Bloggang.com : weblog for you and your gang
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
พีรดลย์ หนึ่งเดียวคนนี้ !!!
เมื่อพีร์เดินทาง
ธรรมะนอกหน้าต่าง
มุมที่ไม่สว่าง
ผู้ด้อยโอกาสทางความรัก
บ้านนาจอก ณ นครพนม
หนังสือคือมิตรสนิทยิ่ง
<<
กรกฏาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
2 กรกฏาคม 2554
ผ้าขาวไว้ทุกข์แบบเวียตนาม
All Blogs
แกงผักกาดดองแบบเวียดนาม (canh dưa)
แกงไข่มะเขือเทศ (Cách làm món Canh mây)
ยำหัวปลีหมูสามชั้น - nộm hoa chuối thịt ba chỉ
แกงผักโขมกุ้งแห้งแบบเวียดนาม
ยำวุ้นเส้นผักบุ้งสด (แบบเวียดนามบ้านนาจอก)
หมี่กะทิบ้านนาจอก (สูตรเวียดนาม+อีสาน)
ถั่วเขียวต้มน้ำตาลขิง (chè đậu xanh gừng)
Thịt ba chỉ rang - หมูสามชั้นคั่วหวาน (สูตรเวียดนาม)
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 3 จบ
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 2
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 1
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก :บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหายตอนที่ 3 ครอบครัวของหมื่นมนัสประชา
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก :บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหายตอนที่ 2 อนุสรณ์สืบเนื่องจากหมื่นมนัสประชา
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก : บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหาย ตอนที่ 1 ภูมิหลังการก่อตั้งบ้านนาจอก
ต้มเค็มปลาทูแบบเวียตนาม - Cách kho cá thu nhật ngon
ชาเขียวบ้านนาจอก - Chè Xanh Bạn Mạy
วิธีทำขาหมูอบสมุนไพร cách nấu giả cầy
แบบแผนการคารวะศพของบ้านต้นผึ้ง (หมู่บ้านนาจอก)
ความเกี่ยวข้องกันของบ้านนาจอก บ้านต้นผึ้ง และบ้านดอนโมง
หมูต้มเค็มบ้านนาจอก (Thịt kho)
เมนูแกงเ้ส้นเวียดนาม ( canh miến )
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 3 (จบ)
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 2
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 1
Cuộc đời không như là mơ : ชีวิตไม่เหมือนความฝัน - บ่าเยี่ยนแห่งบ้านนาจอก ตอนจบ
Cuộc đời không như là mơ : ชีวิตไม่เหมือนความฝัน - บ่าเยี่ยนแห่งบ้านนาจอก ตอนที่1
ต้มเส้นของแม่ : Cháo canh của mẹ
แกงขนุนอ่อน (mít non ) แบบนาจอก
เล่าเรื่องเกิ่วโด๋ย (câu đối) งานศพ
แกงหน่อไม้ส้ม (Canh Măng Chua)
ขนมจีนน้ำใสสูตรคุณยาย
ศาลเจ้าพ่อด่ายเวือง ( Đền thờ Đức Đại Vương-Làng Bạn Mạy ) : ตอน 2 - บูรณะปฎิสังขรณ์
วิธีการทำไก่ไหว้ที่บ้านนาจอก : Cách làm gà cúng (gà cánh tiên)
ผักโขมต้ม-น้ำปลาพริก (Luộc rau dền -Nước mắm Tỏi )
วิธีมวนพลูสำหรับไหว้ ( trầu mếng) แบบเวียดนาม
ข้าวเหนียวนึ่ง - งาคั่ว (มื้อเช้าที่นาจอก)
ศาลเจ้าพ่อด่ายเวือง ( Đại Vương) : ตอน 1 - ภูมิหลังและความเชื่อ
โรงเรียนบ้านนาจอก (แรงประชาชน)
ศิลปะการพับ-ตัด กระดาษไหว้
Lá Triệu - หลาเจี่ยว เอกสารการเดินทางสู่ปรโลก
การจัดสำรับอาหารไหว้ที่นาจอก
ศาลเจ้าดึ๊กแท่งฮว่าง (ต้นผึ้ง-ดอนโมง)
บ้านไม้เก่า-เก่าที่นาจอก
ซุ้มทางเข้าหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียตนาม (บ้านนาจอก)
หมูหวาน (Thịt Rang : ถิดราง) สูตรนาจอก
หมาก-พลู (Trầu Cau) คู่นาจอก
Hồn và vía - โห่นหว่าเวี๋ย เรื่องที่ลูกหลานเวียดนามรุ่นใหม่ไม่เข้าใจ
Cơm úp - เกิม อุ๊บ ข้าวถ้วยสุดท้ายของชีวิต
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้ออกทุกข์)
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้บรรพบุรุษ)
ไหว้ 100 วัน (รอบค่ำ-วันเข้า)
ไหว้ 100 วัน (รอบเย็น-วันเข้า)
ยำหัวปลีสด (สูตรเวียตนาม)
น้ำปลากับไข่ไก่เกี่ยวอะไรกับหญิงคลอด ???
