Review เครื่องดื่ม คอลลาเจน Scotch Collagen - Q10
ถ้าให้พูดถึงสารอาหาร วิตามิน ที่ได้รับความสนใจ มีการพูดถึงในวงกว้างในช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมาในบ้านเราเชื่อว่า คอลลาเจน น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่หลายๆ คนคิดถึง เรียกว่า คอลลาเจน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคน รวมทั้งตัวอิชั้นด้วย บล็อกนี้จะมาแชร์ประสบการณ์จากการดื่ม เครืองดื่มคอลลาเจน เพื่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ * หวังว่ารีวิวนี้ คงเป็นไกด์ไลน์ สำหรับคนที่กำลังศึกษา หาข้อมูลหาทางเลือกในการเปรียบเทียบ ก่อนจะจับจ่ายใช้สอย หาซื้อเครื่องดื่มประเภท Collagen กันค่ะ
เกริ่นสั้นๆ ก่อน อิชั้นก็เป็นผู้บริโภคคนหนึ่งที่ได้ลองรับประทาน Collagen ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาค่ะ โดยเริ่มจาก Collagen แบบผงเพียวคอลลาเจน, Collagen แบบผงผสมรสชาติต่างๆ ,Collagen แบบอัดเม็ด, Collagen แบบเจลลี่ และล่าสุดได้เริ่มลองทาน เครื่องดื่มคอลลาเจนScotch Collagen-Q10 ซึ่งเป็น คอลลาเจนพร้อมดื่ม เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2556 ที่ผ่านมาค่ะ ทานแล้วเป็นยังไง คอลลาเจนคืออะไร ได้สรุปไว้ในรีวิวด้านล่างแล้วค่ะ --------------------------------------------------------- ก่อนเข้าสู่การรีวิวเรามาทำความรู้จักกับ คอลลาเจน อย่างกระชับกันก่อนค่ะ
- คอลลาเจน คืออะไร คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะคอลลาเจนไม่เพียงเป็นองค์ประกอบของผิวหนังเท่านั้นยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกระดูก,ข้อต่อ,เล็บ และเส้นผม คอลลาเจนทำหน้าที่สร้างความแข็งแรง เสริมความเรียบตึง คงความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง คอลลาเจนยังทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ทุกๆ เซลล์ในร่างกายไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นเนื้อเยื่อ เป็นอวัยวะและร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้ คอลลาเจนจึงมีปริมาณถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย
กระบวนการสร้างคอลลาเจนของมนุษย์จะเสื่อมลงเมื่ออายุย่างเข้า 20 ปี โดยมนุษย์ปกติจะสูญเสียคอลลาเจนเฉลี่ย 1.5% ต่อปี ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวพรรณแห้ง ขาดความยืดหยุ่น เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหนาแน่นของกระดูกจะค่อยๆ บางลง
* การดูดซึมโปรตีนเข้าสู่ร่างกายจำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อย ก่อนที่โปรตีนทุกชนิดจะถูกเอนไซม์หลายชนิดในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กย่อยสลาย จากโปรตีนที่เป็นสายยาวจะถูกเอนไซม์ตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหลือเพียง หน่วยย่อยที่เล็กที่สุด คือ กรดอะมิโน แล้วร่างกายจึงดูดซึมกรดอะมิโนเพื่อนำไปประกอบกันขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ** ดังนั้นการรับประทาน คอลลาเจน เข้าไปร่างกายไม่สามารถรับ คอลลาเจนทั้งสายโปรตีนที่เป็นรูปแบบคอลลาเจนเข้าไปสู่ผิวหนังโดยเฉพาะนะคะ แต่ร่างกายจะดูดซึมเข้าไปแล้วกระจายไปยังส่วนต่างๆ ดังนั้นผลลัพท์ที่ได้จากการดื่มหรือ ทานคอลลาเจน เสมือนการนำสารตั้งต้นที่มีโมเลกุลเล็กเพื่อให้ร่างกายง่ายต่อการนำไปใช้ประโยชน์ ดูดซึมได้ทันที และจะมีผลที่เห็นได้ชัดกับพวกการสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกด้วยค่ะ สรรพคุณของ Collagen หน้าที่หลักของคอลลาเจนคือ การประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน โดยจะอยู่ในรูปไฟเบอร์ (Fiber) ที่มัดเป็นเกลียวด้วยสายเปปไทด์3 สาย ส่งผลให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและยึดเหนี่ยวอวัยวะต่างๆ เข้าด้วยกัน และที่สำคัญที่สุด คอลลาเจนจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและรักษาไว้ซึ่งความชุ่มชื่น - อ้างอิง ประโยชน์ของคอลลาเจน
