Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
ธรรมะและศิลปะ ... กลางใจเมือง @ สวนโมกข์กรุงเทพ

คำชี้แจงเบื้องต้น

เรื่องราวในบล็อกนี้ถูกเขียนขึ้นตามความเข้าใจของข้าพเจ้าในฐานะผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ท่านนำข้อความในบล็อกนี้ไปอ้างอิงถึงความถูกต้องตามหลักวิชาการใด ๆ ทั้งสิ้น







9 เมษายน 2555





เมื่อพูดถึงสวนโมกข์ก่อนอื่นเลยผมต้องคิดถึงพระพุทธทาสภิกขุ ผู้ซึ่งก่อตั้งสวนโมกขพลาราม ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงแม้ว่าผมจะเกิดไม่ทันไม่ได้มีโอกาสฟังธรรมะจากท่านพระพุทธทาสโดยตรงก็ตาม แต่ผมก็มีโอกาสได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะที่ท่านพระพุทธทาสรวบรวมเอาไว้ ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะของท่านพระพุทธทาสภิกขุ ซึ่งหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้อ่านกันก็คือหนังสือที่มีชื่อว่า “คู่มือมนุษย์” นั้นเองครับ



ในความเป็นจริงแล้วผมยังไม่เคยมีโอกาสไปยังสวนโมกขพลารามที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเลยสักครั้ง แต่ผมมีโอกาสได้รู้จักกับสวนโมกข์มากขึ้นก็เมื่อผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่มีชื่อเรื่องว่า “แผ่วผ่านธารน้ำไหล” โดยในหนังสือเล่มนี้คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้เขียนขึ้นในลักษณะเป็นบันทึกธรรมจากสวนโมกข์ เมื่อครั้งที่คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้บวชเป็นพระ และท่านมีโอกาสได้ออกธุดงค์ไปยังสวนโมกขพลารามเพื่อไปพบกับท่านพระพุทธทาสภิกขุ จากเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้เองที่ทำให้ผมรู้ว่า จริง ๆ แล้วที่เราเรียกกันว่า สวนโมกขพลาราม นั้นแท้จริงแล้วก็คือวัดแห่งนี้ในอำเภอไชยาที่มีชื่อว่า วัดธารน้ำไหล นั้นเอง

ภาพในจินตนาการของผมเกี่ยวกับสวนโมกข์จึงปรากฏขึ้นในทันที่หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบลง ภาพของบรรยากาศอันสงบร่มรื่นภายในสวนโมกข์ที่คุณเนาวรัตน์ได้บรรยายไว้ในหนังสือเล่มนั้น ทำให้ผมจินตนาการไปถึงวัดแห่งหนึ่งที่เงียบสงบและน่าไปเยี่ยมชม อีกครั้งการที่คุณเนาวรัตน์ได้กล่าวถึงสถานที่ต่าง ๆ ภายในสวนโมกข์ไม่ว่าจะเป็น ลานที่ปฏิบัติธรรม โรงมหสพทางวิณญาณ กุฎิจำวัดของพระ ฯลฯ ได้สร้างภาพอันสวยงามของสถานที่แห่งนี้ให้ปรากฏขึ้นในสมองของผมได้ตลอดเวลา



แต่กระนั้นเลยผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสวนโมกข์ที่อำเภอไชยาเลยสักครั้ง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เอง ระหว่างการสนทนาบนโต๊ะร่ำสุราของบรรดาเพื่อนเก่าแก่ของผม ผมได้เอ่ยปากถามถึงเพื่อนคนหนึ่งที่หายไปซึ่งไม่ได้มาปรากฎตัวในวงเหล้าครั้งนี้ แล้วผมก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนมาจากเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า ..

“ มันไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ไชยาเป็นเดือน ๆ แล้ว สงสัยมันจะไปทางโน้นแล้วล่ะมั๊ง ”

ประโยคที่เพื่อนคนหนึ่งตอบออกมานั้นทำให้ผมและคนอื่น ๆ ในวงสนทนาต้องอึ้งไปตาม ๆ กัน ก่อนที่วงสนทนานี้จะเปลี่ยนเรื่องคุยกันในทันทีโดยอัตโนมัติอย่างพร้อมเพียง เพราะว่าเรื่องราวที่ดี ๆ แบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะนำมาคุยต่อความยาวสาวความยืดกันในวงเหล้าแน่ ๆ ครับ





แต่หลังจากนั้นผมก็ได้กลับมาคิดดูอีกครั้งหนึ่ง ขนาดเพื่อนของผมที่เป็นคนสำมะเลเทเมาติดเหล้าติดยาขนาดนั้น ยังเลิกและหันหน้าเข้าหาธรรมะได้เมื่อได้ไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ แสดงว่าที่สวนโมกข์แห่งนี้ต้องมีอะไรที่ดี ๆ มากกว่าที่ผมเคยได้รู้มาแน่ ๆ ครับ ผมจึงได้ลองเริ่มตามหาข้อมูลเพิ่มเติมจากในอินเตอร์เน็ต แล้วผมก็ได้ทราบว่านอกจากที่สวนโมกข์ ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ในปัจจุบันนี้มีสวนโมกข์ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วด้วย โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ...

"หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ" หรือที่รู้จักกันดีว่าคือ "สวนโมกข์กรุงเทพ" นั้นเองครับ












จากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้จึงเป็นที่มาของเรื่องราวในบล็อกนี้ครับ

ก่อนอื่นท่านที่สนใจจริงจังเกี่ยวกับสวนโมกข์กรุงเทพ ท่านก็สามารถที่จะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสวนโมกข์กรุงเทพได้ตามลิงค์นี้นะครับ

//bia.or.th/



เมื่อผมได้ไปถึง หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือสวนโมกข์กรุงเทพ ที่สวนรถไฟแห่งนี้แล้ว ผมก็ได้แต่บอกกับตัวเองในใจว่า มันไม่เหมือนกับที่ผมวาดภาพไว้ในใจเลยครับ เพราะว่าสถานที่ที่เป็นสวนโมกข์กรุงเทพนี้ ถือเป็นอาคารร่วมสมัยที่ออกแบบได้สวยงามเป็นอย่างมาก แต่มีความรู้สึกอยู่อย่างหนึ่งที่ผมรับสู้ได้ว่ามันคล้ายกับที่ผมเคยจินตนาการไว้ก็คือ ความสงบและร่มรื่นของสวนโมกข์กรุงเทพครับ สาเหตุก็เพราะว่าอาคารร่วมสมัยที่เป็นที่ตั้งของสวนโมกข์กรุงเทพนี้ ถูกก่อสร้างอยู่ริมสระน้ำที่เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ภายในสวนสาธารณะที่มีชื่อว่า สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อันมีชื่อแห่งหนึ่งใจกลางของกรุงเทพมหานครเลยครับ ภายในบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ บนพื้นสระน้ำอันเวิ้งว้าง และความสวยงามของทัศนียภาพโดยรอบที่มองเห็นสวนต้นไม้อันกว้างใหญ่นั้น มันสามารถสร้างความสงบและร่มรื่นขึ้นในใจของผู้ที่ได้ไปสัมผัสได้เป็นอย่างดี
























