ศิลปะก่อให้เกิดสมาธิ มิตรภาพ และรอยยิ้ม
วันนี้อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เราสอนหนังสือแล้วไม่เครียด และมีสุขภาพจิตดี เพราะเด็กๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเด็กอยากเรียนหนังสือ จนแอบคิดว่าเวลาสี่ชั่วโมงมันผ่านไปเร็วจริงๆ
สืบเนื่องจากทางคณะพยายามเกณฑ์(แกมบีบบังคับ) เด็กจำนวนมากโดยเลือกจากเด็กห้องเรา (มีร้อยกว่าคน) ให้ไปเข้าต้อนรับปลัดกระทรวงกลาโหมที่มาโปรโมทโครงการทำความดีอะไรสักอย่าง (แต่ควรจะโปรโมททหารชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหมจะดีกว่า) เพื่อต้องการสร้างภาพให้ดูว่ามีนิสิตสนใจจำนวนมากโดยมีอธิการบดีมาเปิดงาน ตอนเที่ยงรองคณบดีโทรมาล๊อบบี้เราให้บอกเด็กที่เราจะสอนตอนบ่ายกว่าร้อยคนให้เข้าห้องประชุม แล้วจะเอาเจ้าหน้าที่ไปดักหน้าห้องเรียน เพื่อไม่ให้เด็กเข้าห้องเรียน มันเป็นวิธีการที่ทุเรศมาก แต่เราก็ไม่แคร์ พอเราเจอเด็กๆ ที่กำลังงงๆ กับวิธีการของเจ้าหน้าที่ที่มาดักรอ เราถามพวกเขาว่า อยากจะฟัง หรืออยากจะเรียน เด็กตอบโดยพร้อมเพรียงกันว่า อยากจะเรียน
เราบอกว่า งั้นครูให้เวลาครึ่งชั่วโมงนะ ไปร่วมกิจกรรมเสร็จแล้วช่วยกลับมาเข้าเรียนด้วย ครูจะรออยู่บนห้อง จากนั้นเราก็เดินไปทำธุระที่ค้างอยู่แป๊บหนึ่ง
ไม่นานเราขึ้นมาบนห้องอีกที เด็กนั่งเต็มห้องแล้ว เราถามว่า เสร็จแล้วเหรอ เด็กตอบว่า ไม่ได้เข้าครับ อ้าว แล้วได้ลงไปหรือเปล่า ไปครับ แต่ไปลงชื่อแล้วก็กลับขึ้นมา ไม่อยากเข้า เด็กๆ พากันตัดสินใจด้วยตนเอง เราถามอีกว่า แล้วเพื่อนคนอื่นๆ ล่ะ เขาก็ทำเหมือนผมนี่แหละครับ เออ เป็นลูกศิษย์เราต้องอย่างนี้สิ กบฏเหมือนกันเลย 555
ที่เล่ามานี้เพราะอยากให้รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมเราถึงรู้สึกว่าเด็กอยากเรียนกับเรา
เราเร่งสอนและให้ลงมือทำในทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ งานที่มอบหมายในวันนี้คือ สร้างสรรค์งานปะติด สิ่งที่เห็นคือ ภาพที่แต่ละคนนั่งหันหน้าเข้าหากันทำงานเป็นกลุ่ม แล้วปรึกษากัน แบ่งปันกัน เราเองก็เดินไปอธิบายแต่ละกลุ่มแต่ละคนตามที่ยกมือถาม หรือไปคุยไปถามไถ่เรื่องอื่นๆ บ้าง
บางกลุ่มนั่งกับพื้น เราก็นั่งยองไม่ได้อีก เข่าเสื่อม! แต่จะแสดงออกไม่ได้ว่าแก่ 555 เลยทำตัวเป็นกันเอง โดยการนั่งพื้นไปกับเด็กด้วยเลย นั่งมันทั้งกระโปรงนั่นแหละ โชคดีที่ใส่กระโปรงยาวมา เด็กบอกว่า ตามสบายเลยครับอาจารย์ นึกว่าอยู่บ้านละกัน
บางทีเรายังคิดเลยว่า เราอยากจะเรียนวิชาแบบนี้บ้างจัง ดูจะเพลินดี การทำงานศิลปะของเด็กๆ ในวันนี้ก่อให้เกิดสมาธิ มิตรภาพ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่เราแอบเข้าข้างตัวเองว่า นั่นคงเป็น ความสุข ของพวกเขากระมัง
Create Date : 16 กรกฎาคม 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2556 21:51:42 น. |
Counter : 1723 Pageviews. |
|
|