คอลลาเจน ซึ่งเป็นสารอาหารอย่างหนึ่งที่มิใช่ยา แต่มีคุณค่า และคุณประโยชน์ต่อโรคข้อกระดูกเสื่อมได้ จึงทำให้ลดการใช้ยาแก้ปว ดและยาต้านการอักเสบ รวมทั้งทำให้การเคลื่อนไหวของข้อดีขึ้นได้ ซึ่งก็คือทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง - อ้างอิง คอลลาเจนมิใช่มีประโยชน์ให้ผิวสวยเท่านั้น! โดย : ภก.ประวิทย์ ตันติสุวิทย์กุล
- ประโยชน์ของ นาโนโคเอนไซม์ คิว 10 เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระสามารถสร้างพลังงานให้กับผิว เพื่อใช้ในการแบ่งเซลล์ ทำให้ริ้วรอยต่างๆลดลงและเลือนหายไป โดยโคเอนไซม์ คิวเทนจะป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระเข้าโจมตีโมเลกุลไขมันในเซลล์ ช่วยรักษาผนังของเซลล์ให้คงสภาพสมบูรณ์ [โคเอนไซม์ คิวเทน หรือ วิตามิน Q เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ร่างกายที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย โคเอนไซม์ คิวเทนเกิดขึ้นได้เองภายในเซลล์ เช่น เซลล์ผิวหนัง ทั้งหนังแท้ และหนังกำพร้า แต่จะมีจำนวนลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และยังสามารถได้รับจากการรับประทานอาหารได้ด้วย โคเอนไซม์คิวเทน เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถสร้างพลังงานให้กับผิวเพื่อใช้ในการแบ่งเซลล์ทำให้ริ้วรอยต่างๆลดลงและเลือนหายไป โดยโคเอนไซม์คิวเทนจะป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระเข้าโจมตีโมเลกุลไขมันในเซลล์ ช่วยรักษาผนังของเซลล์ให้คงสภาพสมบูรณ์ นอกเหนือจากคุณสมบัติในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และชะลอความแก่ได้ โคเอนไซม์ คิวเทน ยังช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง โคเลสเตอรอลสูงได้อีกด้วย] [ทำหน้าที่หลักในกระบวนการเปลี่ยนแปลงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และไขมันให้อยู่ในรูปของพลังงาน เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ โคเอนไซม์ คิวเท็นจึงจัดเป็นสารสำคัญในกระบวนการผลิตพลังงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น หัวใจ ตับ หรือ ไต - ช่วยยับยั้งคลอเลสเตอรอล ไม่ให้จับตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือดลดปัญหาการอุดตันของเส้นเลือดได้อีกด้วย - ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ หรือ อัลไซเมอร์ - ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดปัญหาของริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยทั่วไปปริมาณของโคเอนไซม์ คิวเท็น จะสร้างได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น หรือร่างกายอยู่ในสภาพที่พักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยา หรือ สารเคมีบางชนิด แม้แต่ความเครียด ก็สามารถทำให้ปริมาณของ โคเอนไซม์ คิวเท็นในร่างกายลดลง ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับ โคเอนไซด์ คิวเท็นจากภายนอกด้วย เช่น จากอาหาร หรือจากเครื่องดื่ม เพื่อช่วยเสริมปริมาณของ โคเอนไซด์ คิวเท็นให้มากพอต่อการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย เพื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส - ที่มาหนังสือ OneWorle ฉบับที่ 28] [แอล-คาร์นิทีนกับบทบาทเพื่อการลดน้ำหนัก]
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าหากคุณต้องการลดน้ำหนักด้วยสารธรรมชาติ L-Carnitine ขนาด 500-1,000 mg./วัน น่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนัก และหากคุณมีดัชนีมวลร่างกาย (BMI) มากกว่า 25 ปริมาณการใช้จะสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งมีงานวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยจากการใช้ว่า L-Carnitine ยังไม่มีผลทางลบแม้จะรับประทานในขนาดสูงถึง 4 g./ วันก็ตาม - อ้างอิง: ภก.นรภัทร ปีสิริกานต์.แอลคาร์นิทีนกับบทบาทเพื่อการลดน้ำหนัก.สถาบันวิจัยศาสตร์ ด้านความงามและสุขภาพ [Fat Burners
