X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
ข้อมูล:หนังมีความยาว 104 นาที / กำกับโดย Brett Ratner / หนังได้รับเรท PG-13 / ใน IMDB.com ให้คะแนนเรื่องนี้ 7.2/10 ส่วนใน //www.rottentomatoes.com ให้เรื่องนี้ Rotten ด้วยคะแนน 55%
... X-Men อาจโชคดีที่ไม่ต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงในสังคม สามารถใช้ชีวิตเดินไปมาบนถนนได้เหมือนคนธรรมดาสามัญ แต่พวกเขาก็มีชะตากรรมที่น่าเศร้าต่างไปจากเพื่อนฮีโร่คนอื่นๆ เมื่อพลังวิเศษของพวกเขา ไม่ได้ช่วยให้พวกเขามีบทบาทเป็นผู้กอบกู้โลก หรือ ใช้ต่อกรกับเหล่าร้าย สำหรับ X-men ความแตกต่างของพวกเขาบนโลกใบนี้ไม่ได้ทำให้เขาเป็นฮีโร่ แต่มันกลับเป็น ความกลายพันธุ์ หรือ ความแปลกแยกในสังคม ทำให้เขาต้องกลายเป็นเหมือนคนนอก เป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม และ ถูกมองจากคนธรรมดาด้วยสายตาที่มีความหวาดกลัว หวาดระแวง และ ไม่ไว้วางใจ
หากมองในแง่มุมนี้ เราก็จะพบว่า X-Men ก็ไม่ต่างอะไรจาก ชาวรักร่วมเพศที่เติบโตขึ้นมาในสังคมที่เป็น homophobia ไม่ต่างอะไรจาก การเป็นคนผิวดำที่อยู่ในชุมชนเหยียดสีผิว ไม่ต่างอะไรจากการเป็นคนอาหรับในสังคมที่หวาดกลัวภาวะการก่อร้าย ฯลฯ
... ใน X-Men: The Last Stand ความแตกต่างของพวกเขา ถูกหยิบยกขึ้นมาว่าเป็นเหมือนโรคร้าย ที่ต้องใช้ยาบำบัด โดยลืมไปว่า ความแตกต่าง ( mutant / homosexual / คนดำ ฯลฯ) ไม่ใช่ ความผิดปกติที่ต้องรักษา
การบำบัดรักษา ไม่ได้มาจากความคิดของเหล่า mutant แต่กลับเป็น มนุษย์ ที่พยายามทดลองค้นคว้าและดิ้นรนจะมารักษาพวกเขา มันไม่ใช่ความต้องการของ mutant แต่เป็นความต้องการของ มนุษย์ธรรมดา และ หากถามว่า อะไรซ่อนอยู่ในใจ(hidden agenda) ของกลุ่มคนที่คิดยารักษาขึ้นมา คงเดาได้ไม่ยากว่า มันมาจาก อคติในใจ
พ่อของ Angel เป็น ตัวแทนที่ดีของคนกลุ่มนี้ เพราะเขาเองคือคนที่อยากให้ลูกรักษา โดยไม่คำนึงว่ามันเป็นความต้องการของลูกหรือไม่ คนเป็นพ่ออาจรู้สึกอับอาย เสื่อมเกียรติ จนไม่อาจยอมรับลูกตัวเองที่มีความแตกต่างผิดแผกออกไป
พ่อของ Angel ไม่ต่างอะไรกับ แม่ของ Bree Osbourne ชายหนุ่มผู้มีความเป็นหญิงอยู่เต็มร้อยภายในตัว จากหนังเรื่อง Transamerica ผู้ปกครองของทั้งสองคนไม่สามารถยอมรับลูกตัวเองได้เพราะมีอคติกับสิ่งที่ลูกคิดและลูกเป็น (mutant / transexuality) และ พวกเขาก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงให้ลูกเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งที่มันไม่ใช่สิ่งที่ลูกปรารถนา
ปีกของ Angel ก็เหมือนกับ ความเป็นเพศหญิงของ Bree Osbourne ใน Transamerica ที่ถูกกีดกั้น จากอคติทางสังคมและจากครอบครัว สิ่งที่ Angel ต้องการ คือ ชีวิตที่เขาจะบินได้อย่างมีอิสรภาพ การบินที่ไม่ได้แค่หมายถึง การล่องลอยบนฟากฟ้า แต่ หมายถึง การมีชีวิตอยู่ในสังคมโดยได้กับการยอมรับและมีสิทธิเท่าเทียม
