Group Blog
 
All blogs
 

กระบือบาล-บางระจันยุคใหม่ที่ไม่มีวันแตก พวกเขาไม่ได้เอาควายไปรบ แต่เขารบเพื่อควาย


กระบือบาล ผู้แต่ง  ดำรง อารีกุล   สำนักพิมพ์มติชน  พิมพ์ครั้งที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2558    
Last Update : 24 มิถุนายน 2558 7:46:15 น.
Counter : 2075 Pageviews.  

2nd Love หนุ่มเฮ้วสาวเปรี้ยว รักเดียวโดนใจ_ May112


2nd Love หนุ่มเฮ้วสาวเปรี้ยว รักเดียวโดนใจ  
ผู้แต่ง May112  สำนักพิมพ์แจ่มใส


เพราะความเบื่อหน่ายบรรยากาศเดิมๆ ที่เชียงใหม่ (-.-)/ ฉันกับเพื่อนเลยตัดสินใจเลือกเอ็นท์มาเรียนต่อมหา’ลัย ณ เมืองสองแคว และก่อนที่หัวใจดวงน้อยๆ จะเคลื่อนคล้อยไปถึงจุดหมายปลายทาง ^O^โครม!! O_O ฉันขับรถ (ของเพื่อน) ไปเฉี่ยวรถอีกคันพุ่งไปชนต้นไม้ข้างทาง ค่าเสียหายหลักหมื่นที่หนุ่มเจ้าของรถคันนั้นเรียกร้อง@@@ ทำให้ฉันตัดสินใจ@@@ ประทุษร้ายเขาไปเล็กน้อย TOT; เชอะ!! ค่าชดใช้อะไร มีไม่พอให้หรอกย่ะ บ๊ายบายเน้อไอ้หน้าตี๋จอมโหด!! ฉันบอกลา กระโดดขึ้นรถ เร่งเครื่องทันควัน บรื้นนน

ทว่าเรื่องไม่คาดฝันพลันเกิดขึ้น TT^TT เมื่อฉันต้องมาเจอไอ้หมอนั่นอีกครั้ง@@@ ในฐานะเฟรชชี่มหา’ลัยเดียวกัน (โลกจ๋า ช่วยเบี้ยวบ้างเหอะ กลมเกิ๊น -O-) แง้ ปฏิบัติการตามล่าค่าเสียหายของรถเริ่มต้นขึ้นแล้ววว!! >_<



ถ้าไม่มีเหตุบังเอิญให้มีโอกาสได้หนุกหนานกับการเรื่องของ "พี่เสือ-น้องจู" (Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็ก) มาก่อน นิยายที่มีหน้าอารมณ์เปรอะอยู่อย่างนี้ คงจะเมินกันไปเป็นปกติเลยทีเดียว  แต่เพราะชอบเรื่อง Perfect Match และน้องจูเค้าได้แอบเพ้อฝันถึงรุ่นพี่มหาวิทยาลัยแบบพระเอกหนุ่มวิศวะในนิยายที่ชื่อ "เฮียสอง"  สามสาวที่อ่านนิยาย Perfect Match เล่มเดียวกัน จึงพร้อมใจกันอยากรู้จัก  เฮียสอง ขึ้นมาติดหมัด  

เฮียสอง คือ พระเอกนิยายเรื่องนี้แหละค่ะ 

จากเหตุการณ์บังเอิญชน แต่หนีความรับผิดชอบแบบตั้งใจสุดๆ ที่เกิดขึ้นตามเรื่องย่อข้างต้น   ฉากพบกันครั้งแรกของ "สอง" กับ "เปรี้ยว" จึงจบลงอย่างน่าจดจำด้วยการที่หนุ่มสองสุดจะของขึ้น จึงปารองเท้าเข้าใส่รถที่เปรี้ยวขับหนีไปจนกระจกแตกร้าวและรองเท้าคาติดรถไปเป็นที่ระลึกแค้น 

ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้พบกันอีกครั้งในวันรับน้องที่ต่างคนต่างเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง

ได้เวลาทวงแค้นทวงคืนค่าเสียหายแล้วสินะ

รถแพ้งแพง  ค่าเสียหายย่อมแพ้งแพง   มันมีความจำเป็นที่เปรี้ยวไม่อาจจะชดใช้ได้ในคราวเดียว ระหว่างนี้จึงต้องรับเวรรับกรรมด้วยการรับคำเป็นเบ๊คอยรับใช้ที่สองไม่เคยจะว่างเว้นเรียกใช้สอยเธองกๆ อย่างกับทาสในเรือนเบี้ย ถ้าอิดออดไม่ยอมทำก็ขู่เข็ญทั้งเรื่องเงิน เรื่องแจ้งตำรวจสารพัด

Devil Besides you ชัดๆ !

 ...สถานะของเปรี้ยว ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟน แต่เป็นอย่างที่เป็นคือคนที่ต้องให้อยู่ใกล้ๆ คอยทำโน่นทำนี่ให้  นานไปชักเริ่มชิน เริ่มห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้ .. ไม่รู้เปรี้ยวจำใจต้องใกล้ชิด หรือเพราะสองติดเปรี้ยวมากจนแงะไม่ออก

แล้วมันก็กลายเป็นความรัก 

แต่ปัญหาคือ .. สองเป็นคนหน้าตาดี จึงเป็นที่หมายปองของผู้หญิงมากหน้าหลายตา
และนายสองของเราก็เป็นชายเจ้าชู้ที่ไม่เคยปฏิเสธใคร  ... 

แล้วความรัก มันจะไปกันได้อย่างไรกับความเจ้าชู้

สองรักเปรี้ยวมาก จนไม่กล้าจะแตะต้อง เพราะรักจึงอยากถนอมไว้ขึ้นหิ้ง  ไม่อยากให้ถูกใครมองไม่ดี ไม่อยากให้มีอะไรเป็นที่เสื่อมเสีย   แต่เพราะเป็นชายเจ้าชู้ จะยอมอดหยากปากแห้งก็ยากจะทำอยู่ สองจึงอดไม่ได้กับผู้หญิงคนอื่นๆ  เมื่อถูกเสนอ ย่อมตอบสนอง เป็นคนชั่วคราวที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป และหวังว่าเปรี้ยวจะไม่รู้ 

แต่ถึงจะเพียรปกปิดเท่าไร  "ความลับ" มันไม่มีในโลกหรอกจ้า


เป็นหนึ่งในชุดนิยายของหนุ่มๆ ตระกูลวิธิตสกุล  ที่มีลูกชายสี่ ลูกสาวหนึ่ง  (5 เรื่อง) 

