|
โดย: กัมม์ วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:13:31:07 น. |
|
โดย: mam (mamminnie ) วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:14:27:33 น. |
|
โดย: กัมม์ วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:15:18:09 น. |
|
โดย: shin chan (alei ) วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:16:34:27 น. |
|
โดย: Deknoii101 วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:17:37:28 น. |
|
โดย: กัมม์ วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:8:48:32 น. |
|
โดย: กัมม์ วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:11:01:50 น. |
|
โดย: karmapolice (karmapolice ) วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:12:47:53 น. |
|
โดย: กัมม์ วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:13:05:17 น. |
|
โดย: karmapolice วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:18:50:13 น. |
|
โดย: karmapolice วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:1:05:35 น. |
|
โดย: กัมม์ วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:10:35:00 น. |
|
โดย: ปืนแก๊ป วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:21:45:35 น. |
|
|
|
|
กัมม์ |
 |
|
 |
|
ถนนย่านป่าสมุดแต่วัดพระรามมาจึงถึงศาลเจ้าหลักเมือง มาถึงน่าวัดหลาววัดป่าฝ้าย มีร้านชำขายสมุดกระดาษฃาวดำ ชื่อตลาดป่าสมุด ๑ ริมคลองหลังวัดระฆังมีตลาดฃายฃองสดเช้าเยน เรียกตลาดหลังวัดระฆัง ๑ ถนนย่านตะภานลำเหย ด้านตระวันออกมีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดเชิงตลาดลำเหย ๑ ที่ปากคลองท่อทิศตระวันตกน่าวัดบวรโพธิริมกำแพงโรงไหม มาจนถึงบ้านชาวแตร มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดยอด ๑ ถนนย่านประตูห่านมีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดประตูห่าน ๑ ถัดย่านตลาดยอดไปนั้น มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดหัวเลี้ยว ๑ ถนนน่าประตูสัตกป มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดสัตกป ๑ ริมคลองฟากหนึ่งมีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดเลม ๑ น่าวัดสิงห์มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดสิงห์ ๑ น่าวัดเกษฃ้างฉางมหาไชยมีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดหัวฉาง ๑
ย่านถนนบ้านลาวมีร้านฃายฃองฃองสรรพดอกไม้สด ชื่อตลาดดอกไม้ ๑ ถนนย่านป่าเหลกวัดป่าฝ้าย มีร้านฃายฃองสรรพเครื่องเหลกมีดพร้า มีร้านฃายฃองสดเช้าเยนชื่อตลาดหัวถนน ๑ ถนนย่านวังไชย มีช่างทำขันทองเหลืองใหญ่น้อย มีร้านฃยฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดวังไชย ๑ ถนนย่านฉะไกรใหญ่ซื้อไม้ไผ่มาทำเปนฝาเรือนหอฃาย แลมีร้านฃายผ้าลายสุรัศผ้าขาวแลผ้าฉลาง มีร้านฃายฃองเช้าเยน ชื่อตลาดผ้าลาย ๑ ถนนย่านป่าพัดทำพัดใบโตนดคันกลมแลคันแบนใหญ่น้อยฃาย แลมีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดบ้านพัด ๑ ถนนเชิงตะพานขุนโลกน่าวัดแก้ฟ้า มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดขุนโลก ๑ ที่ถนนเชิงตะพานแก้วหัวไผ่ มีร้านฃายฃองสดเช้าเยน ชื่อตลาดหัวไผ่ตะพานแก้ว ๑ รวมตลาดร้านชำยี่สิบเอดตำบล ตลาดของสดฃายเช้าเยนสี่สิบตำบล รวมเข้ากันทั้งสิ้นเปนตลาด ๖๑ ตำบล แต่ในจังหวัดกำแพงพระนครนั้นมีตลาดหกสิบเอกตลาด ๑