.. ไม่ใช่แค่ ความอับอาย แต่มนุษย์ยังมีอคติที่ก่อตัวจาก ความรังเกียจ เหยียดหยาม ดูถูก และ หวาดกลัว จึงอาจจะกล่าวได้ว่า แผนการณ์ที่จะนำยามาล้างบางบำบัด mutant มันก็เป็นความหวาดกลัวเดียวกันกับที่ ฮิตเลอร์คิดจะกวาดล้างชาวยิวให้หมดโลก การพยายามจะเอายามารักษา ไม่ต่างอะไรกับ การพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่มีเคยมีมาในประวัติศาสตร์
... สุดท้ายแล้ว ความไม่สามารถยอมรับความแตกต่างนี้เอง จึงนำไปสู่ "ความหวาดกลัว" มนุษย์กลัวการถูกคุกคามจาก mutant เฉกเช่นเดียวกับ mutant เองก็กลัวการถูกทำลายล้าง ความหวาดกลัว นำพวกเข้าเข้าสู่สมรภูมิรบที่ทุกฝ่ายต่างสูญเสีย ความแตกต่างไม่ใช่แค่ก่อสงครามระหว่างมนุษย์กับ mutant แม้แต่พวกเดียวกันอย่าง mutant กับ mutant ที่มีความคิดนโยบายต่างกันก็ยังต้องมาเข่นฆ่ากัน ก็เพียงเพราะไม่สามารถเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่างของกันและกัน
... สำหรับคนดู x-men ย่อมอยากเห็นว่า มีตัวละครใหม่ๆตัวไหนบ้างที่ได้มาโชว์ความสามารถพิเศษ ในภาคนี้มีการเสริมทัพมากหน้าหลายตา แต่ว่าตัวละครที่โผล่มามีบทบาทเด่นในหนังจริงๆ มีแค่
Beast บุรุษขนสีฟ้าผู้มีตำแหน่งสำคัญในฝ่ายรัฐบาล
และ
Kitty Pride ที่มามีบทบาทมากขึ้นในการมาเป็นกิ๊กใหม่ของ iceman
ในขณะที่หน้าใหม่ส่วนที่เหลือขนทัพมาเป็นจำนวนมาก แต่มีบทบาทเพียงเพื่อแค่มาโชว์ตัว เช่น Angel ที่แค่โผล่มาบอกว่า ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ >> ฉันจะบิน แล้วไปจบลงที่ บินมารับพ่อ , Juggernaut ( แฟนบอลจับตาดูให้ดีเพราะนี่คืออดีตนักเตะจอมซ่า Vinnie Jones), Multiple Man มาเพื่อหลอกล่อ 1 ฉากแล้วจากไป และ อื่นๆอีกเช่น Colossus , Sentinel , Psylocke , Callisto ฯลฯ
การที่ตัวละครหน้าใหม่หลายคนได้โผล่มาแค่ไม่กี่นาทีก็น่าเห็นใจ แต่เหลียวมาดูคนเก่าๆเองก็ใช่ว่าจะมีชีวิตอยู่ยืนยาว เพราะในภาคนี้คนเขียนบทใจกล้าถอดตัวละครออกไปจากหนัง ด้วยการฆ่าตัวละครสำคัญๆให้ตายลงได้อย่างไร้เยื่อใย หรือ หากไม่ตายก็ถูกถอดสถานภาพความ mutant ลงกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา ซึ่งความเลือดเย็นของคนเขียนบทนี้มีผลดีต่อตัวหนังตรงที่ว่า มันทำให้สถานการณ์ในหนังบีบคั้นกดดันมากขึ้นและมันทำให้หนังไม่ได้มีตอนจบแบบให้เราเดาได้ง่ายจนเกินไป
Cyclops & Storm Cyclops ก็ยังคงไม่ได้เป็นตัวเอกเหมือนที่ผ่านๆมาเหมือนในการ์ตูน แถมยังดูทรุดโทรมและแทบจะไม่ได้ใช้พลังอะไรในภาคนี้ ใครเป็นแฟน Cyclops ต้องเผื่อทำใจผิดหวังกับบทบาทที่โผล่มาน้อยกว่าตัวละครใหม่ๆเสียด้วยซ้ำ
Halle Berry ให้สัมภาษณ์ว่าในภาคนี้เธอมีบทบาทมากยิ่งขึ้น แต่ดูๆแล้ว บท Storm ของเธอก็ยังดูเป็นบทสมทบที่เด่นน้อยสุดในบรรดาแกนนำ แว่วมาว่า ในภาคหน้าหากยังมีตัวละครนี้อีก เราจะไม่ได้เห็นเธอในบทนี้อีกแล้ว