เรื่องนี้ "สอง" กับ "เปรี้ยว" วัยเดียวกัน จึงเรียกกันด้วยชื่อเหมือนเพื่อนเรียกกันตามประสา ส่วนคำว่า "เฮียสอง" จะปรากฏอยู่ไม่กี่คำที่มีตัวละครอื่นเรียก  โดยปกติเราชอบนิยายที่ตัวละครเรียกกันด้วยคำว่า "เฮีย" มากๆ เลย  เพราะรู้สึกว่าอบอุ่นกันเองน่ารักดี  ดังนั้นเรื่องของเฮียสี่  (4th Love แอดมิทหัวใจรักยกกำลังสี่) หรือที่เพื่อนๆ เรียกว่า "หมอโฟร์ท"  (นักศึกษาแพทย์ )  การที่เขาเรียกแทนตัวเองกับนางเอกว่า "เฮีย" อยู่ จึงเป็นอะไรที่น่ารักมากกว่า  แต่เราชอบเฮียสอง เสือยิ้มยาก พูดน้อย แสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า (ถ้าไม่นับเรื่องนอกกาย) เนื้อเรื่องก็ชอบเรื่องนี้มากกว่า เพราะมันมีดราม่าเรื่องความเจ้าชู้นี่แหละ แต่ไม่รู้ทำไม ไม่รู้สึกว่าเกลียดสองนะ   ทั้งที่ทำตัวแย่มากขนาดนั้น จนอยากจะตบกบาลให้คว่ำ

คงเป็นเพราะรู้สึกว่าชีวิตเด็กมหาลัยยังเป็นวัยรุ่นคะนอง  และเราเชื่อในความรู้สึกของตัวละครที่มันชัดเจนว่าสองรักเปรี้ยว เธอจึงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต่างออกไป และเขาก็พยายามปกป้องเธอด้วยวิถีทางของเขา  แต่.. ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชดเชยกับความผิดที่ทำได้หรอกนะ  และสองเองย่อมรู้ตัวดี ..การที่สองไม่ร่ำไร มันอาจจะเหมือนไม่รักหรือไง ทำไมไม่ง้อมากกว่านี้  แต่เราชอบแบบนี้นะ ชอบผู้ชายที่เสียใจแต่ก็ยอมรับมันโดยไม่ต้องคร่ำครวญพิรี้พิไร  หนักแน่นดี ทั้งรัก ทั้งเลิก ทั้งตัดสินใจที่จะเริ่มใหม่อีกครั้ง  .. เป็นชายเจ้าชู้ทางกายแต่หัวใจให้เธอคนเดียว  .. โดนดัดสันดานแล้วจะกลายเป็นคนที่ใช้ได้  ก็ถ้าโตๆ กันแล้ว ถึงเนื้อถึงตัวแฟนตัวเองได้แบบไม่ต้องเกรง  สองก็คงไม่ต้องการใครอื่นแล้วล่ะมั้ง (  อุ้ย.. นี่เราคิดอะไรเนี่ย 555)

เรื่องนี้ แนะนำเพื่อนอ่านอีกสองคน  ผลคือ 

คนนึงชอบ   แต่อีกคน ไม่ชอบ เพราะประเด็นสองมีคนอื่น

แต่เราชอบนะ  .. พระเอกเจ้าชู้ในนิยายมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเวลาที่เขาหยุดแล้วกับใครสักคน

อ่านแนววัยรุ่นบ้างก็น่ารักเบาๆ สนุกดีเหมือนกันค่ะ 




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558    
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 7:10:43 น.
Counter : 5536 Pageviews.  

รักลุ้นวุ่นหวาน_ข้าวแกง ขนมเทียน และผู้ชาย "ไม่เกรียน" ที่รักเธอ



โดย : วิรมย์รดา กะรัต
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์คำต่อคำ



เห็นปกนิยายสีหวาน แล้วรู้สึกเหมือนระดับน้ำตาลในร่างจะพวยพุ่ง อะไรจะดูหวานขนาดนี้ เป็นธรรมดาคงนึกกลัวความหวาน  เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบนิยายที่หวานซึ้งมากนัก แต่ .. บนปกหนังสือโปรยประโยคมัดใจไว้ว่า ...

“ข้าวแกง ขนมเทียน และผู้ชายเกรียนๆ ที่รักเธอ”


หือ..?  พระเอกคาแรคเตอ์นี้เหรอ .. "เกรียนๆ" นี่สเป็คเลยนะ 
ขออ่านเรื่องย่อที่ปกหลังสักหน่อยซิ

ด้วยเหตุจากเรื่องราวของรักสี่เส้าในอดีต ส่งผลให้คนบ้านใกล้เรือนเคียงที่ควรได้พึ่งพาอาศัยกลับกลายเป็น ‘คู่อริ’ หนำซ้ำยังได้แรงยุให้รำตำให้รั่วจากเจ้เม่ยมหาภัยคอยย้ำรอยร้าว เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ฉันใด มี ‘ร้านข้าวแกงแม่มาส’ เหตุไฉนต้องมี ‘ร้านพองามขนมไทย’ ที่ย่านจำเริญมิตร

เพราะความชิงชัง แม้นมาสจึงสั่งห้ามลูกสาวคบหากับลูกชายคู่อริข้างบ้าน ทว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ นานวันเข้า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกๆ กลับมีมากขึ้น แถม ‘หนูมา’ ผู้น่ารัก ยังเริ่มมีความรู้สึกดีๆ กับ ‘พี่เทียน’ ขาเกรียน เมื่อพบว่าต่างก็มีฝันเรื่องร้านเบเกอรี่ที่ชื่นชอบ จนแอบกระทำการลับร่วมกัน !

แต่จะทำเช่นไร เมื่อแผลใจในอดีตไม่อาจทำให้สองแม่ลงรอย ไม่ยินยอมให้ลูกๆ ทิ้งรากเหง้าเพื่อไขว่คว้าสร้างวิมานในอากาศ แถมเรื่องจะรับลูกชายคู่อริมาเป็นเขยขวัญนั้น...คงไม่มีวัน !



