Group Blog
มีนาคม 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
บทที่ 2: เตรียมตัว
ใครจะว่าผมบ้าก้อเอาเหอะ แต่ผมเตรียมการสำหรับทริปนี้ตั้งแต่ผมเสร็จทริป สิงคโปร์ เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2548
มันจะอะไรกันนักกันหนา ... เคยอยู่มาตั้งนานไม่ใช่เหรอ
การไปอยู่กับการไปเที่ยวมันต่างกันนี่ครับ สมัยก่อนก้ออยู่ไปเรื่อยๆบ้านก้อมีอยู่ เวลาเที่ยวก้อมีไม่จำกัดอยากไปวันไหนก้อไป วันไหนพลาดอะไรไปวันหลังก้อค่อยมาใหม่ก้อได้ แต่นี่ผมไปเที่ยวแค่ 14 วัน แล้วผมก้ออยากพาเพื่อนของผมไปดูอะไรๆให้ทั่วๆ อยากให้เค้าเห็นกันว่าตอนที่ผมอยู่น่ะผมใช้ชีวิตอยู่แบบไหน อยากให้เค้าเห็นร้านกาแฟร้านโปรดของผม ร้านราเม็งที่ผมชอบไปกินกะไอ้คมเมื่อตอนโดดเรียนวิชา E-Crime และที่สำคัญผมคิดว่าไม่ว่าเราจะเดินทางใกล้หรือไกล เราก็ควรจะมีการวางแผนกทางเดินทางไว้ล่วงหน้าให้ดี ถ้าเราวางแผนการเดินทางของเราล่วงหน้าดีๆแล้วถึงแม้จะมีเหตุขัดข้องอะไรเกิดขึ้นเราก็สามารถที่จะแก้ปัญหาไปได้ดีกว่าที่เราไม่มีข้อมูลอะไรอยู่ในมือเลย
ผมก้อเลยต้องกลับมารื้อข้อมูลทางท่องเที่ยวที่ผมเก็บมาจากเมลเบิร์นพร้อมซื้อหนังสือเพิ่มเติมอีกสองเล่ม
เล่มแรก Lonely Planet : Melbourne : City Guide ที่ซื้อเล่มนี้ก้อเพราะว่าข้อมูลที่อยู่ในเล่มค่อนข้างแน่น เพราะเป็นหนังสือเฉพาะกิจมากๆ เป็นการรวบรวมรายละเอียดเฉพาะใน Melbourne อย่างเดียวเลย อีกเล่มนึงที่ซื้อชื่อ Eyewitness Travel Guides : Australia ที่ซื้อเล่มนี้เพราะรูปสวยมากๆครับ แล้วก้อถูกใจกับภาคตัดขวางอาคารสำคัญๆใน Melbourne ทำให้เห็นภาพโดยละเอียดของสถานที่นั้นๆ

จากนั้นผมก็เริ่มมองหางบประมาณในการเดินทาง ในขั้นตอนนี้คงต้องนั่งลงเขียนรายการที่เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นๆก่อนว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยก้อคงเป็น ตั๋วเครื่องบิน สำหรับผมแลวรายการแรกผ่านไปโดยง่าย เพราะผมเป็นแฟนอันเหนียวแน่นของ Singapore Airline ครับ เพราะฉะนั้นก้อเข้าไป search ในเวปของ Singapore Airline เลยว่าในวันที่เราเดินทางนั้นมีเที่ยวบินกี่โมงบ้าง ต้องไปต่อที่ไหน เดินทางถึงจุดหมายกี่โมง จากนั้นผมถึงลองไปคุยกับบริษัททัวร์เพื่อทำการจองตั๋วเครื่องบิน
จริงอยู่ครับ การที่จะจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้านานขนาดนั้นมันฟังดูน่าหัวเราะ แต่ผมก้อได้พิสูจน์แล้วว่าการวางแผนการเดินทางล่วงหน้านานๆ มันทำให้ผมประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินกว่าราคาปกติถึง 3000 กว่าบาท ฮ่าๆๆ
จากนั้นก้อมาจัดการเรื่องที่พัก
เรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งเหยิงครับ อย่างที่บอกไปตอนต้นนะครับถึงผมจะอยู่นานแต่ก้ออยู่แบบถาวรแล้วก้อปัจจัยในการเลือกที่พักสมัยก่อนโน้นกะตอนนี้มันก้อต่างกันนะครับ คราวนี้ผมกะไปตะลุยเมืองก้อเลยคิดว่าน่าจะหาที่พักที่อยู่ในเมืองหน่อยจะได้ไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปๆมาๆ และคิดเอาไว้ว่าเพื่อเป็นการประหยัดค่าอาหารจึงเลือกที่พักแบบ Serviced Apartment เพราะสามารถประกอบอาหารเองได้ จึงเริ่มมองหาที่พักแบบ Serviced Apartment ผมใช้วิธีการเข้าไป Search ใน Google.com.au เลยครับ โดยใช้คำค้นหา Serviced Apartment Melbourne แล้วก้อลองค่อยๆเข้าไปอ่านทีละเวปๆ เปรียบเทียบราคา และดูจากแผนที่เมลเบิร์นว่าสถานที่จริงตั้งอยู่ตรงไหนและในบริเวณนั้นมีซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆอยู่บ้างหรือเปล่า การทำงานในส่วนนี้ใช้เวลามากครับ เพราะผมทำงานประจำไปด้วยจะมีเวลามานั่งหา Apartment ก็เฉพาะ เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น พอหาได้ที่นึงก้อ ปริ้นท์ออกมาเก็บไว้ ได้มาเป็นแฟ้มเลยครับ จริงๆก้อถอดใจไปแล้ว่าที่พักกลางเมืองราคาประมาณ 100 เหรียญขึ้นไปทั้งนั้น มันเกินกว่างบประมาณที่ผมตั้งไว้สำหรับเรื่องที่พัก และก้อกำลังตัดสินใจว่าจะเขยิบออกไปนอกเมืองนิดหน่อย แถวๆ South Yarra เพื่อให้ราคาถูกลงมา
โชคช่วยผมครับ
ผมได้ไปเจอ Serviced Apartment ที่นึงโดยบังเอิญ เป็น Servied Apartment ที่สร้างเสร็จใหม่ๆ สะอาด ดูจากรูปแล้วถูกใจมากๆ แถมอยู่ใน Grid ของ CBD อีกตะหาก แต่ราคาถูกอย่างน่าตกใจ ราคาสำหรับที่พัก 1 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว มีครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า ทีวี เตียงควีนส์ไซด์ ราคาคืนละ 135 เหรียญ ฮ่าๆๆๆ ถูกตรงไหนฟะ
เดี๋ยวสิครับ จริงอยู่ราคาต่อคืนดูเหมือนว่าจะแพง แต่ว่าถ้าเช่าเป็นรายอาทิตย์ลดลงมาเหลือคืนละ 79 เหรียญเท่านั้นเอง ผมไม่ชักช้ารีบเมล์ไปยืนยันราคาจากเจ้าของที่พักทันทีครับ แล้วก้อจริงๆด้วย ราคาตามที่บอกไว้ในเวปเลย ก้อเลยตัดสินใจที่จะจองที่พักที่นี่ทันที