Pyro & Iceman คู่หูดูโอ น้ำ-ไฟ สะท้านใจสาว มีบทบาทมากขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกว่าทั้งคู่ไม่สามารถแสดงความเด่นหรือความสามารถทางด้านการแสดงออกมาได้ดีพอ เมื่อต้องมาเดินชนไหล่กับนักแสดงยอดฝีมือมากหน้าหลายตาในเรื่อง ทั้งคู่จึงมีดีแค่ปล่อยไฟกับพ่นน้ำแข็งเท่านั้น
Mystique ด้วยชะตากรรมอันอาภัพแต่ภาคนี้เราจะได้เห็นเธอเป็น x women กันเสียที Rebecca Romijn หุ่นดีและสวยมากในภาคนี้
Rogue ในขณะที่ใครๆต่างก็หวาดกลัวและต่อต้านการใช้ยา ดูเหมือนว่า Rogue(Anna Paquin) อาจจะดูเป็นตัวละครที่ผ่าเหล่าผ่ากอ และ ดูอ่อนแอ เมื่อเธอตัดสินใจยอมไปรับยาเพื่อให้ตัวเองหมดสภาพจากการกลายเป็น mutant เพียงเพราะว่า ความรัก เธอเป็นตัวละครหนึ่งที่การมีพลังพิเศษที่มุมหนึ่งใครมองก็ดูเหมือนว่าจะดี แต่ในมุมกลับกันมันกลับทำลายชีวิตเธอให้ต้องตกอยู่ในชะตากรรมไม่ต่างอะไรไปจาก คนพิการ
ใครเลยจะอยากเกิดมาตาบอดมองไม่เห็นคนที่ตัวเองรัก ใครเลยจะอยากเกิดมาแขนพิการไม่สามารถโอบกอดคนรักตัวเอง เช่นเดียวกัน Rogue ที่ชีวิตเธอไม่สามารถจะสัมผัสความรักความอบอุ่นจากคนรักได้ ดังนั้นสิ่งที่เธอเลือกคงไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นหนึ่งในการต่อสู้เพื่อเอาชนะโชคชะตาที่ถูกกำหนดมาของตัวเอง เธอพยายามที่จะสร้างทางเลือกของชีวิตให้กับตัวเอง
Wolverine ทักเธอก่อนออกจากโรงเรียนเพื่อไปเปลี่ยนแปลงตัวเองว่า การตัดสินใจครั้งนี้ขอให้ตัดสินใจเพราะตัวเธอไม่ใช่เพราะคนอื่น
คนเรามักคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อคนอื่นอยู่เนืองๆ เรามีชีวิตให้คนอื่นมากจนเกินไป จนเมื่อใครบางคนจากเราไป เราจึงลืมการใช้ชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง
Xavier & Magneto
สองสหายเก่าที่เคยมีอุดมการณ์ร่วมกันแต่สุดท้ายต้องแยกย้ายตามนโยบายตัวเอง อย่าง Magneto (Ian McKellen) Xavier (Patrick Stewart) เป็นการคัดเลือกตัวละครที่เหมาะสมอย่างยิ่ง สองแกนนำของสองฟากฝั่งแม้จะดูว่าเดินเกมส์ต่างนโยบายแต่ทั้งคู่ก็ดูมีความผูกพันมีเยื่อใยมิตรภาพต่อกัน และ ในภาคนี้เราจะเห็นเทคโนโลยีของโลกเซลลูลอยด์ที่บันดาลให้ ความหนุ่มความเด้งปรากฎบนใบหน้าของทั้งคู่ในฉากเปิดเรื่อง ที่ย้อนความไปหลายสิบปีก่อนตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนกัน
Wolverine ตัวละครหลักสำคัญในหนังยังคงเป็น Wolverine ซึ่งก็คงเป็นเพราะคาแรกเตอร์ตัวละครที่หนังสามารถเล่นกับฉากแอคชั่นได้สนุกกว่า Cyclops บวกกับเสน่ห์แบบแมนๆของ Hugh Jackman จนทำให้เขาสามารถสร้างแฟรนไชส์หนังเป็นของตัวเองได้ โดยหนังที่จะสร้างออกมาก็คาดกันว่าจะเป็นชื่อ Wolverine ในภาคนี้เขาเองต้องมามีบทบาทมากขึ้น จากเดิมที่เป็นเหมือนคนนอกแต่ในภาคนี้เขาเป็นคนในและเป็นผู้นำของทีม X men อย่างเต็มตัว
Jean Grey / Dark phoenix ถึง Wolverine จะเป็นตัวเอก แต่ นักแสดงที่เป็นจุดโฟกัสของผมและคิดว่าเธอ x สมกับ x men มาตั้งแต่ภาคแรกกลับเป็น Jean Grey และดีใจเป็นพิเศษเมื่อภาคนี้เธอได้มีบทบาทมากขึ้นจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของเรื่อง กับการถือกำเนิดใหม่ เป็น Dark phoenix