ความรักของลูกชายแม่ค้าขนมหวาน กับลูกสาวแม่ค้าข้าวแกงคนข้างบ้าน สองคนต่างก็มีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าช่วยแม่ของตนทำมาค้าขายในฐานะหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้าน   ..บ้านที่ชิดติดกัน เห็นหน้าส่งสายตาเหล่ถึงกันได้   แต่ในเมื่อสองแม่ไม่ถูกกัน  แล้วลูกๆ นั้น จะมีไมตรีต่อกันได้อย่างไร  

พลอตอย่างนี้กับ คำว่า "ขาเกรียน" ทำให้หน้าตากวนๆ ของใครคนหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด  "ไอ้ต๋อง" รักเกิดในตลาดสด  ไอ้ต๋องมาเป็นพ่อค้าขายผักช่วยเหลือพี่สะใภ้ และเกิดไปตกหลุมรักกิมลั้ง ลูกสาวแม่ค้าขายปลาที่มาช่วยแม่ของเธอขายปลาอยู่ทุกวัน  แต่ว่าแม่ของกิมลั้งไม่ชอบไอ้ต๋อง จึงทำให้มีปากมีเสียงกันเป็นประจำเพราะไอ้ต๋องนั้นสุดแสนจะยียวนกวนประสาท  และหากสมัยนั้นจะมีคำว่า "เกรียน" ใช้กันแล้ว ก็คงจะบอกได้เลยว่าไอ้ต๋องนั้นเป็นคนสุดเกรียนนนนน

คาแรคเตอร์ของไอ้ต๋อง  บวกกับเรื่องความรักที่แน่นอนว่าจะต้องถูกกีดกัน ทำให้รู้สึกคาดหวังกับอารมณ์สนุกสนานของเรื่องไปในทำนองนั้น  จึงทำให้ตัดสินใจซื้อนิยายเรื่องนี้มา  เพื่อจะพบว่า .. มันไม่ได้เป็นอย่างที่หวังสักนิดเดียว   


แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านิยายเรื่องนี้ไม่ดี  แม้จะแอบรู้สึกว่าถูกล่อลวงด้วยคำว่า "เกรียน" ก็ตาม พระเอกนั้นนอกจากที่เคยตีกับรุ่นพี่เมื่อตอนเด็กๆ และโตมาเป็นนายหน้าหนวดแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเรียกว่าเกรียนได้เลยแม้แต่นิดเดียว  นางเอกก็เหมือนกัน แถวๆ คำนำ (มั้ง ... หนังสือไม่อยู่ในมือ เพื่อนยืมไปจำได้ไม่แม่นวาเป็นคำนำผู้เขียน-กะรัต หรือคำนำสำนักพิมพ์ ) ที่บอกประมาณว่ามีมุมร้ายๆ  .. ซึ่งแต่ต้นจนจบเราก็ไม่เห็นว่านางเอกนั้นจะมีอะไรตรงไหนที่เรียกว่าร้าย  

นอกจากจะ "ไม่เกรียน"  พระเอกยังแสนสุภาพอ่อนน้อมกับผู้ใหญ่  กับนางเอกนั้นก็ออกจะอบอุ่นกันเอง  เป็นผู้ชายนุ่มๆ ที่ คำพูดคำจาก็แสนจะฟังชื่นรื่นหู   อ่อนโยนมีน้ำใจ  จริงๆ เราอยากจะใช้คำว่าอ่อนหวานเสียด้วยซ้ำ แต่ติดที่พี่เทียนเขาเป็นผู้ชาย    การเรียกชื่อแทนตัว ผู้ชายเรียกแทนตัวว่า "พี่" กำลังกันเองน่ารัก แต่พระเอกเรื่องนี้เรียกตัวเองว่า "พี่เทียน"  เรารู้สึกว่ามันมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งไปนิดเวลาที่เขาพูดคุยกันกับ "หนูมา" จริงๆ เธอก็ชื่อเล่นชื่อ "มา" เฉยๆ นี่แหละ แต่เพราะเขาอยากจะเรียกให้แตกต่างจึงเรียก "หนูมา" (บอกแล้วว่าเป็นชายมุ้งมิ้ง)  จึงคิดได้ว่าผู้เขียนกับผู้อ่านอย่างเราให้คำแทนลักษณะคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันมาก  "นุ่ม" กับ "เกรียน" ต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาก 55


แต่ลบทิ้งความคาดหวัง  คาดเดาที่ผิดไปจากคำว่า "เกรียน" แล้ว นิยายเรื่องนี้มีสิ่งดีๆ ที่โดดเด่นได้ใจ

การทำมาหาเลี้ยงชีพ ...ชอบมาก  การเข้ามาของห้างสรรพสินค้า ปัญหาที่จะสร้างผลกระทบต่อความอยู่รอดจึงต้องรีบทางแก้ไขเพิ่มช่องทางค้าขายใหม่ๆ ให้เข้ากับยุคสมัย   การสืบทอดความหวังของแม่  การก่อร่างสร้างฝันของตัวเอง  พระนางเรื่องนี้เป็นพ่อค้าแม่ค้า  ไม่ได้เป็นตระกูลร่ำรวยมาจากไหน  ผู้เขียน-กะรัต ผูกสัมพันธ์ความรักของเขาและเธอไปบนวิถีการดำเนินที่ชีวิตที่ต้องกินข้าวแกง ขายของหน้าร้าน  ทำขนม  ส่งอาหาร  รับจ้างจัดอาหารในงานอีเวนต์  ขนขนมไปตั้งแผงขายที่ตลาดนัด   .. เหล่านี้คือ..แวดวงของพ่อค้าแม่ขายที่ทำให้เขาและเธอได้พบกันลำพังลับตาจากแม่ๆ ได้หันหน้ามาพูดจากันดีๆ   หลังจากที่ต่างคนต่างเฉยๆ ไม่เกลียด แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันมานมนาน ทว่า..น้อยนิดอาจมีผลมากมายนัก  ถึงไม่เคยใกล้ชิดสนิทใจ  แต่การเป็นคนบ้านติดกัน ใช้ผนังห้องนอนเดียวกัน เห็นหน้ากันมาแต่เล็กจนโต  เจอกันนิดจูนกันหน่อยก็เชื่อมใจติด "พี่เทียน" ที่มาเนียนกันเองกับ "หนูมา"  ก็เนียนสนิทสนม จนได้หัวใจไปเนียนๆ นั่นแหละค่ะ

