Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
 
<<
กันยายน 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
2 กันยายน 2561
 
All Blogs
 
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 1




พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên) ตอนที่ 1



พิธีกงเต็กเวียดนามที่บ้านต้นผึ้ง (นาจอก) ปี 2561

พิธีกงเต็กเวียดนามมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาเวียดนามว่า  เล๋ จุง เหงวียน (Lễ Trung Nguyên)หรือมีคำเรียกกันโดยทั่วไปในกลุ่มชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.นครพนมว่า โบ่ย ถาง ไบ่ (Bồi Tháng Bảy) หรือ เล๋ โด๊ด ม๋า (Lễ Đốt Mã) เป็นพิธีที่ถูกจัดขึ้นในช่วงครึ่งเดือนแรกในเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม ซึ่งตรงกับสาร์ทจุงเหงวียน (Tết Trung Nguyên) หรือสาร์ทเดือน 7 ของเวียดนาม

ว่ากันว่าในช่วงเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคตินั้น ประตูปรโลกจะถูกเปิดออก วิญญาณที่เสียชีวิตไปจะได้กลับมาเยี่ยมบ้านเป็นเวลา15 วัน ในระหว่างนี้คนเวียดนามนิยมทำพิธีเซ่นไหว้และเผาสิ่งของเครื่องใช้ให้กับญาติที่เสียชีวิตไป   สารทจุงเหงวียน (Tết Trung Nguyên) หรือสารทเดือน 7 ของเวียดนามนี้เป็นสารทเก่าแก่ของเวียดนามที่มีมาแต่โบราณภายหลังพุทธศาสนา นิกายมหายานเข้ามามีอิทธิพลในเวียดนามและมีพื้นฐานความเชื่อเดียวกัน   ดังนั้น สารทจุงเหงวียน (Tết Trung Nguyên) จึงถูกเรียกตามคำศัพท์ในพุทธศาสนานิกายมหายานว่า วู ลาน (Vu Lan)

สำหรับชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.นครพนมนั้นพิธีกงเต็กถือเป็นพิธีกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและยังคงมีการปฏิบัติสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมามากกว่าร้อยปีจนกระทั่งถึงในยุคปัจจุบันเพราะเชื่อกันว่าคนเราเมื่อเสียชีวิตไปแล้วดวงวิญญาณจะสุขสงบอยู่ในปรโลกชั่วนิจนิรันดร์ การอยู่ในปรโลกนั้นก็เฉกเช่นเดียวกับการอยุ่บนโลกมนุษย์เมื่อครั้งยังอยู่สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไรเมื่อเสียชีวิตไปก็เช่นนั้น ดังนั้นจึงเกิดเป็นพิธีเผาเครื่องกระดาษไปให้กับผู้ที่จากไป

ตามหลักความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.นครพนมมีธรรมเนียมปฏิบัติกันอยู่ว่า หลังจากที่มีคนในครอบครัวเสียชีวิตไป เมื่อถึงเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนามก่อนที่จะครบรอบการเสียชีวิตครบ 2 ปีลูกหลานจะต้องเผาบ้านกงเต็กให้กับดวงวิญญาณ เนื่องจากเชื่อกันว่า ในช่วงระยะเวลา 2 ปีหลังจากที่เสียชีวิตไปนั้น ดวงวิญญาณจะถูกคุมตัวอยู่ที่นรกเพื่อรอการพิจารณาความดีความชั่วก่อนที่จะเดินทางไปยังปรโลก (แต่ปัจจุบันก็มีการเลื่อนเวลาการประกอบพิธีออกไปมากกว่า 2 ปีบ้างตามความพร้อมของแต่ละครอบครัว)