เมื่อมองออกไปภายนอกตัวอาคาร สวนโมกข์กรุงเทพ จะเห็นสวนสาธารณะ (สวนรถไฟ) อันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีบรรยากาศร่มรื่นเป็นอย่างมากครับ













ลานหินโค้ง (มองจากชั้น 2) สำหรับไว้ทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา






ทางลาดด้านข้างอาคารสำหรับรถเข็น (จริง ๆ แล้วภายในตัวอาคารมีลิฟต์โดยสารครับ) มองดูแล้วเป็นอาคารที่ออกแบบได้ร่วมสมัยมาก ๆ เลย






พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในอาคาร







นามเดิมของท่านพระพุทธทาสก็คือ พระเงื่อม อินฺทปญฺโญ (ตามละเอียดตามเว็บไชต์ของวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม) ดังนั้นชื่อ อินทปัญโญ จึงนำมาใช้เป็นชื่อของสวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ด้วย ส่วนที่ใช้คำว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาส ก็เป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้เป็นที่เก็บรายละเอียดและเรื่องราวเกี่ยวกับ ธรรมะและคำสอนต่าง ๆ ที่ท่านพระพุทธทาสภิกขุรวบรวมเอาไว้ ซึ่งจุดเด่นประการหนึ่งของท่านพุทธทาสภิกขุก็คือ ท่านเป็นผู้ที่สื่อธรรมะและถ่ายทอดออกมาผ่านงานศิลปะต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่า “พุทธศิลป์” ซึ่งถือว่าเป็นกุศโลบายที่ดีประการหนึ่งในการเผยแพร่ธรรมะเลยครับ



ส่วนสาเหตุที่การเผยแพร่ธรรมะในหลาย ๆ ครั้งถูกสื่อออกมาในเชิง “พุทธศิลป์” นั้นก็เพราะว่า เรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธนั้นในบางครั้งมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องหรือเล่าถึงภพภูมิอื่น ๆ อาทิเช่น ในชาดก , ในชาติกาลก่อน , ในสมัยพุทธกาล , ในสมัยพุทธุปบาทกาล (ช่วงเวลาที่มีพระพุธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้) ฯลฯ (เทพและภูมิในพุทธศิลป์ มหามกุฏราชวิทยาลัย) ดังนั้นการถ่ายทอดเรื่องราวทางพุทธศาสนาเพื่อสื่อให้ผู้คนต่าง ๆ สามารถเข้าใจได้นั้น จำเป็นต้องใช้งานศิลปะแขนงต่าง ๆ เข้ามาช่วยสื่อสารด้วย จึงเป็นที่มาของงานศิลปะในรูปแบบที่เรียกกันว่า งานพุทธศิลป์ นั้นเอง (พุทธศิลป์คืออะไร?)

ท่านพระพุทธทาสภิกขุ ท่านเคยได้อธิบายความหมายเกี่ยวกับพุทธศิลป์มีเนื้อความสรุปได้ว่า ยอดสูงสุดของศิลปะนั้น เป็นเรื่องการดำรงชีวิตจิตใจให้อยู่เหนือความทุกข์ ซึ่งเป็นศิลปะสูงสุดในพระพุทธศาสนา เรียกว่า เป็นศิลปะของชาวพุทธ ในการที่ช่วยกันปลดเปลื้องความทุกข์ในทางจิตใจ หรือปัญหาสังคม ซึ่งในปัจจุบันนี้เรื่องราวของพุทธศิลป์ที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นเรื่องทางวัตถุมากขึ้น ดังนั้นงานศิลปะของชาวพุทธเลยกลายเป็นเรื่อง โบสถ์ , เจดีย์ , วิหารและพระพุทธรูปสวย ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการจรรโลงจิตใจเป็นหลัก












บทกลอนที่คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์แต่งกล่าวถึงท่านพระพุทธทาสภิกขุ








ภาพปริศนาธรรมที่อยู่ภายในอาคาร สวนโมกข์กรุงเทพ





คำอธิบายภาพปริศนาธรรมมีติดเอาไว้ให้อ่านประกอบการพิจารณาชมภาพ






ภาพปริศนาธรรมภาพนี้ชื่อว่า " แจกดวงตา " หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยกับภาพนี้ก็เป็นได้ครับ







ภาพปริศนาธรรมนี้มาจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง " ยายกับตาปลูกถั่วงาให้หลานเฝ้า "









ภาพปริศนาธรรมนี้มีชื่อว่า " ปฎิจจสมุปบาท กาลจักร " (The Wheel of Life) ผมอ่านคำอธิบายภาพแล้วยังไม่เข้าใจเลยครับ สงสัยผมต้องหาเวลากลับไปพิจารณาชมให้เข้าใจภาพนี้อีกสักครั้งครับ




ซูมมาให้ชมตรงกลางภาพครับ








เมื่อพูดถึงงานศิลปะที่เป็น "พุทธศิลป์" แล้ว ในสวนโมกข์กรุงเทพนี้ถือว่ามีงานพุทธศิลป์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากอยู่หนึ่งอย่างนั้นก็คือ ภาพปริศนาธรรม ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นภาพที่ถูกจำลองมาจากภาพต้นฉบับจริงที่อยู่ในสวนโมกขพลาราม ที่อำเภอไชยา ก็เป็นได้ครับ โดยภาพปริศนาธรรมหลัก ๆ ที่อยู่ในสวนโมกข์กรุงเทพนั้นมีภาพหลัก ๆ อยู่ 10 กว่าภาพครับ สำหรับการชมภาพปริศนาธรรมนั้น ถ้าท่านใดที่ชมอย่างผิวเผินแบบดูผ่าน ๆ ก็คงจะเข้าใจได้ยาก แต่ถ้าท่านได้ดูชมอย่างเพ่งพิจารณาโดยละเอียดแล้ว ท่านก็อาจจะเข้าใจถึงหลักธรรมะหรือข้อธรรมะที่แฝงอยู่ในภาพนั้นก็เป็นได้ครับ

ผมยอมรับว่าภาพปริศนาธรรมที่อยู่ในสวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ หลาย ๆ ภาพนั้นผมดูแล้วก็ไม่เข้าใจความหมายของภาพนั้น ๆ ครับ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าผมอาจจะไม่มีความรู้ที่ลึกซึ้งในเรื่องธรรมะก็เป็นได้ครับ แต่ในทางกลับกันก็มีภาพปริศนาธรรมอยู่ 2-3 ภาพที่ผมได้ชมแล้วสามารถเข้าใจถึงเรื่องราวของธรรมะหรือคำสอนที่แฝงอยู่ในภาพนั้นได้ครับ



ผมขอยกตัวอย่างที่ภาพนี้ครับ ภาพนี้มีชื่อว่า “ แดนเกิดแห่งปัญญา ”




จากที่ผมได้อ่านคำอธิบายภาพและพิจารณาดูภาพแล้วผมก็พอจะเข้าใจได้ประมาณว่า ...