การสร้างสรรค์ชุมชน "ย่านจำเริญมิตร" เรื่องราวของชีวิตผู้คนแวดล้อมแต่ละครอบครัว เป็นเพื่อนบ้านร่วมอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกัน มีร้านขายของชำ ร้านกาแฟ ร้านขายยา ร้านเสริมสวย ตลาดนัด บ้านคนรวยในย่านฯลฯ  ผู้คนมีซุบซินนินทา อิจฉาริษยา  เห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือเกื้อกูล นี่แหละคือสภาวะการเป็นชุมชนที่ยังพอรู้จักมักคุ้นกัน และผู้เขียนเขียนได้ถูกใจให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติสมจริง    มีหลายเรื่องที่เราชอบมาก เช่นเรื่องของซิ้มชราที่มีปัญหาผิดใจกับทั้งร้านข้าวแกงแม่มาสและร้านพองามขนมไทย  เรื่องที่พี่เทียนพยายามช่วยประคับประคองเด็กในชุมชนสองคนที่มีพ่อไม่เอาไหนและแม่ต้องทำงานหนักลำพัง พี่เทียนช่วย...โดยการจ้างเด็กให้เฝ้าแผงขายขนมที่ตลาดนัด  เลิกการขายที่ตลาดนัด พี่เทียนก็ให้เด็กเอารับเอาขนมไปขายในราคาทุน ขายไม่หมดก็ให้เอามาคืนไม่คิดตังค์ คือ สิ่งที่พี่เทียนทำเพื่อช่วยเหลือสามแม่ลููกที่ลำบาก .. พี่เทียนหล่อมากเลยพี่  

ตัวละครที่มีบทบาทโดดเด่นในเรื่องนี้อีกคนหนึ่งคือ "โม"  หรือ "เด็กโม" อดีตน้องชายของ "หนูมา"  ทีต่อมากลายเป็น "น้องสาว"  สาวประเภทสองที่ไม่ได้สนใจไยดีกับความเป็นอริของแม่ๆ แต่วิ่งเข้าวิ่งออกสองบ้านมาตั้งแต่เล็ก  เพราะเด็กส่วนเด็ก แม่งาม ของพี่เทียนจึงไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร และ "เด็กโม" ก็เป็นชื่อที่บ้านของพี่เทียนที่ใช้เรียกเธอมาตั้งแต่เล็ก เหมือนเป็นลูกสาว น้องสาวของบ้าน ทางด้าน แม่มาส แม้จะไม่ชอบใจลูกตัวเองเอาซะเลย แต่ก็ทำได้แค่บ่นว่า เพราะไม่อาจจะห้ามปรามลูกได้    เด็กโมนั้นแต่เล็กจนโตก็ติดพี่เทียน (สุภาพบุรุษมาก มิได้มีความนึกเกรงกลัวหรือเดียดฉันท์น้องกระเทย) สองคนจึงสนิทสนมกัน มีเพียงแต่หนูมาที่อดีตผ่านมาไม่ได้พูดจากัน เพราะเธอคือ ลูกสาวของแม่  เหมือนเสียลูกคนเล็กไปเป็นเด็กบ้านนั้นเสียคนหนึ่งแล้ว แม่มาสจึงเข้มงวดกับหนูมาเป็นพิเศษเรื่องไม่ให้ไปคบกับลูกบ้านนั้นโดยเด็ดขาด

เด็กโม  ที่ไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เป็นนักศึกษาสาวปีสุดท้าย ที่รักการร้องเพลง ระหว่างเรียนเธอจึงทำงานพิเศษที่เธอรักไปด้วยนั่นคือการรับจ้างร้องเพลงตามไนท์คลับ .. เธอเป็นหนึ่งเดียวผู้นำสารข้ามผ่านกำแพงทิฐิของสองแม่ นำเรื่องราวของอีกบ้านเล่าสู่อีกบ้าน  ...แต่ถึงอย่างนั้น แต่เล็กจนโต กำแพงที่มีอยู่ก็ไม่เคยผุกร่อนหายไปไหน มันยังอยู่ตรงนั้นเสมอ

ความรักของพี่เทียน กับ หนูมา ..จะทลายมันลงได้อย่างไร

แนะนำให้ลองดูค่ะ  หวานๆ โรแมนติกดี  คิดว่าอ่านแล้วน่าจะชอบกัน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2558    
Last Update : 7 มิถุนายน 2558 19:53:53 น.
Counter : 1095 Pageviews.  

เลือดรักกบฏหัวใจ _ ความรักฤาจะฝืนต่อโชคชะตา



เลือดรักกบฏหัวใจ ,   วัตตรา : เขียน
สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ ฟีล กู๊ด , พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม  ๒๕๕๘

หัวใจที่เปี่ยมด้วยรัก จำต้องอดทน เฝ้ารอวันที่จะสมหวังในรักด้วยความทุกข์ตรมแม่หุบเขาขวางหน้า  ผืนน้ำจะปิดกั้นเส้นทาง เขาก็จะฝาฟันกับไป เพื่อให้หัวใจอีกดวงรู้ว่า  รัก  ของเขายังคงมั่น ทั้งที่หัวใจบางห้องเขาเปิดรับใครคนหนึ่งไปแล้วโดยไม่รู้ตัว  เธอ  เปรียบเสมือนผู้ชุบชีวิตใหม่อยู่เคียงข้างเขาทั้งยามสุขและทุกข์ พบกับ "เลือดรักกบฏหัวใจ" นวนิยายรักที่จะทำให้ทุกท่านยิ้มทั้งน้ำตา

แม้จะไม่เคยรู้จักนักเขียน "วัตตรา" ไม่เคยอ่านผลงานเรื่องใดมาก่อน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวังไว้มากด้วยเหตุผลต่อไปนี้  

ปกหนังสือ ดึงดูดความสนใจได้ทันที  อะไรหว่า  มีทหารถือปืน มีเครื่องบิน มีควันพวยพุ่ง หยิบอ่านเรื่องย่อหลังปก   แว่บแรกในความคิดเลยคือ ความรักโรแมนติกดราม่าแบบ  โกโบริ-อังศุมาลิน  หนังสือเล่มหนา ราคาไม่เบา ๔๙๐ บาท   เอาวะ .. ลองเสี่ยงดู เผื่อได้อารมณ์แบบคู่กรรมเลยเชียวนะ  

คำนำสำนักพิมพ์ เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่แนวทางผี ลึกลับ เหนือธรรมชาติ ของสำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พัลลิชชิ่ง แม้แต่น้อยนิด แต่เมื่อทางทีมงานของสำนักพิมพ์ได้อ่านต้นฉบับที่วัตตราส่งมาให้อ่าน ก็มีความเห็นตรงกันว่า นิยายเรื่องนี้มีคุณค่ามากพอๆ กับความสนุกสนาน มีพลอตเรื่องที่น่าสนใจ เป็นนิยายที่อ่านแล้วสร้างความรู้สึกดีๆ ให้เกิดขึ้นในหัวใจ จนไม่อาจเพิกเฉยให้นวนิยายดีๆ เช่นนี้ผ่านไปจึงเกิดการเปิดสำนักพิมพ์น้องใหม่ กรู๊ฟ ฟีล กู๊ด เพื่อจัดพิมพ์นวนิยายในแนวรักที่ผู้อ่านอ่านจบแล้วจะเกิดความรู้สึกอิ่มใจ มีกำลังใจและเกิดพลังในเชิงบวกขึ้นในชีวิต  และได้จัดพิมพ์นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของสำนักพิมพ์   .... เป็นนิยายที่สร้างพลังได้ขนาดนี้ย่อมไม่ธรรมดาใช่ไหมล่ะคะ

