>

88. น้ำพริกกะปิแมงดา

พอดีอาทิตย์ที่แล้ว กินข้าวกลางวันกับพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ เรายกให้เป็นผู้เชียวชาญเรื่อง แมงดานา ไปแล้ว เพราะพี่เค้าเล่าให้ฟังว่า คลุกคลี กับแมงดามาตั้งแต่เด็ก เคยรับจ้างขัดตัวแมงดา และอะไรอีกหลายอย่าง และบรรยายการกินแมงดาตัวเมียที่ไม่มีกลิ่นหอมฉุน เราฟังแล้วอยากกินแบบตัวเมียมาก แต่พี่เค้าบอกว่าหาตัวเมียก็ยาก เพราะมีเป็น ฤดู ๆ ไป ตามท้องตลาดก็ไม่มีตัวเมียขายด้วย แม่ค้าเค้าเอาแต่ตัวผู้ไปดองขาย ตัวเมียจะ ขาย จ่าย แจก หมดในเวลาอันรวดเร็ว เพราะไม่มีกลิ่น จึงไม่เก็บไปดอง คะ

จุดประกายความอยาก มากมาย พี่เค้าเลย ขนแมงดามา 4 ตัว มาตำน้ำพริกกะปิแมงดาให้กิน มื้อกลางวันนี้เลยได้กินอาหารที่ถูกใจเหลือหลาย เรียกว่า เอาหมู เป็ด ไก่ อะไรมาแลกก็ไม่ยอม







ก่อนจะไปอร่อยกัน มาดูเกล็ดเล็ก ๆ เกี่ยวกับแมงดากันก่อน นะคะ




ชนิดของแมงดานา ว่ากันว่ามีอยู่ 3 ชนิด คือ แมงดาหม้อ แมงดาเหลืองหรือแมงดาทอง และแมงดาลาย โดยดูจากลักษณะภายนอก
แมงดาพันธุ์หม้อ ขอบปีกมีลายเหลืองทองยาวไม่ถึงหาง

แมงดาพันธุ์เหลืองหรือพันธุ์ทอง จะออกสีเหลืองทองทั้งตัวและนับว่าหายากที่สุด

แมงดาพันธุ์ลาย ขอบปีกจะออกลายสีเหลืองทองคล้ายกับพันธุ์หม้อ แต่ขอบปีกจะยาวจนถึงหาง และในตลาดที่เราเห็นกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะะช่วงหน้าฝนจะเป็นแมงดาพันธุ์ลายซะส่วนใหญ่

แมงดาที่ใช้ทำน้ำพริกแมงดา จะเป็นแมงดาตัวผู้ เพราะส่วนสำคัญจะอยู่ที่หางยาวแหลมคล้ายเดือย ส่วนนี้จะมีต่อมกลิ่นหอมฉุน และจะมีแต่เฉพาะตัวผู้เท่านั้น แมงดานาทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมีขนาดใกล้เคียงกันคือ ลักษณะลำตัวยาวรีเหมือนใบไม้ออกโทนสีน้ำตาล ยาวประมาณ 2-4 นิ้ว ข้อสังเกตคือ ตัวผู้ลำตัวจะกลมป้อม และเล็กกว่าตัวเมียนิดหน่อย ส่วยตัวเมียลำตัวจะออกแบนๆ ส่วนท้องใหญ่ กว้าง ไม่มีเดือยหาง

บางทีเราอาจเจอแม่ค้าเค้าหลอกขาย ถ้าดูไม่เป็น เมื่อหยิบขึ้นมาดมดูจะพบว่ามีกลิ่นฉุน ๆ ของแมงดา เราก็เข้าใจว่าใช้ได้แล้ว แต่นั่นแสดงว่าแม่ค้าเขาเหยาะกลิ่นแมงดานาเข้าไปที่ตัวเมียแล้ว เพราะว่าราคาแมงดาตัวผู้จะแพงกว่าแมงดาตัวเมีย
ถ้าเรากินน้ำพริกแมงดาแล้วรู้สึกซ่า ๆ ที่ลิ้น นั่นแสดงว่าเจอกับ ไม่ใช้แมงดาแท้ แต่เป็นกลิ่นแมงดา คะ (อันนี้พี่เค้าบอกมา) เมื่อก่อนเราก็เป็นคนที่เลือกซื้อแมงดาไม่เป็นเหมือนกัน แต่ตอนนี้คิดว่าได้ความรู้จากพี่เค้า คงเลือกเองได้บ้างแล้ว







เมนูสำหรับ แมงดาตัวเมีย เอาชุบแป้งทอด เอาหมูกระเทียมพริกไทยยัดใส่ตัวแมงดาแล้วทอดกรอบ หรือ ทำแกงคั่วแมงดานา

ตัวผู้มีกลิ่นหอมทำให้เพิ่มรสชาติอาหาร นำมาทำน้ำพริกแมงดา แจ่วแมงดานา น้ำพริกปลาร้า น้ำปลาแมงดา

หาความรู้กันแล้ว ก็ลงมือตำน้ำพริกกันดีกว่า ชักหิววววววว แล้ว ละ


ส่วนผสม 1 ถ้วย (ใหญ่ ๆ )