ไข่เจียวหมูสับ-วุ้นเส้น (จ๋า เตริ๋ง)
เมนูหมูหนาว (Thịt Đông : ถิดดง) ที่นาจอก
ยำวุ้นเส้นแบบเวียตนาม
ไหว้ 3 วัน (พิธี เหม่อ เกื่อ มา - Mở Cửa Ma)
พาวิญญาณกลับบ้าน
แผ่นดินกลบหน้า (การฝังศพแบบเวียตนาม)
ธรรมเนียมการเคลื่อนศพ (เดือ มา - đưa ma หรือ đưa tang )
ก่อนเคลื่อนศพ
แซ ดอน รอง (Xe đòn rồng) ส่งศพ
เตรียมสุสาน
คืนสุดท้าย
โบกพริ้วทิวธงส่งศพ
ธรรมเนียมการคารวะศพ@บ้านนาจอก
ผ้าขาวไว้ทุกข์แบบเวียตนาม
กลอง และฆ้องในงานศพ
การตั้งแต่งศพแบบเวียตนาม
ดอกไม้ในสวน
ผัดมะเขือถ้วยใบชะพลู
Cà bát (กา บ๋าต) : มะเขือลูกเท่าถ้วย ตามไปดูกัน
Cá um nhệ ( ก๋า อุม เหง่) - ปลาต้มเค็มขมิ้น
แก๋งฮวาจ๋วย-ล๋าโรส (แกงหัวปลีใบชะพลู)
ธรรมเนียมการไหว้แบบเวียตนาม
มรดก : ด้อยราคา แต่มากคุณค่าทางจิตใจ
บ้านเคยอยู่
nói chuyễn nghi'a trang : เรื่องเล่าจากสุสาน
พิธีเคลื่อนศพ-ฝังศพ ของชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม
ความเชื่อหลังความตายของชาวเวียตนาม ที่บ้านนาจอก
ข้าวเหนียวนึ่งถั่วเขียวแบบเวียตนาม (cờm sôi dố)
ศาลเจ้าเวียตนามในไทย
เมนูอาหาร (món ăn) เวียตนาม ที่บ้านนาจอก
หมื่นมนัสประชา ที่มา "นาจอก"
ภาษาเวียตนามที่บ้านนาจอก
เกริ่น....