การกำเนิดของ Dark phoenix นี่เองเป็นปมทางจิตวิทยาที่หนังใส่เข้ามานอกเหนือไปจาก มุมมองความแตกต่างและอคติทางชาติพันธุ์ที่กล่าวไว้ตอนต้น หนังพูดย้ำถึง จิตใต้สำนึกและจิตสำนึกผ่านปากของ Charles Xavier สองครั้ง โดยครั้งหนึ่งเขาพูดสอนนักเรียนเกี่ยวกับคนไข้คนหนึ่งที่สูญเสียสมองส่วนหน้าไป และ อีกครั้งคือการพูดโยงใยไปถึง Jean Grey หรือ Dark phoenix
Jean Grey เป็นเหมือนร่างหนึ่งของเธอที่สามารถควบคุม แรงขับ หรือในทางทฤษฎีจิตวิทยาของ Freud เรียกว่า drive ในตัวมนุษย์ และ Dark phoenix คือ การปลดปล่อยจิตใต้สำนึกให้ออกมาโลดแล่นใช้ความต้องการอย่างไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ
เมื่อเธอกลับมาครั้งนี้เราจึงเห็น ความรุนแรงในการทำลายล้างตามอารมณ์โกรธโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด ไม่คิดว่าคนที่เธอฆ่าจะเป็นใคร(aggressive drive) และ การกระโดดเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงวูฟเวอรีนแสดงถึงแรงขับทางเพศที่รุนแรงมากขึ้น(sexual drive)โดยเธอไม่คิดจะควบคุมเหมือนที่ผ่านๆมา
การมีตัวตนของ Jean Grey ก็เป็นการมีสองบุคลิกไม่ต่างจาก ตัวละครอย่าง Jekyll and Hyde และ จะว่าไป มันก็ไม่ต่างจากเราๆทุกคนที่ย่อมต้องมี drive แต่เราจะบริหารจัดการมันได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ เหมือนกับคำถามที่ Charles Xavier ถาม Jean Grey ถึงพลังในตัวเธอว่า
เราเองจะเป็นคนคุมพลังเหล่านี้หรือปล่อยให้พลังนี้ควบคุมเรา
...พลังที่เขาพูดถึงมันก็มีความหมายถึง drive ของมนุษย์เราดีๆนี่เอง หากเรามีความปรารถนาที่มากมายอยู่ภายใน เราจะปล่อยให้แรงปรารถนานั้นคุมเรา หรือไม่ ตัวอย่างของคนที่ปล่อยให้ ความปรารถนาหรือแรงขับมีอิทธิพลเหนือชีวิตก็เช่น หลายคนที่ชีวิตจมจ่อมอยู่กับความรักแบบไม่ลืมหูลืมตา บางคนที่ผิดลูกผิดเมียชู้สาวเพราะกิเลสตัณหาที่ไม่อาจห้ามใจ หลายชีวิตที่หวังความก้าวหน้าในวิชาชีพจนต้องสูญเสียชีวิตส่วนตัวและคนรอบข้างไป หรือ เราจะเลือกควบคุมมันไว้ ปล่อยให้มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต
ความหมายของ พลัง ไม่ได้หมายถึงแค่ แรงขับในความหมายทางจิตวิทยา แต่มันยังหมายถึง อำนาจในความหมายทางสังคมวิทยา หากเมื่อใดก็ตามที่เรามีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เราจะเลือกใช้มันอย่างเหมาะสมสร้างความดีให้กับสังคม ให้กับประเทศ หรือ เราจะปล่อยให้พลังอำนาจควบคุมเราและหลงระเริงไปกับมันในการใช้อำนาจ หาผลประโยชน์ใส่ตัวเป็นคนสองหน้า หน้าหนึ่งหลอกประชาชนว่ารักชาติ แต่อีกหนึ่งหน้ากลับใช้อำนาจเผาผลาญเงินงบประมาณอย่างเพลินมือ