(ตามความเข้าใจของผมนะครับ เพราะว่าในวันที่ผมไปชมภาพนี้นั้นไม่ได้มีท่านวิทยาการมาคอยอธิบายภาพปริศนาธรรมนี้ให้ครับ)



มีชายคนหนึ่งถูกโจร 5 คนไล่ฆ่า ชายคนนั้นจึงหนีไปถึงยังริมตลิ่ง บังเอิญมีซากศพที่เน่าพองอึดลอยผ่านมาเขาจึงกระโดดขึ้นขี่ซากศพนั้น เขาใช้ทั้งมือและเท้าพุ้ยน้ำเพื่อดันซากศพให้ลอยข้ามฟากพ้นไปจากโจรทั้ง 5 หรือพ้นจากวัฏฏสงสารเพื่อไปสู่อีกฝั่งซึ่งนิพพาน ซึ่งวัฏฏสงสารก็คือการเวียนว่ายตายเกิดนั้นเอง ส่วนนิพพานก็คือความดับแห่งกิเลสและกองทุกข์

ปริศนาธรรมที่แฝงอยู่ในภาพนี้ก็คือโจรทั้ง 5 ที่แสดงเป็นรูปนก 5 ตัวที่บินวนเวียนอยู่ในวงกลม ซึ่งพระท่านได้เปรียบเปรยหมายถึงตัวทุกข์ ซึ่งก็คืออุปาทานขันธ์ทั้ง 5 อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ คำว่าอุปาทานแปลว่า การยึดติด, การยึดมั่นถือมั่น , นึกเอาเองว่าต้องเป็นอย่างนั้น ซึ่งความหมายตามภาพปริศนาธรรมนี้ก็คือการยึดมั่นในกิเลสต่าง ๆ ซึ่งถ้าเราสามารถข้ามมันไปได้ (ละกิเลสได้) เราก็จะบรรลุถึงนิพพานซึ่งก็คือการพ้นทุกข์นั้นเอง (อุปทานขันธ์ 5)

ซึ่งซากศพที่ลอยน้ำอยู่นั้น พระท่านเปรียบเปรยว่าร่างกายเราคือศพเน่าที่เป็นปฏิกูลตามธรรมชาติ ซึ่งปฏิกูลนั้นก็คือสิ่งสกปรกน่ารังเกียจ ร่างกายเราจึงต้องชำระให้สะอาดอยู่เสมอด้วยศีล ภาวนา สมาธิและชะโลมล้างกิเลสต่าง ๆ ออกด้วยธรรมะ จึงจะหนีพ้นจากทุกข์ไปสู่ห้วงแห่งนิพพานได้






สำหรับในภาพส่วนนี้คือภาพดอกบัวที่มีบุรุษผู้เข้มแข็งยืนถือพระขรรค์และจักรอยู่กลางดอกบัว แสดงว่าปัญหาเกิดขึ้นจากกายอันเป็นสิ่งปฏิกูลนั้น เปรียบเป็นโคลนที่เน่าเหม็นนั้นยังเป็นที่เกิดของดอกบัวที่งดงามได้ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้เราจะอยู่ที่สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส แต่ถ้าเราละจากกิเลสเหล่านนั้นได้เราก็หลุดพ้นขึ้นมาเหมือนดอกบัวที่อยู่เหนือโคลนตม ส่วนขรรค์และจักรนั้นเปรียบได้กับปัญญาที่จะใช้ตัดกิเลสอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ ซึ่งถ้าตีความหมายแล้วก็คือความมีสติก่อให้เกิดปัญญา ปัญญาจะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ก่อขึ้นจากสิ่งปฏิกูลซึ่งก็คือกิเลสต่าง ๆ ของเรา ถ้าเรามีสติที่ก่อให้เกิดปัญญาก็เหมือนกับเรามีขรรค์และจักรที่จะเอามาตัดกิเลส(ปัญหา)เหล่านั้นได้


ส่วนภาพเด็กที่กำลังลอยเข้าหาบุรุษที่เข้มแข็งผู้ซึ่งถืออาวุธนั้นหมายถึง ความโง่ ความหลง ความมืดบอด ซึ่งเรียกว่า “อันธการ” นั้นต้องตัดเสียด้วยปัญญา การทำลายกิเลสความโง่หลงนั้นจำเป็นต้องมองเห็นกิเลสอันเป็นต้นเหตุของความทุกข์เสียก่อน เหมือนกับคำพระที่กล่าวไว้ว่า “ทุกข์อยู่ที่ดับก็สามารถดับลงได้ด้วยเหตุแห่งทุกข์นั้น”

(โห ... ผมอธิบายได้แจ่มขนาดนี้ ถ้าผมไปบวชใหม่เค้าไม่ชวนไปเป็นเจ้าอาละวาดเลยเหรอเนี่ย? ... ก๊าก ๆ ๆ ๆ )








ถ้าทุกท่านเข้าใจในภาพปริศนาธรรมภาพนี้ตามที่ผมกล่าวมาแล้ว ผมเชื่อว่าคงจะไม่มีใครฆ่าตัวตายอย่างแน่แท้ครับ เพราะว่าทุกปัญหานั้นย้อมใช้สติและปัญญาแก้ไขได้ทั้งหมดครับ ดังนั้นถ้าท่านเจอใครที่บ่นว่า “ฉันอยากจะฆ่าตัวตาย” ก็ขอให้ท่านแนะนำให้เขาคนนั้นไปชมภาพปริศนาธรรมภาพนี้ที่สวนโมกข์ก่อน ผมเชื่อว่าเขาคนนั้นต้องล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าตัวตายเป็นแน่ครับ

(ใช่อ่ะจิ .. กว่าจะไปถึง กว่าจะฝ่ารถติดไปได้ กว่าจะถึงสวนโมกข์ มันคงไม่อยากฆ่าตัวตายแล้ว มันคงอยากจะนั่งพักให้เย็นใจเล่นมากกว่าเนอะ ... อิอิ)








ภาพปริศนาธรรมภาพนี้ชื่อ " ปฎิจจสมุปบาทแบบไทย - กายนคร "








ภาพปริศนาธรรมภาพนี้ชื่อ " สมถกัมมัฏฐานแบบทิเบต "






จริง ๆ แล้วที่สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ยังมีภาพปริศนาธรรมอีกหลายภาพที่ผมอยากจะให้ท่านลองไปชมไปพิจารณาและลองตีความหมายด้วยตัวเองดูครับ ถ้าท่านชมภาพท่านได้อ่านคำบรรยายประกอบ แล้วท่านสามารถตีความหมายรู้ซึ้งถึงธรรมะที่แฝงอยู่ในภาพนั้นได้ด้วยตัวของท่านเอง ผมคิดว่าจิตใจของท่านก็คงจะสุขอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับที่พระท่านเรียกว่า “ระดับเห็นธรรม” ซึ่งถือว่าสูงส่งพอควรเลยนะครับ