ผ้าขาวไว้ทุกข์แบบเวียตนาม
การไว้ทุกข์แบบเวียตนามก็มีธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกับธรรมเนียมจีนเนื่องจาก
เวียตนามเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนอย่างยาวนาน
ธรรมเนียมการแต่งกายไว้ทุกข์ของชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม
ที่บ้านนาจอกจะใช้ผ้าขาวมาตัดเป็นชุดแบบต่าง ๆ เพื่อใส่ไว้ทุกข์
มีรายละเอียดต่างกันไปตามนี้ครับ
ชั้นลูก
ลูกชาย : แต่งชุดขาว มีผ้าคาดศีรษะมัดเป็นปมปล่อยชายให้ห้อยไปข้างหลัง
ถ้าว่ากันให้ลึกซึ้งชายทั้งสองข้างจะไม่เท่ากันกรณีพ่อหรือแม่ยังมีชีวิตอยู่อีกคน
แต่ถ้าพ่อเสียชีวิตก่อนแล้วเป็นงานศพของแม่ (คือตายแล้วทั้งคู่) ชายผ้าคาดจะปล่อยเท่ากัน และถ้าเป็นงานศพผู้เป็นพ่อ ที่ด้านหลังของชุดจะมีการเย็บตะเข็บกลับด้านตามยาวตลอดความยาวของเสื้อ และจะมีผ้าขาว 3 ชายเย็บแปะไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้าง และกลางหลังซึ่งปัจจุบันหาไม่ค่อยพบแล้ว คงมีให้เห็นบ้างแค่ผ้า 3 ชายที่เย็บติดด้านหลังอันเป็นนัยว่าตลอดชีวิตของลูกต้องแบกพระคุณอันใหญ่หลวงของพ่อไว้ที่ไหล่และหลังตลอดชีวิต และผ้าสามชายนี้แทนตัวอักษรจีนที่เป็นขีด 3 ขีดแปลว่าภูเขา (sơn) และข้อสังเกตอีกประการในการสังเกตชุดไว้ทุกข์ของงานศพพ่อคือให้สังเกตที่ชายเสื้อจะปล่อยรุ่ยไม่เย็บริมซึ่งชุดไว้ทุกข์ในงานศพของผู้เป็นพ่อจะเรียกว่า trảm thôi
ตรงนี้ก็มาจากภาษิตเวียดนามโบราณที่ยกย่องบุญคุณผู้เป็นพ่อว่ายิ่งใหญ่ประดุจดังขุนเขา
Công
cha như núi Thái Sơn
.
Nghĩa mẹ như
nước trong nguồn chảy ra
ลูกสาว ลูกสะใภ้: ชุดขาว (นุ่งผ้าถุง) มีหมวกผ้ายอดแหลมชายสั้นข้างยาวข้าง
บางบ้านจะผูกผ้าขาวคาดศีรษะด้วยแล้วสวมหมวกทับอีกที หรือบางทีก็นำหมวกผ้ายอดแหลมมาพับเป็นผ้าคาดศีรษะก็มี
โดยที่ในสมัยโบราณชุดไว้ทุกข์ในงานศพพ่อ (พ่อมักจะตายก่อน) จะถูกเก็บไว้ใช้ต่อในงานศพแม่โดยจะต้องเย็บชายเสื้อที่ปล่อยรุ่ยอยู่ขึ้นให้เรียบร้อย เรียกชุดไว้ทุกข์ในงานศพแม่ว่า tề thôi
ดังนั้นปัจจุบันจึงมีผู้รู้และเข้าใจในความแตกต่างของชุดไว้ทุกข์เหล่านี้น้อยลงทุกที
ซึ่งเป็นธรรมดาว่ารายละเอียดที่จุกจิกเหล่านี้ก็ย่อมต้องถูกตัดทอนลงตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
หากแต่ว่าการเข้าใจและรู้ความหมายที่แท้จริงนั่นย่อมเป็นหนทางหนึ่งในการรักษาธรรมเนียมที่ยังเหลือให้สืบทอดต่อไปได้
เรื่องหมวกผ้าขาวทรงแหลมนี้มีเรื่องเล่าปรำปราของชาวเวียดนามถึงที่มาของมันแต่เดิมว่า
มีหญิงสาวในชนบทเวียดนามคนหนึ่งมีคนรักแต่พ่อแม่ไม่ยินยอมให้แต่งงานกัน