จุดร่วมที่แข็งแกร่งของไตรภาค X men คือ บทภาพยนตร์ สองภาคก่อนหน้านี้มีบทหนังที่แข็งแรงและแน่นปึ้ก มีทั้งสาระและความสนุกสนาน มีความจริงจังในตัวไม่ต่างอะไรจากหนังดราม่าดีๆ ที่สะท้อนแง่มุมทางสังคม มีปูมหลังของตัวละคร มีวิสัยทัศน์การมองเรื่องราว ต้องชมคนเขียนบทที่สามารถดัดแปลงจากการ์ตูนหลายเล่ม หลายตัวละคร หลายตอนที่ไม่ต่อเนื่องกัน ให้มาอยู่ในหนังสองชั่วโมงได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ การสร้างขบวนการฮีโร่มันเป็นโจทย์ที่น่าจะยากกว่าการสร้างหนังฮีโร่เดี่ยวๆอย่าง Spider man / Batman เพราะหนังต้องกระจายความสำคัญให้กับตัวละครจำนวนมาก ซึ่งทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็ทำได้ดี
ในภาคนี้ ประเด็น ความเป็นคนนอก และ ชนกลุ่มน้อย ยังคงถูกนำมาเล่าต่อเนื่องจากสองภาคก่อน การเพิ่มพล็อต ยา + การรักษา เป็นพล็อตที่ฉลาดและเฉียบคมอย่างยิ่งในการแตกหน่อเนื้อหามาจากสองภาคก่อน มีการแตกประเด็นอีกหลายๆอย่างที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าภาคนี้น่าจะมีมุมมองและสาระมากกว่าในสองภาคก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ น่าเสียดายที่คนดูคงไม่สามารถได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวมุมมองดีๆของหนัง เพราะเวลาของหนังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว บวกกับการตัดต่อแบบฉับไวเน้นฉากแอคชั่นมันส์ๆ จนประเด็นย่อยๆที่หนังเปิดไว้ไม่ได้ถูกนำมาย่อยต่อ
หนังไม่มีเวลาให้เราได้มาอ้อยอิ่งกับชะตากรรมของตัวละครหรือขบคิดข้อคิดที่หนังมีอยู่ในมือ แถมหนังยังจบภายในเวลาที่ไม่ถึงสองชั่วโมง ส่งผลให้ แทนที่มันจะเป็นอีกหนึ่ง x men ที่เป็นแอคชั่นสนุกมีสาระและชาญฉลาด มันกลับไปได้แค่ หนังแอคชั่นประจำซัมเมอร์ที่ดูสนุกเพียงอย่างเดียว
... หลายคนเคยหวั่นใจในตอนแรกว่าเปลี่ยนผู้กำกับจาก Bryan Singer (รายนี้หันไปหลงใหลกางเกงในแดงแทน) มาเป็น Brett Ratner ผู้กำกับที่มีผลงานดังๆอย่างหนังแอคชั่นคอมิดี้เรื่อง Rush Hour ซึ่งทำให้คนดูอาจปรามาสเขาล่วงหน้า กับการที่เขาต้องมาทำหนัง x เรื่องนี้ต่อจากสองภาคก่อนที่สร้างออกมากวาดคำชมไปเป็นกระบุงโกย แต่อย่าลืมว่า Brett Ratner เองก็เป็นคนเดียวกับที่ทำหนังดราม่าดีๆอย่าง The Family Man และธริลเลอร์ดราม่า Red Dragon ซึ่งหากย้อนดูผลงานของเขาที่ผ่านมาจะเห็นจุดเด่นหนึ่งคือ ไม่ว่าจะหนังแนวไหน เขาสามารถกำกับมันออกมาได้สนุกเสมอ และ หนังของเขามีค่าเฉลี่ยของผลงานอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เรียกได้ว่า ไม่ถึงกับ A+ แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ด้อยตกต่ำกว่า B บทบาทของเขาในภาคนี้ก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งในแง่ของความสนุกตื่นเต้น แต่ในแง่การสร้างอารมณ์ร่วมแล้วเขายังทำได้ไม่ดีพอ แม้ตัวละครหลักๆจะจากไปเราก็ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์มากนัก หรือ แม้หนังจะมี CG หรือ เทคนิคตื่นตาตื่นใจขนาดโยกสะพานโกลเด้นเกท แต่หนังกลับไม่สามารถสร้างความรู้สึกอลังการได้ตามที่มันควรจะเป็น