ว่าด้วยพระคลังโรงช้างโรงม้าคุกหอกลอง
ซึ่งมีอยู่ในกำแพงกรุงศรีอยุทธยาดังนี้
อนึ่งในกรุงศรีอยุทธยามีโรงช้างพลายพัง ซึ่งขึ้นรวางมีชื่อนั้นอยู่ในโรงโดยเรียบร้อยปรกติ โรงช้างพลายมีผนังก่อด้วยอิฐหลังคามุ่งกระเบื้องลูกฟูก มีฉ้อฟ้าหางหงษทาแดงทุกโรง ช้างพลายยืนในโรงฉ้อฟ้าโรงละตัว โรงช้างพลายตั้งข้างฃวามือแต่หัวถนนน่าวังตรงไป เปนระยะห่างถนนโรงหนึ่ง ไปจนหัวเลี้ยวถนนป่ามะพร้าว โรงช้างพังตั้งซ้ายมือเปนโรงเถวโรงละ ๑๕ ห้อง ช้างพังยืนห้องละช้าง ตั้งแต่หัวถนนป่าตกั่วไปจนช่องตะพานช้าง รวมช้างพลาย ๓๐ โรง ช้างพัง ๕๐ ห้อง รวมช้างพลายช้างพัง ๘๐ ตัว
โรงม้าต้นซ้ายขวา ตั้งตามถนนนอกกำแพงท้องสนามน่าจักรวัติ ตึงโรงม้าต้นฃวาตั้งแต่หัวถนนตลาดเจ้าพรมฃวามือศาลพระบัญชนสิงห์ ไปโดยยาว ๒๐ ห้อง ใส่ม้าห้องละตัว น่าตึกโรงม้าทีเกยแลศาลเพียงตา สำหรับบวงสรวงเทพารักษ์ แต่โรงม้าแซงห้องนั้นต่อไปอิก ๕ แถว ๓๐ ห้อง ใส่ม้าห้องละม้า จนถึงกำแพงวัดพระราม อต่ตึกโรงม้าต้นซ้ายตั้งแต่หัวถนนตลาดเจ้าพรมซ้ายมือไปหลังศาลสุภาไชยแพ่งกระเษมโดยยาว ๒๐ ห้อง ใส่ห้องละม้า น่าตึกโรงม้าต้นซ้ายมีเกยเหมือนกัน แลโรงม้าแซรงในต่อไปอิกสามโรง จนถึงกำแพงวัดธรรมิกราชใส่ม้าห้องละสามสิบม้า โรงม้าใช้ห้าสิบห้องใส่ห้องละม้า ๕๐ ห้อง ม้า ๕๐ ม้าด้วยกัน โรงม้าใช้โรงตั้งแต่มุมกำแพงวัดธรรมิกราช ตรงไปจนใกล้ประตูจักรหิมาโรงม้าแซรงนอก ตั้งแต่ริมถนนตะแลงแกงซ้ายโรง ๑ ขวานั้นตั้งแต่หัวถนนป่าผ้าเขียวหลังคุก ถึงป่าตองโรง ๑ ขวาโรงละ ๓๐ ห้อง ซ้ายโรง ๓๐ ห้อง ใส่ม้าห้องละม้าเหมือนกัน
พระคลังในอยู่ริมพระราชวังสระแก้ว ๑ พระคลังราชการอยู่ริมถนนวัดน่าป่าฝ้าย ๑ พระคลังสินค้าอยู่ริมป่าตอง ๑ พระคลังใส่เครื่องม้าศึกอยู่ริมกำแพงวัดธรรมิกราช พระคลังสาระพากรในแลนอกอยู่ริมถนนเจ้าพรม ๑ พระคลังแสงสรรพายุทธอยู่ริมคลองนครบาล ๑ ตรงวัดเชียงสองพระคลังทั้งแสงนอกด้วย ๑ พระคลังตึกใส่ลูกปืนดินประสิวอยู่น่าวัดจันทนหลังวัดสังกะปัถ ๑ ตึกพระคลังสำหรับไว้เชือกบาศช้างและชนักช้าง อยู่ริมวัดยานุเสนทร ๑ ถ้าถึงปีใหม่มีโขนลคอน หนัง ช่องระธา สมโภชทุกปีมิได้ขาด
อนึ่งมีคุกสำรับขังคนนักโทษโจรผู้ร้ายปล้นสดมมีแปดคุก มีตรางน่าคุกสำหรับใส่บุตรภรรยาอ้ายผู้ร้ายมีทุกน่าคุก ซึ่งนักโทษเบาเปนแต่โทษเบจเสรจใส่โซร่คอเปนพวงหนึ่ง ๑๐ คน ใช้ทำราชการพระนครทุกแห่ง ถ้านักโทษหนักใส่โซร่คอพวงละ ๒๐ คนบ้าง ๓๐ คนบ้าง ต่อวันพระ ๕ ค่ำ แปดค่ำ ๑๑ ค่ำ สิบห้าค่ำ จึ่งจ่ายให้ออกไปฃอทานกินตามตลาดทุกวันพระเดือนสิบครั้ง(สี่ครั้ง?) บุตรภรรยาอ้ายผู้ร้ายนั้นใส่ตรวนสองชั้น แล้วเอาเชือกผูกบั้นเอว ร้อยต่อกันออกใช้การ