ด้วยความรักของคนทั้งสองจึงตัดสินใจหนีไปด้วยกัน
ผู้เป็นพ่อโกรธมากประกาศตัดพ่อตัดลูกกัน
เวลาผ่านไปนานปีผู้เป็นพ่อเสียชีวิต
และในคืนสุดท้ายก่อนที่จะฝังศพผู้เป็นพ่อ
ลูกสาวที่หนีไปกับชายที่รักกลับมายามวิกาลร้องไห้เสียใจ
ผู้เป็นเป็นเกรงว่าถ้าญาติพี่น้องเห็นลูกสาวกลับมาจะโดนทำร้ายและรุมด่าว่า
จึงคิดตัดผ้าขาวให้เป็นหมวกสำหรับปกปิดใบหน้าให้ได้ยินแต่เสียงร้องไห้ดัง ๆ
เมื่อไม่เห็นหน้า ได้ยินแต่เสียงร้องไห้อันแสดงถึงความโศกเศร้า
ความโกรธของญาติพี่น้องและชาวบ้านก็บรรเทาเบาบางลง
นับแต่บัดนั้นธรรมเนียมการสวมหมวกร้องไห้ในงานศพพ่อหรือแม่จึงปฏิบัติแบบนี้สืบมา
อันนี้ให้ดูรูป 4 สะใภ้ สวมหมวกไว้ทุกข์ตามสไตล์ของใครของมัน
บางทีก็รวบ ๆ มันขึ้นไปจะได้ไม่เกะกะเวลาเขาครัวหรือทำงาน
ส่วนในพิธีก็จะต้องปล่อยคลุมลงมาไม่ให้เห็นหน้าเพราะเวลาคนร้องไห้นั้นไม่น่าดู
และการรวบผ้าปิดบากไว้จะช่วยให้เสียงร้องไห้กังวานดังกว่าปกติหลายเท่า
ลูกเขย : ถือเป็นคนนอกตระกูล จะคาดผ้าขาวรวบปลายไว้ที่ศีรษะเท่านั้น
ชั้นหลาน
หลานชายสืบสกุล : คือหลานชายคนโต ที่เกิดจากลูกชายคนแรกของผู้ตายเรียกเป็นภาษาเวียตนามว่า "เจ๋าดึ๊กโตน" จะแต่งชุดขาวเหมือนลูกชายทุกประการ
แต่ผ้าคาดศีรษะจะรวบชายไว้เพื่อให้รู้ว่านี้คือหลานไม่ใช้ลูก
แต่ในกรณีพ่อของหลานชายคนโตเสียชีวิตก่อนปู่ คนเป็นหลานชายสืบสกุลจึงจะสามารถปล่อยชายผ้าขาวให้ยาวเสมือนหนึ่งว่าเป็นลูกชายได้ พูดง่าย ๆ คือทำหน้าที่แทนพ่อตนเอง
สมัยก่อนถ้าแบ่งมรดกหลานชายสืบสกุล
จะมีสิทธิ์ได้รับมรดหนึ่งส่วนในชั้นลูก แต่สมัยนี้ก็ไม่ถือธรรมเนียมนี้แล้ว
หลานชายหญิงเท่าเทียมกัน
หลานใน และหลานนอก : อันได้แก่ หลานน้า หลานอา หลานลุง ฯลฯ
รวมทั้งหลานเขย หลานสะใภ้จะ คาดผ้าขาวรวบปลายที่ศีรษะ
เหมือนกันทุกคน ตรงนี้ที่ต่างจากบ้านใหม่ของผมคือ
ถ้าเป็นหลานนอกที่เป็นเขยจะมีปลอกแขนสีดำแทนผ้าขาวคาดศีรษะ
ชั้นเหลน
เหลนในสายตรง (ลูกของหลาน) และเหลนที่เป็นลูกของหลานนอก
(พวกลูกของหลานลุง หลานอา ฯลฯ ) ก็จะใช้ผ้าคาดศีรษะสีแดง
แต่ปัจจุบันก็จะมั่ว ๆ กันไปมักจะหยิบสีขาวคาดซะเป็นส่วนใหญ่
การแจกผ้าขาวไว้ทุกข์
ทันทีที่มีการตายเกิดขึ้นก็จะมีการตัดชุดขาว
โดยสมาคมหมู่บ้านที่สังกัดหรือปัจจุบันเจ้าภาพมักจัดการหาคนมาตัดเย็บเอง
แต่ก็มีคนหัวใสตัดขาวสำเร็จรูปเลยตกชุดละ 250 .-
งานศพปู่ครั้งนี้ คนที่เข้าข่ายแต่งชุดขาวสิบกว่าคน
เห็นจะตัดกันไม่ไหวเลยต้องไปซื้อสำเร็จรูปมาใช้
ส่วนผ้าขาวผ้าแดงคาดศีรษะต้องซื้อผ้ามาตัดและพับกันเอง
ตามธรรมเนียมในตอนเย็นหรือหัวค่ำของคืนที่บรรจุศพก็จะมีพิธีแจก