สำหรับผมเองซึ่งไม่ใช่แฟนการ์ตูน และ ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ชื่นชอบหนังสองภาคก่อนมากมาย ผมจึงไม่ได้แบกความคาดหวังไว้กับ X-Men: The Last Stand มากมาย นั่นทำให้ผมนั่งดูหนังเรื่องนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน สนุกสนาน จะว่าไปแล้ว หากเราไม่เอาเปรียบเทียบกับสองภาคก่อน หนัง x ภาคนี้จัด เป็น อีก 1 หนังซัมเมอร์ที่มีดูสนุกและมีคุณภาพดีเรื่องหนึ่ง หากจะมีความรู้สึกขัดๆก็ตรงที่หนังตัดจบเรื่องราวแต่ละฉากแต่ละตอน ตัดตัวละครออกไปเร็วๆ จนทำให้ดูห้วนๆเป็นช่วงๆ ซึ่งหนังจะโทษใครไม่ได้ก็เป็นจากตัวหนังเอง ที่พยายามจะเล่าประเด็นมากมาย ต้องการใส่ตัวละครหลายตัว แต่ไม่ให้เวลาในการเล่าเรื่องให้มากพอ แต่ก็ยังดีที่ไม่รวบรัดตัดความให้สั้นเกินไปจนไม่เหลืออะไรให้คิดอย่าง Poseidon
สิ่งที่ชอบ
1.บทภาพยนตร์
อย่างที่บอกไว้ว่า หากผมเองเป็นผู้กำกับ ถ้าได้เห็นบทร่างแรกที่พูดถึง การรักษาเยียวยา mutant ก็คงอดไม่ได้ที่อยากจะสร้างภาคนี้ขึ้นมา เพราะมันเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก เป็นมุมมองที่ฉลาดในการเปรียบเทียบโลกในหนังกับโลกความจริง และ ประเด็นนี้เองยังสามารถต่อยอดเพื่อทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้ได้มากยิ่งขึ้น ตัวบทหนังฉบับนี้ยังมีแง่มุมดีๆอีกมากมาย
2.ความสนุก
จะขาดๆเกินๆวิ่นๆแหว่งๆอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมองว่า Brett Ratner ก็ยังคงรักษามาตรฐานเดิมของการสร้างหนังให้สนุกได้ ช่วงเวลานาทีของหนังผ่านไปโดยไม่รู้สึกว่า น่าเบื่อหรือชวนกระสับกระส่าย
3. Famke Janssen
สวย สง่า มีราศี sexy ดูดี แสดงเด่น
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.บทภาพยนตร์ ... จริงที่หนังมีเนื้อหาน่าสนใจ มีหลายแง่มุมดีๆ แต่หนังตัดประเด็นดีๆที่มีให้สั้นกุด ตัวละครหลายตัวใช้ประโยชน์ไม่คุ้ม ( Angel เป็นตัวละครที่ผมรู้สึกว่าเสียของมากที่สุด) สิ่งดีๆที่คนดูน่าจะได้รับจึงลดน้อยลงไปอย่างน่าเสียดาย
2.หนังสั้นไป ... ไม่เห็นเหตุผลอื่นใดนอกจากการหวังผลจากรอบฉายที่มากขึ้น จึงทำให้หนังตัดตัวเองให้มีความยาวแค่ 104 นาทีเท่ากับภาคแรก (ภาค 2 ยาว 133 นาที) ทั้งที่ภาคนี้ตัวละครก็มาก ประเด็นก็เยอะ เป็นการตัดสินใจที่น่าผิดหวัง เพราะดูจาก บท จากนักแสดง และ จากผู้กำกับ เชื่อว่า ต่อให้ยาว 2 ชั่วโมงกว่า มันก็มีศักยภาพที่จะดูสนุกและมีสาระอยู่ได้
สรุป ... ใครรักหนัง x ชอบ x ก็ไปปิดไตรภาค X - men กันได้แบบไม่รู้สึกเสียดายตังค์อะไร เริ่มต้นเทศกาลหนังซัมเมอร์ฟอร์มยักษ์ของปีนี้ ผมเองผิดหวังมากับ Mi3 , Poseidon และ The Da Vinci Code การได้ดู X-Men: The Last Stand แม้จะไม่เติมเต็มแต่มันก็ให้ความบันเทิงมากที่สุดเมื่อเทียบกับสามเรื่องที่ผ่านมา จัดได้ว่าเป็นหนังแอคชั่นดูสนุกมีคุณภาพอีกเรื่องหนึ่ง ป.ล. ... ยังอาสาเป็นหน้าม้ามาเชียร์ต่อ หนังยังไม่ออกจากโรง แว่วว่าตอนนี้ ย้ายกลับไปอยู่โรงสยามเหมือนเดิมแล้ว >> Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย หรือ แวะเวียนมาพูดคุยถาม-ตอบนอกเหนือบทความนี้ คลิกไปคุยกัน --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 31 พฤษภาคม 2549 |
