Group Blog
เมษายน 2549

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
ทนายอ้วนกลับบ้าน ตอนที่ 3 กว่าจะถึงบ้าน

เป็นอะไรอ่ะ.... เพื่อนผมถามผมหลังจากที่ผมขยับตัวและถอนหายใจเป็นครั้งที่ 145 นับตั้งแต่เริ่มเดินทางออกจาสิงคโปร์
ถึงแม้ว่าผมจะชอบเดินทางด้วยเครื่องบินแต่ผมจะชอบเฉพาะเวลาที่เครื่องขึ้นหรือลง ผมไม่ชอบอยู่บนเครื่องบินเฉยๆ นานๆ
ถึงแม้ว่า SIA เค้าจะมีทีวีส่วนตัวคนละเครื่องแต่สำหรับไฟลท์ยาวๆแล้วมันไม่ได้เป็น TV On demand อย่างตอนที่บินจาก กอทอมอ ไปสิงคโปร์นี่ครับ
ถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น ตายๆ ๆ ๆ ยังเหลือเวลาเดินทางอีกตั้งหกชั่วโมง ผมจะทำยังไงดี
ผมนั่งบ่นอะไรกับตัวเองไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเสิร์ฟอาหารค่ำ

Excuse me, Can I have a glass of Gin tonic, please?
ขอโทษนะครับ ผมขอยินโทนิคซักแก้วเถอะครับ

ผมบอกแอร์คนสวยที่เดินผ่านผมไป

A moment, please. I’ll bring you one.
รอซักครู่นะคะ เดี๋ยวจะไปเอามาให้ค่ะ

ผมได้แต่ยิ้มให้เป็นการขอบคุณเท่านั้น เพราะเธอออกเดินไปตั้งแต่ยังพูดไม่จบประโยค เวลาเที่ยวบินที่มีคนเด็มเครื่องแบบนี้ก้อน่าสงสารแอร์เหมือนกันนะครับ เดินไปเดินมาไม่ได้พักกันเลย ดีที่ว่าระยะเวลาการบินนานทำอะไรก็ไม่ต้องรีบร้อน

เพื่อนผมหันมาทำตาโตใส่ ประมาณว่าอะไรกันเล่นเของมึนเมาเลยเหรอ
ก้อมันนอนไม่หลับนี่นา เมาๆ ซะจะได้หลับสบาย ผมบอกเพื่อนผม

ผมรออยู่ไม่ถึง 5 นาที แอร์คนสวย (จริงๆก้อสวยทุกคนแหละครับ อิอิอิ) ก็เอายินโทนิคมาเสิร์ฟ พร้อมกับถั่วอีก 2 ถุง นั่นแน่ๆ อย่างนี้เค้าเรียกว่าเป็นงานครับ ฮ่าๆๆ
ผมรู้สึกถึงความแรงของยินตั้งแต่อึกแรก .........อืม... แรงดีจริงๆ

ผมจีบคอกเทลแกล้มถั่วไปดูหนังไป เพลินดีเหมือนกันครับจนหมดแก้ว ถั่วก้อหมดแล้ว กำลังจะหันไปหาแก้วที่สองก้อพอดีเห็นว่าพนักงานทุกคนกำลังเตรียมเสิร์ฟอาหาร
รอกินไวน์ดีกว่า ผมนึกในใจ

ผมจัดการกับอาหารมื้อเย็น กับไวน์แดงไป 3 แก้ว หน้าผมชักตึงๆ ... คราวนี้คงนอนหลับสบาย

ผมปรับเก้าอี้เอนลงนิดหน่อยเพราะเกรงใจคนที่นั่งข้างหลัง เอาหมอน2ใบมาพิงไว้ที่กระจก (หรือพลาสคิกหว่า) แล้วเอียงหัวไปพิงไว้ ตาจับอยู่ที่ทีวี..... มือถือรีโมท…… นิ้วก้อกดเลื่อนไปเพื่อดูว่าเครื่องบินเดินทางถึงไหนแล้ว .... ความรู้สึกสุดท้ายก่อนตาจะปิด ผมเห็นว่าเครื่องบินลำเล็กๆในจอ มาอยู่แถวๆ ปลายๆประเทศอินโดนีเซีย แล้วผมก้อวูบไป....

คร่อก...........

