เมษายน 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
15
16
17
19
21
22
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
หยิบข่าวเล่าธรรม ตอน น้ำตาพ่อ

  ข่าวชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าร้องไห้โฮ อ้างว่าถูกลูกทอดทิ้ง..

คุณลุงที่เป็นข่าวว่าเดินเท้าจากจังหวัดทางภาคกลางตอนบนจะไปหาลูกที่เชียงใหม่

ชาวบ้านพบเห็นจึงเข้าไปถามไถ่ ช่วยเหลือ เพราะสภาพของคุณลุง อ่อนแอ และบอบช้ำเต็มที

ในภาพข่าว เห็นคุณลุงท่านนี้ร้องไห้  แล้วผู้เขียนรู้สึก สะท้อนใจ อย่างบอกไม่ถูก..

คิดถึงคุณพ่อของตัวเองขึ้นมาทันทีทันใด..

คุณลุงอ้างว่ามีลูกหลายคนแต่ไม่สามารถอยู่กับลูกคนไหนได้นานๆ

และกำลังจะไปอยู่กับ ลูก อีกคนที่เชียงใหม่ และที่ที่สำคัญคุณลุงท่านนี้ไม่มีเงินติดตัว

เดินทางอย่างที่ต้องขอเขากิน นอน ไปวันๆ..

 

คุณลุงเล่าว่าตนได้แบ่งสมบัติให้กับลูกๆไปหมดแล้ว บั้นปลายชีวิตก็จะฝากชีวิตที่เหลืออยู่

หวังว่าจะมีลูกคนใดคนหนึ่ง ดูแล ยามแก่เฒ่า..

ข่าวในเบื้องต้นมีแค่นี้ และก็ไม่รู้ว่าคุณลุงท่านนี้จะเดินทางไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้หรือเปล่า..

 

พอเสพข่าวนี้แล้ว เชื่อว่าหลายท่านก้คงมีความเห็นไปต่างๆนาๆ เป็นเรื่องของ ปัจเจกบุคคล

แต่ไม่รู้สินะ แต่พอเห็น น้ำตาคนแก่ แล้วมันทำใจมันหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก..

และก็คิดว่าเรื่องอย่างนี้มีจริง และบางเรื่องที่เราไม่รู้อาจเป็นยิ่งกว่า ละครภาคค่ำ

 

ไม่ต้องการหาว่าใครผิดใครถูกครับ..

แต่ต้องถามตัวเองดังๆว่าเรา ได้อะไรจากข่าวนี้..?

ข่าวนี้ให้ สาระกับชีวิตของผู้เสพ ในแง่มุมไหน..?

 

ไม่ขอ วิจารณ์ ไปพาดผิงใครคนใด แต่จะขอ วิพากษ์ ในแง่มุมของ ธรรมะ เท่านั้น

 

ในทางธรรมะ โดยเฉพาะ พระพุทธศาสนา ท่านให้ถือว่า บุพการี นั้นมีบุญคุณใหญ่หลวง

จะตอบแทนท่านอย่างไร พิเศษเลิศหรูแค่ไหน ก็หาได้เพียงพอแก่ น้ำใจของท่าน

ที่อุตสาห์ให้ชีวิต อบรมเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำทางกาย และทางใจคือป้อน ศีลธรรมจรรยา

อันเหมาะควรแก่การดำรงชีวิต..

หรืออย่างน้อยท่านก็ ปกปักรักษาภยันอันตราย ให้แก่เรายามที่เรายังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ไม่รวมในยามที่เราเจ็บป่วยไข้ ที่ท่านจะต้องเฝ้าฟูมฝัก ปลอบโยน ให้ลูกคลายทุกข์กังวล..

จนมีคำกล่าวที่ว่า การทดแทนบุญคุณของ พ่อแม่ นั้น แม้ในยามที่ท่านแก่ชราไร้เรี่ยวแรง

ในการเดินเหิน เราในฐานะลูกก็ต้อง แบกหามท่านทั้งสองขึ้นบนบ่า ซ้ายและขวา

แล้วพาทานไปตามที่ท่านอยากไป แม้ท่านจะปล่อยของเสีย อุจจระ ปัสสวะ ราดรดบนบ่าบนตัวเรา

จนเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ตัวลูกนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ไปขับไล่ หรือโยนท่านลงจากตัวเราได้..

 

พ่อให้ชีวิต แม่ให้ร่างกาย หากไม่มีพวกท่านก็คงไม่มีเราในวันนี้แน่นอน..

