วันนี้ก็จะพาไปงาน Grand Opening ของร้านอาหาร The Hamlet ในซอยอารีย์ 3 กันนะคะ ซึ่งการไปครั้งนี้ก็เนื่องด้วยน้องเดียร์ (ซึ่งน่าจะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของร้านด้วยหละมั้งคะ) ส่งเมสเสจมาที่เพจชวนไปค่ะ จากนั้นเราก็ถามว่าจะให้ชวนบล็อกเกอร์ท่านอื่นไปด้วยมั้ย น้องบอกว่าเชิญได้เลย ก็เลยชวนท่านอื่นๆ ไปด้วยกันค่ะ ก็มีน้องชื่น น้องเหมียว และลุงอ้วนกินกะเที่ยวค่ะ ส่วนอ้นติดอีกงานหนึ่งเลยไม่ได้ไปด้วยกัน แหะๆ

วันนั้นเอารถไปนะคะ ซึ่งที่ร้านไม่มีที่จอดรถโดยตรงค่ะ ต้องจอดข้างทางในซอยสามนั่นแหละนะคะ เราไปถึงห้าโมงนิดๆ ยังพอมีแสงให้เก็บภาพค่ะ ก็ถ่ายรูปหน้าร้านมาก่อนเลยค่ะ จะเห็นว่าที่นี่เน้นเรื่องต้นไม้ สวน ดอกไม้นะคะ ที่ป้ายจะเขียนว่า The Hamlet Café Cuisine Garden (หาปุ่มสัญลักษณ์จุดกลางไม่เจอง่ะค่ะ แง) 

ติดกับร้านกาแฟจะเป็นสวนสไตล์อังกฤษค่ะ ซึ่งมีต้นไม้หลายตัวที่ไม่ค่อยได้เห็นที่สวนแห่งอื่นๆ ด้วยนะคะ (เจ้าของร้านนี้รับจัดสวนด้วยค่ะ ยังบอกเลยว่า ใครจะมาเซ้งต่อร้านอาหารก็ได้ เพราะตอนนี้เจ้าตัวอยากทำธุรกิจจัดสวนแทนแล้วค่ะ ใครสนใจก็ลองติดต่อดูนะคะ..เจ้าตัวย้ำว่าพูดจริงไม่ได้พูดเล่นด้วยนะเอ้า)

สวนสไตล์อังกฤษค่ะ สวยแปลกตาดีจังแฮะ นอกจากนั้นก็มีการจัดสวนในโถแก้ววางไว้ตามจุดต่างๆ เป็นระยะด้วยนะคะ 

ถัดไปจากโซนร้านกาแฟ จะเป็นร้านขายอาหารญี่ปุ่นชื่อว่า Onshitsu Denoyujo ซึ่งจะเป็นพวกไม้ๆ หน่อยค่ะ

จากนั้นก็จะเป็นโซนของร้านอาหารไทยค่ะ ข้างในก็จะตกแต่งอีกสไตล์เลย เป็นห้องแอร์แล้วค่ะ ชื่อ ไมตรี (ภาษาอังกฤษใช้ว่า My tree เก๋เนาะ) มีภาพวาดสวยๆ เต็มเลยค่ะ

ถัดไปด้านในสุดจะเป็นร้านอาหารอิตาเลียนค่ะ ชื่อ Amicizia ซึ่งชื่อร้านทั้งหมดจะแปลว่า มิตรไมตรีหมดเลยค่ะ ในนี้จะมีครัวเปิดด้วยนะคะ

จากนั้นก็เก็บบรรยากาศรอบๆ ร้านค่ะ วันนั้นจะมีการเซ็ตโต๊ะยาวๆ รายเรียงคดโค้งไปตามทางเดินหลักของร้านตามภาพนะคะ รวมทั้งมีการประดับประดาตกแต่งด้วยกล้วยไม้และอื่นๆ ค่ะ คุณป๊อป (แม็ค) เจ้าของบอกว่า วันนี้จัดในคอนเซปต์งานแต่งงานค่ะ พื้นที่ร้านทั้งหมดหนึ่งไร่ครึ่งน่ะนะ เรียกว่ามีบริเวณพอสมควรเลยค่ะ

พอเริ่มจะค่ำ ก็เริ่มมีวงดนตรีมาเล่นแล้วค่ะ เพลงสากลทั้งหมด นักร้องร้องเพลงเพราะมากเลยค่ะ ลองคลิกคลิปดูนะคะ

พอตกกลางคืน ของประดับที่อยู่บนโต๊ะก็สวยงามยิ่งขึ้นด้วยแสงไฟค่ะ ชอบจัง

ในงานจะมีไวน์เสิร์ฟเป็นสปาร์คลิ่งไวน์และไวน์แดงตามภาพนะคะ หรือจะสั่งเครื่องดื่มอื่นๆ จากร้านกาแฟมาก็ได้ค่ะ

ที่จริงมีไอศกรีมแสนอร่อยของร้านไวท์แรบบิดอารีย์ซอย 5 มาด้วยค่ะ เราได้ชิมไปสามรส รสที่อร่อยมากคือมะพร้าวกับช็อกโกแลตค่ะ แต่รสชาเย็นที่นี่ชาเข้มไปค่ะ รสไม่ค่อยกลมกล่อม แต่เห็นคุณฝนผู้จัดการร้านบอกว่า รสสตรอเบอรี่ก็อร่อยนะคะ แต่เราไม่ได้ชิม (แถมลืมถ่ายรูปไอติมมาอีก ถ่ายมาแต่นามบัตรร้าน) แต่กะว่าจะหาเวลาไปกินที่ร้านด้วยหละค่ะ เพราะติดใจ ไอติมมะพร้าว (ไม่ใช่กะทินะคะ) มีเนื้อมะพร้าวด้วยค่ะ อร่อย ช็อกโกแลตก็เข้มข้นหละ แต่เห็นว่าตอนนี้มีทั้งหมดตั้ง 12 รสชาติน่ะค่ะ เลยว่าจะลองไปชิมรสอื่นๆ เพิ่ม แต่ถ้าใครกินอาหารที่ร้านนี้ก็จะมีไอศกรีมยี่ห้อนี้ขายเป็นของหวานด้วยนะคะ ลองชิมดูนะคะ 

ส่วนอาหารที่เลี้ยงแขก วันนั้นก็มีทาปาสค่ะ ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟทำพิเศษสำหรับงานนี้ ไม่ได้มีในเมนูให้แขกสั่งที่ร้านอาหารนะคะ ซึ่งปรากฏว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ (เราไม่ได้ชิมเกี๊ยวซ่าอย่างเดียวนะคะ) รสชาติดีหมดเลย

ส่วนไลน์หลักวันนั้นก็มาจากสามครัวค่ะ มีผัดไทย ข้าวผัดปลาฮิเมจิ (อิชั้นจำชื่อถูกมั้ยน่ะ) และแองเจิ้ลแฮร์ค่ะ แต่เราไม่ได้ชิมเลยนะคะ เลยเม้นท์ไม่ได้ค่ะ แหะๆ

ไวน์ทั้งสองตัว โอเคนะคะ ไวน์แดงอร่อยดีค่ะ มีความซับซ้อนนิดๆ ด้วยค่ะ อร่อยดี