อาหารเสริมเร่งเผาผลาญ ช่วยได้จริงปะ?!] เดี๋ยวนี้อาหารเสริมมีออกมาให้เลือกกินเต็มไปหมดแต่ถ้าพูดถึงกลุ่มที่กินเพื่อเร่งการเผาผลาญ หรือFat Burners พญ. อโนชา เพชรรัตน์ แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพจาก ร.พ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ชี้ว่ามีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น ที่มีหลักฐานทางการแพทย์พอสมควร ส่วนตัวอื่นๆ ผลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และความปลอดภัยยังมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตามผลการลดน้ำหนักที่ได้ในแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันการเลือกให้เหมาะกับสภาพร่างกายลักษณะการใช้ชีวิต และใช้ให้ถูกจังหวะถูกเวลาก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก L-Carnitineta-ichigo3-hana แอล-คาร์นิทีน เป็นอาหารเสริมที่ดังที่สุดของกลุ่ม FatBurner เลยก็ว่าได้สารตัวนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่เป็นเหมือนยานพาหนะขนส่งไขมันเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานซึ่งโดยปกติร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เองจากตับ ไต และสมองแต่หากจะกินเป็นอาหารเสริมก็เคยมีงานวิจัยพบว่า การกินแอล-คาร์นิทีน 2 กรัมต่อวัน ร่วมกับการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ ยังไม่มีผลการศึกษาที่ชัดเจนเพียงพอว่าการกิน แอล-คาร์นิทีน แล้วไม่ออกกำลังกายจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ดังนั้น ถ้าอยากกินแล้วเห็นผลดี ก็ต้องกินตอนท้องว่างก่อนไปออกกำลังกายสัก30 นาที อ้างอิง Lisa Guru : พญ. อโนชา เพชรรัตน์ แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพจาก ร.พ.เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ --------------------------------------------------------- ชื่อผลิตภัณฑ์ : สก๊อตคอลลาเจน-คิว 10 - Scotch Collagen-Q10 New Collagen 5000mg. 
สก๊อต คอลลาเจน-คิว 10เป็นเครื่องดืมคอลลาเจน ที่ผสมน้ำผลไม้รวม 12% (น้ำองุ่นขาวและน้ำอะเซโรล่าเชอรี่) เพื่อปรุงแต่งรสชาติ นอกจากมีปริมาณคอลลาเจนแล้ว ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมอื่นๆ อีก เช่น วิตามินอี, นาโน โคเอนไซม์คิว 10 และ แอล-คาร์นีทิน เป็นส่วนผสมหลัก และมีส่วนผสมรองที่เสริมทัพกันมาได้แก่ วิตามินอีก 13 ชนิด 
ในปริมาณ ต่อ 1 ขวด 45 ml. จะประกอบด้วย - คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก 5,000mg. (Collagen) 10.20% (เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณนุ่มนวลขึ้น) - น้ำองุ่นขาว (White Grape Juice)10.00% - น้ำอะเซโรล่า เชอร์รี่ (Acerola Cherry Juice) 2.00% - ไซลิทอล (Xylitol) 9.17% (โครงสร้างเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล) - แอล-คาร์นิทีน 449 mg. (L-Carnitine) 0.92% (เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแล้วยังช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมตามอวัยวะด้วยค่ะ) - นาโน โคเอนไซม์คิว 10 29 ml. (NanoCoenzyme Q10) 0.06% -วิตามินรวม 13 ชนิด (Vitamins) 0.08% ได้แก่ วิตามินอี 22.90 mg. / ไนอะซิน 6.57mg. / วิตามินอี 6.17 mg. เพนโทลินิค แอซิด 2.40 mg. / วิตามินบี 20.71 mg. / วิตามินบี 6 0.64 mg. วิตามินบี 1 0.51 mg. / วิตามินเอ 259ug. / โฟเลต 111 ug. ไบโอติน 58.80 ug. / วิตามินเค 47.80ug. / วิตามินดี 2.11 ug. / วิตามินบี 120.69 ug.