อนึ่งที่ถนนตะแลงแกงมีหอกลอง มียอดซุ้มทาแดง หอกลองนั้นทำเปนสามชั้นสูงสามสิบวา แต่ชั้นยอดนั้นคอยดูฃ้าศึกมาจึ่งตีกลองๆ ชื่อมหาฤกษ กลองชั้นกลางสำหรับตีด้วยเมื่อเพลิงไหม้ชื่อพระมหาระงับดับเพลิง ถ้าเพลิงไหม้ฟากแม่น้ำนอกกรุงคาดกลองสามที ถ้าเพลิงไหม้เชิงกำแพงและในพระนครคาดกลองเสมอกว่าเพลิงจะดับ ชั้นต้นใส่กลองใหญ่สำหรับตีย่ำสันนิบาต เวลาตะวันยอแสงพลบค่ำตามประเพณีกรุงศรีอยุทธยา กลองชั้นต้นชื่อพระทิวาราตรี เจ้าพนักงานกรมพระนครบาลได้พิทักรักษากลองทั้งสามชั้น ผู้รักษาต้องเลี้ยงวิฬาป้องกันมิให้มุสิกะกัดกลอง เวลาเช้าเยนกรมพระนครบาลเกบเบี้ยตามร้านตลาดน่าคุก แต่ในจำหล่อไปจนหอกลอง เอาร้านละ ๕ เบี้ย สำหรับซื้อปลาย่างให้วิฬากิน อนึ่งน่าหับเผยนั้นมีกองตระเวนรักษาเหตุการพระนครแลคุก ด้วยมีผู้กำกับกวดขัน อนึ่งคุกสำหรับใส่คนทำการสำเภาแลเรือรบต่างๆ แลขุดอู่นอกกำแพงพระนครเปนอู่สำเภา ส่งพระราชสาสนจิมก้องกรุงปักกิ่งทุกปี พวกนักโทษฝากระดานหลังเจียด พื้นฝาทาแดงเฃียนลายทองทรงเฃ้าบินเทพพนมพรหมภักตร เปนพระตำหนักฝ่ายในหลัง ๑ แล้วมีพระตำหนักใหญ่ห้าห้องฝาทาแดงเปล่าเรียงต่อกันมาเปนพระตำหนักสำหรับประทมเพลิงอยู่ริมประตูต้นส้มโอหลัง ๑ อยู่ฝ่ายใน
แลฝ่ายทิศใต้พระที่นั่งสุริยาสมรินทรมหาปราสาทนั้น มีพระตำหนักตึกหลังน้อย ไว้พระรูปสมเดจพระนเรศวรเปนเจ้า กับเครื่องพระแสงต้นด้วย ฝาปิดทองหลังคามีฉ้อฟ้าหางหงษ มีเกยอยู่น่ามุขพระตำหนักนั้น พระที่นั่งวิหารสมเดจมหาปราสาทมียอกปรางห้ายอดหลังคามุงดีบุกยอดหุ้มดีบุกปิดทอง เปนปราสาทสำคัญในพระนคร เปนที่บุษยาภิเศกพระมหากษัตรแต่ก่อนมา มีมุขโถงยาวออกมาจากองค์ ที่มุขโถงนั้นมียอดมณฑปต่างหากจากองค์ปราสาทใหญ่ ในมุขโถงนั้นมีพระแท่นมณฑปตามแว่นฟ้าเปนพระที่นั่งตั้งในมุขโถง ต่อน่าพระที่นั่งวิหารสมเดจมหาปราสาทออกมามีทิมดาบคตซ้ายฃวามีกำแพงแก้วสูงสองศอกล้อมรอบพระมหาปราสาท ซึ่งชานชาลาพระมหาปราสาทนั้นปูศิลาอ่อน มีเสาโคมทำด้วยศิลาจีนตั้งอยู่ ๘ ทิศ มีสิงหสิลาแลรูปภาพจีนตั้งเรียงรายไปตามชานชาลาพระมหาปราสาท
พระที่นั่งสรรเพชรมหาปราสาทมียอดซุ้มมณฑปนพสูญเก้ายอด มีมุขสั้นสองด้าน มีมุขยาวสองด้าน มีมุขโถงออกมาจากปราสาทใหญ่มุมนั้น ไม่มียอด มีแต่หลังคาศร(ซ้อน)สามชั้น น่าบัณประเจิดมีเสาครีพสิงหเทพพนม มีนารายน์ยืนย้อยลงมาตามน่าบัณ ในมุขโถงนั้นมีพระแท่นมณฑปบุษบกทองคำตั้งในมุขโถง เปนที่เสดจออกทรงพระราชปราไสยแก่แขกเมืองต่างประเทศถวายบังคมน่ามุขโถง ในกลางพระที่นั่งสรรเพชรมหาปราสาทนั้น มีพระแท่นปัญญงคกาญจนเนาวรัตน์สามชั้นรูปอย่างพระเบญจา ไม่มีมณฑปมีพระมหาเสวตฉัตรปักที่หลังแท่นปัญญงค ๆ นั้นทำด้วยทองคำนพคุณคุณน้ำเก้า ประดับเพชระแลพลอยต่างๆ มีค่า สูงสามศอก ทองคำหุ้มหนักถึงเก้าสิบชั่งลงยาราชาวะดีประดับเนาวรัตนพร้อมทุกศี บนพื้นพระแม่นปัญญงคทองคำนั้นปูหนังราชสีห์ ซึ่งมีมาแต่โบราณนั้น เปนที่เสดจขึ้นนั่งออกรับแขกเมืองบ้าง ออกรับเจ้าประเทศราชบ้าง ออกขุนนางเมื่อวันราชาภิเศกบ้าง มีเครื่องสูงปักรอบพระแท่นปัญญงค น่าพระที่นั่งสรรเพชรมหาปราสาทนั้น มีทิมดาบคดซ้ายฃวา บนชานชาลานั้นมีกำแพงแก้วสูงสองศอกล้อมรอบพระมหาปราสาท มีประตูหูช้างเล็กๆ แปดประตูอยู่ตามกำแพงแก้ว ล้อมพระมหาปราสาท