แมงดาดอง 2 ตัว
กะปิ แท้ อย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งอย่างดี 15 ตัว
กระเทียม 20 กลีบ
หอมแดง 4 หัว
พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
มะนาว 3 ลูก
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 1/ 2 ช้อนโต๊ะ



เครื่องแกล้ม มีผักสด ๆ เช่น ใบบัวบก มะเขือเปราะ ถั่วพู แตงกวา กระถิน ลูกกระเจี๊ยบ ถั่วฝักยาว ฯลฯ




เครื่องเคียง มีปลาทูทอด ไข่ต้ม กุนเชียง ฯลฯ

วิธีทำ

ปอกเปลือก หอมแดง กระเทียม นำไปล้าง ทั้ง มะนาว พริกขี้หนู ให้สะอาด



กุ้งแห้งอย่างดี



กะปิระนองแท้อย่างดี



มะนาวผ่าซีกเตรียมไว้



ล้างแมงดานา ให้สะอาด แกะเอาปีก ปลายขา หัว ตา ทิ้งไป เอาแต่ส่วนเนื้อ ๆ กับขาที่เป็นปล้อง ๆ ใส่ครก



ตำให้ละเอียด (ได้กลิ่นหอมของแมงดามาเลยคะ)



ตามด้วย กระเทียม หอม พริก กุ้งแห้ง ตำให้ละเอียด หรือหยาบ นิด ๆ ตามต้องการ





ใส่กะปิ เราใช้กะปิ อย่างดี จากระนอง สีสวย หอมมาก ๆ และไม่เค็มเกินไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน






ใส่น้ำตาลปิ๊ป บด ๆ บี้ ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง



ตามด้วย น้ำปลา มะนาว คลุกให้เข้ากัน



ตักใส่ถ้วย ชิมรสชาติ และปรุงเพิ่มตามต้องการ ของเราชอบรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนำ คะ





โรยหน้าด้วยกุ้งแห้ง เพิ่มความงาม

เสร็จแล้ว ทานกับผักสด ที่ล้างสะอาด และเครื่องเคียงอื่น ๆ




มื้อกลางวันนี้ ทานกันหลาย ๆ คน อร่อยจนหม้อข้าวแทบแตก เหอ เหอ ๆๆๆๆ เช็ดถ้วยน้ำพริกกันเลยคะ



ติดใจนัดกันอีกสองวันจะทำใหม่ ครั้งนี้ ทำถ้วยใหญ่กว่าเดิม ใช้แมงดา 5- 6 ตัว วงใหญ่ คะ




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2554
5 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2554 21:36:13 น.
Counter : 14300 Pageviews.

 

เห็นแล้วกลืนน้ำลายอึกๆ ขอเก็บสูตรไว้ทำบ้างนะค่ะ

 

โดย: ปลาร้าจิ๋ว IP: 14.207.166.100 26 กรกฎาคม 2554 20:59:47 น.  

 

ไม่ได้กินเจ้าตัวนี้มานานแล้วคราบบบ ขอชิมหน่อยนะคราบบบ

 

โดย: ทนายอ้วน 27 กรกฎาคม 2554 5:43:45 น.  

 

หอมๆๆ หอมมาชนจมูกเลยค่ะ

น่าทานจังเลย น้ำพริกกะปิแมงดาถ้วยนี้

 

โดย: ::ชีสเค้ก_ฟองเบียร์:: 27 กรกฎาคม 2554 19:14:51 น.  

 

เห็นแล้วก็หิวข้าวขึ้นมาเลย น่าทานมาก มีผักหลายอย่าง อยากได้ข้าวสวยสักจาน

 

โดย: tid IP: 223.207.86.203 24 ตุลาคม 2554 12:11:57 น.  

 

ขอบคุณสูตรนะคะ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 19 กุมภาพันธ์ 2563 12:14:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kuky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 446 คน [?]








...บ้านใบตอง ยินดีต้อนรับ...

เปิดบล็อกเมื่อ 29 กันยายน 2551...

บ้านหลังนี้มีน้ำใจให้เสมอ สร้างไว้สำหรับเก็บข้อมูลการทำอาหารและเรื่องราวต่าง ๆ บล็อกอาจไม่สวย ไม่งาม เจ้าของบล็อก ต้องทำทั้งงานราษฏร์ งานหลวง งานบ้าน เลยตบแต่งเท่าที่เวลาจะอำนวย คะ



บล็อกนี้เน้นทำอาหารง่าย ๆ ดัดแปลงวัตถุดิบ และใช้อุปกรณ์ทำครัว แบบง่าย ๆ ของเก่าของใหม่ผสมกัน เป็นอีกหนึ่งเมนู



เจ้าของบล็อก...อายุอานามก็..เดินขึ้นเกือบกลางสะพานพระราม 4 แล้ว จะเรียกพี่..เรียกน้อง..เรียกน้า..เรียกป้า..หรือเรียกแม่ใบตอง...ก็ยินดีต้อนรับคะ




.





บ้านใบตอง | บ้านหลังเล็ก ๆ ที่อยากให้แวะมาคะ


Kook Lukkana | ความสุขเล็ก ๆ ที่ได้แบ่งปัน



.









New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kuky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.