:D โฮะๆๆๆ มารู้จักพี่จอห์น วอเตอร์หน่อยมะ(ขายของอะฮ่าๆๆ)
:D ทำงานเสร็จแล้วเย้ โฮะๆ สัปดาห์นี้ทำงานได้ตามเป้าหมาย เวลาก็ยังเหลือ จริงๆ มีงานเก่าๆ อยู่เหมือนกัน แต่กะว่าพักผ่อนก่อนดีกว่า ลุยงานติดๆ แบบนี้มันก็คึกคักดีอยู่หรอก แต่ก็เล่นเอาเพลียน่าดู
งานที่ทำเสร็จไปเป็นเซ็ทหนังของ จอห์น วอเตอร์ ซึ่งทุกเรื่องเหตุการณ์มักจะเกิดที่ เบอติมอร์ แมรี่แลนด์ และมักแสดงนำโดย ดีวาย กระเทยยักษ์ และ Edith Massey ป้าแก่ๆ ที่ทำตัวได้อุบาทว์มากๆ
เซ็ทหนังโหด ถ่อย หยาบคาย ช่วงยุค 70 Desperate Living (1977) Female Trouble (1974) Pink Flamingos (1972) ซึ่งเป็นสามเรื่องมหาโหดจริงๆ รู้สึกทรมานๆ กับความถ่อยของหนัง สองตัวเอก ดีวาย กับ เอ็ดดี้ในยุคนี้ อุบาทว์สุดๆ แต่งตัว กิริยา (และน่าตา) อ้วกแตกสุดๆ โดยสาระส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่ที่ความบ้าระห่ำของดีวาย
Pink Flamingos (1972) ดีวายเป็นตัวหลักเรื่องที่ว่าด้วยการแข่งกันเป็นเจ้าแห่งความโสมม ซึ่งจบด้วยการแดกขี้หมาจริงๆ (ไม่ใช้แสตนอิน ไม่ใช้คอมช่วย) ขี้หมาที่ออกมาจากตูดสุนัข และจับกินสดๆ T_T เฮ้อ...
Female Trouble (1974) เล่าเรื่องของสาวน้อย(?) แสดงโดย ดีวาย -_-' ผู้ซึ่งมีอารมณ์เกรี้ยวกราด หนีออกจากบ้านและโดนข่มขืนตั้งท้อง จนต้องมาเลี้ยงดูเองเพราะใครจะเอ้าาา จากนั้นเรื่องราวก็เริ่มสติแตก เมื่อมีคนมายุ เรื่องความรุนแรงคือศิลปะ ทำให้ดีวายคิดว่าตัวเองคือศิลปินผู้รังสรรค์ความรุนแรง ก็นะความสติแตกต่างๆ ก็ตามมา แต่เรื่องนี้ดูแล้วเครียดๆ ไม่ขำเหมือน พิงค์ ฟรามิงโก้
Desperate Living (1977) เรื่องนี้ ดีวาย ไม่ได้แสดงนำ แต่ Edith ยังเล่นอยู่ โดยเล่นเป็นราชีนีเมืองบ้าๆ บอๆ อะไรสักอย่าง ที่โสมมๆ -_-' เฮ้อ ส่วนตัวแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างอุบาว์ทสุด ไม่อยากนึกถึงเลย มันแหวะๆ อ้วกๆ ไงก็ไม่รู้
ยุค 80 Hairspray (1988) Polyester (1981) ยุคนี้มีผลงานสองเรื่อง ซึ่งมีดีวาย แสดงทั้งสองเรื่อง แต่เป็นภาพพจน์ที่ดีขึ้น(มากๆๆๆๆ) ของดีวายเลยละ เพราะสองเรื่องรับบทที่ไม่ถ่อย ออกไปทางน่ารักเสียด้วยซ้ำ และตัวหนังก็ลดความรุนแรง ดิบถ่อยลงไปเยอะ มีเรื่องราวสาระมากขึ้น
