เตอร์-ปริยะ และกีต้าร์-ศิริพิชญ์ ควงสยบข่าวบ้านแตก ด้านเตอร์แจงภาพชนแก้วกับสาวชื่อแอปเปิ้ลแค่น้อง โวรัก 7 ปียังหวาน ส่วนกีต้าร์แจงภาพพาลูกไปอยู่โรงแรม 2 คนเพราะบ้านไฟดับ โต้ข่าวปล่อยรูปหวังสร้างกระแส...

อยู่ๆ ก็มีกระแสว่าความรักของคู่เลิฟลูกสองอย่างนักแสดงสาว กีต้าร์-ศิริพิชญ์ และหวานใจหนุ่ม เตอร์-ปริยะ วิมลโนช ท่าจะไม่ค่อยดีซะแล้ว หลังเพื่อนซี้ของทั้งคู่อย่างพระเอกคาสโนว่าวิกหมอชิต วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ โพสต์รูปหนุ่มเตอร์กำลังชนแก้วกับสาวคนหนึ่งชื่อ "แอปเปิ้ล" ในอินสตาแกรม พร้อมทั้งโพสต์ข้อความว่า "ผู้หญิงคนใหม่ของไอ้เตอร์" และต่อมาสาวกีต้าร์ก็โพสต์รูปในโรงแรมในอินสตาแกรมและเขียนข้อความบรรยายว่า "เหงาๆ กับลูกสองคน" จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกไซเบอร์ แต่บางคนก็มองว่าเป็นการสร้างกระแสมากกว่า เจอตัวกีต้าร์-เตอร์ ที่ควงกันมาร่วมงาน "มิราเคิล 2 สลิม" ของสถาบันลดน้ำหนัก "สลิม อัพ เซ็นเตอร์" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นักข่าวเลยสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวทันที

วีโพสต์รูปเตอร์กับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อแอปเปิ้ล พร้อมเขียนบรรยายว่า "ผู้หญิงคนใหม่ของไอ้เตอร์" วันนี้ถือว่าควงกันมาสยบข่าวลือ? กีต้าร์ "จะบอกตรงๆ ว่าต้าร์ไม่ได้อ่านข่าวอะไรมากมายนะคะ แต่ที่ทราบกันมามันเป็นการเล่นกันมากกว่า คือเราไปทานข้าวด้วยกันและถ่ายรูปค่ะ" เตอร์เสริมว่า "วันนั้นที่ไปมีผม, ลิฟท์-สุพจน์, หญิง-นราวัลย์, วีรภาพ, กีต้าร์ รวมถึงน้องแอปเปิ้ลคนที่มีรูปกับผม ซึ่งวันนั้นต้าร์วานให้เขาซื้ออะไรไปให้สักอย่าง จริงๆ เราสนิทกันอยู่แล้ว ผมเองก็สนิทกับแฟนของน้องแอปเปิ้ลชื่อพี่กอล์ฟ ซึ่งอยู่ภูเก็ต พี่เขาทำสนามกอล์ฟอยู่ และผมไปตีกอล์ฟที่นั่นบ่อยๆ เราสนิทกัน แต่ภาพที่ออกมาและด้วยการบรรยายของเพื่อนวีที่มีดีกรีนิดนึงเพราะผ่านการดื่มมาเหมือนสนุกกัน แต่ไม่คิดว่ามันจะออกมาแบบนั้นนะครับ" แต่หลายคนมองว่าการที่ลงภาพนั้นในอินสตาแกรมเหมือนเป็นการเรียกกระแส? กีต้าร์ "ต้าร์ไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างกระแส ต้าร์เชื่อมั่นว่าตลอดเวลาที่ต้าร์ทำงานมาเกือบ 20 ปี และถ้าวันนี้ต้าร์มีงานที่อยากจะให้พี่ๆ สื่อมวลชนและเพื่อนๆ มาแสดงความยินดี ต้าร์เชื่อว่าเราคงไม่สร้างกระแส และคิดว่าพี่ๆ สื่อมวลชนก็คงรักและเมตตาครอบครัวของเรา และให้เกียรติมาร่วมงานของเรา และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ต้าร์รักพี่ๆ นักข่าวทุกคน และต้าร์ก็เชื่อว่าพี่ๆ นักข่าวทุกคนรักและเมตตาเราเหมือนกัน ถึงเวลาที่ต้าร์มีงานก็คงมาร่วมแสดงความยินดีกันค่ะ"