หว่างพระมหาปราสาทสรรเพชรแลวิหารสมเดจนั้น มีถนนแลประตูออกน่าพระมหาปราสาท สำหรับแห่พระเจ้าลูกยาเธอออกไปโสกันต์แลลงสรง ชื่อประตูพิมานมงคลศาลาลวด ๑ ในท้องสนามน่าพระมหาปราสาททั้งสองนั้น มีโรงคชาธารสี่โรง มีซุ้มยอดทั้งสี่โรง มีโรงม้าพระที่นั่งเปนโรงม้าเทศ โรงหนึ่งสี่ห้องไว้ห้องละม้า ท้ายโรงม้าเทศมีพระคลังเครื่องท้าต้นสำหรับยืนให้แขกเมืองดูพระคลังหนึ่ง ต่อนั้นไปมีพระคลังมหาสมบัติไว้เงินพระราชทรัพย์แผ่นดิน มีโรงช่างทำรูปเงินตราอยู่ในกำแพงล้อมพระมหาสมบัติ มีกำแพงคั่นท้องสนามน่าพระลานทิศเหนือ แลมีประตูซุ้มยอดสำหรับแห่พระเจ้าลูกเธอในพระราชพิธีลงสรง จึ่งเปิด ชื่อประตูไชยมงคลไตรภพชยนต์ ๑ มีประตูช่องกุตโคหาออกไปประตูเสาธงไชย ชื่อประตูช่องกุตโคหา ๑ มีกำแพงคั่นน่าสนามน่าพระที่นั่งสุริยามะรินทร์มหาปราสาท แล้วมีประตูที่กำแพงคั่นนั้นประตูไพชยนต์ทะวาร ๑ มีทิมดาบชาววังอยู่ซ้ายฃวา ทิมดาบตำรวจในอยู่ข้างซ้าย นอกประตูไพชยนต์ทะวารนี้มีโรงพระโอสถ ๑ มีโรงพระราชยานหมู่พนักงานกันเจียกอยู่โรง ๑ มีโรงพรมเสื่อพวกสนมรักษาโรง ๑ มีโรงจีนช่าง(สะนะ)สำหรับเย็บเสื้อผ้าโรง ๑ มีโรงช่างสะนะไทสำหรับเย็บม่านแลผ้าต่างๆ โรง ๑ มีโรงช้างเผือกพังมีซุ้มยอดโรง ๑ มีกำแพงคั่นสวนไพชยนต์เบญจรัตน์ไปลงพระคลังมหาสมบัติ
ถึงมุมกำแพงพระคลังวิเศศ มีประตูเข้าไปสวนไพชยนต์เบญจรัตน์ ชื่อประตูสวรรภิรมย์ ๑ มีหอพระมณเฑียรธรรมอยู่กลางสระ ๑ มีโรงช่างทำเงินบาทเงินสลึงเงินเฟื้อง อยู่ที่ปากสระมีพระคลังสุพรัตไว้สะบงจีวรผ้าไตร ๑ มีพระคลุงพิมานอากาษไว้กระจกเทศพรมเทศเครื่องแก้วมาแต่เทศกาหลาป๋า ๑ มีหอพระเทพบิดรสำหรับให้พระบรมวงษานุวงษ แลข้าทูลอองธุลีพระบาทฝ่ายน่าฝ่ายใน ถือภานพระขันหมากแลดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปถวายบังคมพระบรมรูปพระเจ้าอู่ทองในหอพระเชษฐอุดรก่อน แล้วจึงได้เข้าไปถือน้ำพระพิพัฒสัจจาในวัดพระศรีสรรเพชร มีกำแพงคั่นริมหอพระเทพบิดร ล้อมสวนไพชยนต์เบญจรัตน์
มีประตูออกถนนหว่างกำแพงล้อมพระตำหนักตึกวัดชื่อประตูสวรรคไพชยนต์รัตน์ ๑ ถนนนี้มีประตูออกไปท้องสนามน่าจักรวัติริมโรงปืนใหญ่ชื่อประขาวกวาดวัด ชื่อประตูภิรมยเจษฎา ๑ ถนนนี้มีประตูชื่อสุนทรภูสิตเข้าไปพระคลังวิเศศ ๑ ประตูจะออกจากกำแพงพระคลังวิเศศมาออกถนนวัดพระศรีสรรเพชรนั้น ชื่อประตู อุดมพัตรา ๑ ถนนนี้มีถนนเลี้ยวเข้าพระตำหนักตึกน่าจักรวัติ มีประตูเข้าไปพระตำหนักตึกชื่อประตูภิรมยธารา ๑ แล้วมาถึงประตูหูช้างริมกำแพงวัดพระศรีสรรเพชรเข้าไปพระคลังแสงใส่เครื่องมือช่างครบชื่อประตูช้าง ๑ ท้ายจะระนำพระที่นั่งวิหารสมเดจ แลพระที่นั่งสรรเพชรทั้งสององคนั้น มีพระฉนวนมีฝาผนังกว้างสิบศอกเปนโคหาตลอดน่าหลังพระฉนวน มีประตูฉนวนสำหรับเสดจออกประตูภพชลทวารอุทก ลงเรือพระที่นั่งน่าพระขนานน้ำประจำท่าวาศุกรี ชื่อประตูโคหาภพชน ๑ มีสิงหสองตัวอยู่ที่เชิงอัฒจันทน ประตูสิงห์นี้ยายแอ่นรักษา