เมื่อใกล้ครบปี 2 ของการเสียชีวิตซึ่งเป็นช่วงที่ดวงวิญญาณจะต้องย้ายออกจากศาลาพันห้อง  ลูกหลานจะต้องเผาบ้านกงเต็กพร้อมด้วยข้าวของเครื่องใช้ไปให้เพื่อให้ดวงวิญญาณได้มีชีวิตความเป็นอยู่ในโลกหลังความตายอย่างสุขสบาย ขณะเดียวกันเชื่อกันว่าดวงวิญญาณที่พึ่งเสียชีวิตไปหากยังไม่ครบ 2 ปีจะยังไม่บริสุทธิ์อีกทั้งลูกหลานจะต้องไว้ทุกข์นานเป็นเวลา 2 ปี ดังนั้นก่อนที่ลูกหลานจะออกทุกข์จะต้องทำพิธีกงเต็กในเดือน 7 ของปีที่จะครบรอบสองปีในการเสียชีวิต ดังนั้น พิธีกงเต็กของเวียดนามจึงต่างจากพิธีกงเต็กของจีนอย่างสิ้นเชิง

การประกอบพิธีกงเต็กตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม จ.นครพนมจะสามารถทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการประกอบพิธีเป็นเวลา 2 วันซึ่งจะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนามเท่านั้นในพิธีกงเต็กจะมีการเชิญเทพเจ้าหวูเลิม หรือหวอเลิม [Vũ (Võ) Lâm Đại thần ]ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ทำหน้าที่ดูแลในการส่งมอบของใช้จากลูกหลานไปมอบให้กับดวงวิญญาณของผู้ตาย

ซึ่งธรรมเนียมที่งดงามและมีความสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ในพิธีกงเต็กเวียดนามของชาวไทยเชื้อสายเวียดนามดั้งเดิมก็คือการ ม่านกงเต็ก ที่จะมีการรังสรรค์ขึ้นจากศิลปะกระดาษและการตัดลวยลายสีสันที่สวยงาม โดยทั้งนี้ธรรมเนียมการใช้ม่านกงเต็กเพื่อตั้งแต่งโต๊ะไหว้นี้จะมีเฉพาะกลุ่มชาวเวียดนามดั้งเดิมเท่านั้น (โพนบก ต้นผึ้ง ดอนโมง และบ้านนาราชควาย) หากเป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนามใหม่ (ในเขตเมือง) จะไม่ปรากฏธรรมเนีมการใช้ม่านกงเต๊กในพิธีแต่อย่างใด


พิธีกงเต็กเวียดนาม (คุณพ่ออำนวย) ในเขตตัวเมืองจังหวัดนครพนม       

ซึ่งไม่ปรากฎธรรมเนียมการใช้ม่านตั้งแต่งโต๊ะพิธี

(ขอบคุณรูปจากคุณชยกร ธีรภาพสมบัติ)



การตั้งแต่งโต๊ะไหว้ด้วยม่ามนกระดาษในพิธีกงเต็ก บ้านดอนโมง



การตั้งแต่งโต๊ะไหว้ด้วยม่านกระดาษในพิธีกงเต็ก บ้านนาจอก



การตั้งแต่งโต๊ะไหว้ด้วยม่านกระดาษในพิธีกงเต็กบ้านโพนบก



การตั้งแต่งโต๊ะไหว้ด้วยม่านกระดาษในพิธีกงเต๊ก บ้านต้นผึ้ง

ถ้าจะกล่าวถึงที่มาของธรรมเนียมการใช้ม่านกระดาษในพิธีกงเต็กนี้ก็ต้องย้อนไปถึงอดีตเสียหน่อยว่าหากมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นในครอบครัวใดเมื่อถึงเดือน 7 เวียดนามก็จะต้องมีการไหว้เทพเจ้าหวูเลิมเพื่อบอกกล่าวว่าเดือน 7 ปีหน้าจะทำพิธีกงเต็กให้ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต (กล่าวคือจะต้องมีการไหว้เทพเจ้าหวูเลิมล่วงหน้า 1 ปีก่อนจัดงานกงเต๊กให้ผู้เสียชีวิต) นอกจากของไหว้แล้วก็จะมีชุดเก้าอี้หวูเลิม (ประกอบด้วยเก้าอี้ ชุด หมวก และรองเท้า) และม่านกงเต็กที่ตัดแต่งไว้อย่างสวยงามเผาไปพร้อมกับกระดาษเงินกระดาษทองเพื่อมอบเป็นสินน้ำใจให้เทพเจ้านั่นเอง


ชุดเก้าอี้หวูเลิม ประกอบด้วย เก้าอี้ ชุด หมวกและรองเท้า
(ขอบคุณเจ้าของภาพ/ผลงาน : อ.พัชรพงษ์ ภูเบศร์พีรวัส)

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปธรรมเนียมการไหว้เทพเจ้าหวูเลิมล่วงหน้า 1 ปีนั้นก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรวบรัดยกไปไหว้พร้อมกันในวันทำพิธีกงเต็กจริงเสียเลย หากแต่ยังมีการรักษาธรรมเนียมโดยยังคงมีการใช้ม่านกงเต็กในการตั้งแต่งโต๊ะไหว้ และยังคงมีเก้าอี้หวูเลิมเพื่อเผาเป็นสินน้ำใจมอบแด่เทพเจ้าหวูเลิมดังเดิม และด้วยเหตุที่เล่ามานี้ผู้ที่รู้ธรรมเนียมปฎิบัติลึกซึ้งจะต้องแยกเผาม่านกระดาษและเก้าอี้หวูเลิมเป็นคนละส่วนจากบ้านกงเต็กและข้าวของเครื่องใช้ที่จะเผาไปให้วิญญาณนั่นเอง

ม่านกระดาษที่ใช้ในพิธีกงเต๊กแต่ละชุมชนนั้นนอกจากจะเป็นการสืบสานศิลปะงานกระดาษอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนแล้วหากมองให้ลึกซึ้งก็จะมองเห็นความหมายบางอย่างที่แฝงอยู่นั่นคือสัญลักษณ์นกกระเรียนเหยียบเต่าคาบดอกบัวในฉากม่านกระดาษหรือแม้แต่จะพบเห็นได้ทั่วไปตามสถานที่สำคัญ วัดวาอารามที่เกี่ยวข้องกับชาวเวียดนามแต่ทว่าน้อยคนที่จะเข้าใจความหมายอันลึกซึ้ง


ศิลปะกระดาษสร้างสรรค์ รูปนกกระเรียนเหยียบเต่าคาบดอกบัว ในพิธีกงเต็กบ้านต้นผึ้ง (นาจอก)  ปี พ.ศ.2561

(ขอบคุณเจ้าของภาพ/ผลงาน : อ.พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส)



สัญลักษณ์นกกระเรียนเหยียบเต่า ที่อนุสรณ์สถานประธานาธิบดีโฮจิมินท์ ที่หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามบ้าน นาจอก

(เครดิตภาพ : e d t  guide )


นกกระเรียน ภาษาเวียดนาม chim Hạc เป็นพาหนะบนสวรรค์ เป็นตัวแทนสวรรค์ เต่า Thần Kim Quy เป็นสัตว์ที่อายุยืนบนโลกมนุษย์ เป็นตัวแทนของโลกมนุษย์ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน สื่อความหมายของมนุษย์ว่าเป็นสัตว์สังคม ต้องมีการพึ่งพาอาศัยกัน จะอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ต้องมีพวกพ้อง ในตำนานของชาวเวียดนามกล่าวว่าในยามที่เกิดภาวะแห้งแล้งเต่าต้องอยู่ในที่แห้งแล้งอย่างยากลำบาก นกกระเรียนก็จะช่วยจะคีบเต่าไปปล่อยในที่มีแหล่งน้ำ และในยามที่นกกระเรียนต้องตกอยู่ในภาวะน้ำท่วมโลก เต่าก็จะช่วยให้นกกระเรียนเกาะหลังและพาไปไว้ในที่แห้ง ทั้งนี้วัฒนธรรมเวียดนามจะมีรูปสัตว์สองชนิดนี้อยู่ในสถานนี้เคารพบูชาเสมอเพราะถือว่าสัตว์ทั้งสองเป็นตัวแทนของสองภพ จะมาคารวะสิ่งศักดิ์สิทธ์ตามสถานที่นั้น ๆ ส่วนที่นกคาบดอกบัวมีความหมายว่าดอกบัวสื่อถึงคนที่มีคุณธรรม บริสุทธิ์ โดยคนชาวเวียดนามมักเปรียบเปรยคนดีมีคุณธรรมกับดอกบัว คือแม้ดอกบัวเกิดอยู่ในตม แต่เมื่อพ้นน้ำเบิกบานแล้วกลับไม่มีกลิ่นตม เหมือนคนที่ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี แต่ยังยึดมั่นยืนหยัดในคุณธรรมความดีนั้นเอง