หรือว่าถ้าท่านอยากจะไปชมภาพปริศนาธรรมเหล่านี้โดยเข้าใจความหมายที่แท้จริงนั้น ขอให้ท่านไปในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ เพราะว่าจะมีท่านวิทยากรนำชมสถานที่และคอยอธิบายภาพปริศนาธรรมต่าง ๆ ให้แก่ท่าน โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบเวลา 10.00 น. และ 13.00 น. (สำหรับในวันเสาร์จะมีไฟล์เสียงเทศน์ของท่านพระพุทธทาสภิกขุแจกให้แก่ท่านด้วย แต่ท่านต้องนำทรัมไดฟ์ไปเตรียมสำหรับอัดเองครับ)




นอกจากนี้แล้วที่สวนโมกข์กรุงเทพยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับธรรมะอยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยเฉพาะการทำวัตรเย็นทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 17.30 – 18.30 น. , กิจกรรมการสนทนาธรรมในวันพระและวันสำคัญทางศาสนาพุทธ , กิจกรรมปฏิบัติธรรมต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของกิจกรรมทางธรรมต่าง ๆ ที่ท่านสนใจได้ที่เว็บไซต์ของสวนโมกข์กรุงเทพครับ



















มีทัวร์ธรรมะไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดทุกเดือนด้วยนะครับ ท่านใดสนใจต้องเข้าไปชมรายละเอียดในเว็บไซต์ของ สวนโมกข์กรุงเทพ ดูนะครับ





มีสนทนาธรรมทุกเดือนด้วยครับ









สำหรับท่านที่สนใจหนังสือธรรมะ ที่ชั้นล่างของอาคารสวนโมกข์กรุงเทพนั้นมีห้องหนังสือและสื่อธรรมะ ที่มีหลากหลายหนังสือธรรมะต่าง ๆ ให้ท่านสามารถเข้าไปนั่งอ่านในห้องหนังสือนี้ได้ โดยมีการจัดมุมไว้มุมหนึ่งสำหรับให้ท่านได้นั่งอ่านหนังสือธรรมะโดยเฉพาะ ท่านจึงสามารถนั่งอ่านหนังสือธรรมะได้อย่างสบายเนื่องจากว่าภายในห้องหนังสือนี้ติดแอร์เย็นฉ่ำ รวมทั้งท่านสามารถเลือกหาซื้อหนังสือและสื่อธรรมะต่าง ๆ จากที่แห่งนี้กลับไปบ้านได้อีกด้วยครับ

ภายในห้องหนังสือและสื่อธรรมะแหงนี้มีโปสการ์ดขายด้วยนะครับ ลองไปชมที่บล็อกนี้ของผมนะครับ

โปสการ์ดจากสวนโมกข์กรุงเทพ














นอกจากนั้นท่านใดที่สนใจในเรื่องของการฝึกจิตทำสมาธิ ที่ชั้น 2 ของอาคารสวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ก็มีห้องนิทรรศการ “นิพพานชิมลอง” เพื่อให้ท่านเข้าไปค้นคว้าและแสวงหาดูว่า การทำสมาธิให้จิตใจสงบนั้นจะสามารถพาท่านเข้าสู่นิพพานได้อย่างไร? เรื่องแบบนี้ถ้าท่านใดสนใจต้องไปลองค้นหากันเอาเองครับ ผมจะมาเล่าให้ฟังอย่างเดียวก็คงจะไม่สามารถทำให้ท่านเข้าสู่นิพพานได้หรอกครับ ท่านต้องลองไปฝึกสมาธิกันดูนะครับ จะไปนั่งสมาธิหรือว่าเดินจงกรมเพื่อฝึกปลงสังขารสำหรับการทำสมาธิก็ได้ครับ








ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปนั่งสมาธิภายในห้องนี้ได้ครับ บรรยากาศภายในเงียบสงบ แอร์เย็นฉ่ำ เหมาะสำหรับการไปฝึกสมาธิเป็นอย่างมากครับ








นอกจากนั้นภายในสวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ยังมีมุมสงบสำหรับท่านอีกมากมาย ให้ท่านไปนั่งพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายจากการที่ได้พบเจอสังคมอันวุ่นวายที่ต้องแก่งแย่งแข่งขันกันมาตลอดทั้งวันได้

“ ขอเชิญให้ท่านไปนั่งสงบจิตใจ ให้หลงใหลในศิลปะจนเข้าถึงธรรมะที่สวนโมกข์กรุงเทพกันนะครับ ”

และที่สำคัญที่สุด ที่สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันโดยไม่มีวันหยุดครับ วันธรรมดาช่วงเย็น ๆ หลังเลิกงานท่านก็สามารถไปที่สวนโมกข์กรุงเทพแห่งนี้ได้ หรือว่าในวันหยุดวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ท่านจะพาครอบครัวของท่านไปเที่ยวชมศิลปะและธรรมชาติ รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาตามที่ทางสวนโมกข์ได้จัดขึ้นด้วยก็ได้ครับ







ภาพปูนปั้นหรือว่าภาพปั้นหินทราย (อันนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าเรียกว่าอะไร?) ดูแล้วสื่อธรรมะออกมาในรูปแบบของงานศิลปะอย่างแท้จริงเลยครับ



















" ไปนั่งดูเถอะ จะเกิดความรู้สึกประทับใจ จะพอใจ ... จะสังเกตเห็นลักษณะเช่นนั้นในรูปโพธิสัตว์แล้วความรู้สึกเช่นนั้นจะครอบงำจิตใจของเรา ... เวลาที่แสงแดดดี หามุมดี ๆ มองดูจะสวยมาก สวยที่สุด " เป็นคำกล่าวเชิญชวนของท่านพระพุทธทาสภิกขุที่เขียนไว้ในแผ่นบรรยายอธิบายความหมายของรูปหล่อสำริดพระโพธิสัตว์นี้ครับ
































คุยกันท้ายเรื่อง

ก่อนอื่นผมต้องขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเรื่องราวในบล็อกนี้ของผม จริง ๆ แล้วในตอนแรกผมตั้งใจที่จะเขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสวนโมกข์กรุงเทพที่ผมได้ไปเยี่ยมชมมาให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน แต่พอเขียนผมเรื่องไปเรื่อย ๆ ไหน ๆ มันมีการเล่าถึงเรื่องธรรมะด้วยก็ไม่รู้ครับ มันเลยกลายเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างจะเขียนยากสำหรับผม แต่ผมก็รู้สึกดีนะครับที่ผมสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ดี ๆ แบบนี้ออกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันได้ครับ ผมเขียนจบแล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก ๆ เลยครับ ผมเลยอยากจะแบ่งปันความสุขที่ผมได้รับจากการถ่ายทอดเรื่องราวทางพระพุทธศาสนานี้ให้แก่ทุก ๆ ท่านด้วยครับ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องราวเล็ก ๆ ที่ผมพยายามพูดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาก็ตาม แต่สำหรับผมถือได้ว่า ...

