สาว ยิปซี–คีรติ คนรักเก่ามีข่าวกับหนุ่มๆซะแล้ว เลยต้องถาม ปั้นจั่น–ปรมะ ว่ารู้สึกยังไงบ้าง ในงานเปิดตัวซีรีส์ “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” เริ่มจากที่ยิปซีมีข่าวกับไฮโซขุนพล? “ทราบครับ เราก็ถามน้องแล้ว เพราะเราได้มีโอกาสไปกินข้าวกัน เราก็ได้อัพเดตชีวิตและเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่รู้จักและไม่เคยเจอด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็เชื่อน้องนะ ถ้าเกิดใครเห็นก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครพูด ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียส แต่ผมเองก็ฟังจากปากยิปซีมา ผมเองก็เชื่อยิปซีอยู่แล้ว เขาเองก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหก” แสดงว่าก็มีการถามไถ่กันตลอด? “มันคือการอัพเดตชีวิตมากกว่า เราก็ถาม เขาก็ถาม ต้องพูดตรงๆว่าเรายังคุยกันอยู่นานๆที แต่ไม่ใช่คุยในแบบคู่รัก แต่เราคุยกันในแบบเพื่อน เพราะว่าเรายังห่วงกันอยู่ เราเป็นเพื่อนกัน เลิกกันแล้วเรายังไปดูหนังกันเลย หลายคนเห็นก็คงงงว่าคู่นี้มันยังไง มันคืนดีกันแล้วเหรอ ผมก็บอกว่าไม่นะ เพียงแต่เราก็ดีกันตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่สถานะเราไม่ใช่แฟนเท่านั้นเอง” รู้สึกดีกันแต่ทำไมมันถึงไม่สามารถเป็นความรักแบบเดิมได้? “ผมว่าอันนี้มันพูดลำบาก เพราะการที่คนสองคนมันผ่านอะไรด้วยกันมา เราเองก็อยู่ในจุดที่ความสัมพันธ์มันสบายใจ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะขึ้นแล้ว มันเป็นช่วงวัยทำงานมากกว่า ตอนที่ผมมีความรักมันค่อนข้างกระทบกับงานพอสมควร ถ้าเกิดมีรักมาหรือว่าเจอคนใหม่ ก็ต้องให้มันเป็นไป ถ้าเขาจะไปเจอใคร มันไม่ได้พูดให้ความหวังนะ แต่ไม่แน่เราอาจจะกลับมาเจอกันก็ได้” เหมือนเป็นคู่ที่จบไม่สวย แต่ยังห่วงกันอยู่? “ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องราว มันฉุกละหุก แต่ที่เราคุยกันนอกรอบเราเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น” กลับมารีเทิร์นมั้ย? “ผมตอบไม่ได้จริงๆ แต่ผมไม่ได้ให้ความหวังนะ บางทีผมก็อาจจะไปมีแฟนใหม่ เขาอาจจะไปมีแฟนใหม่ หรือเราอาจจะไปมีแฟนใหม่มาแล้วหลายคน แต่เราก็อาจจะกลับมาเจอกันก็ได้ใครจะไปรู้” ล่าสุดยิปซีขึ้นรูปว่า รักเว้นระยะ คนมองว่าเหมือนรอกลับมาคืนดี? “เขาเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนอยู่แล้วล่ะ มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา ที่เราจะแชร์ให้ใครดูก็ได้” ถ้าวันนึงเขามีแฟนเราจะโอเคมั้ย? “เราก็ต้องยอมรับ แค่อยากให้เขาเจอคนที่ดีๆ และผมก็เชื่อว่าเขาก็อยากให้เราเจอคนดีๆ พ่อผมสอนว่าถ้าเราเลิกกับใคร เราไม่ต้องไปหนีหน้าเขา และเราไม่จำเป็นต้องไปจบกันแบบโกรธๆ วันนึงเราอาจจะกลับไปแต่งงานกับแฟนคนแรกก็ได้ มันไม่มีใครรู้” แล้วเรามีคนใหม่คุยหรือยัง? “ก็เปิดนะ เราพร้อมที่จะผิดหวังเสมอ เพราะผมว่ามันเหมือนการโยนหินถามทาง มันต้องมีคนที่ใช่สำหรับเราอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะเป็นใครเท่านั้นเอง”.