|
23 comments |
Last Update : 1 มิถุนายน 2549 22:03:23 น. |
Counter : 4102 Pageviews. |
|
|
|
|
|
| |
โดย: ชายคา IP: 124.121.17.209 31 พฤษภาคม 2549 6:49:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 31 พฤษภาคม 2549 7:26:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 31 พฤษภาคม 2549 10:44:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: 54645 IP: 58.9.40.200 31 พฤษภาคม 2549 15:06:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: เวรกรรม IP: 193.48.219.8 31 พฤษภาคม 2549 15:32:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: aorengja IP: 202.147.38.96 31 พฤษภาคม 2549 16:12:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bkkbear IP: 124.120.197.98 1 มิถุนายน 2549 12:20:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: Vicky IP: 58.9.83.179 4 มิถุนายน 2549 22:26:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: patsonic IP: 58.10.167.146 5 มิถุนายน 2549 14:22:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลูยอชท์ รีเทิร์น IP: 210.1.33.130 5 มิถุนายน 2549 15:04:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: snowbell IP: 58.136.73.115 6 มิถุนายน 2549 3:09:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: จรมาเจอค่ะ IP: 58.8.123.172 6 มิถุนายน 2549 15:09:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: บลอชท์ยู IP: 210.1.33.130 7 มิถุนายน 2549 12:06:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: mda IP: 203.159.0.14 8 มิถุนายน 2549 15:04:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ประหลาดตนจังฮู้ IP: 58.64.107.22 11 มิถุนายน 2549 17:54:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: EqUiNoX IP: 124.120.8.49 12 มิถุนายน 2549 9:58:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: X-woman IP: 58.9.156.20 13 มิถุนายน 2549 0:26:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: jumdafcukup IP: 137.92.97.114 15 มิถุนายน 2549 3:10:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: X-Lek IP: 161.200.255.162 23 พฤศจิกายน 2549 20:12:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: โปสกวน โปสการ์ด (tonklato ) 13 ตุลาคม 2550 23:19:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขอแจม ช้าไปหน่อย IP: 210.246.73.80 24 กุมภาพันธ์ 2551 19:18:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|