"ทุกข์ใจเพราะใครทำ"
ไม่ว่าเราจะพยายามเพียงใด ก็หนีทุกข์ไม่พ้น
ทุกข์นั้นมีสองอย่าง คือ ทุกข์กาย กับ ทุกข์ใจ
ทุกข์กายนั้นมักจะเกิดจากปัจจัยภายนอก
เช่น ดินฟ้าอากาศ เชื้อโรค สารพิษ อุบัติเหตุ
รวมทั้งคนที่มุ่งร้าย
ส่วนทุกข์ใจนั้น แม้มีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้อง
แต่สาเหตุหลักนั้นอยู่ที่ใจของเราเอง
เช่น มองลบ คิดร้าย ผูกใจเจ็บ
และเมื่อสาวไปให้ถึงที่สุด ก็จะพบว่า
เกิดจากความเห็นผิดในตัวกูของกู
.
เมื่อมีความทุกข์ใจ คนส่วนใหญ่
มักจะโทษปัจจัยภายนอก
มองไม่เห็นสาเหตุที่ใจของตน
ดังนั้นไม่ว่าจะทำอย่างไร ใจก็ยังเป็นทุกข์อยู่นั่นเอง
ต่อเมื่อตระหนักว่าตัวการที่แท้นั้น
อยู่ที่ภายใน มิใช่ภายนอก
การทำใจให้กลับมาเป็นปกติจึงจะเกิดขึ้นได้
.
ใจจะเป็นอิสระจากทุกข์อย่างแท้จริง
ก็ต่อเมื่อละความเห็นผิดในตัวกูของกูได้อย่างสิ้นเชิง
แต่ในขณะที่ยังละความเห็นผิดดังกล่าวไม่ได้
อีกทั้งยังลดไม่ได้มาก ทุกข์ใจก็ยังบรรเทาได้
ด้วยการรู้จักวางใจอย่างถูกต้อง
จะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องมีสติรู้ทันอาการของใจ
เมื่อเกิดทุกข์หรือมีเหตุร้ายมากระทบ
แม้เหตุร้ายยังแก้ไขไม่ได้
แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ซ้ำเติมตัวเอง
ด้วยการรักษาใจให้เป็นปกติ
.
ผู้คนยุคนี้มีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น
ทุกข์กายมีน้อยลง แต่ทุกข์ใจกลับเพิ่มมากขึ้น
จนผู้คนมากมายหันไปพึ่งยาและวัตถุสิ่งเสพ
สาเหตุสำคัญเป็นเพราะเรามองข้ามจิตใจของตน
ไม่เห็นความสำคัญของการฝึกจิตรักษาใจ
แต่ในระยะยาวแล้ว
เราทุกคนก็หนีความทุกข์กายไม่พ้น
โดยเฉพาะเมื่อร่างกายแก่ชรา หรือล้มป่วย
ถึงตอนนั้นหากไม่รู้จักรักษาใจ
ก็จะยิ่งเป็นทุกข์มากขึ้น
จะว่าไปแล้ว กายนั้นมีแต่จะทุกข์มากขึ้น
ส่วนใจนั้นสามารถเป็นอิสระจากความทุกข์ได้
หากเราหมั่นฝึกจิตรักษาใจ
ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ปล่อยวางความทุกข์
ได้อย่างรวดเร็ว ปัญญาที่เกิดขึ้นยังช่วย
ให้ละวางความเห็นผิดในตัวกูของกูได้ในที่สุด
จนทุกข์ไม่อาจย่ำยีบีฑาได้อีกต่อไป.
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิลาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