เขาวังคู่บ้าน     ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ    แดนธรรมะ     ทะเลงาม นี่คือคำขวัญประจำจังหวัดเพชรบุรีจังหวัดที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ทางผ่านไปยังชายทะเลที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและต่างประเทศเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ไม่ว่าจะเป็น หาดเจ้าสำราญ ชะอำ หัวหินเขาตะเกียบ หรือว่าปราณบุรีแต่ถ้าได้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเดินทางไปเที่ยวชายทะเลแวะเที่ยวเมืองเพชรบุรีหรือว่าเมืองเพชรตามคำเรียกของชาวเพชรบุรีหรือว่าชาวเมืองเพชรแล้วจะเห็นได้ว่าเพชรบุรียังมีสถานที่ที่น่าสนใจทั้งวัดวาอารามวังเก่าสวยๆ ให้เยี่ยมชมอีกมากมายทีเดียวครับ 

วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี หรือที่คนเมืองเพชรรียกว่า“วัดหลวง” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่บนถนนดำเนินเกษม ตำบลหนองกระแซงอำเภอเมืองเพชรบุรี บริเวณตลาดสดริมแม่น้ำเพชรบุรีกลางเมืองห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 500 เมตร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใดแต่หลักฐานจากสมุดเพชรบุรีระบุว่าได้พบอิฐสมัยทวาราวดีบริเวณป่าช้าวัดมหาธาตุ ฯด้านที่อยู่ติดกับวัดแก่นเหล็ก เป็นแผ่นอิฐยาวประมาณหนึ่งศอก ปิดทับอยู่บนหลุมฝังศพมีซากโครงกระดูกหนึ่งโครง มีอักษรจารึกที่แผ่นอิฐนั้นมีความว่า"ข้าพเจ้าจีนแดงได้สร้างพระปรางค์ไว้ไม่สำเร็จขอให้ข้าพเจ้าได้สร้างพระปรางค์นี้อีกต่อไป" นอกจากนี้ยังมีวัดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี ภายในวัดมีปรางค์เรียงกันหลายองค์ชื่อวัดกำแพงแลงจึงสามารถเชื่อได้ว่าเพชรบุรีเป็นเมืองโบราณที่มีความเจริญรุ่งเรืองมานานแล้ว มีผู้สันนิษฐานว่า วัดมหาธาตุวรวิหาร น่าจะสร้าง สมัยทวารวดี - สุโขทัย มีอายุราว 800 - 1,000 ปี โดยประมาณเนื่องจากขุดพบซากอิฐสมัยทวารวดีอยู่เป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่าวัดมหาธาตุวรวิหารน่าจะเคยเป็นวัดที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นพระอารามหลวงมาก่อนต่อมาชำรุดทรุดโทรมลง และจาก จนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2459 

วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี แบ่งอาณาเขตวัดออกเป็นเขตพุทธาวาสกับเขตสังฆาวาสโดยมีถนนบันไดอิฐคั่นกลางในเขตพุทธาวาสมีสถานที่สำคัญน่าสนใจหลายอย่างครับ เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวชมกันครับ

พระวิหารหลวงสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครับ น่าจะอยู่ในช่วง พ.ศ. 2275 – พ.ศ. 2301 ที่หน้าบันพระวิหารหลวงประดับลวดลายปูนปั้นศิลปะสมัยอยุธยาเช่นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค มีพญาวานรแบกครุฑอยู่อีกชั้นหนึ่ง พื้นหลังเป็นลายกนกก้านขดออกช่อลายหางโต เป็นรูปครุฑ นาค ยักษ์ ฯลฯ ภาพปูนปั้นที่ประดับอยู่ตามพระอุโบสถวิหารหลวงรวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดล้วนเป็นฝีมือช่างเมืองเพชร มีการผสมปูนเพื่อใช้ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นมีส่วนประกอบดังนี้คือปูนขาว (สมัยก่อนคงใช้เปลือกหอยตำละเอียด) ทรายละเอียด น้ำตาลโตนด กาวหนัง กระดาษฟาง นำมาตำรวมกันในครกใบใหญ่ ซึ่งงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวส่วนหน้าบันด้านหลัง (ด้านที่หันเข้าหาพระปรางค์) น่าจะได้รับการปฎิสังขรณ์เร็วๆนี้เพราะทำเป็นรูปสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ

ผนังภายในพระวิหารหลวงทุกด้านมีจิตรกรรมฝาผนังสกุลช่างสมัยอยุธยาด้านข้างตอนบนเป็นรูปเทพชุมนุม(ในบันทึกของสมเด็จฯกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์กล่าวไว้ว่าในหมู่รูปเทพชุมนุมนั้นมีรูปวิทยาธรรวมอยู่ด้วยยังได้ทรงประทานความเห็นว่าคงจะเลียนแบบมาจากวัดใหญ่ (วัดสุวรรณาราม))ด้านตรงข้ามพระประธานเป็นรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมให้น้ำท่วมเหล่าพระยามารที่จะมาขัดขวางการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าส่วนด้านหลังพระประธานเล่าเรื่องท้าวมหาชมพูตอนล่างของผนังด้านข้างและช่องระหว่างหน้าต่างเขียนเรื่องมหาชาติชาดกน่าเสียดายว่าจิตรกรรมฝาผนังส่วนนี้หลุดลอกไปบางส่วนแล้วครับ

ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระพุทธรูปประธานทรงราชาภรณ์ปางมารวิชัย พร้อมพระอัครสาวก องค์พระประธานตั้งอยู่บนฐานชุกชีปูนปั้นประดับกระจกสกุลช่างเมืองเพชรเบื้องหน้าพระประธานประดิษฐานพระพุทธรูปอีก 2 องค์ขนาดต่างกันและประดิษฐานบนฐานสูงแตกต่างกันลดหลั่นลงมา มีการนำกระจกใส(ที่ไม่ลดแสงสะท้อนเวลาถ่ายรูป) มาล้อมรอบที่ฐานพระทั้งหมดเพื่อมิให้ประชาชนปิดทององค์พระทุกองค์ที่อยู่ด้านใน

นอกจากนั้นในวิหารยังบรรจุพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเพชรบุรีนับอีกหลายองค์เช่น  หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุเป็นพุทธรุปปรางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว หัตถ์ซ้ายถือพัดชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อวัดมหาธาตุ หลวงพ่อทอง พระพุทธรูปองค์เล็กๆที่ประดิษฐานอยู่บนฐานที่สูง หลวงพ่อบ้านแหลม และรูปหลวงพ่อวัดเขาตะเครา ตรงหน้าพระประธานยังมีเสมาธรรมจักรหินทรายสมัยทวารวดีสำหรับเสมาธรรมจักรหินทรายสมัยทวารวดีมีอายุประมาณ 1000 ปี ตั้งเอาไว้ให้คนมาสักการะอีกด้วย

โบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในวัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี ก็คือ พระปรางค์ 5 ยอดทางจะเดินไปพระปรางค์ 5 ยอดสามารถเดินทะลุด้านหลังพระวิหารหลวงออกไปได้ครับ เมื่อเดินออกประตูด้านหลังพระวิหารหลวงต่อจนถึงระเบียงคตจะเห็นรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ที่พระวิหารหลวงด้านในเราเดินทะลุออกไปที่ลานประทักษิณได้ครับ พระปรางค์5 ยอดตั้งอยู่กลางระเบียงคดล้อมรอบทั้ง4 ด้านมีด้านหน้าเป็นทางเข้าออกทางเดียวซึ่งก็คือประตูพระวิหารหลวง