สาบานได้ครับว่าผมกรนจริงๆ ผมยืนยันได้

ผมรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ไฟบนเครื่องสว่างขึ้น แอร์... เอ้อ.. พนักงาน... อืม... เจ้าหน้าที่ .... แอร์ นั่นแหละดีแล้ว
(ผมว่าคำว่าแอร์กับสจ๊วตนี่ให้ความรู้สึกได้ถึงหน้าที่การทำงานดีนะครับ ผมว่าไม่เห็นจะไม่สุภาพตรงไหน เรียกว่า ไฟลท์ แอดเทนแดนซ์ นี่ดูห่างไกลกันจัง)
ผมรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ไฟบนเครื่องสว่างขึ้น แอร์เดินมาแจกผ้าร้อนๆ ก่อนที่จะเอามาเช็ดหน้าเช็ดตาผมเอาผ้าปิดจมูกแล้วหายใจเข้าแรงๆหลายๆครั้ง
ทำอะไรอ่ะ เพื่อนผมถาม
เวลาเราอยู่บนเครื่องบินนานๆ เราจะรู้สึกว่าโพรงจมูกเราแห้งมากๆ แล้วก้อแสบๆ เพราะว่าอากาศในตัวเครื่องมีความชื้นน้อยมากๆ ถ้าเรารู้สึกแห้งและแสบจมูกการหายใจเอาไอน้ำเข้าไปแบบนี้จะช่วยให้ดีขึ้นไง ผมบอกเพื่อนผม

ผมนั่งดูทีวีไปเรื่อยอีกซักพักก้อเริ่มเสิร์ฟอาหารเช้า อืม.. Continental Breakfast ตามเคย มีใครเคยทานอย่างอื่นมั่งมะครับ

สิ่งที่ผมสังเกตุได้อีกอย่างหนึ่งจากการบิน SQ ก็คืออาหารครับคงเป็นเพราะว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติ ศาสนา ข้อบังคับในการทานอาหารก้อเลยมีมากมายตามหลักศาสนา หลังจากที่เครื่องบินไต่เพดานเสร็จจะมีเจ้าหน้าที่เดินถือรายชื่อพร้อมสติ๊กเกอร์มาแปะไว้ที่พนักเก้าอี้ตอนแรกผมก้องงๆ พอเค้าเอาอาหารมาเสิร์ฟถึงได้เข้าใจว่าเป็นการทำเครื่องหมายผู้โดยสารที่สั่งอาหารพิเศา นอกจากนั้นยังมีสติ๊กเกอร์ ห้ามรบกวนอีกนะครับ อิอิ แหม ผมน่าจะขอสติ๊กเกอร์เสิร์ฟอาหาร 2 ถาดมาแปะมั่งจัง อิอิอิ

หลังจากจัดการกับอาหารเช้าเสร็จไปซักพักใหญ่ๆกัปตันก้อประกาศว่าอีกไม่นานจะนำเครื่องลงผมเลื่อนที่บังแดดขึ้น วันนี้เมฆไม่มาก ไม่มีแดด อากาศดูเย็นๆ

นั่นไง .... แผ่นดินออสเตรเลีย มันเริ่มมีความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจของผมเมื่อผมคิดว่าอีกไม่นานผมก้อจะถึงเมลเบิร์นแล้ว น้ำตาอุ่นๆคลออยู่ที่ขอบตาของผม .... ผมคิดถึงบ้านจัง

8.30 น. เครื่องเริ่มลดระดับแล้วเลี้ยว 2-3 ครั้งเพื่อเตรียมตัวลงจอด ผมปรับเบาะให้ตั้งตรง เก็บถาดอาหาร เก็บที่วางเท้า เอากระเป๋าถือสอดใต้เก้าอี้ เลื่อนบังแดดขึ้นให้สุด เก็บรีโมท มองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นเมลเบิร์นลางๆกลางหมอก ชี้ให้เพื่อนดู

8.50 น. เครื่องเริ่มลดระดับลงจนมองเห็นบ้าน ถนน ใหญ่ขึ้น ผมเห็น Hume Highway แล้ว
8.55 น. ล้อเครื่องแตะพื้น น้ำตาผมหยดลงมา ด้วยความดีใจ....
ผม ... ถึงบ้านแล้ว



Create Date : 22 เมษายน 2549
Last Update : 22 เมษายน 2549 19:26:22 น.
Counter : 996 Pageviews.

1 comments
  
Qantas มีแต่สจ๊วตผู้ชายสูงอายุทั้งนั้นเลย (แก่)
แต่ใจดีค่ะ เพราะ boeing 747-400 นั้น คนเยอะ
และต้องทำงานทั้งคืน คงเอาแต่บึ๊กๆ
เราก็บึ๊กเหมือนกันค่ะ(ขาใหญ่) คิดในใจเหมือนกัน

แต่นอนไม่หลับทั้งคืนเลย พอหลับๆหน่อย
ก็เดินเสิร์ฟอาหารอีกแล้ว ได้กลิ่นกาแฟ ช็อคโกแล็ตไม่ได้
มันหอมรันจวนใจ
จำได้ว่า ดื่มช็อคโกแล็ตร้อนทุกรอบ 3-4 รอบจำไม่ได้

อยากแบ่งข้าวกล่องให้คุณทนาย 1/2 นึง
เพราะเยอะมาก ทานไม่หมด mass potato + grilled beef+ salad อืม พูดแล้วหิว

ต้องเก็บช็อคโกแลตแท่ง ใส่กระเป๋าทุกรอบไว้ทานมื้ออื่น


โดย: พี่หน้าเดียว (พี่หน้าเดียว ) วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:12:52:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]