Group Blog All Blog
|
หยิบข่าวเล่าธรรม ตอน #เพราะทุกลมหายใจของฉันสำคัญเสมอ..  จากข่าวน่าเศร้าของ หมอเมย์ พญ.ทักษอร เล้าวงค์ เจ้าของเพจ หมอเมย์สู้มะเร็งระยะสุดท้าย ที่ต้องเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ได้สิ้นใจลงอย่างสงบ ตามที่เราได้ทราบข่าวทางสื่อต่างๆในวันนี้.. ผู้เขียนไม่ได้ติดตามหรือเป็นแฟนเพจของคุณหมอแต่อย่างใดครับ แต่พอได้เสพข่าวอย่างนี้ ก็ลองเข้าไปอ่านข้อความที่คุณหมอเขียนเอาไว้ ก็คิดว่า เราน่าจะนำเรื่องราวของคุณหมอที่ใช้ ชีวิตในช่วงสุดท้ายของเธอ ที่ได้ถ่ายทอด ประสบการณ์ ที่เรียกว่า ความตายมาเคาะประตูเรียกถึงหน้าบ้าน ให้เราทุกคนได้ศึกษาได้เรียนรู้ สัจจะธรรมความจริงของชีวิต ที่เราทุกคนจะต้องประสบพบเจอ กันแน่นอนทุกคน ไม่ช้าก็เร็ว.. คุณหมอซึ่งต่อไปนี้ผู้เขียนจะเรียกเธอว่า หมอเมย์ ก็แล้วกันครับ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารระยะที่สี่ หรือระยะรุกรามเมื่อไม่นานมานี่เอง.. วันแรกที่เธอรู้ว่าเธอตกเป็น เหยื่อ ชองโรคที่เรียกว่า มะเร็ง นั้น หมอเมย์ก็เหมือนกับมนุษย์สามัญทั่วไปคือ ตกใจ สับสน หวาดกลัว และทำใจไม่ได้เลย... ชีวิตครอบครัวที่กำลังอบอุ่น สมบูรณ์ เพียบพร้อม หน้าที่การงานที่กำลังเจริญรุ่งเรือง รุ่งโรจน์.. เพื่อนพ้อง พี่น้อง ญาติมิตร คนไข้ ที่คอยสนับสนุนพลักดัน ที่สำคัญ ลูกตัวน้อยๆ ที่กำลังเติบโต กำลังน่ารัก พวกเขาจะอยู่อย่างไร..? ถ้าวันหนึ่ง มันจะไม่มีเธออยู่บนโลกนี้อีกต่อไป.. หลังจาก ตั้งหลักตั้งใจ ตั้งสติ ได้.. หมอเมย์ ก็ปรับความคิดปรับจิตใจใหม่หมด คุณพ่ออันเป็นที่รักของเธอ ได้บินมารับตัวเธอไปรักษาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่กับเธอ " ลูกจะต้องหาย พระเจ้าไม่ทอดทิ้งเรา " " กลับบ้านเรามารักษาตัวกันนะ " ที่หมอเมย์ฟังแล้ว อบอุ่น ไปถึงหัวใจ.. จากนั้นหมอเมย์ก็ตั้งเพจ หมอเมย์สู้มะเร็งระยะสุดท้าย ขึ้นมา เพื่ออัพเดตเรื่องราวชีวิตของเธอในระหว่างที่เธอกำลังต่อสู้กับโรคร้าย และหวังให้เรื่องราวของเธอจะเป็น การจุดประกายความหวัง ให้กับผู้ป่วยรายอื่นๆที่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเธอ เพียงให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตง่ายๆ.. ทุกข้อความ ทุกถ้อยคำที่หมอเมย์ได้ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือให้ผู้ที่ติดตามเพจของเธอได้อ่าน จะได้เห็นมุมมองที่เธอกำลังสื่อให้เห็นถึงความจริงอีกด้านหนึ่งของชีวิต ที่เธอกำลังประสบอยู่.. แค่คำว่า คุณค่าของลมหายใจ ก็มีความหมายมากมายอย่างยิ่ง สำหรับคนที่กำลังใช้ ลมหายใจของชีวิต อย่างฟุ่มเฟือย สุร่ยสุร่ายเหลือเกิน.. รูปรอยยิ้มของหมอเมย์ ที่แสดงอยู่ในเพจหลายต่อหลายรูป มันบ่งบอกถึงความเป็น นักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ ที่นอกจากจะสู้เพื่อตัวเองแล้ว เธอยังยิ้มสู้เพื่อเป็นกำลังใจให้คนอื่นๆด้วย การเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้หมอเมย์มองโลกเปลี่ยนไป.. มีอยู่ตอนหนึ่งเธอเขียนไว้ว่า เรื่องที่เธอเคยโศกเศร้าเสียใจในอดีต มันกลายเป็น เรื่องเล็กน้อย ไปเลยสำหรับเธอในตอนนี้ ตอนที่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การได้มีชีวิตอยู่ต่อไป..  การเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า เมื่อคนเราใกล้จะตาย มันไม่มีเรื่องอะไรในโลกนี้จะสำคัญไปกว่า การที่จะได้ มีชีวิตอยู่รอดไปอีกหนึ่งวัน ชีวิตเป็นของมีค่ายิ่งกว่าจะยอม เสียเวลา ไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญใดๆเลย.. หมอเมย์มองว่า มะเร็ง ที่คนอื่นๆอาจจะเกลียดกลัว แต่เธอกลับมองว่าเป็นเรื่องของ ธรรมชาติ เป็นกลไกของชีวิต ทำให้เธอมีมุมมองที่ดีต่อมะเร็งต่อชีวิตที่เธอกำลังดำรงอยู่ หมอเมย์ สามารถปรับความคิดของเธอได้อย่างชาญฉลาด เรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคร้ายได้อย่างมี สติ และเข้าใจมันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน หมอเมย์เรียนรู้ฝึก การทำสมาธิ เพื่อเอาไว้ฝึกจิตใจของเธอให้มีความตั้งมั่นไม่หวั่นไหว กับความแปรปรวนของอาการเจ็บปวดจากการรักษา ในขณะที่หลายๆคนยังมีโอกาสฝึก แต่ก็ยังละเลยเห็นเป็นเรื่องไกลตัว.. จนกระทั่งวันท้ายๆที่หมอเมย์.. วันที่อาการเธอไม่สู้ดี วันที่เธอใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะอัพเดตอาการป่วยของเธอ ให้ผู้ติดตามและผู้ที่คอยให้กำลังใจเธอทราบ " แม้กระทั่งหายใจยังเหนื่อย " ประโยคบอกเล่านี้ มันสื่อถึงความไม่แน่นอนของสังขารร่างกาย ความเสื่อมถอยของร่างกายนี้ เป็นเหตุทำให้เราทั้งหลายต้องรู้จักคำว่า ทุกข์ กันทุกคน.. จนกระทั่งวันนี้ คนที่อัพเดตแจ้งข่าวทางเพจของหมอเมย์ ได้แจ้งว่าหมอเมย์ได้สิ้นใจลงอย่างสงบแล้ว ท่ามกลางความอาลัยจากผู้ใกล้ชิดครอบครัว เพื่อนพ้องและคงไม่พ้น สามี ลูกๆของหมอเมย์ ที่ยังเด็กๆยังไร้เดียงสาเกินกว่าจะมาเข้าใจในเรื่องที่ ยากเกิน ที่จะยอมรับได้ของหนึ่งชีวิตที่จากไป ผู้เขียนได้อ่านถ้อยคำบางส่วนที่ สามีของหมอเมย์เขียนเพื่อไว้อาลัยต่อหมอเมย์ ก็อยากจะนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านกัน โดยไม่มีข้อจำกัดทางความเชื่อทางศาสนาใดๆมาขวางกั้น ดังนี้ครับ " ชีวิตเปรียบเสมือนการเดินทาง จุดหมายหนึ่งในนั้นคือความตายแต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่ " วันนี้หมอเมย์ได้เดินทางไปสู่โลกใหม่ที่สว่างสดใส หลังจากผ่านวันและค่ำคืนอันยาวนาน กว่า4เดือน ด้วยกำลังใจอันแรงกล้า ความหวัง และความศรัทธา ในช่วงเวลาเหล่านั้นหมอเมย์ได้ให้มุมมองและความคิดเชิงบวก ให้กำลังใจกับทุกคนที่พบเจอ หากจะขยายความจากจุดนี้ก็คือ ความตาย ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตหน้า หากจะเอามาเปรียบเทียบกับทางพระพุทธศาสนาก็คือ ความตาย ก็คือการเคลื่อนออก จากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่งเท่านั้นหาใช่เป็นการสิ้นสุดไม่ ความตาย ก็เป็นแค่ ลีลาหนึ่งของวงจรชีวิต ที่ยังคงหมุนเวียนไปไม่รู้จบ สุดท้ายนี้ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้เรียนรู้ของคนที่ยังอยู่.. เรียนรู้ที่จะอยู่อย่าง ตื่นรู้ โดยเอาชีวิต เอาคุณค่าของชีวิตที่หมอเมย์ทิ้งเอาไว้เป็นแบบอย่าง หรือจะเลือก รู้แล้วลืม ก็อยู่ที่เราเอง ที่จะเลือกให้ความสำคัญกับสิ่งใด.. วันนี้เราเคยถามตัวเองหรือยังว่า วันคืนที่ผ่านมา เราทำอะไรอยู่..? #เพราะทุกลมหายใจของฉันสำคัญเสมอ_หมอเมย์  ผู้เขียนขอขอบคุณรูปและบทความจากเพจ หมอเมย์สู้มะเร็งระยะสุดท้าย รวมถึง ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและผู้ที่รักหมอเมย์ทุกท่านครับ ผู้เขียนมีเจตนานำเรื่องของหมอเมย์มาเป็นข้อคิดทางธรรมเท่านั้น หากมีข้อมูลใดผิดพลาดและทำให้เกิดความเข้าใจผิด ผู้เขียนต้องขออภัยไว้ ณ ที่มี้ด้วย ขอบคุณครับ
|
นายสมมุติ
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?] Link |
||||||||||||