“ การที่ได้ทำให้ผู้อื่นเข้าใจในพระพุทธศาสนานั้น พระท่านถือว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ประการหนึ่งเลย ”

ขอให้ท่านได้บุญกุศลจากการที่ได้อ่านเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พูดถึงพระพุทธศาสนาจากบล็อกนี้ของผมด้วยครับ ขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ นะครับ

อิอิ










Create Date : 09 เมษายน 2555
Last Update : 10 เมษายน 2555 13:21:37 น. 85 comments
Counter : 7473 Pageviews.

 
บ้านผมอยู่ใกล้ๆ แท้ แต่กลับไม่เคยได้ไปผมคงต้องไปฝึกจิตใจสักครั้งบ้างแล้วครับ


โดย: eronthai วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:1:05:35 น.  

 


สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง
ล่าสุดที่ได้คุยกับคุณน้ำฝนได้ความว่า
จะว่างในวันเสาร์ที่ 21 เมษายนนี้
เวลา 12.00-14.00น.
อยากจะเจอเพื่อนๆชาวbloggangมากๆค่ะ
ขอนัดร้านอาหารที่อยู่แถวๆหลังสวน
ใกล้สยามพารากอน
อ้อมแอ้มเลยจองโต๊ะจีน
ที่ภัตราคารตั้งใจอยู่สาขาสุรวงค์
อยู่อาคารWall streetชั้นใต้ดินค่ะ
พูดง่ายๆก็คืออยู่ย่านพัฒน์พงษ์
ใกล้ร้านผ้าไหมJim Thomson
ใกล้กับธนาคารกรุงเทพฯสาขาสุรวงค์ค่ะ
เบอร์ทางร้าน 02-632-7292-3ค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:1:12:48 น.  

 
แล้วเจอกันค่ะอาคุงกล่อง


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:1:38:02 น.  

 
ความทุกข์โศก โบกพัด พริ้วไสว
อยูข้างใน จิตใจ ไม่เลือนหาย
ทุกข์เพราะรัก ลาไกล ให้เดียวดาย
รักแล้วแหนง หน่ายหนี ไปมีชู้


วันนี้จัดกลอนเต็มให้อาคุงกล่องเลย


โดย: เสือย้อมแมว วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:2:12:09 น.  

 
เวงสัมพรัด ผิด *แก้


ความทุกข์โศก โบกพัด พริ้วไสว
อยูข้างใน จิตใจ ไม่เลือนหาย
ทุกข์เพราะรัก ลาไกล ให้เดียวดาย
ต้องแพ้พ่าย รักง่าย หน่ายหนีกัน




โดย: เสือย้อมแมว วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:2:17:01 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:5:32:46 น.  

 
สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง

เคยตั้งใจเอาไว้ครั้งล่าสุดที่ได้ไปเยือนกรุงเทพ .. (นานแล้วค่ะ)
ก็ว่าจะไปที่นี่เพราะว่าเพื่อนแวะมาบอกเล่าเก้าสิบ
แต่ว่าก็อดไปด้วยเพราะว่าภารกิจที่จะต้องทำยังไม่สามารถ
จัดการได้ทันเวลาเลยอดไปเลยค่ะ เสียดายแท้ๆ

มาเดินกับอาคุงกล่องชมภาพบรรยากาศรอบๆ แล้ว
ก็ได้เสียดายเลยค่ะว่าอยากไปนะนี่ เพราะว่าดูเงียบ สงบ
แล้วก็น่าได้ไปใช้ชีวิตสักช่วงเวลาเล็กๆ ที่นี่หาความสงบส่วนตัว
ได้บ้างนะค่ะ ดูท่าว่าไปแล้วจะไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ เพราะว่าดูร่มรื่นมาก



ไม่ได้ทักทายกันนานเลยค่ะ อาคุงกล่องสบายดีนะค่ะ


โดย: JewNid IP: 180.183.205.25 วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:6:07:47 น.  

 

เป็นสวนที่ไม่มีสีเขียวนะคะ
หนักไปทางสวนหิน(ซีเมนต์)ซะมากกว่า
ชอบห้องดับจิต เอ๊ย!!ห้องสมาธิ ที่สุดค่ะ
นึกถึงห้องสมาธิในวัดอินทราราม(หลวงพ่อโต)
แนวคิดคล้ายๆกัน..



ถ้าอาคุงกล่องไม่ยกมาให้ดูก็คงไม่ได้เห็น
ทั้งๆที่ไม่ไกลจากบ้านคุณยายเท่าไหร่
ในการเดินทาง


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:6:48:32 น.  

 
ตั้งใจไว้ว่า ต้องหาโอกาสไปเยื่อนสถานที่นี่ให้ได้ หรือร่วมกิจกรรมที่นี่ให้ได้ ...


โดย: นัทธ์ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:7:16:14 น.  

 
เป็นแนวเขียนที่น่าชื่นชมมากเลยครับ
ขออนุโมทนาในความตั้งใจทำสิ่งดีๆ นี้ครับ



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:8:08:47 น.  

 


เขียนละเอียดดีจังค่ะ พี่ได้ความรู้เพิ่มอีกด้วย
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

newyorknurse



โดย: newyorknurse วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:8:09:35 น.  

 
บรรยายได้รายละเอียดดีครับ
ผมผ่านไปจตุจักรบ่อย ๆ แต่ยังไม่เคยเข้าไปเลยครับ

ยังไงถ้ามีเวลาว่างอีกคงต้องรบกวนคุณอาพาเยี่ยมชมซะแล้ว...


โดย: อัสติสะ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:8:32:36 น.  

 
ไม่เคยไป แต่น่าสนใจดีนะคะ


โดย: bee_บี วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:13:17:21 น.  

 
ได้อะไรกลับมาเยอะเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:14:40:34 น.  

 
ดูร่มรื่น น่าไปจังค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:20:36:17 น.  

 
น่าสนใจมากครับคุณกล่อง ทั้งศิลปะและกิจกรรมที่สวนโมกข์กรุงเทพได้จัดขึ้น ผมเองก็ชอบฟังเทปธรรมะของท่านพุทธทาสครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:20:40:42 น.  

 
สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง
มาทักทายกันค่ะช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าบล๊อกค่ะ เพราะปัญหาปวดตา พอจะค่อยยังชั่วคอมก็มาเดี้ยงตามเจ้าของซะอีก
เลยเข้ามาแบบแว๊บ ๆ ค่ะ จองที่ไว้ก่อน แล้วจะมาอ่านตอนกลางวันนะคะ ไม่อยากใช้สายตามากค่ะ
สงกรานต์ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ
ถ้าไปขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:20:49:07 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:5:46:31 น.  

 
คุณกล่อง สวัสดีจ้า
คุณกล่องเป็นยังไงบ้างคะ สบายดีนะ
นู๋อุ๊สบายดีค่ะ จะกลับบ้านนอกไปหาอีพ่อกับอีแม่แล้วจ้า

เอิ๊กกกกก คงไปนานหลายวัน
สงกรานต์นี้คุณกล่องพาคุณแม่ไปเที่ยวไหนคะ
ยังไงก็ขอให้เดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับนะคะ

สนุกสนานในวันสงกรานต์ค่ะ

แล้วเจอกันวันที่ 21 นะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:11:37:01 น.  