พอลงรูปไปแล้วมีกระแสออกมาแบบนี้กีต้าร์บอกให้วีลบภาพนั้นทิ้งหรือเปล่า เตอร์ตอบแทนว่า "วันนั้นพอลงรูปแล้วเหมือนวีเขาจะรู้สึกตัวว่าไม่น่าลงรูปเลยก็เลยลบออก แต่กลายเป็นว่าพอลบรูปออกมันเป็นการบ่งบอกหรือเปล่าว่าเป็นเรื่องจริง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ คือเพื่อนมันก็ตกใจที่ลงรูปแบบนี้มันลืมไปลงเพราะความสนุกมากกว่าครับ ตัวผมไม่เห็นรูปนะครับ แต่มาเห็นตอนที่เพื่อนโทรมาบอกว่ารู้หรือยังว่ามีข่าวแบบนี้ลงหนังสือพิมพ์ เราก็ถามต้าร์ว่าเป็นเรื่องอะไร เขาก็ส่งรูปนี้มาให้ดู" กีต้าร์เสริมว่า "แต่ถ้าอ่านจากอินสตาแกรมต่อๆ ไปที่ต้าร์เข้าไปเม้นท์เราก็เขียนว่าเราก็นั่งอยู่ด้วยและแซวว่าหรือว่าสับขาหลอก (หัวเราะ) ประมาณนี้ คนที่เข้ามาเม้นท์จะเม้นท์ประมาณว่าเหมือนเราแกล้งกันอำกันเล่นมากกว่า ก็ไม่ได้ลงในอินสตาแกรมของคุณวีคนเดียว ลงในอินสตาแกรมของเพื่อนคนอื่นด้วย แต่ด้วยความที่เพื่อนบางคนไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงคนก็เลยไม่ได้พุ่งประเด็นไปเท่าไหร่" แต่ภาพที่ออกมามันดูใกล้ชิดกันเหมือนเตอร์ไปกับพริตตี้สาว? เตอร์ "คือน้องเขาไม่ได้เป็นพริตตี้นะครับ ก็เป็นเพื่อนกันนี่แหละ คือเวลาเราสนุกกันบนโต๊ะอาหารหรือไปเที่ยวด้วยกันก็มีการถ่ายรูปกัน และรูปนั้นที่ผมเห็นชัดก็เหมือนเราชนแก้วกันเฉยๆ แล้วเป็นมุมที่เหมือนอยู่ใกล้ๆ แต่มันก็ไม่ได้ใกล้ขนาดกอดคอหรือหอมแก้ม มันก็เป็นลิมิตของเพื่อนกันหรือพี่ๆ น้องๆ ที่ล้อเล่นกัน มันไม่ได้แปลกอะไร มันอาจจะแปลกตรงที่ว่าผมไม่ค่อยมีรูปแบบนี้มากกว่า มันเลยกลายเป็นประเด็นมากกว่า แต่จริงๆ แล้วผมก็เล่นกับเพื่อนผู้หญิงประมาณนี้ และจริงๆ ก็เยอะกว่านี้ เยอะกว่าที่ภาพออกมาครับ"

แต่หลังจากนั้นก็มีรูปที่กีต้าร์โพสต์และเขียนว่าอยู่กับลูกสองคนที่โรงแรม? เตอร์ "เรื่องนี้ผมเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง ต้าร์เล่าให้ฟัง พอดีที่บ้านเราไฟดับและผมไปนอนที่บ้านคุณแม่ พอดีน้องตั้งตาลูกสาวคนโตไม่สบาย ผมก็เลยรีบด่วนไปนอนบ้านคุณแม่กับลูกสาว พอต้าร์กลับบ้านไปหาเติมเต็มและที่บ้านไฟดับทั้งโซน ต้าร์ก็บอกผมว่าเดี๋ยวพาน้องเติมเต็มไปนอนโรงแรมแล้วกัน" กีต้าร์เสริมว่า "ลูกนอนอยู่ในรถเปิดแอร์อยู่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นึกขึ้นได้ว่ามีบัตรกำนัลของโรงแรมอยู่ก็เลยพาลูกไปนอนที่นั่น พอถึง รร.ปุ๊บก็โทรหาเตอร์บอกว่าห้องสวยดีนะอยากให้เตอร์มาจัง ก็เลยโพสต์รูปและเขียนว่าเหงาๆ กับลูกสองคน ต้าร์สาบานจริงๆ ว่าไม่มีอะไร แต่อีกวันข่าวลงเราก็คิดว่าไม่น่าเลยมันเหมือนเป็นการตอกย้ำ เราพูดตรงๆ ว่าเราโพสต์แล้วไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้ตั้งใจว่าจะโพสต์ว่าคุณเตอร์อยู่ทางหนึ่งและต้าร์อยู่อีกทางหรือเปล่า ตอนนี้ตั้งตากับเติมเต็มจะต้องแยกกันชั่วคราวเพราะตั้งตาไม่สบายง่ายและเติมเต็มก็ไม่สบายเหมือนกัน ถ้าอยู่ด้วยกันก็จะยิ่งติดก็เลยให้ตั้งตาไปอยู่บ้านคุณย่ากับคุณเตอร์และเติมเต็มก็อยู่กับต้าร์ เราต่างคนต่างดูแลลูกคนละคนมันก็เลยเป็นประเด็นว่าแยกทางกันหรือเปล่า"