พระปรางค์ 5 ยอด ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี ถือเป็นสัญลักษณ์ของวัดมหาธาตุเลยครับ สร้างตามคตินิยมของขอมไม่ทราบปีที่สร้างแน่ชัดคาดว่าได้สร้างพร้อมๆกันกับวัดมหาธาตุวรวิหาร เมื่อ 1000 ปีมาแล้ว ไม่ทราบแน่ชัดว่าพระปรางค์มีลักษณะเป็นอย่างไร แต่มีบันทึกว่ามีการสร้างเป็นพระปรางค์ห้ายอดในสมัยรัชกาลที่7 สันนิษฐานว่าเดิมปรางค์ห้ายอดนี้คงจะเป็นพระเจดีย์ห้ายอดเช่นเดียวกับที่เมืองนครศรีธรรมราช แล้วมาแก้ไขเป็นปรางค์ในสมัยหลังภายในปรางค์ใหญ่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ 

 ปรางค์แต่ละองค์สร้างด้วยศิลาแลงแต่ที่เรามองไม่เห็นว่าเป็นศิลาแลงเพราะฉาบปูนและทาสีขาวเสียทั้งองค์เมื่อมองเผินๆจึงเหมือนกับว่าเป็นการก่อสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูนเมื่อมีการบูรณะจึงได้มีการเว้นส่วนฐานเอาไว้ไม่ฉาบปูนส่วนหนึ่งทำให้รู้ได้ว่าพระปรางค์สร้างด้วยศิลาแลง

พระปรางค์ห้ายอดมีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลางทั้งสี่ทิศมีปรางค์องค์เล็กสร้างเชื่อมกับปรางค์ประธานปรางค์ทั้งหมดอยู่บนฐานเป็นลานประทักษินเฉพาะด้านหน้าที่ติดกับพระวิหารหลวงมีบันไดทางขึ้น 2 ข้างแล้วจะเป็นชานพักแล้วจึงจะเป็นบันไดทอดยาวไปสู่ประตูด้านบน ส่วนด้านอื่นๆ จะขึ้นตรงเข้าหาพระปรางค์ยอดของพระปรางค์มีบานประตูประดับแต่ปกติไม่ได้เปิดให้เข้าชมภายในข้างประตูทิศที่ตรงกับพระวิหารหลวงมีรูปปั้นเทวดาถือพระขรรค์ด้านละองค์ส่วนประตูทิศที่เหลือเป็นรูปยักษ์ถือกระบองด้านละตนทั้ง 3 ด้าน ด้านบนมีซุ้มทิศ 3 ทิศ นำประดิษฐานพระยืนปางต่างๆ 3 องค์ (ด้านหน้าของพระปรางค์ที่ติดกับพระวิหารหลวงไม่มีซุ้มทิศ)

ปรางค์องค์ใหญ่วัดจากฐานถึงยอดนภศูลได้ 55 เมตร  สามารถมองเห็นได้แต่ไกล รอบฐานยาว 120 เมตร มีอายุราว 1,000 กว่าปี  ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

มีระเบียงคตรอบพระปรางค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ในระเบียงคตมีพระพุทธรูปจำนวน 193 องค์ประดิษฐานบนระเบียง พร้องทั้งมีตัวแบกที่ฐานพระ ส่วนมากตั้งอยู่ใต้องค์พระพุทธรูปทรงเครื่องไว้หลากหลายสวยงาม พระพุทธรูปส่วนใหญ่ เป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย และสกุลช่างเมืองเพชร พุทธลักษณะงดงามมาก พื้นที่ภายในระเบียงคตมีจำกัดครับจึงเก็บภาพพระปรางค์มาได้ไม่หมด ภายในระเบียงคตมีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่เต็มไปหมดแต่ทางวัดได้ทำเป็นตู้กระจกกั้นไว้ทั้งหมด คาดว่าเกรงว่านกจะมาทำรัง (มั๊งครับ)