Polyester (1981) เรื่องนี้ ดีวาย แสดงนำ เล่นเป็นแม่ที่ต้องผจญปัญหาสารพัด ลูกสาวแรดเกินเหตุ, ลูกชายติดยาโรคจิต, สามีมีเมียน้อย และยังคุณแม่ของเธอที่เป็นตัวแสบสุดๆ ตัวหนังไม่มีฉากรุนแรงพิเศษเหมือนหนังก่อนหน้านี้ แต่หนังก็ยังได้เรท R (เข้าใจว่าเพราะบทพูดที่ถ่อยๆ เช่นเดิม) เรื่องนี้ Edith รับบทน่ารักมากๆ เล่นเป็นคนใช้ข้างบ้านที่ได้รับมรดกจนเป็นคุณนาย ที่มาคอยช่วยเหลือให้กำลังใจดีวาย (และก็เป็นเรื่องสุดท้ายที่ได้ร่วมงานกันอีกด้วย เพราะ เธอเสียชีวิตในปี 1984)
Hairspray (1988) เรื่องนี้เป็นการพลิกโฉมของ จอห์น วอเตอร์เลยละ เพราะหนังเรท PG หนังไม่มีคำหยาบ ไม่มีความรุนแรง เป็นหนังที่น่ารักเลยละ เรื่องราวของสาวน้อยที่ชื่นชอบการเต้น... (*ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกการเต้นในเรื่องว่าอะไรกัน จะบอกว่า ดิสโก้มันก็ไม่ใช่อะ เรียกไม่ถูก ในเรื่องก็ไม่ได้เกริ่นว่ามันคือการเต้นอะไร) ซึ่งหนังย้อนไปในยุค 60 ที่วัยรุ่นชื่นชอบการเต้น และมีรายการสุดฮิตเป็นรายการที่ให้ผู้คนทางบ้าน โหวตหนุ่มสาวที่เต้นได้ถูกใจ ซึ่งเพลงในเรื่องเพราะดีเหมือนกัน น่าจะถูกใจคนชอบเพลง เรทโทรมั้ง อิๆ เรื่องนี้แนะนำ หนังน่ารักดี การดูหนังเรื่องนี้โคตรทำให้รู้สึกดีเลย (ก็นะเจอมาแต่ละเรื่อง มาทำเรื่องนี้แล้ว เหมือนมาหักล้างความรุนแรง) หนังเรื่องนี้มีการนำมาสร้างใหม่ด้วย จะเสร็จในปี 2006 ใช้กำกับ2 คนโดยใครก็ไม่รู้(อ้าวว)^^ แต่มีความน่าสนใจตรง ผู้กำกับหนึ่งในนั้น คือ Jerry Mitchell มีเครดิต เป็น Choreographer ในหนังเรื่องเฮดวิค (Choreographer : A person who plans and directs dance sequences within a movie.) ซึ่งผมเข้าใจว่าออกแบบท่าเต้นไรงี้มั้ังอะ แต่งงๆ เรื่องเฮดวิคมันมีออกแบบท่าเต้นด้วยรึฮ่าๆ แต่ก็ช่างเหอะ ไงก็มีเครดิตจากหนังที่ดี ก็โอเควะ
เข้าสู่ยุค 90 Pecker (1998) Serial Mom (1994) Cry-Baby (1990) ซึ่งผมไม่ได้ดูเลย แฮะๆ ^^ มี Serial Mom ที่จะออกมาเหมือนกัน แต่พอดีผมไม่ได้ทำ ส่วน Cry-Baby กับ Pecker เข้าใจว่าเป็นหนังมีลิขสิทธิ์มั้ง เพราะมีดาราดังร่วมแสดง อย่าง Cry-Baby มีจอห์นนี่ เดป แสดงนำ และ Pecker มีคริสตีน่า ริชชี่ แสดง ก็เลยไม่รู้จะพูดถึงยังไง อิๆ ผ่านๆๆๆๆ
ยุค 2000 A Dirty Shame (2004) Cecil B. DeMented (2000)
Cecil B. DeMented เรื่องนี้ตัวหนังกลับมารุนแรงดิบถ่อย แต่ไม่โป๊เหมือนยุค 70 เรื่องราวของ นักแสดงสาว ฮันนี่ย์ ซึ่ง หยิ่งทะนง นิสัยแย่ โดน แก๊งค์วัยรุ่นซึ่งบ้าคลั่งหนังนอกกระแสอย่างหนัก นำโดย ซีซีิล บี ดีเม็ท จับตัวไปเพื่อแสดงในหนังของเค้า แล้วหนังตานี่ก็รุนแรง ถึงเลือดถึงเนื้อ