จากใจบรรณาการ ที่กล่าวถึงว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักความผูกพันธ์ในครอบครัว ความรักในหน้าที่  และความรักจากหัวใจที่มีต่อใคร่บางคนซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิต นี่คือประเด็นของ "ความรัก" ที่ผู้เขียนนำเสนอ

คำนำนักเขียน ที่บอกว่า ...นวนิยายย้อนยุคเรื่องนี้ อิงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของโลกไว้ในระดับหนึ่ง เป็นสงครามเวียดนามที่เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๘ และสิ้นสุดเมื่อปี ๒๕๑๘ ในเนื้อเรื่องผู้เขียนไม่ได้ระบุปีชัดเจน แต่ตามเนื้อเรื่องมีนัยว่าสงครามเวียดนามเริ่มต้นมา ๒-๓ ปีแล้ว และดำเนินไปอีกเกือบ ๒ ปี มีเหตุการณ์ บุคคล สถานการณ์และสถานที่บางแห่ง บางหน่วยงานที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องที่วางโครงไว้...

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ประกอบเข้ากับปก รูปเล่ม และความหนาของหนังสือที่ดูดีมีราคา ชวนให้คิดว่ากำลังจะได้ค้นพบนักเขียนฝีมือดีที่ข้อมูลแน่นแบบสไตล์  โสภาค  สุวรรณ  บวกๆ กลิ่นไอความขมขื่นรันทดแบบ ทมยันตี หรือเปล่า ?




อ่านแล้วได้ใจอย่างนี้ว่า  ... มีดีตามข้างต้นที่เกริ่นมา

เริ่มตั้งแต่  สำนวนภาษาที่ดี อ่านรื่นไหล   พลอตเรื่องที่ดีมากๆ  มีความน่าสนใจ ชวนติดตาม  

การที่นายทหารพี่น้องสองคน  เจษฎา-น้องชาย เป็นนายแพทย์ทหาร  และ จอมพล-พี่ชายเป็น นายทหารหน่วยรบพิเศษสกอร์เปียนพิทักษ์ชน  สองพี่น้อง รักผู้หญิงคนเดียวกัน คือ ไหมทอ คุณครูสาวสวยนิสัยดี โดยที่มีความสมเหตุสมผลพอในโชคชะตาอันก่อเกิดจังหวะเวลา ที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่ารักผู้หญิงเดียวกัน หากว่ารู้ ความรักของพี่น้องนั้นมากพอจะเสียสละและหลีกทาง อย่างที่ใครคนหนึ่งก็ได้ทำในเวลาต่อมา แต่มั่นไม่ได้ยุ่งเหยิงอยู่เพียงแค่นั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจของใครบางคน หรือ เป็นเพราะพรหมลิขิตบันดาลชักพาไม่ว่าจะการพบเจอหรือพลัดพราก การจากไป หรือ กลับบมา  ผู้เขียนทำได้ดีมาก  ทำให้อยากจะรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อีกทั้งเมื่อเวลาไม่พอจะอ่านรวดเดียวจบ ถึงกับอดไม่ไหวด้วยความอยากรู้จึงพลิกหาคำตอบว่ามันยังไงกันแน่

อย่าเลียนแบบเชียวนะคะ  นั่นเป็นการสปอยล์ตัวเองอย่างเสียหาย 

สปอยล์ตัวเองเสร็จ  ยิ่งรู้สึกว่านี่เป็นพลอตที่น่าสนใจมาก  ผู้เขียนจะเขียนออกมาอย่างไรให้เรารู้สึกดีกับการลงเอยของความรัก ระหว่างชายสอง  หญิงสอง  ที่แม้จำนวนจะเท่ากัน แต่มันไม่ได้หมายความจะลงตัวแบบถูกใจไปซะทั้งหมด  มันต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียดเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครด้วย 

ครึ่งแรกนั้นเราอินร่วมกับตัวละครมาตลอด   แม้จะบ่นแล้วบ่นอีก  ไหนล่ะ ...ประวัติศาสตร์ ไหนล่ะ สงครามเวียดนาม ซึ่งกว่าจะมีเอี่ยวก็ปาเข้าไปกลางเรื่องที่เป็นจุดหักเหความรักของสองทหารหนุ่มพี่น้อง และนางเอกอีกคนได้เข้ามาเกี่ยวข้อง  "ไฮซิน" ลูกสาวของ "เหวียนดง" หมอยาสมุนไพรและหัวหน้าของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ภาวะสงครามทำให้ต้องพากันอพยพมาตั้งหมู่บ้านซุกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา  

สำหรับเราที่ชอบนิยายมีเกร็ดความรู้ประกอบแบบโสภาค สุวรรณ  มันไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบความเยอะของโสภาค สุวรรณ  อ่านเรื่องนี้คงถูกใจ เพราะมีกลิ่นไอแบบสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านในภาวะสงครามให้พอสอดคล้องกับที่มาที่ไปของตัวละครเท่านั้น ไม่ได้เยอะอะไรนักในแง่ของเกร็ดข้อมูลหรือประวัติศาสตร์ ที่จริงแล้วนอกจากสร้างเหตุการณ์ในเวียดนามให้เกิดการพลิกผันกับตัวละครแล้ว เราไม่ได้รู้สึกถึงการอิงประวัติศาสตร์อื่นใดเลย  ซึ่งผู้เขียน วัตตรา ก็ออกตัวไว้อยู่เหมือนกันว่าให้อ่านเพื่อความบันเทิง


ครึ่งหลังนี่แหละ ที่เราเริ่มมีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการกระทำของตัวละคร  แม้จะเข้าใจได้ว่าเรื่องของความรักมันห้ามกันไม่ได้  และผู้เขียนก็ทำได้ดีซะจน เรารู้สึกว่า  ไม่มีใครเลยที่ผิด มันคือความรัก มันคือจังหวะเวลา และโชคชะตา การปักหลักยึดมั่นรักไม่ลืมต่อใครสักคน  หรือ การจะเปลี่ยนใจของใครสักคนจากรักคนนี้ มารักคนนั้น  จากที่ตั้งใจจะเลือกคนนี้ แต่กลับเปลี่ยนไปเลือกอีกคน มันเป็นเรื่องเกิดขึ้นได้  และมันก็ไม่ใช่ในเวลาที่ผิดด้วย