ผ้าไว้ทุกข์ที่บ้านนาจอกฝั่งบ้านใหม่จะต้องให้ตัวแทนของหล่างหรือสมาคมหมู่บ้านเป็นผู้แจก
ซึ่งผิดกับบ้านนาจอกฝั่งต้นผึ้งที่จะให้เท่ย หรือซินแซผู้ทำพิธีเป็นผู้แจกผ้าขาวไว้ทุกข์
ใครที่มาทันพิธีก็รับแล้วคาดไปตลอดจนเสร็จงานศพ
ส่วนใครที่มาไม่ทันก็จะมีถาดวางไว้หน้าศพมาถึงก็หยิบไปคาดเอาเอง
เวลาปลดผ้าขาว
ปัจจุบันเมื่อเสร็จพิธีฝังศพแล้วหลาน ๆ ก็จะมาขอปลดผ้าขาว
คือจุดธูปไหว้ที่รูปแล้วก็ถอดผ้าขาวคืนไว้ในถาด
คือไม่ขอรับทุกข์ไว้กับตัวแล้ว
แต่หลานใน และหลานนอกบางคนที่อายุมาก ๆ ก็จะยังแต่งดำและ
เคร่งครัดไว้ทุกข์ไม่ไปงานมงคลตลอด 100 วัน
ส่วนชั้นลูก ปลดไม่ได้ต้องไว้ทุกข์ต่อไป 100 วันจึงนำผ้าขาว
ชุดขาวทั้งหมดไปเผาทิ้ง และต้องงดไปงานมงคล 2 ปี
แต่ก็เฉพาะบางคนที่เคร่งเท่านั้นเพราะสมัยใหม่
ก็จะยึดการไว้ทุกข์แค่ 100 วันกันแล้ว
(ขึ้นกับว่าจะเลือกออกทุกข์ตอนครบ 100 วัน หรือตอนครบ 2 ปีตามธรรมเนียมเก่า)
ชุดขาวของชั้นลูกจะใส่ทุกครั้งเมื่อทำพิธี
ทำบุญ 3 วัน (วันเปิดสุสาน) 50 วัน 100 วัน
และครบรอบ 1 ปี (กรณีไม่ออกทุกข์ ตอน 100 วัน)
หรือธรรมเนียมโบราณจริง ๆ จะออกทุกข์ตอนไหว้กงเต๊กเดือน 7 หรือ ครบ 2 ปี แล้วแต่กรณีและความนิยมของชุมชนนั้น ๆ
ซึ่งจะจัดเป็นงานสองวันนิยมเรียกกันว่า วันเข้า - วันออก
ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ ๆ ไป
ส่วนผ้าขาว ผ้าแดง ของชั้นหลาน เหลนก็จะกองอยู่ในถุง
เพราะไม่นิยมคาดกันแล้วหากเสร็จสิ้นงานศพ
หรือถ้าบางคนจะหยิบนึกครึ้มหยิบมาคาดอีก
ในวันทำพิธี 4 อย่างข้างต้นก็ได้ไม่ผิดธรรเนียมแต่อย่างใด
ตอนหน้าจะเขียนเล่าเกี่ยวกับการคารวะศพของสมาคมหมู่บ้าน
สมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม และตระกูลเขยสะใภ้ให้ฟังกัน
อย่าเพิ่งเบื่อซะก่อนนะครับ
Create Date : 02 กรกฎาคม 2554
Last Update : 2 กรกฎาคม 2560 16:54:48 น.
24 comments
Counter : 8753 Pageviews.
Share
Tweet
ในรายละเอียด
มีรายละเอียดที่ย่อยลงไปอีกมากมายจริงๆนะครับพี่
รุ่นหลาน รุ่นลูก
ผมว่าหาคนจำได้ยากมากครับ
ขนาดที่บ้านวันไหว้
ยังเตรียมของกันไม่ค่อยครบเลยครับ
ก็น่าเสียดายนะครับ
วัฒนธรรมประเพณีย่อมมีเหตุผลที่จะมีสิ่งต่างๆ
เพื่อเซ่นไหว้ตามความเชื่อ
เช่นเดียวกับในงานพิธีศพ
ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปมากทีเดียวครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:39:49 น.
เคยเห็นคล้าย ๆ งานพ่อของเพื่อน เพื่อนเป็นคนจีนค่ะ
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:50:23 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:23:51 น.
