ผกากรอง ไม้ดอกวัชพืช ที่เป็นดอกไม้ในดวงใจ ถึงจะไม่หอม แต่มีเสน่ห์ที่สีสันอย่างแรก
เรามาทำความรู้จักดอกผกากรองกันคะ ผกากรอง เป็นไม้ ดอกไม้ประดับที่มีสีสันสวยงาม นิยมนำไปตกแต่งสถานที่เพราะ
สีสันอันหลากหลายที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้พบเห็น ซึ่งเป็นคุณสมบัติ เด่นของไม่ดอกชนิดนี้
และในขณะเดียวกันผกากรองก็ยังถูกจัดว่าเป็นวัชพืชร้าย แรงที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ที่หาวิธีกำจัดให้สิ้นได้โดยยาก ทั้งยังมี สารพิษร้ายแรงที่หากสัตว์ประเภทแพะและแกะกินเข้าไปในปริมาณมาก ก็จะทำให้ตาย ได้ทันที
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : เป็นไม้พุ่มที่พบทั่วไปในบ้านเรา เป็นพืชคลุมดิน ลำต้นเป็นพุ่มหรือไม้พุ่มกึ่งเลื้อย
แตกกิ่งทอดเลื้อยได้ไกล 1-2 เมตร ใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบรูปไข่ขอบใบจักเล็กน้อย ผิวใบจะมีขนอยู่ ทำให้รู้สึกสาก ๆ
เมื่อจับต้อง ผกากรองนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ โดยอาจปลูกเป็นแถวหรืออาจปลูกเป็นกลุ่มให้เกิดเป็นพุ่มก็ได้
ดอกของ ผกากรอง มีลักษณะสีสันที่สวยงามมาก มีหลายสีตั้งแต่เหลือง ขาว ส้ม ชมพู ม่วงอมชมพู
หรือมีสองสีในช่อดอกเดียวกัน มีกลิ่นฉุน ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง ช่อละ 20-25 ดอก
ดอกย่อยรูปกรวย โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 4 แฉก
ทยอยบานจากด้านนอกเข้าไปด้านในช่อดอก ช่อดอกบานเต็มที่กว้าง 3-4 เซนติเมตร
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่ถึงรูปใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-6 เซนติเมตร
ปลายใบมนกึ่งแหลม โคนใบมน ขอบใบจักซี่ฟัน ผิวใบด้านบนสีเขียวเช้ม หนา มีขนสั้นสากมือ
ผล (Fruit) ผลสดมีเนื้อ ทรงกลม สีเขียว เมื่อแก่สีม่วงดำ มีเมล็ดจำนวนมาก
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) ดอกสวย มีสีสัน ปลูกเป็นพุ่มคลุมดิน ริมถนน ทางเดิน ริมทะเล ริมน้ำตก ลำธาร ทรงพุ่มตัดแต่งได้
การใช้ประโยชน์จากต้นผกากรอง :
- เป็นไม้ประดับ เพราะดอกสวยงามและออกดอกดกตลอดปี ใช้ตกแต่งเป็นแนวรั้วได้อย่างดี
- ดอกใช้ห้ามเลือด, ใบ ดอก ราก ใช้แก้อักเสบ
- ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช
สารมีพิษและสรรพคุณ : ที่ใบมีสารพิษคือแลนทานิน (Lantanin) เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงมาก
โดยเฉพาะพวกแพะและแกะ พิษของผกากรองจะมีผลต่อระบบประสาทและจะส่งผลต่อตับ เมื่อสัตว์เลี้ยงกินเข้าไปจำนวนมากจะทำให้ตายได้
ส่วนที่นำมาใช้ทำยา คือ ใบ ดอก ราก โดยเก็บได้ตลอดปี จะใช้สดหรือตากแห้งก็ได้
"ใบ" มีรสขม เย็น ใช้แก้บวม ขับลม แก้แผลผดผื่นคันที่เกิดจากความชื้นหรือหิด ซึ่งเตรียมยาดังนี้นำใบสด10-15 กรัม
มาตำและพอกบริเวณที่เป็น หรือ นำใบสดมาต้มแล้วนำน้ำที่ได้มาชะล้างบริเวณที่เป็น
"ดอก" มีรสจืดชุ่ม แต่ให้ความรู้สึกเย็น ใช้แก้อักเสบ ห้ามเลือด แก้วัณโรค อาเจียนเป็นเลือด แก้ปวดท้องอาเจียน
การใช้ ผกากรองรักษาโรค ก็มีข้อควรระวัง คือ หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทาน
ส่วนที่ห้ามรับประทาน สำหรับทุกคนเพราะจะเกิดอันตรายจากพิษ คือ ผลแก่แต่ยังไม่สุกเนื่องจากสารกลุ่ม
triterpenoid ได้แก่ lantadene A และ lantadene B ซึ่งรับประทานเมล็ดเข้าไปจะมีอาการ
เพลีย มึนงง ตัวเขียว ท้องเดิน หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด
และในขณะเดียวกันผกากรองก็ยังถูกจัดว่าเป็นวัชพืชร้าย แรงที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ที่หาวิธีกำจัดให้สิ้นได้โดยยาก ทั้งยังมี สารพิษร้ายแรงที่หากสัตว์ประเภทแพะและแกะกินเข้าไปในปริมาณมาก ก็จะทำให้ตาย ได้ทันที
การดูแลรักษา:
แสง ต้องการแสงแดดจัด
น้ำ ต้องการน้ำน้อย
ดิน สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิดแต่ดินที่เหมาะคือดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี
ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบริเวณโคนต้น
การขยายพันธ์ : โดยการเพาะเมล็ดและปักชำ (ส่วนใหญ่แล้วนิยมการปักชำเพราะสะดวกและรวดเร็วกว่า)
โรคและแมลง : ไม่ค่อยพบโรคและแมลงรบกวนเท่าไหร่
ต้นผกากรอง สามารถแก้ผื่นคันที่เกิดจากความชื้นและรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก โดยเตรียมยาดังนี้
ถ้าเป็นยารับประทานเพื่อรักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด แก้วัณโรค แก้ปวดท้องอาเจียน
ให้ใช้ดอกสด 10-15 ช่อ หรือ ดอกแห้ง 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม จนกว่าอาการจะดีขึ้น
ถ้าใช้รักษารอยฟกช้ำหรือผดผื่น ให้นำดอกสดมาตำและพอกบริเวณที่เป็น "ราก"
ใช้แก้หวัด ปวดศีรษะ ไข้สูง ปวดฟัน คางทูม รอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระแทก โดยถ้าใช้รักษาอาการไข้ คางทูม ให้ใช้ราก
30-60กรัม ต้มน้ำดื่ม และถ้าใช้รักษาอาการปวดฟัน ใช้รากสด 30 กรัมกับเกลือจืด 30 กรัม ต้มน้ำบ้วนปาก
ผกากรอง มีหลากสีหลายพันธ์ ทั้งแบบเลื้อยและแบบยืนต้น