แต่ ... เรามีทัศนติว่าความรักนั้นสามารถเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงได้ก็จริง  แต่ความรักในแบบที่ชอบมันควรจะหนักแน่นมั่นคง และหากจะต้องเปลี่ยน อาจจะรู้สึกดีกว่าถ้ามันผ่านระยะเวลาที่นานกว่า ผ่านการซาบซึ้งในการกระทำอื่นใดที่ซื้อใจที่มากกว่านั้น   ความรักนั้นจะรักใครก็รักได้  แต่ศักดิ์ศรีของตัวเอง หรือ การให้เกียรติกับอีกคนมันเป็นเรื่องของมุมมองจริงๆ  ซึ่งมีตัวละครอยู่คนเดียวที่รู้สึกในแง่ไม่ดี และมันบ่งชี้ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจของเราออกมาได้ ตัวละครที่ว่านี้ไม่อาจจะยอมรับและยินดีกับความรักนั้น เพราะเห็นว่ามันเป็นการ 'ไม่ให้เกียรติ' ต่ออีกคนในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ 

มันเป็นจุดอ่อนไหวในมุมมองส่วนตนของเราเองที่นิยายเรื่องนี้ยังข้ามผ่านไปไม่ได้   ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ ถ้าใครอ่านเกี่ยวกับกระทู้ละคร สุดแค้นแสนรัก ในพันทิปช่วงนี้ จะพบความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายเกี่ยวกับ ความรักสามเส้าของเราสามคนของ ยงยุทธ ธนา และ หมอรัตน์ แต่ในละครเรื่องนี้ในมุมมองของแต่ละคนจะชี้การกระทำได้ชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไรที่เราเห็นว่าควรหรือไม่ควร  ต่างจากนิยายเรื่องนี้ ...ที่เราเองก็ไม่แน่ใจว่าอะไรบางอย่างที่เราไม่ชอบใจนั้นคนอื่นๆ คิดอย่างไร  แต่ว่านิยายเรื่องนี้ ความรัก และ ตัวละคร ไม่ได้มีอะไรเหมือนสุดแค้นแสนรักหรอกนะคะ  เป็นเพียงการยกตัวอย่างเรื่องมุมมองเฉยๆ 

แต่สิ่งที่โดดเด่นจับความรู้สึกคือความสัมพันธ์ของเพื่อนและครอบครัว 

ความรักของเพื่อน ที่ร่วมสุขร่วมทุกข์ ร่วมเป็นร่วมตาย ผ่านตัวละครอย่าง บดินทร์  ที่เป็นเพื่อนสนิทของเจษฎา   ความรักของพี่น้อง ระหว่างจอมพลกับเจษฎา  และน้องสาวคนสุดท้อง  จันทร์จิรา  หรือ "หนูจันทร์" ของพี่ๆ ที่ความรักความห่วงใยในตัวพี่ชายทั้งสองทำให้เธอต้องพลอยเจ็บปวดไปกับความรักของพี่ๆ ด้วย    และความรักของพ่อแม่แต่ละครอบครัวที่นำเสนอในมุมแตกต่าง ความรักที่ให้อิสระ เคารพการตัดสินใจ  ถนอมหัวใจลูก  ความรักที่ขีดเส้นตีกรอบ กะเกณฑ์ให้เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะอยากให้ลูกได้รับในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด 


อาจมีที่ไม่ค่อยถูกใจอย่างที่กล่าวมา แต่ยืนยันว่าดีพอที่จะแนะนำว่าน่าลองค่ะ 




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2558    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2558 13:54:47 น.
Counter : 3400 Pageviews.  

Perfect Match แฟนฉัน! รับประกันความเพอร์เฟ็ก_ "พี่เสือ-น้องจู" ออนแอร์แล้วจ้า

ผู้เขียน May 112  สำนักพิมพ์แจ่มใส

เสียง  "คิ คิ คิ"  .. .. หรือไม่ก็อาการสั่น อึกๆๆ กลั้นหัวเราะ นั่นมันอะไรกัน  เข้าใจว่าตัวเองคงจะทำหน้าส่งภาษาแทนคำกล่าววาจา 'เป็นเอามาก' ไปยังเพื่อนรุ่นพี่ที่นั่งอยู่กันคนละฝั่งทางเดินบนเครื่องบิน เธอจึงตอบกลับมาว่า "เฮ้ยมันน่ารักมากจริงๆ นะ" พี่อีกคนที่นั่งติดกันกับเธอบอกว่า "นิยายมันก็คงจะน่ารักแหละ แต่พี่ว่าเจ้ก็ฟินเยอะกว่าชาวบ้านด้วยส่วนหนึ่ง"

ส่วนเราเองอยู่บนเครื่องก็ไม่หลับเลยอ่านนิยายที่พกไปจนเกือบจบ นึกอยู่ว่าแย่แล้ว  ขากลับจะเอาอะไรอ่าน พอบ่นๆ คุณพี่ก็เชียร์ให้อ่านนิยายเรื่องนี้สิ ย้ำแล้วย้ำอีกว่ามันน่ารักนะ ได้ทำเป็นละครของช่อง GMM ด้วย  เหรอ ...แต่ไม่ได้สนใจอะไรนะ  ก็ดูปกนิยายสิ .. แจ่มใสวัยสะรุ่นซะขนาดนี้ คงจะง้องแง้งกันน่าดู  แต่ก็อยากจะรู้เนื้อเรื่องเป็นไงเหรอ 

‘จูเนียร์’ คุณหนูคนงามทนลูกยุของเพื่อนๆ ผู้เสพติดศัลยกรรมไม่ไหวจึงไปร้อยไหมกับเขาบ้าง คือเธอก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าสวยอยู่แล้ว แต่ก็อยากสวยยิ่งๆ ขึ้นไปไง >_< แล้วผลเป็นยังไงรู้มั้ยเอ่ย…แจ็กพ็อตแตกจ้าาา~เธอแพ้ไม่มีชิ้นดี ติดเชื้อร้ายแรงจนหน้าสวยๆ กลายเป็นหน้าผีในพริบตา! TTOTT กลุ่มเพื่อนไฮโซรวมทั้งแฟนหนุ่มพร้อมใจกันหลบลี้หนีหน้า แถมพ่อแม่ก็ทำท่ากล้าๆ กลัวๆ ใบหน้าหนองปูดของลูกสาวอีก มันน่าน้อยใจมั้ยเนี่ย แงๆๆ  :’(

ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จูเนียร์เลยตัดสินใจพาหัวใจอันบอบช้ำไปเรียนต่อที่พิษณุโลกเงียบๆ กะว่ารักษาหายดีเมื่อไหร่ค่อยกลับมาเฉิดฉายในสังคม และที่นั่นเธอก็ได้พบกับพี่รหัสสุดฮอตอย่าง ‘พี่เสือ’ ที่คอยปกป้องเธอจากคนปากเสียที่เอาแต่ล้อว่า ‘นี่ผีหรือคน’ อยู่นั่นแหละ (-_-*) นี่ถ้าหน้าไม่พัง เธอคงไม่มีวันรู้เลยนะว่าโลกนี้มันโหดร้ายแค่ไหน!