ประตูท้ายพระฉนวนสำหรับเสด็จออกไปวัดพระศรีสรรเพชร ชื่อประตูสวรรคโคหา ๑ ประตูนี้ยามยมรักษา ๑ ประตูข้างพระฉนวนมาถนนต้นดอกเหลก ถนนนี้ผู้หญิงชาวท่าทรายแลบ้านท่าแขกมานั่งร้านฃายผ้าต่างๆ ถนนนี้ตรงมาประตูพระสุเมรุ ตรงมาประตูตะพานแพะฯ ตรงเข้ามาประตูพระฉนวนลงท้องสระฯ ตรงมาน่าพระที่นั่งบัญญงครัตนาศน์มหาปราสาท ยอดมณฑปนพสูญยอดเดียวมีมุขโถงออกมาจากมุขใหญ่ทั้งสี่ด้าน เปนพระที่นั่งอยู่ในสระน้ำล้อมรอบ เปนที่ทรงประพาศได้รอบทั้งสี่ทิศ ตรงน่าพระที่นั่งบัญญงครัตนาศน์นั้นมาออกประตูจักรพัติผัน ยายมิ่งรักษาเปนนายประตู นางจ่าโขลนกำนันกำกับรักษาฝ่ายใน กรมวังรักษาทั้งนอกใน
ท้ายสระนั้นมีโรงพระโอสถอยู่น่าประตูสวนองุ่น ๑ มีพระตำหนักสองห้องสำหรับมีราชกิจ ให้ราชาคณะอาจารย์เข้าไปอยู่จำวัด ๑ มีทิมสงฆ์ห้าห้องสำหรับพระสงฆ์พักคอยสดัปกรณบ้าง สวดพระพุทธมนต์บ้าง ๑ มีทิมดาบมหาดเลกอยู่นอกเวร ๑ มีห้องเครื่องสำหรับมหาดเลกรักษา ๑ มีพระตำหนักสำหรับกรมพระราชวังน่าด้วย มีโรงนาฬิกาประโคมยาม ๑ มีโรงเครื่องต้น ๑ มีโรงเครื่องม้าต้น ๑ มีโรงพระแสงเครื่องต้น ๑ มีโรงช่างทำมุกอยู่ที่น่าพระที่นั่งทรงปืน ๑ มีหออาลักษอยู่ริมกำแพงสวนกระต่าย ๑ มีพระตำหนักห้าห้อง ฝาเขียนทองพื้นลงรักอยู่ในกลางสวนกระต่าย ๑
มีประตูเข้าไปพระตำหนักใหญ่ ผนังนอกทาแดง ชื่อพระตำหนักโคหาสวรรค์ ๑ พระตำหนักนี้เปนที่ประทับของสมเดจพระพรรวษาใหญ่ ซึ่งเปนพระราชเทวีสมเดจพระนาราน์แต่ก่อนมา ครั้นภายหลังมาเปนพระคลังฝ่ายใน ท่านท้าวทรงกันดารรักษา มีกำแพงล้อมมีประตูชื่อสวรรคภิรมย์ ออกไปท้องสนามจันทน์ เลี้ยวท้องสนามจันทน์มาถนนริมกำแพงล้อมตึกห้าห้อง สำหรับนางพนักงานวิเสศต้นแต่งเครื่องพระสุพรรณภาชนะหุงพระกระยาเสวยเครื่องต้น ถนนนี้เลี้ยวไปหัวสิงหน่าพระฉนวนใหญ่ มีกำแพงคั่นแลมีประตูซุ้มชื่อประตูอุดมนารี ออกไปตลาดฃายฃองสดเช้าเยน ตรงประตูดินเข้ามาเปนลานปลาใหญ่มีท่อไขน้ำฝนให้ไหล ออกไปพ้นชลาปากท่อลงแม่น้ำใหญ่ใต้ประตูดินมีพนักงานชาวท่อรักษาที่ศาลาปากท่อประจำ
อนึ่งพระที่นั่งบัญญงครัตนาศนมหาปราสาทนั้น เปนยอดมณฑปยอดเดียว มีมุขโถง ยาวออกมาจากมุขใหญ่ทั้งสี่ด่าน มุขโถงทั้งสี่ทิศนั้น มีพระแท่นแว่นฟ้าบุษบกตั้งในมุขโถงทั้งสี่มีเกย น่ามุขโถงมีบันไดนาคราชข้างเกยทั้งสี่เกย มีกำแพงแก้วล้อมรอบชาลาพระมหาปราสาท แล้วมีสระล้อมรอบกำแพงแก้วชาลาพระมหาปราสาททั้งสี่ด้าน สระกว้างด้านละ ๖ วา ในสระระหว่างมุขโถงมุมพระมหาปราสาท ด้านเหนือนั้นมีพระตำหนักปลูกปักเสาลงในสระด้านเหนือหลังหนึ่งห้าห้อง ฝากระดานเฃียนลายรดน้ำทองคำเปลวพื้นทารัก มีฉ้อฟ้าหางหงษมุขซ้อนสองชั้น มีบัณชรลูกกรงเหลก ระเบียงชานเฉลียงรอบนั้นมีลูกมะหวดกลึงล้อมรอบ มีตะพานลูกกรงค่ามมาจากพระมหาปราสาทถึงพระตำหนักๆ นี้เปนที่มีเทศนาพระมหาชาติคำหลวงทุกปีมิได้ขาด