 
ที่นี่น่าสนใจครับ เคยเห็นหลายบล็อกรีวิวที่นี่แต่ผมยังไม่เคยไปที่นี่เลย เท่าที่อ่านถ้าเป็นอย่างที่เขียนจริง ผมว่าน่าสนใจมาก ถึงแม้จะเป็นแค่สวนโมกข์ก็ตาม

ปริศนาธรรมน่าสนใจครับ ได้คิดเยอะเลย พูดถึงไชยา ผมนึกถึงไข่เค็มทุกที


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:23:36:37 น.  

 
หวัดดีค่าอาคุงกล่อง รินไม่ค่อยรู้จักที่นี่เลย

ปริศนาธรรมหลายข้อ รินว่า อาคุงกล่อง
คือผู้บรรลุ แล้วนะคะ อิอิ






โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:21:16 น.  

 
ชอบลานกว้างๆใต้ถุนนั่นจังเลยคุณกล่อง

ยกแกงมาฝากค่ะ ข้าวหมดพอดี ฝากหุงด้วยค่ะ




โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:26:44 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:5:54:31 น.  

 
สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง
สงกรานต์มีแผนการหรือเปล่าคะ
ตอนนี้อยู่บ้านแม่แล้วค่ะ มาแค่สองวันค่ะ
คงจะเฝ้าถ้ำอยู่บ้านนี่แหละ เพราะรถเยอะ คนเยอะค่ะ

ขอบคุณที่มาทักทายกันเสมอนะคะ ช่วงก่อนก็ปวดตา
ช่วงนี้ก็คอมเสียอีก เลยมาช้านิดหนึ่งไม่ว่ากันนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:18:13:40 น.  

 

สว้สดีค่ะ

ดีจังได้รับโปรสการ์ดที่พี่ส่งมาแล้ว ส่งไม่นานเลย เห็นน้องชอบ
เก็บรูป เลยส่งมาค่ะ ปกติเดี่ยวนี้ไม่ค่อยส่งการ์ดให้ใคร เพราะคุยกันทางเมล์ถึงเลย ไม่ต้องรอ คงต่างกันสำหรับคน collection ค่ะ

ภาพและบรรยายได้ดีจัง โหวดงานเขียนค่ะ

newyorknurse



โดย: newyorknurse วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:6:29:56 น.  

 


สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ คุณกล่อง




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:11:04:00 น.  

 
บรรยากาศดูร่มรื่นดีจังเลยค่ะ
แวะมาวันนี้ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะค่ะ
บุ๊งว่าธรรมมะที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวแบบนี้
น่าสนใจ และทำให้คนสนใจด้วยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:12:10:59 น.  

 
ยังไม่เคยไปเลยสักครั้งค่ะ


โดย: quilt วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:12:35:12 น.  

 
สวัสดียามเย็นก่อนสงกรานต์ค่ะคุณกล่อง สงกรานต์ไปไหนไหม


โดย: sawkitty วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:18:49:36 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณอาคุงกล่อง..

เข้ามารับความรู้ดีๆด้วยคนค่ะ

ขอให้มีแต่ความสุข สดใส สบายกาย สบายใจ
ไร้โรคภัยเบียดเบียน ร่ำรวยเงินทองเนืองนองกัน นะคะ

o ขอมิตรรักยื่นมือมาหาฟ้าหน่อย
ฟ้าจะค่อยรินน้ำใจใสเย็นนี้
พร้อมขมาลาโทษหากโกรธมี
ส่งพรดีกลับคืนไปให้สุขเย็น

o ประแป้งร่ำน้ำอบไทยหอมกายฟุ้ง
พร้อมน้ำปรุงกลิ่นชื่นใจชิดใกล้เห็น
ใส่เสื้อดอกเอกลักษณ์ไทยในยามเย็น
ออกมาเล่นสาดน้ำใสให้ฉ่ำทรวง

มีความสนุกสนาน รื่นเริงกับเทศกาลวันสงกรานต์กัน นะคะ..




โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:19:33:32 น.  

 
ไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะว่ามีสวนโมกข์กรุงเทพด้วย
แม้ว่าสถานที่จะไม่เหมือนที่สวนโมกข์อำเภอไชยา
(ไม่เคยไปนะคะ แต่ดูจากทีวีน่ะค่ะ แหะ แหะ)
แต่บรรยากาศรู้สึกได้ถึงความสงบเลยค่ะ
ถ้ามีโอกาสต้องแวะไปบ้างแล้วละค่ะ

เราได้รับโปสการ์ดใบที่ 2 ที่สวยมากๆจากอาคุงกล่องแล้วนะคะ
เห็นทะเลใสปิ๊งแล้วคิดถึงเมืองไทยจังเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่มีให้กันนะคะ ชอบมากๆค่ะ

อ้อ.... แสตมป์ก็สวยน่าสะสมเช่นกันค่ะ
ไม่ค่อยได้เห็นแสตมป์สวยๆแบบนี้เท่าไหร่เลยค่ะ


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:21:16:18 น.  

 


ขอให้คุณกล่อง
สุขเกษมสำราญ เย็นฉ่ำชื่นบาน
ในยามสงกรานต์ และตลอดกาล.....นะครับ ^ ^


โดย: Dingtech วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:21:46:16 น.  

 


โดย: อสูรกายไทฟอน วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:21:46:59 น.  

 




สิริสวัสดิ์วันสงกรานต์ สิริมานรมณีย์นะคะคุงกล่อง


โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:22:13:56 น.  

 
HAPPY SONGKRAN DAY KA...^_^



โดย: andrex09 วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:22:41:51 น.  

 


newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:5:27:03 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับพี่อาคุง












โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:5:34:48 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


มีความสุขมากมายในเทศกาลสงกรานต์จ้าทิดกล่อง



โดย: หอมกร วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:8:49:58 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับคุณกล่อง

เดินทางไปไหนมาไหน ขอให้ปลอดภัยครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:9:39:42 น.  

 
สวัสดีวันสงกรานต์ครับ ขอให้ฉ่ำเย็นสบายใจในช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์นะครับ





โดย: yyswim วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:17:11 น.  

 
สนุกสนาน สาดน้ำ

เดินทางปลอดภัย

ครอบครัวสุขใจ

...สบายใจทั่วกัน

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:11:39:32 น.  

 
สงกรานต์นี้ขอให้คุณอาคุงกล่องและครอบครัวมีความสุขมาก ๆ เย็นกายเย็นใจไปตลอดปี สุขสันต์วันปีใหม่ไทยค่า



โดย: haiku วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:12:31:23 น.  

 
สุขสันต์วันมหาสงกรานต์ นะคะ มีความสุขมาก ๆ
เดินทางปลอดภัยค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: มิลเม วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:14:14:19 น.  

 
ว่างๆต้องลองไปบ้างแล้วอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:20:30:54 น.  