นู๋แอนไม่ใจแข็งแล้วค่ะ เพราะลูกชายใจอ่อนยอมทานข้าวแต่โดยดี อิอิ
สวัสดียามสายค่ะ ขอให้มีความสุขกับสิ่งรอบตัวตลอดทั้งวันนะคะ ^^
อยู่ใกล้ แต่ กรงกั้น
โดย:
หัวใจแก้ว
วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:31:24 น.
มารับฝากบล็อกครับพี่พีร์
ภาพชุดนี้เป็นภาพแนวโลโม่
จากไอโฟนครับ
ผมไม่ได้แต่งภาพนะครับ
ถ่ายมาจากมือถือ
แล้วก็ย่อรูปอัพบล้อกเลยครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:41:35 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:26:59 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:47:18 น.
เป็นอัตลักษณ์ (เดี๋ยวนี้มักได้ยินคำนี้) ของคนแต่ละกลุ่มแต่ละเชื้อชาติ ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวเลยนะคะ
ให้อารมณ์เหมือนกำลังดู"พันแสงรุ้ง"เลยค่ะ
วันพระใหญ่ไปทำบุญที่ไหนหรือเปล่าคะ
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:29:14 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:07:08 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:02:44 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:26:29 น.
เชียงใหม่น่าอยู่ครับพี่พีร์
อากาศดี ดนตรีเพราะ อาหารอร่อยครับ 555
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:28:03 น.
พี่พีร์คะ สวัสดีช่วงอาหารเที่ยงค่ะ ขอให้อร่อยกับอาหารกลางวันนะคะ ^^
ปล.แองกัสสบายขึ้น แผลที่ขาเริ่มแห้งและบวมน้อยลงแล้วค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงหมามอนะคะ
โดย:
หัวใจแก้ว
วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:50:42 น.
ประเพณีการแต่งชุดขาวในงานศพ ที่บ้านผมชาวดำเนินฯ
คนจีนในแถบนั้นก็ใช้ชุดขาวเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีผ้าครอบศีรษะ
และไม่มีรายละเอียดเท่าการจัดแบบเวียตนามครับ
อ่านแล้วได้ทราบความเป็นมาทุกขั้นตอน การรักษาประเพณีดั้งเดิมยังคงสืบทอด
มาถึงทุกวันนี้ ลูกหลานเข้าใจและให้ความร่วมมือ เป็นภาพที่น่าภูมิใจครับ
โดย:
Insignia_Museum
วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:46:17 น.
สวัสดีครับพี่พีร์
พี่พีร์ครับ แสดงว่าที่ต้นผึ้ง หลานชายคนโตนี่แต่งตัวเหมือนชั้นลูกเลยเหรอครับ คือมัดผ้าขาวบนหัวแล้วก็ปล่อยให้ชายผ้ายาวลงมาด้านหลัง แทนที่จะรวบไว้ เพราะที่โพนบกรู้สึกว่าหลานชายคนโตจะใส่ชุดขาวแล้วรวบชายผ้าไว้เหมือนที่นาจอก จะเว้นก็แต่ในกรณีพ่อของหลานชายคนโตเสียชีวิตแล้ว ลูกชายคนโตถึงจะแต่งชุดแทนพ่อ อันนี้ที่บ้านต้นผึ้งปฏิบัติเหมือนกันมั้ยครับ
อันที่จริงผมว่านะ คนที่ตัดชุดไว้ทุกข์ขายอ่ะ น่าจะหารายได้ได้เยอะจากงานศพคนญวน เพราะๆ ปีหนึ่งๆ คนตายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่คนตัดเองถ้ารู้เรื่องธรรมเนียมอีกนิดก็คงจะดี เพราะชุดไว้ทุกข์ในงานศพของพ่อก็จะไม่เหมือนของแม่ คนขายน่าจะตัดไว้สองแบบให้เลือกซื้อจะสะดวกมากเลย เพราะงานศพพ่อชายเสื้อ ชายแขนเสื้อ ชายกางเกงจะปล่อยยาวไม่เย็บพับขึ้นมาเพื่อกันลุ่ย ส่วนกลางหลังก็จะมีเย็บกลีบชายผ้าออกมาข้างนอกแล้วมีผ้าสี่เหลี่ยมตัดเป็นริ้วๆ 3 ริ้วเย็บอยู่กลางหลัง ส่วนในงานศพแม่จะตรงข้ามกับงานศพพ่อทั้งหมด เพราะจะทำให้สังเกตได้ทันทีเลยว่าชุดที่ใส่ไว้ทุกข์นี้เป็นการไว้ทุกข์ให้พ่อหรือให้แม่
จะว่าไปคนที่รู้ธรรมเนียมจริงๆ ก้รุ่นปุ่รุ่นย่าที่กำลังจะล้มหายตายจากไป อีก 50 ปีข้างหน้าพอถึงรุ่นเราจะเป็นไงบ้างน้อ อยากเห็นเหมือนกันว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ^^
ราตรีสวัสครับพี่ ^^
ป.ล.ผมชื่อต้อมนะครับ จะได้เรียกสะดวกขึ้น ^^
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.62.23 วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:31:45 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:58:30 น.