เสร็จไปสองเรื่องครับ จากนั้นก้อเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือเรื่องกิน สำหรับเรื่องกินผมถือว่าเป็นเรื่องรองๆครับ คือหมายความว่าได้ซีเรียสว่าจะกินยังไง ที่ไหน ครับ สบายๆ อาจจะมีกินข้าวข้างนอกบ้างก้อได้ไม่เป็นไร ผมเลยลองเขียนขึ้นมาว่าปกติเช้าผมกินอะไร กลางวันกินอะไร เย็นกินอะไร ซึ่งจริงๆตอนสมัยผมเรียนที่โน่นเช้าผมกินกาแฟ ขนมปังปิ้ง หรือ ซีเรียล กลางวันผมกินแซนวิช + ผลไม้ แล้วถึงจะมาหนักมื้อเย็นครับ ผมลองคำนวณคร่าวๆดูแล้ว (โดยการเข้าไปลองซื้อของในซุเปอร์มาเก็ตอนไลน์) ค่าอาหารผมกะเพื่อนอีก 1 คน ตกวันละ 5 เหรียญสบายๆเลยครับ คิดเป็นเงินไทยก้อตกวันละ 150 บาท คิดๆดูแล้วก้อพอๆกับตอนสมัยที่ผมเรียนอยู่นะครับ ตอนนั้นผมรวมเงินเป็นกองกลางค่าอาหารกันคนละ 40 เหรียญต่ออาทิตย์ครับ

เสร็จเรื่องการวางงบประมาณหลัก ๆ ก้อมาต่อด้วยการวางแผนท่องเที่ยว ผมทำลิสท์ รายชื่อสถานที่ๆผมอยากไปทั้งหมดพร้อมเงื่อนไขเช่น เปิดวันไหน ปิดวันไหน มีทัวร์ฟรีกี่รอบ กี่โมงบ้าง พร้อมกับทำตารางวันที่ผมจะอยู่ในเมลเบิร์นทั้งหมดพร้อมเงื่อนไขเช่นเป็นวันอะไรบ้าง วันไหนเป็นวันหยุดราชการ แล้วจึงค่อยๆ เอาสถานที่ท่องเที่ยวลงไปใส่ในตารางวันที่ทำไว้โดยคำนึงถึงการเดินทางจากสถานที่นึงไปอีกที่นึง ระยะทาง วิธีการเดินทาง และที่สำคัญสถานที่บางที่ควรจะไปบางวันเท่านั้นเช่น ตลาดนัดวันอาทิตย์ก้อควรไปวันอาทิตย์เท่านั้น แล้วจึงมาดูว่ามีเดย์ทัวร์ที่ไหนที่อยากไปแล้วจะไปวันไหนบ้าง
จากนั้นจึงมาทำการสรุปค่าใช้จ่ายโดยละเอียดอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ผมจะต้องลงรายละเอียดค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆที่ได้กำหนดไว้ในตารางด้วย กว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ผมใช้เวลาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2548 ถึง มกราคม 2549 ครับ เฮ้อ... ขอยาดมหน่อยสิครับ



Create Date : 24 มีนาคม 2549
Last Update : 24 มีนาคม 2549 16:17:32 น.
Counter : 874 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาทักทายค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ
โดย: หนึ่งนางนี้ IP: 218.102.131.168 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:18:10:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]