านเราได้หมด..

มันจึงเหลือเชื้อ เหลือกลิ่นตกค้าง..



หลักคิดมีดังนี้ครับ

ของดีความดี ต้องค่อยๆทะยอยสะสม สรรค์สร้างมันขึ้นมา

ส่วนของไม่ดีของเสีย ควรระบายถ่ายเท ออกไปให้เร็ว ไม่ถือ ไม่กัก ไม่แบกเอาไว้นานๆ



เหมือนท่อน้ำดี น้ำประปา ต้องมีพร้อม เพียงพอ สำรองเอาไว้ชำระล้างสิ่งสกปรกในบ้านเสมอ 

เปรียบเสมือนคนที่มี หลักธรรมประจำใจ ที่ต้องมีสำรองพร้อมใช้ยามจำเป็น ยามจิตตก..

แต่คงไม่ต้องถึงกับ โลภ หรือ มักมาก ในความดี

แค่ขอให้ค่อยๆเก็บค่อยๆสร้างเดี๋ยวมันก็คงเติมเต็มในสักวัน..



ส่วนน้ำเสีย น้ำที่ผ่านการใช้งาน มีตะกอนก้อนดิน ควรหรือที่เราจะเก็บกักเอาไว้ดอมดม..

เปรียบเสมือน ความชั่ว ความทุกระทม ที่เห็นแล้ว ได้กลิ่นมันแล้ว

รู้แล้วว่าเหม็น ไม่เจริญจมูก ไม่เจริญหัวใจ

ก็ต้องรีบปล่อย รีบระบาย อย่าเก็บไว้นาน..



ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ท่อน้ำทิ้งในใจ ของใครจะใหญ่ ท่อของใครจะโล่ง กว่ากัน

แต่ละคนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว ประสิทธิภาพในการระบาย ความทุกข์ มันจึงไม่เท่ากัน..



ท่อน้ำทิ้งที่บ้าน กลายเป็น ปริศนาธรรม

ความชั่วก็ต้องทิ้ง ความดีก็ต้องสะสม



แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือ หลายคนมุ่งมั่นทำบุญใส่บาตร ให้ทานอยู่เป็นประจำ

แต่อีกด้านหนึ่งก็ยัง เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่นอยู่เหมือนกัน 

บุญก็ชอบทำ.. แต่กรรมก็ชอบก่ออยู่

น้ำดีกับน้ำเสีย มันก็เลยปะปนกันมั่วเละเทะไปหมด..





จิตใจของเรา เมื่อรับของอะไรเข้าบ้านแล้ว 

ก็ต้องรู้จักแบ่ง แยก คัด ของที่ดีและไม่ดีออกจากกัน

รักษา สมดุลย์จิตใจ เอาไว้ให้ดีๆ..



บ้านหลังนี้สร้างเสร็จนานแล้วครับ

ท่อน้ำทิ้งที่ว่า ก็โดนกลบโดนฝังเอาไว้ นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ดินเรียบร้อย..



เวลาที่มีความทุกข์ใจ ก็พยายามคิดถึง ท่อน้ำทิ้ง ที่ว่าเอามาเป็น ครู สอนใจ

ให้เรียนรู้ ปล่อยวาง อะไรที่มันไร้ประโยชน์ก็โยนมันทิ้งไปซะบ้าง..

ก็รู้สึกว่าชีวิตมันเบาสบายมากขึ้น กว่าแต่ก่อนเยอะแยะเลย..


ก่อนจากกันวันนี้ ก็อยากจะฝากเอาไว้ว่า

อย่าลืมสำรวจ ท่อน้ำทิ้งในใจ ของแต่ละคนด้วยนะครับ 

ว่ามันเริ่มตีบตัน ตื้นเขินแล้วหรือยัง..

หากว่ามันเริ่มจะ ระบายความทุกข์ ยากขึ้นเรื่อยๆ ไล่ยังไงก็ไม่ไป

ก็คงต้องถึงเวลา โมดิฟาย ท่อน้ำทิ้งใหม่กันได้เสียที..




ขอขอบคุณเจ้าของรูปสวยๆทุกรูปครับ




Create Date : 29 พฤศจิกายน 2561
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2561 17:18:50 น.
Counter : 930 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]