@น้องต้อม
1. เรื่องรวบปลายผ้าขาวของหลานคนโต คราวนี้ก็มีถกเถียงกันหนักหน่วง เพราะคนแก่บางคนบอกว่าต้องรวบชายเพราะพ่อของหลานยังอยู่(ซึ่งพี่ก็เห็นด้วย)
..แต่สุดท้ายก็แพ้คนในตระกูลซึ่งเก๋า และเสียงดังกว่า
สรุปคือต้นผึ้งปฏิบัติเหมือนกันเรื่องที่ลูกต้องแต่งแทนผ้าถ้าพ่อตายไปก่อน
2.ชุดที่ซื้อมาดูเหมือนจะมีแบบเดียวคือไม่มีสามชายเย็บที่้หลัง เพียงแต่ปลาบแขนเสื้อ กางเกงไม่มีเย็บกันลุ่ยเท่านั้น
ตรงนี้เค้าคงไม่ถือมากแล้วครับที่ต้นผึ้ง แต่ที่นาจอกเค้ายังเย็บชุดกันเองก็เห็นแบบที่ว่าอย่างถูกต้องทุกงาน
3.เรื่องร้านที่ขายชุดไว้ทุกข์ไปถามอาคนที่ไปซื้อให้แล้วได้ความว่าเค้าขายที่ร้านผ้าใบ(จำซื้อร้านไม่ได้)ข้าง ๆ ร้านเหรียญมณีทางเข้าโรงหนังศรีเทพเก่า อะครับ
4.อย่าว่าแต่รุ่นเราเลยครับธรรมเนียมพวกนี้ เพราะตอนนี้พ่อของพี่ก็สั่งเอาไว้แล้วว่าไม่เอาแบบนี้ขอให้เผาไปเลย
ส่วนตัวพี่ก็คิดไว้ว่าคงเผาเหมือนกันจะได้ไม่ต้องยุ่งยาก
จะดีหน่อยก็ขอให้เขาเอารูปไปรวมกับบรรพบุรุษตอนไหว้ตรุษจีนแค่นั้นก็พอถมเถ
โดย:
peeradol33189
วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:35:19 น.
@น้องต้อม ต่ออีกหน่อยนะ
ชุดชายเค้าขายกัน 180.-/ชุด
ชุดหญิงเค้าขายกัน 250.-/ชุด
โดย:
peeradol33189
วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:40:30 น.
พี่พีร์ครับ ร้านเหรียบมณีอยู่ในตลาดนะครับ ถ้าแถวๆ ทางเข้าโรงหนังศรีเทพมีแต่ร้านเหรียญทองขายหมูยอ ร้านขายผ้าใบแถวนั้นก็มีแต่ร้านสมศักดิ์ประดับยนต์หรือเปล่าครับ เพราะร้านสมศักดิ์ก็ขายผ้าใบด้วยอ่ะครับ
ขอบคุณครับพี่พีร์ ที่มาตอบเม้น ไม่ทราบว่าตอนต่อไปใกล้วางแผงหรือยังครับ อยากอ่านซะแล้วสิ 5555
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.68.203 วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:44:43 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:6:08:18 น.
@น้องต้อม น่าจะเป็นร้านสมศักดิ์นั่นแระครับ...