ในสระหว่างมุขโถงด้านใต้นั้น ปลูกพระที่นั่งปรายเข้าตอกหลังหนึ่ง เสาลงในสระหลังคามีฉ้อฟ้าหางหงษมุขซ้อนสองชั้น ฝาไม่มีมีแต่ลูกกรงมะหวดรอบพระเฉลียง เสารายทารักเฃียนทองคำเปลวลายทรงเข้าบิณฑ์ มีกาพพรหมศรกริมวินต้นเสาปลายเสา มีตะพานลูกกรงข้ามมาจากพระมหาปราสาทถึงพระที่นั่งปรายเข้าตอก พระที่นั่งปรายเข้าตอกนี้ สำหรับเสด็จทรงประทับโปรยเข้าตอกพระราชทานปลาห้าคนแลปลากะโห้ ปลาตะเพียนทองแลปลาต่างๆ ในท้องสระ
ในระหว่างมุขมุขโถงด้านตระวันออกนั้น ปลูกเปนพระที่นั่งทอดพระเนตรดาว เสาลงในท้องสระ ไม่มีหลังคามีแต่พื้นแลลูกมะหวดรอบ มีตะพานข้ามสระออกมาจากมุมมาพระมหาปราสาท ถึงพระนั่งทรงดาวๆ นี้สำหรับทอดพระเนตรดาว แลทอดพระเนตรสุริยุปราคาแลจันทรุปราคา ชีพ่อพราหมณทำพิธีถวายน้ำกรดน้ำสังข์ในวันสูริย-จันทรเมื่อโมกขบริสุทธิบนพระที่นั่งทรงดาวทุกคราวไป
ในระหว่างมุขมุขโถงด้านตระวันตกนั้น ปลูกเปนตะพานพระฉนวน มีหลังคาร่มตะพานข้ามออกมาจากพระมหาปราสาท เสาตะพานพระฉนวนนั้น ระยะห่างๆ แต่พอเรือน้อยพายลอดได้ใต้ตะพานๆ ข้ามมาขอบสระถึงพระที่นั่งทรงปืน เปนตึกใหญ่มีฉ้อฟ้าหางหงษมีมุขศร(ซ้อน) เปนท้องพระโรงสำหรับเสดจออกว่าราชการแผ่นดิน พระราชวงษาแลข้าทูลลอองธุลีพระบาทเข้าเฝ้าพระกรุณา ในพระที่นั่งทรงปืนทรงสระ ขอบสระนั้นมีกำแพงแก้วสูง ๖ ศอก ล้อมรอบสระมีประตูสี่ด้านสระ ในกำแพงแก้วขอบสระข้างใน มีถนนเดินได้รอบสระ บนกำแพงแก้วรอบสระมีซุ้มโคมห่างคืบหนึ่งรอบกำแพงสระเป็นซุ้มโคมพันหนึ่ง สำหรับตามไฟในการพิธีวิสาขะบูชากลางเดือนหก ในท้องสระนั้นน้ำใสสอาดไหลเข้าออกได้ ไม่เน่าเหมนเปนที่น่าชมเชย
อนึ่งพระที่นั่งเบญรัตนมหาปราสาทนั้นมียอดมณฑปห้ายอด มีมุขศรสี่ชั้นเสมอกันทั้งสี่ด้าน มีมุขยาวออกมาจากมุขใหญ่ทั้งสี่ด้าน แต่มุขยาวทั้งสี่ด้านนั้น น่ามุขทั้งสี่ด้านเปนจตุรมุขมียอดมณฑปทุกมุขเปนสี่ยอด แต่พื้นมุขทั้งสี่ด้านต่ำเปนท้องพระโรงทั้งสี่ด้าน สำหรับเสดจออกว่าราชการตามระดูทั้งสามระดูสามมุข แต่มุขด้านหลังเป็นมุขฝ่ายในสำหรับเสดจออกว่าราชการฝ่ายใน ฝ่ายพระมหาปราสาทแลฝามุขใหญ่นั้นเปนผนังปูนทารัก ประดับกระจกปิดทองคำเปลวเปนลายทรงเข้าบิณฑ์ ใต้พระบัณชรเปนรูปสิงห์ทุกช่อง ซุ้มจระนำพระบัญชรเปนรูปพรหมภักตร์ทุกช่อง ถานปัตพระมหาปราสาทเป็นรูปปั้น ชั้นต้นเป็นกุมภัณฑ์ ชั้นสองเปนรูปครุธจับนาค ชั้นสามเปนรูปเทพนมถวายกร จึงถึงชั้นรูปสิงหรับพระบัญชร บางพระบัญชรจำลักเปนรูปเทพบุตรแลเทพธิดาเปนคู่กันกันทุกช่อง บานพระทวารเป็นรูปนายน์สิบปาง บานละปาง มีทิมคตล้อมรอบพระมหาปราสาท มีประตูด้น ๑ พระมหาปราสาทองค์นี้เปนที่ทรงพิภาคษาตราสินคดี แลกิจการพระนครสำคัญ เปนที่ประชุมใหญ่ฝ่ายมหามาตยาธิบดี
อนึ่ง พระที่นั่งจักรวัติไพชยนต์มหาปราสาทนั้นมียอดมณฑปยอดเดียว ไม่มีปราลี มีมุขซ้อนสี่ด้าน แต่ด้านตระวันออกตระวันตกนั้นมีมุขสั้นซ้อนสองชั้น ด้านเหนือใต้มีมุขซ้อนสี่ชั้น เปนมุขยาวมาจดประตูเหนือใต้ ฝ่าไม่มีเปนปราสาทโถงอยูบนกำแพงพระราชวัง เปนปราสาทสมชั้นๆ ล่งสำหรับข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายน่าเฝ้า ชั้นกลางสำหรับข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายในภักดูแห่แลการมโหระศพ ชั้นบนสำหรับพระราชวงษานุวงษฝ่ายหน้าฝ่ายในเฝ้า แลดูกระบวนแห่ต่างๆ ในมุขยาวทั้งสองด้าน แต่ที่กลางจตุระมุขชั้นบนนั้น เปนที่ตั้งพระแท่นทรงประทับทอดพระเนตรกระบวนแห่แลการมโหระศพแลยกทับพยุหยาตรา น่าพระมหาปราสาทนี้มีสนามใหญ่ยาวตลอดกำแพงพระพระราชวัง มีถนนใหญ่กว้าง ๖ วา น่าพระที่นั่งจักรวัดไพชยนต์มหาปราสาทที่เรียกว่าถนนน่าจักระวัติ แลสนามน่าจักระวัติหลังพระมหาปราสาทองค์นี้ เปนสนามในมีเป้าปืนแลถนนด้วย พระที่นั่งจักระวัติไพชยนต์มหาปราสาทองค์นี้ อยู่บนกำแพงพระราชวังด้านตระวันออก
อนึ่ง พระที่นั่งไพฑรูยมหาปราสาท ยอดปรางยอดเดียวมีมุขซ้อนสี่ชั้น มุขเสมอกัน หามีมุขยาวออกมาจากมุขใหญ่ไม่ องค์หนึ่ง พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาทยอดมณฑปยอดเดียวมีมุขซ้อนสี่ชั้นเป็นมุขใหญ่ แลมีมุขยาวออกมาจากมุขใหญ่ด้านเหนือด้านใต้ ยาวมาจดกำแพงน่าทิมดาบคต แลมีมุขยาวออกมาจดมุขใหญ่ ด้านตระวันออกด้านตระวันตก แต่สั้นกว่ามุขด้านเหนือใต้ พระมหาปราสาททั้งสามองค์นี้อยู่ข้างทิศใต้พระราชวัง เปนพระมหาปราสาทเก่ามาแต่ก่อน ไม่ได้เสดจประทับอยู่ที่นั่น ทั้งสามองค์เป็นที่ไว้พระพุทธปฏิมากรซึ่งมีพุทธานุภาพเปนที่ทรงสะการะบุชา เปนพุทธมณเฑียรอยู่ภายในพระราชสฐาน ทรงนมัสการทุกค่ำเช้า แลเปนที่ทรงถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์ประชุมใหญ่ในพระมหาปราสาททั้งสามนั้น เปนที่สำคัญในพระศาสนา เปนมหาพุทธมณเฑียรในพระราชสฐาน
ว่าด้วยที่ประทับนอกพระนคร
อนึ่ง พระมหาปราสาทนอกพระนครนั้นมี ๕ องค์ คือพระที่นั่งคชประเวศมหาปราสาท มียอดมณฑปยอดเดียวมีมุขซ้อนสี่ชั้น มีมุขยาวออกมาจากมุขใหญ่สองด้านเหมือนพระที่นั่งจักระวัติไพชยนต์บนกำแพงพระนคร พระที่นั่งคชประเวศนี้ไม่มีฝา เปนปราสาทโถงสูงสองชั้น ตั้งอยู่บนเชิงเทินพเนียดจับช้าง สำหรับทรงประทับทอดพระเนตรจับช้างเถื่อน แลช้างโขลงปกนำช้างเถื่อนเข้ามา มีปีกกาเสาระเนียดหลังพระปราสาทนี้ มีศาลาใหญ่สองหลังสำหรับข้าราชการชาวเครื่องภักถวายเครื่อง พระที่นั่งองค์นี้อยู่ทิศอิสาน (ณ) นอกพระนคร
พระที่นั่งไอสริยทิพยอาศนมหาปราสาท มียอกมณฑปยอดเดียว มีมุขซ้อนสี่ชั้น มีฝาสี่ด้าน มีมุขเด่นเปนมุขโถงออกมาจากมุขใหญ่ ฝ่ายทิศตระวันออกมีกำแพงแก้วล้อมรอบสูงห้าศอก มีสระใหญ่ยาวตามพระมหาปราสาท มีพระอุทยานเปนที่ระโหถานสำราญยิ่งนัก มีพระที่นั่งน้อยใหญ่หลายหลังเปนที่ประทับพระประเทียบ มีกำแพงเปนบริเวณพระราชวังที่ประพาศในเกาะบางปอิน เปนที่ประทับแรมสำราญพระราชหฤทัยในที่ตำบลบางปอินมาหลายแผ่นดิน บางทีในเดือนสิบเอดเดือนสิบสองเสดจทรงลอยพระประทีปที่เกาะบ้าง
อนึ่ง พระที่นั่งนครหลวงปราสาทมียอดปรางยอดเดียว แลมียอดมณฑปเรียงรายเปนหลายยอด เปนบริเวณพระที่นั่ง ในพระราชวังพระนครหลวง เปนที่ทรงประทับร้อนแลประทับแรมเมื่อเสดจพระราชดำเนินขึ้นไปถวายนมัศการพระพุทธบาท แลลางคราวในระดูแล้งก็เสดจขึ้นประทับในพระราชวังพระนครหลวง เปนการพระราชพิธียิงอัตนาในที่นั้นเนืองๆ ลางทีในเดือนสิบก็เสดจขึ้นไปประทับแรมในพระราชวังพระนครหลวง ทรงถวายเข้ายาคูแก่พระราชาคณะถานาปาเรียญติ์เจ้าอธิการ และทรงธรรม พระราชพิธีมัธุปายาศกวนเข้าทิพ ในพระมหาปราสาทพระที่นั่งพระนครหลวงเนืองๆ ในเดือนสิบนั้นเสดจพระราชดำเนินทางชลมารค เพราะทางเปนที่ทำนาของราษฎร ถ้าในเดือนสี่เสดจพระราชดำเนินทางสถลมารคด้วยแผ่นดินดีอุดม ไม่มีที่กีดขวางทางพระราชดำเนิน
ที่เมืองลพบุรีนั้นมีพระราชวังเปนที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินแห่งหนึ่ง มีพระราชวังใหญ่โตระโหถานคล้ายพระราชสถานในกรุง แลที่พระราชวังเมืองลพบุรีนั้นมีพระมหาปราสาทสององค์ แลพระที่นั่งใหญ่น้อยไม่มียอดหลายองค์ พระมหาปราสาททั้งสององค์นั้นชื่อพระที่นั่งสุทไธยสวริย์มหาปราสาท ๑ พระที่นั่งดุสิตสวริยธัญมหาปราสาท ๑ ทั้งสององค์นี้เปนยอดมณฑปยอดเดียวมีมุขซ้อนสี่ชั้นมีฝาทั้งสี่ด้าน มีพระตำหนักใหญ่น้อยเปนอันมาก มีกำแพงล้อมพระราชวังด้วย มีหอคลังแลตึกกว้านร้านตลาดพร้อมทุกสิ่ง เปนพระราชนิเวศน์ทรงประทับในพระบาทสมเดจพระนารายน์มหาราชในระดูร้อนแลระดูหนาว หกเดือนเสมอเปนนิจ จนสิ้นแผ่นดินพระบาทสมเดจพระนารายณ์มหาราช แล้วภายหลังต่อมาก็เปนที่ประทับบ้าง เปนครั้งเปนคราวเนืองเนือง
ว่าด้วยพระราชวังน่า
อนึ่ง พระราชวังบวรสถานมงคล คือวังน่าเก่านั้น ตั้งอยู่ใกล้พระราชวังหลวง วังน่าเก่านั้นเปนที่คับแคบ แล้วภายหลังมาจึงยกวังจันทน์เฉลิมขึ้นเปนพระราชวังบวรสฐานมงคล เปนพระราชสฐานที่ดำรงค์ของพระมหาอุปราชกรมพระราชวังบวรสฐานมงคลฝ่ายหน้า เสดจประทับอยู่ในพระราชวังจันทน์บวร ๆ ห่างจากพระราชวังหลวงทางห้าสิบเส้น พระราชวังจันทน์บวรตั้งอยู่ในทิศตระวันออกของกรุงศรีอยุทธยาใต้ทำนบรอ
ภายในพระราชวังจันทน์บวรนั้น มีพระที่นั่งปราสาทจัตุรมุข แต่ซุ้มยอดไม่มี มีพระที่นั่งต่างๆ หลายหลังมีฉ้อฟ้าหางหงษมุขศร(ซ้อน)แต่หัวยอดซุ้ม มิได้มีทุกหลัง มีตำหนักใหญ่น้อยฃ้างน่าฃ้างในมากมายหลายหลัง มีพระคลังต่างๆ ทุกพนักงานครบบริบูรณ์ มีโรรงปืนใหญ่น้อย แลโรงแสงสรรพาวุธ มีโรงช้างโรงม้าโรงรถ ช่างทำการต่างๆ แลศาลาพิภากษาตราสินถ้อยความต่างๆ ทุกกระทรวง มีศาลาใหญ่ไว้พักขุนนางเมื่อจะเข้าเฝ้า เรียกว่าศาลาลูกขุนวังน่า มีศาลาเวรมหาดไทย กระลาโหม กรมท่ากรมวังกรมนากรมเมือง แลศาลาทั้งหกนี้เปนที่ชำระความตามกรมทั้งหกนั้น ซึ่งมีคะดีพระราชวังน่า แลมีศาลาสารบาญชีฝ่ายในพระราชวังน่าทสัสดีมีคุกใส่นักโทษสองคุก มีท่าช้างแลท่าฉนวนน้ำประจำท่า มีศาลากระเวนตามมุมพระราชวังน่า มีโรงเรือพระที่นั่งแลโรงเรือกระบวนต่างๆ อยู่ตามวัดมองปุวัดปราสาท อนึ่ง ตึกดินปืนไม่มี โรงศักไม่มี เตาทำเงินไม่มี ภายในพระราชวังจันทน์บวรนั้นมีพระอารามหนึ่ง ชื่อวัดขุนแสนมีพระอุโบสถวิหารกานบุเรียญ แลพระมหาธาตุแลเจดียถานพร้อมบริบูรณ์ พระสงฆ์ไม่มีเพราะเปนวัดในวัง
คัดจาก คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวง
จัดพิมพ์เผยแพร่โดย คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยฯ
สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มกราคม ๒๕๓๔