ตำนานหนังสือพระราชพงศาวดาร
สวนดุสิตวันที่ ๘ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙
(พระบรมนามาภิไธย) สยามินทร์
คำให้การหัวพันห้าทั้งหกในศึกฮ่อ
อำแดงเหมือน กับ นายริด
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง)
พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์จุลศักราช ๖๘๖ ชวดศก (พ.ศ. ๑๘๖๗) แรกสถาปนาพระพุทธเจ้า เจ้าพแนงเชิงศักราช ๗๑๒ ขาลศก (พ.ศ. ๑๘๙๓) วัน (๖ ฯ ๕) ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ๙ บาท แรกสถาปนากรุงพระนครศรีอยุธยาศักราช ๗๓๑ ระกาศก (พ.ศ. ๑๙๑๒) แรกสร้างวัดพระราม ครั้งนั้นสมเด็จพระรามาธิบดีเจ้าเสด็จนฤพาน จึงพระราชกุมารท่านสมเด็จพระ (ราเม) ศวรเจ้าเสวยราชสมบัติ
ว่าด้วยตำนานการเดินทางของฝรั่งมาสู่สยาม และมูลเหตุที่รับเป็นไมตรี
อธิบายมูลเหตุที่ไทยมีไมตรีกับฝรั่ง ในแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ มีเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดาร คือที่ได้ทำสัญญาทางพระราชไมตรีกับโปรตุเกต เป็นทีแรกที่กรุงสยามจะได้เป็นไมตรีกับฝรั่ง เมื่อปีขาล จุลศักราช ๙๙๐ พ.ศ. ๒๐๖๑ ตรงกับ ค.ศ. ๑๕๑๘ ตำนานเหตุการณ์ที่ฝรั่งชาติโปรเกตมาเป็นไมตรีนั้น แต่เดิมมาทางที่ไปมาค้าขายในระหว่างยุโรปกับประเทศทางตะวันออก (คือประเทศทั้งหลายตั้งแต่อินเดียตลอดไปจนเมืองจีน) ไปมากันแต่ ๓ ทาง คือ ทางสายเหนือเดินบกได้ตั้งแต่เมืองจีนมาข้างเหนือประเทศธิเบต ไปลงแม่น้ำอมุราหรือโอซุส มีทางจากอินเดียขึ้นไปบรรจบกันที่แม่น้ำนี้ ล่องน้ำลงไปแล้วต้องขึ้นเดินบกเลียบชายทะเลคัสเปียนไปลงท่าที่ทะเลดำทาง ๑ ทางสายกลาง ใช้เรือแต่เมืองจีนแล่นมาทางทะเลจีน (ความปรากฏว่า จีนรู้จักใช้เข็มทิศเดินเรือในทะเลมาแต่เวลาร่วมพุทธกาลแล้ว) ผ่านอ่าวสยามไปทางเกาะสุมาตรา แล่นเลียบไปจนถึงอินเดีย จากอินเดียก็ใช้เรือแล่นเลียบฝั่งไปทางอ่าวเปอร์เซีย จนถึงแม่น้ำติคริส แล้วขึ้นเดินบกไปลงท่าที่ทะเลเมดิเตอเรเนียน ทางสายกลางนี้ ถ้าเดินบกจากอินเดียไปทางประเทศเปอรเซียก็ได้เหมือนกัน