ปล.ตอนต่อไปรอหน่อยนะครับ เขียนเสร็จแล้ว
แต่ขอคั่นด้วยเรื่องอื่นก่อน กลัวจะเน่าอ่ะ เขียนไว้นานแล้ว
โดย:
peeradol33189
วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:37:53 น.
ขออีกคำถามนะครับพี่ ^^
โลกศพของคุณปู่ซื้อมาจากเวียดนามใช่มั้ยครับ เพราะแปลกตามากๆ ไม่เคยเห็นที่นครพนมมาก่อน เพราะโลงศพส่วนใหญ่ที่บ้านเราใช้จะเป็นไม้ที่ทาด้วยแลคเกอร์ แปลกตามากเลยครับ
ขอบคุณครับ
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.62.23 วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:10:38 น.
@น้องต้อม
ซื้อจากวัดเวียตนามที่มุกดาหาร
ย่าเห็นเข้าก็ชอบจะซื้อไว้ล่วงหน้าอีกหนึ่ง
แต่พวกอา ๆ ผู้หญิงเค้ากลัวกันเลยไม่ได้ซื้อ
แต่ถ้าถามพี่นะ พี่ชอบแนว original มากกว่า
งานนี้เล่นเอาพี่ๆ สัปเหร่อบ่นกันอุบ เพราะมันหนักมากกก
และต้องลุ้นตอนดันเข้าไปในหลุม กล้วว่ามันจะสูงกว่ากรอบปูนที่ก่อไว้ล่วงหน้า
ไว้ตอนเตรียมสุสาน จะมีภาพให้ดูครับ
โดย:
peeradol33189
วันที่: 24 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:27:25 น.
ที่ท่าบ่อนะครับ
สมัยเดี่ยวนี้ไม่มีชุดแล้วครับ
มีแต่ผูกผ้า
และชั้นลูกชาย จะทำเหมือนกับที่นาจอกแต่ผ้าสีไข่นิดนึง
ส่วนลูกสาวจะทำเป็นหมวกแหลมเฉพาะตอนเคลื่อนศพ
ตอนอยู่บ้านที่ตั้งศพทำแบบลูกชายครับเพื่อความสะดวก
ชั้นเหลนที่ว่าไปแล้วที่ท่าบ่อจะใส่สีเหลืองครับ
โหลนถึงจะสีแดง
แต่เดี๋ยวนี้โหลนหายากมากๆ
โดย: บอส IP: 223.206.131.204 วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:17:58:26 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [
?
]
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Friends' blogs
i_am_np
นายแว่นธรรมดา
qu-up
กุมภีน
ไกลนั้น
กิ่งไม้ไทย
lazymetal
kruaun
รัชชี่
บ้าได้ถ้วย
ถั่วงอกน้อยค่ะ
มิสเตอร์ฮอง
ผู้หญิงชื่อส้ม
zerxiustor
อุ้มสี
กะว่าก๋า
tiensongsang
fondakelly
ชีวิตจริง
anchesa
เอื้องสามปอย
kun_isara
soponkub
สุริยาอัสดง
aoigata
nakornthong
วรบรรณ
may_intania
โนโบะ
mungkood
atomdekzaa
ziinnuf
SawasdeeKrab
p_tham
พ่อระนาด
Dr.Manta
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
Pheam
มัยดีนาห์
สีฟ้าใส
tuk-tuk@korat
Mega-Batt
ร่มไม้เย็น
สกุลเพชร
ไลเดเลีย
sdayoo
aston27
kimmybangkok
ppth
glindoy
mambococonut
iammac
Insignia_Museum
aimanun
newenter
hs2zfo
Webmaster - BlogGang
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มีรายละเอียดที่ย่อยลงไปอีกมากมายจริงๆนะครับพี่
รุ่นหลาน รุ่นลูก
ผมว่าหาคนจำได้ยากมากครับ
ขนาดที่บ้านวันไหว้
ยังเตรียมของกันไม่ค่อยครบเลยครับ
ก็น่าเสียดายนะครับ
วัฒนธรรมประเพณีย่อมมีเหตุผลที่จะมีสิ่งต่างๆ
เพื่อเซ่นไหว้ตามความเชื่อ
เช่นเดียวกับในงานพิธีศพ
ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปมากทีเดียวครับ