พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 
24 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
'โตโน่' ลั่นไม่ถนัดเป็นดารา ขอเป็นคนทำงานสร้างความสุขให้แฟนๆ

'โตโน่' ลั่นไม่ถนัดเป็นดารา ขอเป็นคนทำงานสร้างความสุขให้แฟนๆ

คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" คุยกับหนุ่มฮอตเดอะสตาร์ "โตโน่-ภาคิน" ถึงการทำงานทั้งผลงานเพลงและการแสดงที่ทำให้คิวแน่นตลอด 7 วัน ไปจนถึงเรื่องหัวใจกับนางเอกผลไม้ "แตงโม-ภัทรธิดา"...

เป็นหนุ่มฮอตที่ลักกี้อินเกมแอนด์ลักกี้อินเลิฟจริงๆ สำหรับนักร้องนักแสดงหนุ่มเดอะสตาร์ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่ตอนนี้คิวของหนุ่มคนนี้แน่นเอี้ยดตลอด 7 วัน เพราะมีผลงานมาฝากแฟนๆ ต่อเนื่อง ทั้งงานภาพยนตร์ "รักโง่โง่" ค่ายอู่ข้าว อู่น้ำ และ "เดอะเวย์" ค่าย House of Maak รวมถึงงานละคร "ปีกมาร" ทางช่อง 5 และซิทคอม "ลูกพี่ลูกน้อง" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ไหนจะต้องแบ่งคิวไปร้องเพลงกับวง "โตโน่ แอนด์ เดอะดัสต์" อีก แต่ถึงคิวแน่นจนดูน่าเหนื่อยแทนแบบนี้ หนุ่มโตโน่ก็ยังมีกำลังใจดีๆ จากนางเอกผลไม้วิกหมอชิต แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หลังเจ้าตัวออกตัวแมนๆ พูดชัดเจนว่าจีบสาวแตงโมจนกลายเป็นประเด็นฮอตอยู่ในเวลานี้ คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เลยชวนเจ้าตัวมาพูดคุยอัพเดตทุกเรื่องให้ฟังแบบเต็มๆ งานนี้เจ้าตัวตอบตามสไตล์ตรงไปตรงมาแบบไม่มีกั๊กเช่นเคยจ้า!!!


Q : ช่วงนี้ดูเหมือนงานค่อนข้างแน่น มีทั้งงานเพลงงานแสดงเยอะแยะเลย?
A : จริงๆ เราทำงานทุกวันอยู่แล้ว 7 วันนี่ไม่มีวันหยุดเลย มีหนัง 2 เรื่องคือเรื่อง "รักโง่โง่" และ "เดอะเวย์" ละครก็มีของเอ็กแซ็กท์คือเรื่อง "ปีกมาร" แล้วก็ซิทคอมเรื่อง "ลูกพี่ลูกน้อง" แล้วก็ทำงานเพลงด้วยครับ

Q : งั้นอัพเดตเรื่องงานหนังให้ฟังกันก่อนว่าเป็นไงบ้าง?
A : อย่างหนังก็มีปิดกล้องไปแล้วเรื่องนึงคือเรื่อง "รักโง่โง่" เพิ่งไปถ่ายโปสเตอร์มาครับ น่าจะได้ชมกันในวันที่ 29 ก.ย.นี้ครับ ส่วนหนังเรื่อง "เดอะเวย์" ก็มีดาราหลายคน ทั้งเจมส์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) พี่นก (สินจัย เปล่งพานิช) เมย์ (พิชญ์นาฏ สาขากร) พี่หนุ่ม (สันติสุข พรหมสิริ) วิว (วรรณรท สนธิไชย) ดาราเยอะครับ ตอนนี้เหลือคิวผมคนเดียวครับ เพราะว่าในเรื่องนี้ผมเล่นเป็นพระ แล้วผมถ่ายพาร์ทที่ยังไม่ได้บวชไป แล้วช่วงที่ผมบวช หนังมีการขยายงบ ไปๆ มาลงทุนใหญ่ขึ้น มันก็เลยใช้เวลาในการระดมทุน คือตอนแรกเรากะทำเป็นหนังส่งเสริมพระพุทธศาสนา แต่พอถ่ายไปถ่ายมาสเกลใหญ่ขึ้นเลยต้องปรับ ผมก็เลยต้องมาถ่ายคิวปิดท้ายครับ ซึ่งตอนนี้คิวผมค่อนข้างแน่นเลยยังไม่เสร็จ ก็เลยต้องเลื่อนออกไป


Q : ถามถึงงานละคร "ปีกมาร" คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?
A : ละครเรื่อง "ปีกมาร" เป็นละครรีเมคจากหนังที่พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) พี่แซม (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) และพี่กุ๊ก (นาถยา แดงบุหงา) เล่นเอาไว้ ถามว่ากลัวโดนข้อเปรียบเทียบไหมก็ไม่ครับ เพราะไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบกับใครอยู่แล้ว เพียงแค่พยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เป็นตัวละครในแบบที่เราทำการบ้านมา ที่ครูสอนออกมาครับ ผมมีความสุขมากกับการทำงานเรื่องนี้ครับ ในเรื่องผมรับบทเป็น "ลายสือ" ซึ่งเป็นบทที่พี่อ๊อฟเคยเล่น โดยมีพี่หนุ่ม (ศรราม เทพพิทักษ์) และแป้ง (อรจิรา แหลมวิไล) มาเจอกันในเรื่องนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้เจอพี่หนุ่ม ก็ตื่นเต้นครับ ต้องมาเชือดเฉือนกันเพราะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ซึ่งพี่หนุ่มก็แนะนำเรื่องดีๆ เขาเป็นคนสบายๆ ไม่รู้สึกเกร็งเลยที่ร่วมงานด้วยครับ


Q : ประทับใจยังไงบ้างกับละครเรื่องนี้?
A : ส่วนตัวผมเองจะประทับใจกับบทเรื่องนี้เพราะมันยาก คือบท "ลายสือ" จะเป็นเด็กมีปัญหา ขาดความอบอุ่นเพราะแม่ตายตั้งแต่เด็ก แล้วพ่อก็แต่งงานใหม่ เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน พูดอะไรไม่ตรงกับความรู้สึก ซึ่งต้องใช้พลังเยอะ บทนี้ยากครับแต่มันสนุกเพราะเราทำการบ้านมา พอไปเจอฉากสวยๆ เราไปถ่ายกันที่เขาใหญ่ตลอดเลย ถ่ายบนภูเขามีหมอก มันได้ภาพที่สวยมาก บวกกับเพื่อนๆ นักแสดงที่เก่งกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแจ๊ค แฟนฉัน ซึ่งเล่นเป็นเพื่อนสนิทผม หรืออย่างแป้ง-อรจิรา ที่เล่นคู่กันเรื่องนี้ มันยากแต่ท้าทายดีครับ เรื่องนี้เพิ่งถ่ายได้ไม่นาน ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์เอง คือมันมีปัญหาเรื่องคิวด้วย โลเกชั่นด้วยเพราะเราจะหาที่ที่สวยที่สุด ซึ่งตอนนี้เจอแล้วคือที่เขาใหญ่

Q : ซิทคอม "ลูกพี่ลูกน้อง" เล่นมาปีนึงเป็นไงบ้าง?
A : กระแสดีมากครับ ก็อยู่ได้แบบแข็งแรง แล้วคนรู้จักเราในบท "ธันวา" เยอะ คือตอนนี้ผมรู้สึกดีมากในเรื่องงานต่างๆ ที่เข้ามาครับ


Q : แล้วเรื่องงานเพลงเป็นไงบ้าง เราแบ่งเวลายังไง?
A : คือเราคุยกันไว้ก่อนว่าผมอาจจะทำงานหนักหน่อย ตอนนี้เราตัดเรื่องงานจ้างออกไป งานโชว์ตัวแทบจะไม่ได้รับเลยเพราะว่าวันพฤหัส-อาทิตย์ ก็มีละคร ซิทคอม จันทร์-พุธก็เป็นเพลงกับหนัง คืออัดกันวันนึง 2-3 งาน พอซิทคอมไม่ถ่ายก็ถ่ายละครแทน คือเราทำงานทุกวัน ส่วนกลางคืนก็เล่นกับวงของผมคือ "โตโน่ แอนด์ เดอะดัสต์" ด้วย เพื่อนๆ ในวงเข้าใจการทำงานของเราครับว่าคิวงานผมค่อนข้างแน่น วงเรามารวมตัวกันได้ประมาณปีกว่าๆ แล้วครับ

Q : ทำงานเยอะๆ ขนาดนี้มีงงๆ สับสนบ้างไหม?
A : ถ้าเรื่องของเพลงไม่งงครับเพราะว่าเพลงมันคือตัวตนของเรา เรามาจากเพลง ซึ่งเป็นความฝันจริงๆ ของเรา แต่ละครคืองานที่เพิ่งมาเจอแล้วเรารู้ว่าเราชอบนะ ทำได้เหมือนกัน แต่การทำการบ้านมันคนละแบบกัน