ศิลปะการเขียนเกิวโด๋ยบนม่านกระดาษกงเต็ก
(ขอบคุณเจ้าของภาพ/ผลงาน : อ.พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส)


นอกจากนี้เกิวโด๋ย  (Câu đối) หรือคำกลอนเวียดนามอันลึกซึ้งที่ปรากฏอยู่ในฉากม่านกงเต็กนับเป็นศิลปะชั้นสูงอีกอย่างหนึ่งที่มักจะพบเห็นได้ในกงเต็กของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม บ้านโพนบก ทั้งนี้การเขียนเกิวโด๋ยบนฉากกงเต็กนี้นับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวบ้านโพนบกนับเนื่องมานับร้อยปี และปัจจุบันยังคงมีผู้สืบสานศิลปะชั้นสูงนี้อยู่โดยในปัจจุบันมีการปรับประยุกต์เขียนคำแปลภาษาไทยไว้ให้คนรุ่นใหม่ที่มักไม่รู้ภาษาเวียดนามได้เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งไปพร้อมด้วย



เกิวโด๋ยบนฉากม่านกงเต็กศิลปะที่แฝงไปด้วยความหมายแห่งความกตัญญู


ตัวอย่างเกิวโด๋ยหรือคำกลอนเวียดนามในฉากม่านกงเต็กที่ความหมายลึกซึ้งแฝงไปด้วยความหมายแห่งความกตัญญู

คู่ที่ 1

Phúc con cháu, bậc tiền nhân tu tích

บุญกุศลร่มเงาที่ลูกหลานได้พึ่งพาอาศัย ล้วนแล้วแต่เกิดจากการสั่งสมคุณงามความดีของบรรพชน

Ơn cha mẹ, trọn kiếp con khắc ghi

พระคุณพ่อแม่ยิ่งใหญ่ไพศาลสุดคณนา ลูกหลานของจารึกจดจำชั่วชีวิต


คู่ที่ 2

Cha suốt đời cằn vai bao gánh  nặng

ทั้งชีวิตพ่อแบกรับภาระอันหนักอึ้งไว้เพียงลำพัง

Mẹ một kiếp đôi dép lạc bàn chân

ชั่วชีวิตแม่ได้ใส่เพียงรองเท้าแตะ ตรากตรำทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย



*********  โปรดติตตามตอนต่อไป - พิธีกงเต็กเวียดนาม ตอนที่ 2  *******




ย้อนอ่านตอนก่อนหน้า



จนกว่าจะพบกันใหม่

Nguyễn Gia Huy


*************************************************************************************

"Chân thành cảm ơn Thầy Minh Quang đã giúp đỡ tận tình về việc viết bài và chỉnh sửa lại bài viết "

"Cảm ơn Anh Viết Thành đã có lời động viên tinh thần và giúp đỡ về Tiếng Việt thường xuyên"

*************************************************************************************




















Create Date : 02 กันยายน 2561
Last Update : 30 กันยายน 2561 17:37:18 น. 6 comments
Counter : 3233 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณtuk-tuk@korat, คุณnewyorknurse


 
โหวตครับ

เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ด้านวัฒนธรรมมากเลยครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2561 เวลา:22:52:34 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2561 เวลา:6:31:18 น.  

 
ชอบมากเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 กันยายน 2561 เวลา:12:58:32 น.  

 
เคยเห็นนำเที่ยวทางวัฒนธรรมบ้านนาจอก น่าจะทีวีค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 กันยายน 2561 เวลา:13:00:02 น.  

 
มาชมพิธีที่สืบทอดกันมา
มีรายละเอียดที่ต้องจดจำและตกทอด
ปล. ภาพที่ผมถ่ายมานั้น ได้ผ่านโปรแกรมแต่งภาพมาแล้ว
ถ่ายด้วย ipad


โดย: Insignia_Museum วันที่: 5 กันยายน 2561 เวลา:12:59:40 น.  

 
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: Tu_Luckkhana IP: 110.169.68.103 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา:20:13:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
แจกฟรีแบ๊คกราว
Friends' blogs
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.