เตอร์กล่าวติดตลกว่า "ตอนนี้ภาพแฟมิลี่แมนของผมเละไปหมดเลยครับช่วงนี้ ผมยืนยันเลยครับว่าไม่ได้สร้างกระแส ผมเองยังตกใจเลยครับ ความรักของเรายังเหมือนเดิม ผมยังรักต้าร์เหมือนเดิมและไม่เคยมีเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เราคบกันมา 7 ปีไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ เพิ่งมีครั้งนี้ที่เราตกใจ ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนแอบๆ ซ่อนๆ เราใช้ชีวิตปกติ ไปเที่ยวบ้างเจอเพื่อนผู้หญิงก็กอดคอเหมือนทักทายกันเพราะผมเรียนเมืองนอกมา และผมก็สนิทกับเพื่อนผู้หญิงเยอะ แต่ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ออกมาเลย ผมบอกว่าเราไม่มีทางทำแบบนี้อยู่แล้ว ผมรักลูกสาวและลูกชายมาก ทุกวันนี้แทบจะไม่ทำอะไรที่มีความเสี่ยงกับการที่จะทำให้กระเทือนถึงครอบครัวผมจะไม่ทำครับ"

กีต้าร์เสริมว่า "ตอนที่ถ่ายรูปต้าร์ก็อยู่ คุณลิฟท์-สุพจน์ ก็อยู่ และแอปเปิ้ลก็เป็นน้องที่สนิทกับต้าร์ เราวานเขาไปซื้อของให้เรา เขาก็มากินข้าวด้วยกันและคุณเตอร์ก็เลยถ่ายรูปเล่นกันมากกว่า และร้านนั้นก็เป็นร้านของเพื่อนเราคือคุณนก-ศิขรินธาร ต้าร์ต้องขอบคุณทุกคนพอเราโพสต์ในอินสตาแกรมแล้วทุกคนได้อ่านก็ให้กำลังใจเรา ต้าร์เชื่อเลยว่าโลกนี้ยังมีคนรักต้าร์อยู่ ถึงเราเป็นดาราตัวเล็กๆ แต่ก็มีคุณแม่หลายๆ ท่านเข้ามาให้กำลังใจเรา มีคนรักและเป็นห่วงเราเหมือนกัน และอยากบอกว่าคุณเตอร์ก็ไม่มีอะไรเลยเพราะเราอยู่ด้วยกัน ก็ขอบคุณ และตอนนี้เราก็กลัวที่จะมาโพสต์อะไรในอินสตาแกรมแล้ว หลายๆ คนบอกว่าครอบครัวเราเหมือนเป็นครอบครัวตัวอย่างสำหรับหลายๆ ครอบครัว เราสองคนยืนยันว่ายังรักกันเหมือนเดิมไม่ได้สร้างภาพ เชื่อมั่นว่าเรามีลูกด้วยกันแล้วทุกสิ่งทุกอย่างพุ่งตรงไปยังลูกหมดแล้ว ทุกวันนี้ต้าร์กับเตอร์เหมือนเป็นเพื่อนกันมันเลยจุดคำว่าแฟนไปแล้ว" เตอร์เสริมว่า "เหมือนกับที่ผู้ใหญ่บอกว่าถ้าทุกอย่างมันย้อนกลับเป็นเพื่อน เพื่อนมันไม่มีอะไรปกปิดกันอยู่แล้ว มันเป็นยิ่งกว่าแฟน ผมเองก็ไม่มีอะไรปกปิด ผมทำดีที่สุดมาเสมอไม่เคยผิดคำพูด ไม่เคยโกหกสักอย่าง ต้าร์ก็เชื่อใจผมอยู่แล้วครับ".