คุณประโยชน์ของวิตามินเมื่อรับประทานอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- วิตามินบี 1, วิตามินบี 6,วิตามินบี 12 ช่วยในการบำรุง ระบบประสาทและสมอง -วิตามินเอ ช่วยในการบำรุง สายตา - วิตามินซี, วิตามินอี ช่วยในการบำรุง ผิวพรรณ (ต่อต้านอนุมูลอิสระ) - โฟเลต ช่วยในการบำรุง โลหิต - วิตามินดี, วิตามินเค ช่วยในการบำรุง กระดูก - วิตามินบี 2, ไบโอติน, ไนอะซิน,แพนโทธินิค แอซิด ช่วยในการ เร่งการเผาผลาญและให้พลังงาน * ไม่ใช้วัตถุกันเสียไม่เจือสี แต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ

ปริมาณบรรจุ : บรรจุ 6 กล่อง กล่องละ 45 ml. ราคา : ขายปลีกขวดละ 48 บาท / แบบกล่องบรรจุ 6 ขวด ราคา 245 บาท เฉลี่ยขวดละ 45 บาท คุณค่าทางโภชนาการ : ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 45kcal * ดื่มแล้วไม่อ้วนนะคะ อิอิ

บรรจุภัณฑ์ : ขวดบรรจุเป็นแก้วสีชาป้องกันแสงที่อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพของสารอาหารด้านในขวด ฝาแคปล็อกแบบบิดเกลียว เวลาเปิดต้องใช้แรงบิดหน่อย เพราะมันล็อคแน่นแบบสูญญากาศ เพื่อความสดใหม่ป้องกันการปนเปื้อน และคนมาชิม อิอิ

เครื่องดื่มจะเป็นสีเหลืองใส เหลว ดมจะมีกลิ่นหอมหวานดื่มแล้วรสชาติ หอมหวานแบบกลิ่นผมไม้อมเปรี้ยวนิดๆ แต่รสที่ดื่มนั้นจะหวานน้อยๆ ดื่มง่ายค่ะ ไม่มีกลิ่นคาว ยิ่งนำไปแช่เย็นรสชาติจะอร่อย ดื่มแล้วสดชื่นค่ะ (*ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ) ระยะเวลาที่ทาน : 1สิงหาคม 2556 19 กันยายน 2556 ป้จจุบัน วิธีใช้ : ดื่มวันละ 1 ขวดก่อนนอน เป็นช่วงที่ท้องว่าง เหมาะกับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และร่างกายสามารถจำไปใช้งานซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกในร่างกายได้ทันทีเนื่องจากมีโมเลกุลเล็ก
[ เคลมจากสก๊อต คอลลาเจน-คิว 10 - ช่วงเวลาที่แนะนำในการรับประทานและระยะเวลาที่จะเห็นผลลัพท์ ] - ช่วงเวลาที่แนะนำให้บริโภคคือประมาณ 3 ชั่วโมง หลังอาหารมื้อเย็นหรือช่วงก่อนเข้านอนซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดีที่สุด จึงควรรับประทานวันละ 1 ขวดติดต่อกันเป็นเวลา 1เดือนจึงจะเห็นผล (ประมาณ 5 แพคต่อเดือน) - การรับประทานจะให้ผลดีกว่าการทาซึ่งคอลลาเจนจะซึมเข้าสู่ผิวได้แค่ชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น [เคลมจากสก๊อต คอลลาเจน-คิว 10 - ทำไมต้องทาน ปริมาณคอลลาเจน 5,000 mg. ต่อวัน ] - ผลการวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า ปริมาณที่เหมาะสม และเพียงพอต่อการดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยคือ 5,000 mg. ต่อวัน (การรับประทานน้อยกว่า 5,000 mg. ต่อ วันจะให้ผลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่การรับประทานมากกว่า 5,000 มก.ต่อวันก็เป็นปริมาณที่มากเกินความต้องการ)
ผลจากการดื่ม Scotch Collagen - Q10 ต่อเนื่อง 