 

สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆ ของฮอลแลนด์ จ้า



* มีความสุขมากๆๆในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้นะจ้า *


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:21:40:31 น.  

 


สุขสันต์วันสงกรานต์ ปีใหม่ไทยครับ มีความสุขมากๆนะครับคุณกล่อง


โดย: panwat วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:22:01:47 น.  

 


สุขสันต์วันครอบครัวครับคุณกล่อง


โดย: panwat วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:9:36:34 น.  

 
มีความสุขในวันครอบครัวนะคะ


โดย: bee_บี วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:20:46:33 น.  

 
คำบรรยายปริศนาธรรม อาคุงกล่องคิดเองเหรอคะ เก่งจัง


โดย: bee_บี วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:20:52:14 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 16 เมษายน 2555 เวลา:0:52:07 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:5:46:47 น.  

 
หวัดดีค่าอาคุงกล่อง

ท่องเที่ยวสงกรานต์ที่ระยองมาใช่ป่าวน้อ

กลับมารายงานตัวแล้วค่า



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:13:59:01 น.  

 
มาตามกลิ่นธูป เอ้ย!! มาตามคำเชิญชวนในคอมเม้นท์ค่ะ จริงๆ ไผ่ตั้งใจจะตระเวนเยี่ยมบล็อคเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ให้ครบอยู่แล้ว แต่ยังไม่ครบเท่านั้นเอง คราวที่แล้วเห็นเอาเรื่องโปสการ์ดมาลงทีนึงแล้วเน๊อะ ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องราวธรรมะดีๆ มาร่วมแบ่งปันกัน แต่ไผ่แอบงงเล็กๆอ่ะค่ะ ว่าทำไมถึงไม่ทันสมัยท่านพุทธทาสยังไม่มรณภาพอ่ะค่ะ ไผ่ยังทันได้ไปกราบท่านเลยอ่ะ หรือไผ่แก่กว่าคุณเยอะหล่ะเนี๊ยะ พอดีคุณตาไผ่ท่านนับถือหลวงพ่อพุทธทาสมากเลย ศึกษาธรรมสายนี้มาตลอด จำได้ว่าเมื่อปีที่ประเทศไทยจัดประชุมเวิร์ลแบงค์ (ปี253...อะไรสักอย่าง) บ้านไผ่ยังลงไปกราบหลวงพ่ออยู่เลยอ่ะค่ะ คุณอาคุงกล่อง ยังไม่เกิดเหรอคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:19:07:53 น.  

 
แวะมาทักทายครับผม


โดย: bee_บี วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:19:42:59 น.  

 
แวะมาเยี่ยมชมภาพปริศนาธรรมครับ
ล่าสุดซื้อหนังสือ เกี่ยวกับท่านพุทธทาสมาอ่านครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:1:43:58 น.  

 
ได้รับความรู้มากค่ะ เกี่ยวกับสวนโมกข์เเละประวัติตลอดจนบรรยากาศรอบๆ น่าสนใจมาก สถานที่ต่างๆในบ้านเมืองเรา ต้องศึกษา จะทำให้เรารักบ้านเกิดเมืองนอนเพิ่มมากขึ้น ขอบคุณมากๆค่ะ

สวัสดีปีใหม่ในวันสงการต์ ชอให้มีความสุขมากๆค่ะ ช้าไปนิดเดียวต้องขอโทษด้วยค่ะ


โดย: YUCCA วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:17:16:05 น.  

 
คุณอาคุง มีความตั้งใจ และเขียนได้เยี่ยมมากๆค่ะ
ตอนแรกว่าจะมาอ่านทีหลังอีกที
แต่พอเริ่มแล้วก็อ่านได้จนจบค่ะ



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:22:31:06 น.  

 
แวะมาทักทายยามค่ำครับพี่อาคุง
หมิหงิมงเพิ่งจะหลับไปตอน 4 ทุ่ม
ผมก็สลบไปกับหมิงหิมงครับ 555
สะดุ้งอีกทีก็ 5 ทุ่ม
ยังไม่ไ่ด้อาบน้ำเลย
มานั่งเล่นบล็อกก่อนครับ 555








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:05:53 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:5:35:20 น.  

 

เคยไปสวนโมกข์ 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรกเค้ายังไม่เปิดเต็มทุกส่วนของอาคาร ครั้งที่ 2 มีนัดกับน้องบล็อกแก๊งค์ที่สวนรถไฟ ไม่่ได้เดินดูข้างบน เก็บภาพได้แต่ชั้นล่าง เสียดายค่ะ แต่คุณอาคุงกล่อง เก็บภาพมาได้ละเอียดมากเลยค่ะ นำชมได้เลย...

ที่ไปสวนสามพรานกับคุณหนุ่ย ก็ต้องนัดสิคะ ถึงได้ไปด้วยกัน...




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:13:00:19 น.  

 
Photobucket Pictures, Images and Photos

ร้อนๆ ต้องไปเล่นน้ำกัน ^^


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:23:49:14 น.  

 
ร้อนแดดจัด และแห้งมากๆ ค่ะคุณอาคุง
ถ้าใครแพ้แดดแล้วทาครีมกันไม่สูงพอ ก็จะลอก
ทั้งผื่นแดง และตาบวมค่ะ
เล่ามาเห็นภาพคือ วาเป็นมาแล้วค่ะ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:0:38:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่อาคุง








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:5:33:35 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

วันนี้สุขทั้งวันเลยนะครับ


โดย: panwat วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:8:44:56 น.  

 
เขียนและภาพประกอบ--เห็นภาพได้ชัดเจน

เคยแ่ต่ผ่านไปผ่านมา ยังไม่เคยได้แวะเลยสักครั้งค่ะ

คิดว่าคงต้องพาลูกไปสัมผัสให้ได้ค่ะ


โดย: 3K-guy วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:10:36:26 น.  

 



More Keep in Touch Comments


/////////////////////////////////////////////////////////
สวัสดียามสายๆของวันศุกร์ค่ะ อีกอึดใจเดียวน๊าพรุ่งนี้ก็นอนยาวกันได้แล้ว ช่วงนี้bloggangรวนอยู่บ่อยๆ เลยทำให้มาทักทายขาดช่วงไป มีความสุขมากๆค่ะคุณกล่อง


โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:10:37:19 น.  

 
เป็นที่ที่ที่พี่ฉุ้มอยากไปมากกกกด
แต่ยังไม่ว่างไปสักทีเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:10:52:47 น.  

 
เอนทรี่นี้น่าอ่านมากเลยครับ ไว้จะกลับมาอ่านอย่าง
ละเอียด กำลังคิดจะไปเยี่ยมชมเหมือนกัน ขอบคุณ
ที่แนะนำครับ



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:11:16:57 น.  

 
สวัสดีครับคุณกล่อง

ถ้าให้ถึงแก่นจริงๆ ต้องมาที่ต้นตำรับวัดสวนโมกข์พลารามที่ไชยาสักครั้งครับ เำพราะเงียบสงบมาก บรรยากาศร่มรื่นดีจริงๆ ผมยังไปอยู่ได้เป็นวันๆเลย มีข้อคติเตือนใจมากมายที่ท่านพุทธทาสบัญญัติไว้ ตอนมาก็ไม่ต้องเอาอะไรมามาก แค่ข้าวเปล่าสักกล่องก็พอ ส่วนไข่เค็ม มาหาเอาข้างหน้า 555


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:12:07:27 น.  

