หน้าตาของอุปกรณ์ Intradermal Air Dissector จะเห็นว่าเป็นหลอดเหมือนเข็มฉีดยาปลายมีเข็มต่อกับท่อลม เวลาใช้คุณหมอก็จะใช้เพียงแค่หัวเข็มแล้วก็จะมีอุปกรณ์ต่อไปที่เท้าเหยียบเพือให้อุปกรณ์ทำงานปล่อยลมแรงดันสูงออกที่ปลายท่อเล็กๆของเข็มเพื่อตัดเลาะพังผืด
ขั้นตอนการรักษาอธิบายจากบนลงล่าง ซ้ายไปขวาค่ะ อธิบาย ภาพแถวบนจากซ้ายไปขวา - ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง บนผิวหน้า (ในภาพแต่งหน้าไปค่ะขอให้เจ้าหน้าที่เว้นคิ้วกะตา เพราะว่าใช้มาสคาล่าและอายไลเนอร์กันน้ำเดี๋ยวจะล้างไม่ออก ขอกลับไปล้างเองที่บ้าน) - เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ทายาชาค่ะ ขอชมว่ายาชาที่นี่ เลิศจริงอ่ะทาแป๊ปเดียวค่ะ ออกฤทธิ์ไวมาก - จากนั้นไปนอนที่เตียงค่ะ ในห้องคุณหมอ สว่าง และสะอาดพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเตรียมพร้อมค่ะ - ทา เบตาตีน หน้าเหลืองน้ำตาล ฆ่าเชื้อก่อนค่ะ แล้วเช็ดออกค่ะ - เริ่มลงเข็มค่ะ คุณหมอจะใช้เจ็ม จิ้มไปทั่วบริเวณผิวหน้าเพื่อกระตุ้นฟื้นฟูผิวหน้าและเน้นที่ หลุม รอยแผลเป็นด้วยค่ะ - แน่นอนค่ะว่าต้อง เจ็บ แต่เป็นเจ็บแบบทนได้ ความทนได้ของแต่ละคนต่างกันดังนั้น ส่วนหนึ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมก่อนการรักษา ทุกๆ วิธีที่ใช้ เข็ม คือคุณก็ต้องมีความกล้าด้วย อิอิอธิบาย ภาพแถวล่าง จากซ้ายไปขวา - จะเห็นว่าจุดที่ลงเข็มไปแล้ว จะปูดๆ เป็นตุ่มขาวๆ เหมือนเวลาที่มดกัด ยุงกัดเพราะว่า มีการปล่อยลมแรงดันสูงพร้อมกันในเวลาจิ้มเข็มลงไปที่ผิวด้วยเพื่อเป็นการตัดพังผืดใต้ผิว จึงไม่ทำให้เกิดพังผืดจากเข็ม - จากนั้น คุณหมอจะ ฉีดวิตามิน สเต็มเซลล์ และสารบำรุงผิวเข้มข้น สูง สูตรเฉพาะของ A.I.C. ทั่วหน้าค่ะขั้นตอนนี้ เรียกว่า Micro Injection บอกได้ว่า ตอนฉีดวิตามินนี่รู้สึก ว่าแสบๆ จิ๊ดๆ เลยค่ะ ><- จากนั้นก็จะทำ Skin Stamp ด้วยเครืองมือเหมือนการประทับตราสแตมป์ ที่ปลายจะมีเข็มเล็กๆกดปั๊มทั่วหน้ากระตุ้นการสร้างผิวใหม่ค่ะ - จากนั้นใช้เป็นขั้นตอน Cryo Stem + Gold Stem Cell Mask ผลักวิตามินสเต็มเซลล์ และสารบำรุงผิวเข้มข้น อีกครั้ง ซึ่งเครือง Cryo ให้ความเย็นสบายแก่ผิวลดการระคายเคืองและบวม ด้วยความเย็น -15 องศาเซลเซียส - เสร็จกระบวนการ หน้าจะแดง บวม ช้ำ แนะนำให้พักหน้า 1 วันเต็มๆ(ลางานเลยค่ะ อิอิ) - จากนั้นประคบเย็นด้วย cool pad ลดอาการบวม แดงกลับมาบ้านก็ให้ประคบเย็นไว้เรือยๆ ค่ะ ผิวหน้าที่บวมแดงจะหายเป็นปกติค่ะประมาณ 24ชั่วโมงต่อมา ตอนหายบวมแล้ว ผิวหน้าจะมีรอยช้ำ และรอยจ้ำแดงๆ ของเข็มทั่วหน้าจะใช้เวลา 7-14 วัน รอยแดง รอยช้ำจะจางหายไป แล้วแต่บุคคลค่ะ ว่าจางเร็วหรือช้าคนผิวขาวหน่อยก็เห็นชัดหน่อยค่ะ แต่สามารถแต่งหน้าปิดได้ไม่ยากค่ะ คลิป ขั้นตอนการทำ Air Dissector - Advance Invasion for deep scar เก็บมาฝาก โฮะๆ VIDEO Source Link https://www.youtube.com/watch?v=fCnTRVM2cqs