นั่นปะไร พลอตเรื่องของวัยรุ่นวัยใส  (ปรามาสในใจ) ยิ่งนึกไปถึงว่าในนิยายคงจะมีสัญลักษณ์หน้าตาที่บ่งบอกอารมณ์ให้ขัดตาขัดใจด้วยแล้ว  ยิ่งคิดว่าไม่น่าจะใช่แนวเรา ( ..ที่อายุไม่น้อยแล้ว 55)

เล่าตัดไปที่บนเครื่องบินขากลับ  พี่อีกคนที่อ่านหนังสือเล่มนั้นต่อ ก็อีกคนละ กับอาการ .. คิคิคิ กึกๆ กลั้นหัวเราะเนี่ย  พร้อมกับเสียงค่อนขอดของเจ้าของหนังสือ "ฉันว่าแกนี่เยอะกว่าฉันอีกนะ"  .. แต่หนูคิดว่าพี่สองคนน่ะเยอะพอๆ กัน (อันนี้แอบคิดในใจ) แต่พออ่านนิยายง้องแง้งฉบับมินิพกพาแปลจากไต้หวันของพี่เค้าจบไปเล่มนึง ก็ถึงเวลาของเราบ้าง  ไหนขอเอามาลองอ่านหน่อยจิ๊ ที่ยอมอ่านจนได้เนี่ย เพราะพระเอกชื่อ "เสือ" หรอกนะ (ชอบชื่อนี้ค่ะ)


ฮะฮ่าฮ่า !! 

สำหรับมนุษย์ผู้มีเส้นขำขันอันตื้นต่ำอย่างเรา อาการหนักกว่าพี่ทั้งสองอีก  คนรอบข้างที่นั่งเครื่องมาต้องหาว่ายัยนี่บ้า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางทีก็หัวเราะคิกๆๆ อยู่กับหนังสือ

ชอบมากกกกก  พี่เสือ กับ น้องจูเนียร์  ที่โดนพี่เสือเขาหั่นชื่ออันกิ๊บเก๋ให้เหลือแค่จู (ชื่อบ้านๆ เรียกคล่องปากกว่ากันเยอะนะน้องนะ)  สำนวนของผู้แต่ง May112  วัยรุ่นมาก แต่ก็โดนใจคนที่ห่างไกลวัยรุ่นอย่างเรามากเช่นกัน 

มันจริงๆ เลยนะ ที่ว่าอย่าตัดสินหนังสือที่หน้าปก  พลอตอย่างนี้  ปกอย่างนี้   ถ้ามีทางเลือกในยามปกติคงไม่เลือกมาอ่านแน่  รู้สึกว่าพ้นวัยไปแล้ว แต่เพราะบนเครื่องไม่มีอะไรจะให้อ่าน จึงมีโอกาสได้อ่าน อ่านแล้วก็โอ้...มันสนุกมาก  กลับถึงบ้านต้องสั่งซื้อเก็บโดยด่วน

ตอนแรกคิดว่าจะต้องแอนตี้นางเอกแน่เลย แต่ผลปรากฏว่า ขณะที่คุณพี่ทั้งสองพากันเพ้อ พี่เสือ  เรากลับรู้สึกต่างนะ  พี่เสือก็ชอบมากอยู่หรอก แต่ที่ชอบมากว่า ชอบมากที่สุดในเรื่องคือ น้องจู    เซเล็ปไฮโซลูกสาวอภิโคตรมหาเศรษฐี แต่ดันไปร้อยไหมแพ้สารเคมีจนหน้าพังปูดหนอง..สำหรับเด็กสาววัยรุ่นที่เคยสวยสดงดงาม นี่มันเรื่องเศร้าที่มาพร้อมกับความฮาของสำนวนบอกเล่า   แม้หน้ายังจะพอมีโอกาสเยียวยารักษาได้แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกยาวนาว หมดสวยจึงโดนเพื่อนแก๊งสวยตัดออกจากแก๊งสี่สาวนางฟ้า  แถมยังโดนแฟนที่รักกันมาตัดความสัมพันธ์ อดีตคนเคยสวยจึงต้องหอบเอาความช้ำชอกหลบลี้หนีหน้าสังคมมาเรียนต่อที่มหาลัยต่างจังหวัด  

มันมีเหตุผลดีๆ  ที่จำเป็นไม่น้อยที่ทำให้เธอต้องละทิ้งความหรูหรามาแอ๊บจนเป็นคนไม่ได้รวย  

และเนื่องจากว่าเธอไม่เคยเกิดมาพบพาชีวิตแบบคนปกติธรรมดาทั่วไป เธอจึงไม่ค่อยรู้อะไรพื้นๆ ธรรมดาสามัญเหมือนคนอื่นๆ  ความใสซื่ออินโนเซนท์ที่ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอโง่  แต่เป็นเพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่า  อ้อ .. คนทั่วไปเค้าทำกันแบบนี้เองน่ะเหรอ  

การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเป็นคนเดินดินกินข้าวแกงของน้องจู มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะจะบอกให้  แต่เธอตลกแล้วก็น่ารักมาก  ก็ขนาดพี่เสือพี่รหัสผู้มีแฟนสาวแสนดีอยู่แล้วทั้งคน ยังอดเอ่ยปากไม่ได้

"น้องตลกดีว่ะ  พี่ชอบ" 

"พี่ชอบ"  คำที่พี่เสือชอบเอ่ย มันเหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่ ไม่มีอะไรแอบแฝง ก็แค่รุ่นพี่-รุ่นน้อง ก็แค่พี่รหัส-น้องรหัส  เพราะพี่เสือมีแฟนแล้ว  ขอย้ำ .. มีแฟนแล้ว อีกทั้งยังเป็นที่รู้กัน  รุ่นพี่ทั้งสองที่พักอยู่นอกมหาวิทยาลัย เขาอยู่ห้องเดียวกันเรียบร้อยโรงเรียนจีน  