 
มาเยี่ยม ค่ะ มาทักทายด้วย สบายดีมั๊ยคะ

หลังไมค์เด้อ


โดย: maitip@kettip วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:14:36:46 น.  

 
สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง

ที่ทำงานเก่าที่เมืองชล ม่ีน้องผู้ชายในแผนกชอบตกปลาเป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ วันหยุดทีไรเหมาเรือกันไปข้ามวันข้ามคืนไปตกปลา ตกหมึกกันเป็นประจำค่ะ

กุ้งหอยปูปลาที่ตกขึ้นมาสด ๆ ทำอะไรกินก็อร่อยจริง ๆ ค่ะ
ปลาหมึกสดตกขึ้นมาได้แล้วหั่นเข้าปากตามด้วยวาซาบิ หวานอร่อยมาก ๆ ค่ะ เคยตกได้ปลาหมึกตัวใหญ่มาก แต่ก็เสียเสื้อไปตัวหนึ่งเพราะเขาพ่นหมึกใส่ซักไม่ออกค่ะ

ปลาหมึกที่อาคุงกล่องทานแล้วเหนียว นั่นเป็นเพราะเขาทำสุกเกินไปนั่นเองค่ะ ปลาหมึกต้องให้สุกกำลังพอดีจะอร่อยไม่เหนียวค่ะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:21:49:15 น.  

 
ขอบคุณอาคุงกล่องมาก ๆ นะคะที่ชี้เบาะแสแหล่งอร่อยให้นะคะ
ตามที่เล่ามาน่าจะเป็นแป้งคนละสูตรค่ะ อาจจะเป็นแป้งข้าวเหนียวสีขาวแล้วผสมด้วยน้ำสีต่าง ๆ ที่สกัดจากพืชเป็นจุดขายก็ได้ค่ะ เช่น ใบเตย อัญชัน ฯลฯ
ขนมที่ผสมมะพร้าวมักจะบูดเสียง่ายจริง ๆ ค่ะ ต้องเอาไปนึ่งก่อนก็พอช่วยได้ค่ะ แต่ให้ดีต้องกินให้หมดเลยจะดีกว่าค่ะ คราวก่อนแช่ตู้เย็นไว้แข็งโป๊ก เวลาจะทานเอามานึ่งต่อในไมโครเวฟก็พอช่วยได้เหมือนกันค่ะ

คืนนี้ลาไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


โดย: เนินน้ำ ไม่ได้ล็อคอินค่ะ IP: 125.25.60.151 วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:0:55:22 น.  

 
เคยได้ยินแต่ว่าใคร ๆ ก็ไปสวนรถไฟ
ไม่ค่อยได้ยินว่าใครไปสวนโมกข์กันเท่าไหร่
ขอบคุณที่เล่าให้ฟังอย่างละเอียด

รูปภาพแจกดวงตา เป็นหนึ่งในโปสการ์ดของสะสมของคุณกล่องใช่ไหม


โดย: ostojska วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:1:58:52 น.  

 
นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:22:14:50 น.  

 


สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง..

งานเลี้ยงต้อนรับ-เลี้ยงส่งคุณน้ำฝนเสร็จสิ้นไปแล้วเน้อะ

ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้

แล้วเจอกันใหม่นะค่ะ




โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:22:35:15 น.  

 
อนุโมทนาค่ะ

ไปหลายครั้งแล้วได้แต่ดูผ่าน ๆ เพราะมีเหตุอื่น กิจกรรมอื่่นให้ร่วม และมักจะนัดกับผู้คนที่รู้จักไปทำกิจกรรมร่วมกัน หลังจากอ่านบล็อกแล้ว จะต้องหาเวลาไปเพื่อเดินดูภาพปริศนาธรรมโดยเฉพาะเสียแล้วค่ะ


โดย: chinging วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:17:44:35 น.  

 
แวะมาทักทายยามดึกครับ เห็นนัดเจอเพื่อนในบล็อกแกงค์ด้วย

บ้านนี้ยังไม่อัพนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:22:34:53 น.  

 
เห็นภาพแบบละเอียดแล้วน่าเดินชมสักรอบนะคะ
ดูแล้วสถานที่จัดเน้นวัสดุจากธรรมชาติ หิน ทราย ดิน
หลวงพ่อพุทธทาส ท่านเป็นที่เคารพสักการะโดยไม่มีข้อสงสัย

ขอบคุณสำหรับการ์ดนะคะ
ว่าไปฉัตรยังไม่ได้ส่งให้คุณกล่องเร๊ยง่ะค่ะ ฮิฮิ
รอก่อนนะคะ ยังไมได้ขยับอะไรเลยค่ะ *-*


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:1:42:02 น.  

 
ทักทาย...และยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยม
เดี๋ยวคงเข้ามาศึกษาหาความรู้จากที่นี่ซะแล้ว

รักษาสุขภาพครับ


โดย: wicsir วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:7:26:52 น.  

 
อาคุงกล่อง อยากเจอหรอคะ

เอิ๊กกกก เที่ยวอัมพวานะ

ไปเที่ยวเมื่อวันเสาร์สนุกมั๊ยคะ
โอ้ววววนู๋อุ๊ขอโทษมากๆ เลยที่ไม่ได้ไป งานเข้าค่ะ งานเข้า

ไปก็คงไม่ทัน จากสาย 5 ไปศาลาแดง
กว่าจะนั่งรถไปถึงวงเวียนใหญ่ ก๊ากกกไม่อยากพูด ร๔ติด

ไว้มีโอกาศค่อยเจอกันนะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:8:46:17 น.  

 
แวะมาทักทายยามบ่ายแก่ๆค่ะ
ขอให้มีความสุขกับงานที่ทำนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^



โดย: andrex09 วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:16:27:07 น.  

 
โห
มีเรื่องน่าสนใจมากมายเลย
ไม่แวะมาไม่รู้นะนี่
ขอ add เลยล่ะ


โดย: Psycho man วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:17:52:25 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: คมไผ่ วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:17:55:47 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ถ่ายภาพได้สวยงามมากค่ะ ชอบที่นี่มาก เพราะมีปริศนาซ่อนอยู่ แบบทำให้เราต้องอึ้ง ทีเดียวค่ะ


โดย: Sirikwan Pink วันที่: 21 ตุลาคม 2555 เวลา:22:16:02 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่เก็บภาพมา เคยไปแล้วชอบภาพหลายภาพ แต่นึกรายละเอียดไม่ออก โชคดีที่ จขกท ถ่ายมาชัดแจ๋วและชัดเจน อนุโมทนาบุญค่ะ


โดย: ผ่านมา IP: 58.8.151.6 วันที่: 11 ตุลาคม 2556 เวลา:10:03:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.