Q : มาทำเพลงร็อกแบบนี้เรียกว่าสมใจเราเลย?
A : ก็ไม่ได้เป็นร็อกมากนะ คือเพลงพวกเราเองจริงๆ ค่อนข้างเป็นป๊อปร็อกครับ แต่ที่เราชอบจริงๆ แต่ยังทำไม่ได้คือร็อกหนักๆ เพียงแต่ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มเดิน เราก็อยากให้ฟังได้ทุกเพศทุกวัยก่อน (ยิ้ม) วันนึงเราก็ทำเพลงให้หนักขึ้น ถามว่าเอาแบบเฮฟวี่เลยไหมก็ไม่แน่นะครับ เพราะพวกเราค่อนข้างชอบเพลงแบบนั้น แต่ตอนนี้ทางผู้ใหญ่เป็นห่วงว่าแฟนๆ จะตกใจถ้าอยู่ดีๆ ผมใส่ตู้มขึ้นมาหนักๆ เลย ก็เลยต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตอนนี้เรายังเด็ก ยังสื่อความคิดในแบบของเราได้ไม่หมด ก็เลยได้พี่ๆ โปรดิวเซอร์ที่เก่งๆ อย่างพี่กบ แท็กซี่, พี่ปุ้ม เนเชอรัลเซ้นส์, พี่นอ เครสเซนโด้, พี่โจ วงแพนเค้ก และอีกหลายๆ คนมาช่วยทำเพลงให้ด้วยครับ ถามว่าในอนาคตเราอาจจะได้ฟังเพลงร็อกหนักๆ เหมือนรุ่นพี่ในวงการไหม คือเราไม่ค่อยคิดว่าเราจะเป็นเหมือนใครครับ เพียงแต่ว่าเราชอบก็แค่นั้นเอง ก็ต้องรอดูว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน ตอนนี้เราออกซิงเกิ้ลมา 3 เพลง ก็ออกมาประมาณ 7-8 เดือนแล้ว


Q : โตโน่เองก็มีแฟนคลับเยอะอยู่แล้ว แบบนี้แฟนๆ ก็ตามเชียร์สมาชิกในวงด้วยเลย?
A : มีครับ เขาเชียร์หมด เหมือนเขารักไปด้วย โชคดีที่เขารักและไม่รู้สึกต่อต้านอะไรเลย รักผมกับรักวงผมไปด้วย ผมต่างหากที่โชคดีที่ดึงดูดแฟนเพลงใหม่ๆ เข้ามา มีแฟนๆ กลุ่มผู้ชายบ้างที่จะชอบมือกีตาร์ มือกลอง เด็กๆ นักเรียนที่เล่นดนตรีแล้วเขามาเห็นวงเราว่าเจ๋งนะ มือกลองเก่ง (ยิ้ม) เราก็มีแฟนเพลงที่กว้างขึ้น บวกกับเดือนหน้าเราจะเริ่มทำทัวร์คอนเสิร์ตตามโรงเรียน ก็ตื่นเต้นครับ ต้องไปดูว่าเขาจะร้องเพลงตามเราได้รึเปล่า (ยิ้ม) นึกถึงเมื่อก่อนเวลาที่มีพี่ๆ วงดังๆ มาเล่นคอนเสิร์ตในโรงเรียนเราก็ดีใจ พอเราไปเองก็เป็นอีกอารมณ์นึง ก็ตื่นเต้นครับ ก็จะไปทัวร์ตามโรงเรียนทั่วประเทศครับ แต่สำคัญที่คิวด้วยแหละครับ

Q : เป็นเพราะเพลงเราเน้นกลุ่มวัยรุ่นรึเปล่าเลยไปทัวร์คอนเสิร์ตตามโรงเรียน?
A : ไม่หรอกครับ จริงๆ ได้ทุกกลุ่ม ตอนกลางคืนเราก็ไปหมดครับ ใครอยากจะให้เราไปก็ไปครับ แต่เวลาไปแต่ละครั้งเราก็ต้องเลือกเพลงให้เหมาะสถานที่ที่เราไปด้วยครับ คือเลือกเพลงศิลปินอื่นไปด้วย เพราะตอนนี้วงเรามีเพลงแค่ 3 เพลง แล้วงานจ้างบางทีให้เล่นเป็นสิบเพลง ก็เลยต้องเลือกเพลงอื่นไปด้วย