เดินกลับออกมาจากบริเวณพระปรางค์ออกมาจากพระวิหารหลวงถ้าเลี้ยวมาทางขวามือเป็น พระวิหารน้อย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลายมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์คือฐานวิหารโค้งคล้ายรูปเรือสำเภา ที่หน้าบันประดับด้วยลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงามเช่นเดียวกับพระอุโบสถ และพระวิหารหลวง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะอู่ทอง ที่ฐานมีลายปูนปั้น ประดับกระจกสวยสดงดงามที่ฐานชุกชีประดับลวดลายปูนปั้นปิดกระจกสกุลช่างเพชรบุรีแต่ลวดลายปูนปั้นประดับฐานชุกชีของหลวงพ่ออู่ทองไม่ได้มีแต่ความสวยงามเท้านั้นนะครับศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานยังแอบแฝงความสนุกเอาไว้ในผลงานด้วยเช่น ปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีแบกฐานชุกชีปนอยู่ในหมู่ยักษ์แบกปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชนี่เจ้าของบล็อกเคยได้ทราบเรื่องมานานแล้วแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซักทีทั้งๆที่ไปไหว้พระที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี บ่อยมากๆเรียกว่าไปหัวหินเมื่อไหร่จะต้องไปแวะที่วัดมหาธาตุวรวิหารแต่ไปมาหลายครั้งก็หาปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ไม่เจอครั้งสุดท้ายที่ไปหัวหินก่อนไปก็ค้นหาในอินเตอร์เนทว่าปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่ตรงไหนแน่ๆก็ไม่มีเวบไหนบอกสาถนที่ตั้งปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช แน่นอนซักเวบพอไปถึงพระวิหารน้อย วัดมหาธาตุวรวิหารก็ลองดูอย่างละเอียดก็ไม่พบ เลยลองเดินเข้าประตูด้านข้างของพระวิหารน้อยดูปรากฎว่า ปูนปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อยู่ชั้นล่างสุดตรงมุมพอดีครับตอนนี้ทางวัดเอาตู้บริจาคมาตั้งเอาบังเอาไว้ก็เลยไม่สามารถมองเห็นได้จากทางด้านหน้าครับ น่าเสียดายนะครับคนปั้นอุส่าห์ปั้นอย่างไม่ไว้ฝีมือเลย ทางวัดกลับไม่เห็นความสำคัญ

โบราณสถานสำคัญอีกแห่งนึงคือพระอุโบสถ ข้อมูลในอินเตอร์เนทมีไม่มากนะครับ เลยนั่งเทียนเขียนเองเลย พระอุโบสถเป็นศิลปสมัยอยุธยาฐานพระอุโบสถโค้งคล้ายเรือสำเภาแต่ไม่มากนักนะครับ ไม่เหมือนที่วัดสุวรรณดาราราม ที่อยุธยา ที่โค้งจนเห็นได้ชัด หน้าปันประดับตกแต่งด้วยลายปูนปั้นฝีมือช่างเมืองเพชรตอนบนเป็นรูปพระอินทร์รบชนะยักษ์ ส่วนตอนล่างทำเป็นรูปเหรา หรือจรเข้านี่แหละครับ 

 ด้านหน้าพระอุโบสถมีพระพุทธรูปปั้นหินทรายสีแดงจำนวน3 องค์ และมีพระนาคปรกสีทองประดิษฐานอยู่ตรงกลางระหว่างประตูทางเข้าทั้ง 2 ข้าง

ภายในพระอุโบสถไม่ได้มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษนะครับไม่มีจิตรกรรมฝาผนัง มีพระประธานปางมารวิชัยพร้อมพระอัครสาวกตั้งอยู่เท่านั้นเอง

วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากน่าที่จะไปเที่ยวชม มีข้อติชมอย่างหนึ่งถึงทางวัดนะครับ  ครั้งที่ไปมาล่าสุดทางวัดได้นำเต้นท์มาตั้งบังหน้าพระวิหารหลวงและพระวิหารน้อยเสียหมดครับหมดความสง่างามไปเยอะเลยเข้าใจว่าทางวัดต้องการจะอำนวยความสะดวกแก่ญาติโยมที่เข้ามากราบสักการะแต่มันทำให้ทัศนียภาพของวัดหมดความสง่า สวยงามไปเยอะครับ

Chubby Lawyer Tour ....................... เที่ยวไป ..... ตามใจฉัน