เรื่องนี้ส่วนตัวผมชอบเหมือนกัน ผมว่ามันขี้ประชดดี คือมันพูดถึงคนบ้าหนังอินดี้ บ้าหนังนอกกระแส กระแดะเกินเหตุ ทั้งที่ีจริงๆตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรเลย มีแต่ความบ้าระห่ำ (คงเหมือนเด็กแนวบ้านเรามั้ง ฮิๆ) อีกจุดที่ชอบ ก็คือประชดฮอลลีวู๊ดไปในตัวด้วย ล้อเลียนการสร้างหนังภาคต่อ (ในเรื่องมีบุกปล้นกองถ่าย ฟอเรน กัม ภาคสอง ฮ่าๆๆ)
เรื่อง A Dirty Shame ไม่ได้ทำอะ แต่ดูในเว็บ มีเวอร์ชั่น NC-17 ด้วย เหอๆๆ ก็พอจะเดาอะไรได้บ้าง ซ่ึงพอสรุปได้ว่า จอนห์ วอเตอร์ ในยุคนี้ กลับมาใช้ความรุนแรงในหนังเหมือนยุคแรกๆ แต่เป็นความรุนแรงที่ดูจริงจัง มีเนื้อหาสาระมากขึ้น ไม่ได้โป๊ ถ่อย บ้าๆ บอๆ ไร้สติ เหมือนยุค 70
สรุปนะ ผมมองว่า การทำงานของจอห์น วอเตอร์ที่โดดเด่นมาได้ เพราะสไตล์ความบ้าส่วนตัวซึ่งไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร แต่ว่ากันที่ฝีมือจริงๆ แก่แท้จริงๆ ผมมองว่าไม่เท่าไหร่เลย คือสาระของหนังไม่ได้โดดเด่น หรือสะเทือนใจ (สะเทือนใจด้วยภาพบ้าๆ บอๆ มากกว่า) การใช้ความรุนแรง ก็ไม่ได้นำไปสู่บทสรุปทีี่ควรจะแรงตาม มีเรื่อง Female Trouble กับ Cecil B. DeMented ที่ผมว่าใช้ความรุนแรงแต่ได้ผลในบทสรุป ส่วนเรื่องอื่น ออกไปทางทำเอาบ้าๆ โป๊ๆ รุนแรงเข้าว่าหรือเปล่านะ?
ส่วน Hairspray ที่ผมบอกว่าชอบมาก เอาเข้าจริงๆ หนังไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ด้วยความที่เจอแต่หนังแบบนี้ติดๆ มาเจอหนังน่ารักๆบ้าง มันก็รู้สึกดี แต่เนื้อหาสาระนั้น ไม่ดีนัก หนังมีการพูดถึงยุคแบ่งแยกสีผิว แต่ก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์มากนัก ซึ่งถ้าไปเทียบกับ Pleasantville ยิ่งไปกันใหญ่
คิดนู้นคิดนี่ แล้วก็ลองทบทวนดูว่า จอห์น วอเตอร์กำลังบอกเราหรือเปล่านะ ถึงจะไม่ใช่คนเก่งระดับสากล แต่กับตัวเอง ถ้าเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ คุณก็ประสบความสำเร็จได้
*ก่อน Pink Flamingos ช่วงยุค 60 เค้าก็ทำหนังบ้าๆ บอๆ มาตลอดจนมาประสบความสำเร็จ
**อิๆ เสร็จงานเลยพิมพ์ซะยาวเยียดเล้ยย
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2548 |
|
8 comments |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 17:46:40 น. |
Counter : 2102 Pageviews. |
|
|
ไปอ่านนั้งสือก่อน เดี๋ยววิ่งมาอ่าน ฮ่าๆๆๆๆ
โชคดีกะการทำงานจ้าวัช