จันทบุรีเป็นเมืองเก่า มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานย้อนไปถึงสมัยอยุธยาและถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญกับ “ญวน” ในสมัยโบราณดังนั้นจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันรักษาประเทศอยูหลายที่ สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรีที่มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับการป้องกันประเทศร่วมกับ“ตึกแดง” คือ โบราณสถานค่ายเนินวง ครับ

โบราณสถานค่ายเนินวง ถนนท่าแฉลบ บางกะจะจันทบุรี

วิธีการเดินทางมา โบราณสถานค่ายเนินวงก็ไม่ยากครับ จากตัวจังหวัดจันทบุรีใช้ถนน3146 มุ่งหน้าบางกะจะ โบราณสถานค่ายเนินวง จะอยู่ทางขวามือเลยครับระยะทางจากสวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประมาณ 4.7 กิโลเมตรครับ

ประวัติของ โบราณสถานค่ายเนินวงย้อนกลับไปในอดีตได้ถึงรัชกาลที่สามของกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในตอนนั้นเกิดเหตุกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ซึ่งยกทัพเข้ามาตีหัวเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงนครราชสีมา (อันเป็นที่เกิดวีรกรรมเท้าสุรนารี)ทางกรุงเทพฯส่งกองทัพขึ้นไปปราบปรามจนเจ้าอนุวงศ์หนีไปพึ่งญวนกลายเป็นเรื่องบาดหมางทำให้เกิดสงครามระหว่างไทยกับญวน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้นเพื่อเตรียมรับศึกญวน เช่นสร้างป้อมจำนวน 2ป้อมขึ้นที่ปากน้ำแหลมสิงห์ (ภายหลังป้อมหนึงถูกฝรั่งเศสรื้อเอาอิฐมาสร้างตึกแดง)

จันทบุรีเป็นหัวเมืองชายทะเล ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ที่ต.บ้านลุ่มฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี ภูมิประเทศไม่เหมาะจะเป็นฐานทัพ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเกรงว่าญวนจะมายึดเอาได้จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศบุนนาค) เลือกหาชัยภูมิที่เหมาะเพื่อสร้างค่ายรับศึกญวณ มาได้ชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งค่ายที่บ้านเนินวงมีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ แต่สามารถเห็นข้าศึกถึงปากแม่น้ำจันทบุรีซึ่งเหมาะแก่การตั้งมั่นอย่างยิ่งจึงลงมือสร้างเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2377 โดยรื้อศิลาแลงและอิฐของกำแพงจากเมืองจันทบุรีไปสร้าง ค่ายเนินวงได้รับการออกแบบสร้างอย่างถูกหลักยุทธศาสตร์โดยสร้างเป็นเมืองป้อมเป็นรูปสี่เหลี่ยมกินพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีสร้างกำแพงสูง ๖ เมตรล้อมรอบ มีป้อม คูน้ำ แลtประตูสี่ประตู มีการปืนใหญ่จุกช่องตามกำแพงเมืองตั้งเรียงรายไปตามช่องใบเสมาเป็นปืนใหญ่ที่ขนาดกว้างปากลำกล้องน่าจะเกิน ๑๕๕ มม.

ภายในจะเรียกว่าเมืองใหม่ซึ่งประกอบไปด้วยศาลหลักเมือง คลังเก็บอาวุธ และมีวัดหนึ่งวัดชื่อวัดโยธานิมิตซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีพระจำพรรษาอยู่ได้มีการย้ายชุมชนจากบ้านลุ่มให้มาอยู่ในค่ายเนินวง ประชาชนส่วนใหญ่คือ ข้าราชการ แต่มีประชาชนบางส่วนไม่เต็มใจมาอยู่เพราะขาดแคลนน้ำจนมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงโปรดให้อพยพผู้คนกลับไปอยู่ในเมืองได้ดังเดิมให้ค่ายเนินวงจึงร้างไป ปัจจุบันเป็นแหล่งปลูกสละที่มีชื่อเสียงคือ สละเนินวง

ในปัจจุบัน ค่ายเนินวง ทรุดโทรมลงไปมากเหลือแนวเขตป้อมและกำแพงเมืองที่ยังไม่พังไม่มากแต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการสำรวจเพื่อบูรณะ เนื่องจาก ค่ายเนินลงมีอาณาเขตกว้างขวางมาก และในปัจจุบันก็มีประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่โดยทั่วไป ในปีพ.ศ. 2516จึงได้มีการบูรณะตัวป้อมและประตูค่ายทางด้านทิศตะวันออกเสียใหม่เมื่อขึ้นไปยืนอยู่ตรงป้อมและมองออกไปจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลได้อย่างชัดเจนปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้นำปืนโบราณมาตั้งแสดงไว้โดยหันกระบอกปืนสู่ทะเล

Chubby Lawyer Tour ......................... เที่ยวไป .................... ตามใจฉัน