 

คนแก่ขี้น้อยใจครับ ใครที่เคยอยู่ใกล้ชิดก็น่าจะทราบดี

ท่านอยากให้คนมาสนใจ รักใคร่ท่านเป็นเรื่องปรกติธรรมดา..

หากบางท่านยังพอมี มรดก สมบัติ ติดตัวบ้างเชื่อว่าลูกหลานคงเทียวไปเทียวมาไม่หยุดหย่อน

คงยังพอมีคนที่เอาอกเอาใจท่านเป็นเรื่องธรรมดา..

แต่ถ้าผู้เฒ่าคนใด ที่โยนทรัพย์สมบัติให้ลูกเต้าจนตัวเองไม่เหลืออะไรแล้ว..

ชะตากรรมของหลายๆท่านอาจจะต้องเป็นเหมือนคุณลุงท่านนี้ก็ได้..

 

ข่าวก็คือข่าวครับ ข้อมูลบางอย่างอาจจะจริงหรือไม่จริง อาจจะตกหล่นไปตามช่องทางการสื่อสาร

เราก็ควรมี วิจารณญาณ ในการเสพ ดูว่า แก่น ของข่าวมันคืออะไร..

คนที่เป็น พ่อเป็นแม่ ก็ต้องเอามาขบคิดให้เห็น สัจธรรมความจริงของโลก ที่มันเปลี่ยนไป

ยอมรับและยิ้มให้กับสิ่งที่มันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราในอนาคต..

เพราะไม่แน่หากเราไม่เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้า..

เราก็อาจจะต้อง มานั่งร้องไห้ ให้คนอื่น เห็น น้ำตาของพ่อ เหมือนดังข่าวนี้ก็เป็นได้..

ขอขอบคุณภาพข่าวจากสำนักข่าวไทย sanook.com และเจ้าของภาพทุกท่าน




Create Date : 23 เมษายน 2558
Last Update : 23 เมษายน 2558 16:45:42 น.
Counter : 1475 Pageviews.

2 comments
  
แวะมาอ่าน... ลุงคนนี้น่าสงสารจัง
...ถึงแม้ว่าไม่ได้แบ่งสมบัติให้ลูกๆท่านก็ควรได้รับ
การดูแลบ้างจากลูกคนใดคนนึง
อันที่จริง มันมองกันได้หลายๆcแง่ทางครับ
หากจะพูดถึงกรรมของลุง
อาจจะไม่เคยเลี้ยงดูพ่อแม่มาในบางชาติ
กรรมเลยตามมาทันในชาตินี้
อีกทั้งรวมทั้งกรรมอื่นๆด้วย
หรือปัจจุบันชาตินี้ไม่ได้มั่นประกอบกรรมดี

จนกรรมเก่าเบาบางหรืออาจจะไล่ตามไม่ทัน
ไม่ได้โทษลุงท่านนี้นะครับ
แต่ลุงอาจจะเจอแต่คนรอบๆข้าง
รอบๆตัวหรือพูดง่ายๆว่าไม่มีกัลยาณมิตรนั้นเอง
ที่ช่วยกันประคับประคองอาจจะชวนเข้าวัด ทำบุญ รักษาศิล ทำทาน

ชีวิตเลยลำบากในช่วงปลาย
แต่พูดไปก็ลำบาก เพราะในยุคปัจจุบัน
มนุษย์จะไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม
จะเชื่อแต่กฏเทคโนโลยี แทบกราบไหว้มันวันละหลายๆครั้ง
โดย: เตยจ๋า วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:0:30:33 น.
  
ช่วยคนแก่ผู้เฒ่าเป็นการดีขอรับ.. แต่ก็เห็นด้วยกับการอ่านข่าว
เพราะว่าอาจจะมีข้อมูลบางส่วนอาจจะไมใช่
เคยเห็นหลายๆข่าว ที่ถูกเขียนลงข่าวอย่างบิดเเบือน
ทำเพื่อเพื่อนพวก ทำเพื่อให้ขายข่าวได้
หรือทำข่าวเท็จ เพื่อเห็นแกอามิสสินจ้าง
เมืองไทยเรามีเยอะมากๆ จนบางครั้งผู้บริสุทธิ์กลายเป็นผู้ต้องหา
ก็เพราะการกระพื้อข่าวบิดเบือน..ที่เห็นแก่ค่าอามิส... ไม่กลัวบาปกรรม
โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 27 เมษายน 2558 เวลา:8:16:40 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]