หมูต้มเค็มบ้านนาจอก (Thịt kho)
หมูต้มเค็มบ้านนาจอก (Thịt kho) บอก : "Thịt kho : ถิดคอ" หรือ "หมูต้มเค็ม" เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวไทยเชื้อสายเวียดนามบ้านนาจอกเรียกว่ารู้จักคุ้นลิ้นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ การทำต้มเค็มนั้นถ้าต้มเค็มหมูก็จะมีวิธีการดังที่จะกล่าว ซึ่งคล้ายกับต้ัมเค็มขาหมูแต่ต้มเค็มขาหมูจะมีการเติมหน่อไม้ลงไปต้มด้วยด้วยเป็นสูตรของที่นี่ ส่วนการทำต้มเค็มปลาก็ทำคล้ายกันแต่จะมีพริกสดทุบและข่า (เล็กน้อย) เพิ่มเข้ามาเพื่อดับคาวและมีการใช้หอมแดงแทนกระเทียม ส่วนการต้มเค็มเนื้อสัตว์ชนิดอื่นนั้นไม่ค่อยนิยมทำกัน เกริ่น : สมัยเด็กจำได้ว่ากินต้มเค็มจนเบื่อ แม่จะทำบ่อยมาก พวกต้มเค็มต่าง ๆ หมุนเวียนกันไปเพราะต้มเค็มทำทีก็เก็บไว้ทานได้หลายวัน ยิ่งอุ่นซ้ำให้งวดลงยิ่งเข้มข้นและมีรสอร่อยกว่าตอนต้มเสร็จใหม่ ๆ แม้จะอร่อยแต่ทานบ่อย ๆ เด็ก ๆ รู้สึกว่าเบื่อกัน เมนูต้มเค็มนี้ก็เป็นเมนูยอดฮิต ทำได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมทำขึ้นโต๊ะไหว้ทุกประเภททั้งในงานแต่ง งานตาย และงานบุญต่าง ๆ ในครอบครัวของผมช่วงหลัง ๆ ก็ค่อนข้างห่างที่จะทำเพราะมีเมนูอื่น ๆ ตามสมัยนิยมเข้ามาแทนที่ให้ทำทานกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนโดยเฉพาะอาหารอีสานรสจัด ส่วนประกอบและเครื่องปรุง 1. เนื้อหมูสั้นใน หรือเนื้อหมูส่วนอื่นก็ได้เลือกที่ติดมันเล็กน้อย หั่นชิ้นให้ชิ้นโต-โต 2. น้ำตาลทรายแดง (ต้มเค็มสีจะสวยกว่าน้ำตาลทรายขาวแต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำตาลทรายขาวได้) 3. พริกไทยดี 4. น้ำปลาดี 5. ซีอิ้วขาว 6. ซอสปรุงรสฝาเขียว 7. กระเทียมปลอดเปลือกบุให้แตก วิธีปรุง 1. ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วเติมน้ำตาลทรายแดงลงไปใช้ตะหลิวเคี่ยวอย่าหยุดมือเติมน้ำเล็กน้อยเคี่ยวต่อไปจนน้ำตาลทรายเริ่มเหลืองอย่าให้ไหม้และอย่าให้เหนียวเกินไป 2. เติมน้ำต้มสุกลงไปกะให้มากกว่าปริมาณน้ำตาลที่ใช้ประมาณ 20 เท่า แล้วค่อยคนให้ได้น้ำสีนำตาลอ่อน ๆ มีกลิ่นหอม ตั้งกระทะพักไว้ 3. นำหมูที่หั่นไว้ใส่ลงในหม้อที่จะต้ม เติมกระเทียม พริกไทย (มากมาก) ซอลปรุงรสฝาเขียว ซีอิ้วขาว น้ำปลาดี (เล็กน้อย) การปรุงให้เน้นซอสปรุงรส กับซีอิ้วขาวเป็นหลัก ให้มือบีบ เคล้าส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาที 4. นำส่วนผสมในหม้อข้อ 3 มาตั้งไปอ่อน ๆ คนกลับให้เข้ากันเล็กน้อย แต่อย่าคนต่อเนื่อง ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีพอได้กลิ่นหอมและให้น้ำในตัวเนื้อสัตว์ละลายออกมา (บางสูตรจะตัดข้อ 4 นี้ทิ้งแล้วไปทำข้อ 5 เลย ซึ่งก็จะไ้ด้ผลคล้าย ๆ กันแต่ผมว่าแบบนี้จะอร่อยและเข้าเนื้อกว่า) 5. นำน้ำสีน้ำตาลที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลมาเติมลงในหม้อ ข้อ 3 ใช้ทัพพีค้นให้เข้ากันตั้งไว้อ่อน ๆ ไว้ประมาณ 5 - 10 นาที อย่าปิดฝา เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่มากน้ำต้มเค็มจะล้นเป็นฟองออกมา 6. ต้มเสร็จใหม่ ๆ ทานไม่ค่อยอร่อย แต่ถ้าอุ่นไปสัก 1 - 2 คืนจะยิ่งเข้มข้น ทานคู่กับแตงกวา ผักสดและข้าวสวยร้อนโฉ่ อร่อยมาก ..............นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ทาน นานนานที่ผมจะได้มีโอกาสเข้าครัวทำกับข้าวให้แม่ทาน เลยได้โอกาสรื้อฟื้นวิชาทำกับข้าวหลายเอย่าง พอที่จะนำมาลงไม่ให้บล๊อกเงียบเหงาเกินไ ปหน้าตาอาหารพอไหวมั้ยครับ ?
Create Date : 30 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2557 17:46:58 น. |
|
7 comments
|
Counter : 13350 Pageviews. |
|
|