ส่วนตัวเป็นคนที่จะไปทำหัตถการผิวหนังเป็นประจำค่ะประมาณ 1-2 เดือนครั้ง เนื่องจากรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีการ SkinStamp / Air Dissector ที่คลินิคประจำ และบางครั้งก็ไป ทำเลเซอร์ฟื้นฟูผิวหน้าด้วยซึ่งการทำหัตถการผิวหนังวิธีที่บอกมาข้างต้นนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการทำให้ผิวหนังเกิดแผลขนาดเล็ก ตามทฎษฎีคือ ให้ร่างกายเยียวยา รักษาตัวเองและมีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนส่วนที่เป็นแผล
- จะพบกว่าการรับ คอลลาเจน ในช่วงที่ร่างกายเป็นแผล จะมีการสมานตัวของผิวดีมากกกกผิวมีการฟื้นฟูตัวเองรวดเร็วน่าพอใจทีเดียวค่ะ
- พื้นผิวหน้าที่เห็นได้คือ จะเรียบ เนียนขึ้น มีความหยืนหยุ่นขึ้น
- ในช่วงที่ผิวมีสิว ต้องทายารักษาสิวมากๆ จนหน้าแดง แสบผิวหน้าจะมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ลอกน้อยลงค่ะ
- ผิวกายที่เคยแห้งจะไม่แห้ง ผิวจะชุ่มชื่นขึ้น ปกติถ้าผิวแห้งมาก จะคันค่ะ แต่ในที่นี่บางทีไม่ได้ทาครีมบำรุงผิวเลย ติดต่อกันหลายวัน ผิวไม่กลับไปแห้งตึงคันแม้ผิวแห้งขึ้นก็ตาม
- ชอบที่ทานง่าย มีรสชาติดี ไม่หวานมาก ดื่มแล้วไม่อ้วน
- หาซื้อได้ง่าย สะดวก เพราะมีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ
- เทียบราคาแล้ว อาจจะสูงกว่าแบบผงชงที่แต่งรสชาติ แต่ก็แลกกับความสะดวกสบายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้บริโภคแต่ละคนค่ะ แต่ก็เป็นราคาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้นะคะ ----------------------------------------- * ข้อแตกต่าง ระหว่าง Collagen แบบต่างๆ ที่เคยทาน และเคยพบเจอ
- Collagen แบบผงเพียวคอลลาเจน (ไม่ผสมสารอื่น นอกจากคอลลาเจน วิธีทานก็คือ นำไปชงกับน้ำ,ชงกับเครื่องดื่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ โอวัลติน นม หรือแม้แต่น้ำผลไม้และการผสมลงในซุป อาหาร หรือขั้นตอนการหุงข้าวก็ยังทำได้ค่ะ แบบผงเพียวนี้คุณจะได้รับปริมาณ คอลลาเจนไปเต็มๆ ดั่งที่แต่ละยี่ห้อเคลมเลยทีเดียว โดยเขาจะระบุว่าทานกี่ช้อนจะได้ปริมาณเท่านั้น เท่านี้ค่ะ เวลาผสมดื่ม สามารถใช้น้ำ หรือ เครืองดื่ม อุณหภูมิปกติ อุ่น หรือเย็นก็ได้ ส่วนการละลายน้ำของผง จะละลายหมดจดดี ว่องไวแค่ไหนขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละยี่ห้อค่ะ *แบบผงชงดื่มอาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบนัก เพราะง่วงมาก ยุ่งมาก ไม่มีเวลา ไม่อยู่ในสถานที่ที่สามารถหาอุปกรณ์ แก้ว ช้อน น้ำดื่มได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สรุปคือ ไม่สะดวกชงนั่นเอง ) - Collagen แบบผงแต่เป็นคอลลาเจนที่ผสมรสชาติให้ทานง่ายขึ้น (เช่น ผสมรสโกโก้ สตอเบอร์รี่ กาแฟ หรือ รสนม ช่วยให้ดื่มง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่หาสิ่งอื่นมาผสมร่วมไม่ได้ ก็ชงกะน้ำ เป็นอันเสร็จพิธีกรรมแบบผงคอลลาเจนผสมสารเพิ่มรสชาตินี้ คุณจะได้รับปริมาณคอลลาเจนไปตามที่แจ้งไว้