พิธีกรรมเสร็จแล้วหน้าตุ่ย แดงแปร๊ด ใครเอารถมาก็แล้วไป ใครต้องเดินทางต่อด้วยระบบขนส่งมวลชนใดๆอนุญาติให้ขอ mask จากคลินิคเลยนะฮ๊าฟ 555 + ชาวบ้านมาให้กำลังใจเพียบ ภาพหลังทำ 1 วัน เทียบให้ดูที่แสงธรรมชาติ (แถวบน) และ ถ่ายจากแสงนีออนในห้อง (แถวล่าง) จะเห็นว่าหน้าบวมๆ อยู่ ผ่านมา 21 24 ชม. แล้ว หน้าก็เริ่มหายแดงแล้วเหลือแต่จ้ำแดงๆ รอยเข็มน่ะ ไม่กีวันก็หายแต่จะมีรอยช้ำ เขียว เหลือง ม่วงนะจ๊ะ - อิชั้นแนะนำให้ ลางานฮ่ะ ^ ^ Zoom zoom ภาพหลุมสิว บริเวณต่างๆ ก่อนการรักษา - ในที่นี้ปรับแสงต่างๆ ให้ดู จะได้เห็นลักษณะขอบหลุมชัดๆ ค่ะ
1 วันหลังจากทำ หน้าจะบวมให้เอาน้ำแข็ง / cool pad ประคบในที่นี้ไม่มีซักอย่าง เอาป๋องเครื่องดื่มในตู้เย็นมาคลึงแทนละกัน โฮะๆๆอย่าดื่มแอลนะคะ ช่วงนี้ เพราะผิวจะสร้างเนื้อเยื่อใหม่ งดเด็ดขาดนะสังเกตุหน้าจะมีรอยจ้ำแดงๆ นั่นแหละ รอยเข็ม เป็นร้อยๆ เลย - -
หลังจากทำวันแรก - อิชั้นล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าและเช็ดด้วยสำลีชุดนำเกลือ ไม่ทาครีมอะไรเลย
วันที่ 2 - จับหน้าจะสากๆหน่อยๆ จากการทำ skin stamping จะเกิดสะเก็ดเล็กๆ 3วันสะเก็ดก็หลุดค่ะ การทำ skin stamping เป็นการฟื้นฟู กระตุ้นผิวให้ซ่อมแซมตัวเองเนื่องจากผิวเกิดบาดแผลเล็กๆ
คลีนหน้าด้วย cleansing อ่อนโยน + cleanser อ่อนโยน ไม่มีฟอง + โทนเนอร์พอเช็ดออกมา สำลีจะมีสีคล้ำหน่อย เพราะเดดเซลล์ที่ติดอยู่ ไม่ได้ชำระล้าง + บำรุงให้ความชุ่มชื่นแบบอ่อนโยน+ ตอนเช้าจะใช้กันแดดค่า spf 50 pa+++ ไม่ทาแป้งป้องกันการแห้งลอก + ลงครีมบลัช ทาลิปมัน จบกระบวนการ + ระหว่างวันช่วงเที่ยงก่อนออกไปข้างนอก ก็ลงกันแดดอีกรอบ ใช้ร่มกันยูวี
วันที่ 3 - วันนี้ผิวหน้าน่าจะยุบลงจนปกติแล้ว จะเห็นว่ามีรอยเข็ม จ้ำแดงๆ ทั่วหน้าเริ่มเลือนสำหรับจุดเล็ก จุดใหญ่ที่จ้ำม่วงก็กำลังจะเลือนเป็นอมแดง + ส่วนที่เขียวช้ำก็จะอมเหลือง + ส่วนของผิวที่บวมทำให้หน้าเต็ม ก็เข้าที่ *Zoom Zoom จากภาพครบ 1 เดือน สังเกตได้ว่า
- ผิวบริเวณที่มีหลุมสิว ช่วงหน้าแก้ม ทั้ง 2 ข้าง และ ด้านกราม 2 ข้าง หลุมสิวดูตื้นขึ้น (แต่ไม่เรียบเนียนเหมือนคนที่ไม่เคยมีหลุมหรอกนะคะ) - ช่วงร่องแก้ม และแก้มจะเต่งขึ้น รอยระหว่างคิ้ว และ หน้าผาก เต็มขึ้นค่ะเวลาย่นคิ้ว หน้าผาก จะไม่ค่อยแสดงร่อง เส้น fine linesเท่าไหร่
- ริ้วรอยเส้น fine lines ตื้นฟูขึ้น มองแล้วเส้นจางกว่าเดิม แต่ก็ยังคงมีเส้นริ้วรอยนะคะ ผิวบริเวณใต้ตา อิ่มขึ้น ผิวไม่แห้งเหมือนก่อนทำ
- รูขุมขนก็ยังใหญ่อยู่นะคะ ความเนียนของผิวก็ดีขึ้น (เทียบกับผิวของตัวเองก่อนหน้าการทำ คือ ผิวทั่วหน้าและบริเวณที่มีหลุมสิว จะดูเนียน ซอฟ์ทขึ้น ขอบหลุมจะไม่ชัดแบบก่อนทำ)
- หลุมทีหน้าผากตื้นหายไปเลย 1 จุด
อย่างอิชั้นมีซากอารยธรรม ทั่วๆ หน้าอย่างนี้จะต้องเก็บละเอียดให้หมด ต้อง follow การรักษาต่อเนื่องสม่ำเสมอ ตามระยะเวลาที่ควรต่อไปค่ะ ส่วนตัวทราบดีว่า การรักษารอยแผลเป็นหลุมนั้นรักษายากที่สุด ต้องใช้ความอดทน ความสม่ำเสมอ อิชั้นก็จะสู้ต่อไปค่ะ ^ ^