Q :ถามถึงเรื่องหัวใจ ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกเซ็งๆ บ้างไหม?
A : ก็มีรู้สึกบ้างนะ เราเป็นผู้ชายเราไม่ค่อยถนัดในเรื่องหยุมหยิม การที่ผมพูดตรงหรือจริงใจกับสิ่งที่ผมพูดเพราะผมเคารพคนดูของผม ผมเคารพแฟนเพลง เคารพสังคมนี้ ดังนั้นผมเลยมีความรู้สึกว่าผมอยากให้เกียรติพวกเขา การให้เกียรติพวกเขาคือการที่ผมตั้งใจทำงาน เป็นแบบอย่างที่ดี ผมไม่ยุ่งกับยาเสพติด ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ตั้งใจทำงานในสัดส่วนของผม ผมรู้สึกดีกับใครผมก็ไม่โกหก ผมก็บอก แต่ผมก็ตลกตรงที่ว่ามันก็กลายเป็นประเด็นไปได้ ทั้งที่จริงๆ แล้วปีนี้ผมก็อายุ 27 แล้ว ผมจะคุยกับใครสักคนนึงก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก แต่มันเป็นเรื่องแปลกไปได้ ลงข่าวได้ทุกวัน แต่ผมก็แคร์ความรู้สึกของคนที่เขาอ่านข่าว บางครั้งกลายเป็นว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แทนที่จะมีความสุขกับผลงานของเรา ข่าวกลับเอาชีวิตของเราไปเล่น แล้วมันก็เกิดกระแสต่างๆ ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ ผมถึงบอกว่าผมไม่ถนัดเป็นดารา ผมเป็นโตโน่ เป็นเดอะดัสต์นี่แหละครับ

Q : หนักใจไหมเพราะข่าวออกมาอาจทำให้บั่นทอนกำลังใจการทำงาน?
A : ไม่เลยเพราะว่าโมเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ผมให้เกียรติและคุยด้วย แต่ไม่ได้เป็นลักษณะที่ว่าหวานกันมาก คือมิตรภาพมันมีให้กันได้หมด ผมก็มีมิตรภาพให้กับเพื่อนผม โมก็เป็นหนึ่งในคนที่ผมให้มิตรภาพ เป็นคนที่ผมให้เกียรติ ดังนั้นผมเลยแค่รู้สึกว่าอ้าว ทำไมกับการที่เราให้เกียรติคนคนนึงมันเป็นเรื่องอะไรเหรอ แต่คนอื่นอาจจะกลัวในเรื่องเรตติ้ง แต่ผมไม่กลัวผมเฉยๆ เพราะว่าเราเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เราอายุ 27 ปี เราเคยมีแฟนมาตั้งเยอะแล้วนะจะแปลกตรงไหน แต่ผมไม่ใช่ดาราไง เวลามีใครมาถามผมก็ตอบ ถ้าไม่มีใครถาม ผมก็ใช้ชีวิตปกติของผมไป เพียงแต่ผมมองไม่เห็นถึงประโยชน์ในการโกหก ดังนั้นหน้าที่ของดาราก็ทำของเขาไปแล้วกัน แต่หน้าที่ของโตโน่ก็ทำในของโตโน่ครับ

Q : งั้นสรุปแล้วความสัมพันธ์ของเราและแตงโมจะเรียกว่าอะไร?
A : เป็นเพื่อนกันครับ แฟนก็อย่างที่แตงโมบอกก็คือสำหรับไว้เรียกคนที่เราอยากจะแต่งงานด้วย แต่นี่เรายังเพิ่งคุยแค่ 2 เดือน ยังเป็นข่าวกันขนาดนี้ (ยิ้ม) เราก็รู้สึกว่าอยากให้ลงข่าวเรื่องงานกันดีกว่า


Q :สุดท้ายแล้ว ฝากอะไรถึงคนที่ติดตามโตโน่กันหน่อย?
A : อยากบอกว่าผมจะตั้งใจทำงานของผมนะ รอดูงานของผมนะครับ ตอนนี้นอกจากมีงานหนัง งานเพลง งานละครแล้ว ผมมีพรีเซ็นเตอร์หลายตัวเลย ล่าสุดผมเป็นพรีเซ็นเตอร์สภากาชาดไทยรณรงค์บริจาคดวงตา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรจะคำนึงถึง เราควรจะมีจรรยาบรรณในการที่จะทำให้สังคมดีขึ้น ผมไม่รู้ว่าดารา สังคม นักข่าวหรือใครก็ตามมีความรู้สึกต่อชีวิต ต่องาน ต่อคนอื่นแบบไหน แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มากกว่าที่เราควรให้ความสำคัญคือส่วนรวม เรื่องของส่วนตัวผมจริงใจกับทุกคน แต่บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องสนุกหรือเรื่องตลกที่เราเอาเรื่องพวกนี้มาทำเป็นเรื่องที่สำคัญ เรื่องงานส่วนนึง เรื่องการวางตัวก็ถูกนะ เรามีความคิดดี เราอยากทำให้คนมีความสุขเยอะๆ ไม่ว่าจากเรื่องอะไรก็ตามแต่ ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าว่าวันนี้ใครจะคุยกับใครหรือเลิกกับใคร เพราะว่าการคุยกันครั้งนี้ผมให้เกียรติแตงโม ให้เกียรติแฟนๆ ทุกคนครับ




Create Date : 24 กรกฎาคม 2556
Last Update : 24 กรกฎาคม 2556 1:45:15 น. 0 comments
Counter : 1237 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.