โดยอาจจะต้องใส่ปริมาณการชงเพิ่มขึ้นหน่อยจาก 1 ช้อน ถ้าเป็นคอลลาเจนเพียวคุณอาจจะต้องตักเพิ่มอีกเท่าตัว เป็นต้น เวลาผสมดื่ม สามารถใช้น้ำ หรือ เครืองดื่มอุณหภูมิปกติ อุ่น หรือ เย็นก็ได้ ส่วนการละลายน้ำของผง จะละลายหมดจดดีว่องไวแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละยี่ห้อค่ะ ** ไม่สะดวก เพราะต้องชง ต้องหาอุปกรณ์)
- Collagen แบบอัดเม็ดกลืนแบบยาเม็ด / Collagen แบบอัดเม็ดแบบเคี้ยว (ปริมาณคอลลาเจนต่อเม็ดจะน้อยกว่าแบบอื่นๆ เพราะต้องมีการใส่สารอื่นเพื่อให้อัดเม็ดได้ และขนาดเม็ดก็แปรผันตรงกับปริมาณคอลลาเจนด้วย ดังนั้น 1 เม็ดจะมีปริมาณคอลลาเจนไม่มาก จึงต้องรับประทานหลายเม็ด ถ้าจะให้ได้เทียบเท่าปริมาณที่ต้องการต่อวัน *** ถ้าสามารถแยกเม็ดใส่บรรจุภัณฑ์พกพาได้ มีน้ำก็ทานได้แล้วแต่อย่างที่แจ้งคือ อาจจะต้องทานหลายเม็ดกว่าแบบอื่น หรืออาจจะทานเสริมกับแบบอื่นๆ ที่บอกไว้ค่ะ) - Collagen แบบเจลลี่ผสมน้ำผลไม้ อย่างนี้ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้ผลิตพยายามหาความหลากหลายมาเสริฟ์ผู้บริโภค ทำให้เหมือนของทานเล่น พกพาง่ายเป็นซองๆ ซึ่งจะมีรสชาติดีมากน้อยเพียงใด ก็อยู่ที่การปรุงแต่งของเจ้าของแต่ละยี่ห้อ **** น่าจะเป็นแบบที่สะดวกสบายที่สุดในการพกพาไปทานที่ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณคอลลาเจนรสชาติ และราคาที่ผู้บริโภคพึงพอใจจับจ่าย)
- แบบน้ำพร้อมดื่ม แต่เดิมอิชั้นไม่ได้ทานประจำแต่ซื้อมาทานบ้างสลับกันไป เปลียนบรรยากาศ เริ่มดื่มจริงจังต่อเนื่องเป็นกิจวัตรเลยก็คือ Scotch Collagen-Q10 โดยเริ่มดื่มเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2556 ที่ผ่านมาค่ะ เป็นเครื่องดื่มคอลลาเจนที่มีการเพิ่มเติมสารปรุงแต่งเข้าไป เช่นรสชาติ และสารอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันของคอลลาเจน **** เป็นแบบที่สะดวกสบายที่สุดอีกแบบหนึ่ง สำหรับเครื่องดื่มคอลลาเจน เนื่องจากมีจำหน่ายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้หาซื้อง่าย สะดวกในการพกพาไปดื่มที่ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณคอลลาเจน รสชาติ และราคาที่ผู้บริโภคพึงพอใจจับจ่าย) =========================== รีวิว เครื่องดื่มคอลลาเจนScotch Collagen - Q10 จบลงเท่านี้ค่ะยังมีรีวิวอีกเพียบจะเข็นออกมาอย่างอืดอาดโปรดลอยคอรอคอยนะเจ้าคะ^ ^ Website : //www.chadalaem.com Chadalaem official Page on FB : //www.facebook.com/chadalaemdotcom Chadalaem on Twitter : //twitter.com/chadalaem Chadalaem on Instagram : //instagram.com/chadalaem
Create Date : 01 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 1 ตุลาคม 2556 13:20:38 น. |
|
7 comments
|
Counter : 26024 Pageviews. |
 |
|