นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "เอกพจน์ วงศ์นาค" เข้าแจ้งความ หลังว่าจ้างบริษัททำเอ็มวี แล้วถูกเบี้ยวงาน สูญเงินนับแสนบาท...

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. 56 มีรายงานว่า นายเอกพจน์ ปานแย้ม หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "เอกพจน์ วงศ์นาค" อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/47 หมู่บ้านภัสสร 2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังและอดีต ส.ส.ปทุมธานี หลายสมัย พร้อมด้วย นายวีระ อินทรโสภา คนสนิท ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.อรรถพงษ์ จรลี ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังว่าจ้างให้ถ่ายทำเอ็มวีประกอบเพลงในอัลบั้มชุดใหม่ล่าสุด แต่ถูกเบี้ยวงาน สูญเงินไปกว่า 1 แสนบาท จนต้องเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

นายเอกพจน์ เปิดเผยว่า ตนได้จัดทำอัลบั้มเพลงขึ้นมาใหม่ 1 ชุด โดยมีบริษัท ค่ายทองโปรโมชั่น จำกัด เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จากนั้นเมื่ออัดเสียงแล้วเสร็จก็มีการว่าจ้าง นางจุฑามาศ นพศิริ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างถ่ายทำเอ็มวีประกอบเพลง เป็นผู้ถ่ายทำ โดยมีตนและทีมงานต่างๆ ร่วมแสดงในเอ็มวีนั้นด้วย โดยถ่ายทำเสร็จไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา และมีกำหนดส่งมอบงานประมาณวันที่ 20 เม.ย. แต่จนถึงวันนี้ตนและบริษัทฯ ยังไม่ได้รับมอบเอ็มวีดังกล่าวแต่อย่างใด พอติดต่อทวงถามไป ก็ผัดผ่อนมาตลอด จนสุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อกับนางจุฑามาศคนรับงานได้อีกเลย ส่วนเงินค่าจ้างที่จ้างทำงานนั้น อยู่ที่ 110,000 บาท และได้จ่ายเงินให้ไปหมดแล้ว ที่ตนเชื่อใจและมอบงานให้นางจุฑามาศเป็นคนดำเนินการถ่ายทำเอ็มวีนั้น เพราะเคยเห็นผลงานที่เคยสร้างมาแล้ว อย่างเอ็มวีเพลงของ สันติ ดวงสว่าง ตนจึงตกลงว่าจ้างให้ทำงานให้ แต่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ จนตนและบริษัทได้รับความเสียหาย 

นายเอกพจน์ กล่าวต่อว่า เคยติดต่อสอบถามไปยังทีมงานที่ร่วมถ่ายทำ คือทีมตากล้อง ก็ได้รับคำตอบว่า เขาก็ยังไม่เคยได้เงินค่าจ้างเช่นกัน จนทำให้งานไม่สามารถเดินต่อไปได้ ทั้งนี้ ตนก็เข้าใจว่า เงินค่าจ้างนั้นแม้จะจำนวนไม่มาก ถ้าขัดข้องหรือไม่พอ ก็น่าจะมาเจรจาพูดคุยกัน ไม่ใช่หลบหายไปอย่างนี้ ตนในฐานะผู้เสียหายร่วม จึงต้องเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายกับนางจุฑามาศต่อไป

ด้าน ร.ต.ท.อรรถพงษ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ภายหลังรับแจ้งความแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะเรียกตัวนางจุฑามาศมาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้ายังติดต่อไม่ได้ หรือไม่ยอมมารายงานตัว ก็จะออกหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.