"พี่ชอบ"  พี่เสือชอบบอกกับน้องรหัสอยู่บ่อยๆ แต่น้องจูก็ไม่ได้คิดอะไร  เช่นที่ก็ไม่มีใครสงสัยพี่เสือคิดอะไรอยู่

จูจะคิดอะไรได้  เธอหน้าผี ส่วน  "พี่เสือ" เขาหน้าตาดีขนาดนั้น  ก็ปริศนาตามหาพี่รหัสของเธอในตอนรับน้องน่ะยังบอกเลย  "โคตรหล่อ โคตรเท่"  แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะ พี่เสือเขาไม่ได้โดดเด่นอยู่แค่นั้น ..ยังพ่วงมาอีกสามสี่โคตร  " ...โคตรโหด โคตรปากหมา โคตรฮา และโคตรจน! "

นั่นไงล่ะ no one is perfect สรุปว่าพี่เสือมีดีแค่หน้าตา ... ถ้าไม่หล่อแล้วล่ะหนา ผู้หญิงที่ไหนจะมาแลชายโหดปากหมาที่โคตรจน

แต่เอาเหอะ  ยังไงพี่เสือก็มีน้ำใจมาดแมน ท่ามกลางการรุมล้อมของสายตารังเกียจเดียดฉันท์และคำวิจารณ์หยามหมิ่น พี่เสือคือคนที่เข้ามาปกป้อง

"หน้าสวยนักหรือไง ด่าคนอื่นว่าหน้าเละอย่างกับผีอ่ะ"
"ไหนก็ไม่เห็นสวยอะไรเลยนี่หว่า ทำไมกล้าด่าคนอื่นว่าเค้าเละอ่ะน้อง"

"อายป่ะ  วิจารณ์คนอื่นแต่ไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลยเนี่ย"

"ทำไมเหรอ  ด่าคนอื่นแล้วน้องสวยขึ้นเหรอครับ"

"ขอโทษน่ะมันง่าย แต่คนฟังน่ะเขาเสียความรู้สึกไปแล้วโว้ย
ไม่สวยแล้วยังปากเสียเนี่ย หาสามีไม่ได้นะ พี่ขอเตือน"

"ส่วนพวกแกด้วย ! เป็นผู้ชายซะเปล่ามานินทาผู้หญิงอย่างกับตุ๊ด! 
 กลับบ้านไปเอาเลกกิ้งแม่มาใส่ไป! ฟายยย"

ฮ่าฮ่า พิมพ์อยู่นี่ก็ยังขำ  ฟายยย   นี่คัดมาแต่คำพูดพี่เสือในจังหวะที่ทำให้ตกหลุมรักเขาเลยนะคะ แต่บรรยากาศตอนนั้นมันฮามาก ขณะที่ทุกคนกำลังวิจารณ์หน้าน้องจูกันอย่างเมามัน  แล้วพี่เสือมาทำให้มัน 

โอ...งี๊ดกันทั้งลานจอดรถ จะหายใจยังไม่กล้าเลยจ้า 

เอ่อ...สถานการณ์อึมครึมประหนึ่งหย่อมความกดอากาศต่ำ 

พี่เสือช่างด่าได้แรงมาก

ท่ามกลางโลกอันโหดร้ายไม่มีที่ยืนสำหรับคนหน้าพัง  คุณหนูจูเนียร์เกือบจะขอยอมแพ้แล้ววิ่งหนีกลับบ้าน  แต่ด้วยพี่เสือเขาให้ข้อคิดดีๆ น่าใส่ใจ  แถมยังบอกด้วยว่า 

"ใครด่าน้องเดี๋ยวพี่ถีบปากให้ สัญญาเลย  อย่ากลับเลยนะ"

น้องจูของเราจึงฮึดสู้โว้ยขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้น..น้องจูก็ชอบพี่เสือนะคะ แต่ชอบแบบชอบคนหล่อ ชอบแบบรุ่นพี่ที่น่านับถือ ยิ่งภายหลังเขากลายมาเป็นพี่รหัส  น้องจูของเรายิ่งให้ความเคารพ  ไม่มีจะคิดเป็นอื่น เพราะเธอเองก็สนิทกับ "พี่หนิง" แฟนพี่เสือที่ดีแสนดีกับเธอและยังเป็นพี่รหัสของ "หญิงบี้" เพื่อนสาวที่กลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย 

ก็เพราะน้องจู  เป็นแบบนั้นแหละ   ภายหลังกว่าจะเอยกัน พี่เสือต้องอ่อยน้องเสียสุดฤทธิ์  เกือบคิดแล้วว่า จู - น้องมันตายด้าน ก็พี่หล่อซะขนาดนี้ อ่อยซะขนาดนั้น ก็ไม่มีทีท่าว่าเข้าใจว่าพี่อ่อยเธออยู่ (เหนื่อยนะวุ้ย)

ก่อนหน้าจะพังเพราะการร้อยไหม จูเนียร์นั้นเป็นคนสวยแต่ดั้งแต่เดิม  พอรักษามาเรื่อยๆ หน้าก็เริ่มดีขึ้นๆ  เมื่อริ้วรอยเริ่มหายไปเธอก็ชักจะสวยขึ้นเรื่อยๆ  แต่พี่เสือก็ชักจะพื้นเสียไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหมือนกัน  เพราะแต่ก่อนมานั้นเขารักของเขาอยู่คนเดียว (ถึงยัยจูจะไม่รู้สึกรู้สาก็เหอะ) แต่พอจูสวยวันสวยคืน ก็เริ่มจะตกเป็นที่สนใจของผู้ชายมากหน้า  นี่ขนาดยังรักษาไม่หายนะ แล้วถ้าหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่ พี่เสือมิต้องแข่งกับคนเป็นแสนหรอกหรือ  เลิกเหอะจู ไม่ต้องรักษงรักษามันแล้ว สวยแค่นี้ก็พอ พี่เสือขอร้อง

พี่เสือ- น้องจู  จากจุดเริ่มต้นของการเป็นพี่น้องรหัส เขาและเธอจะเปลี่ยนมาเป็นแฟนได้ยังไง  ต้องกั๊กไว้ให้ติดตามความน่ารักน่าเอ็นดู  แต่ขอแอบแง้มนิดนึงนะว่าเรื่องนี้ชื่อ Perfect Match นะคะ ดังนั้นพี่เสือของเราที่ว่าโคตรจนนั้น เขามีเบื้องหลังไม่ธรรมดาแน่นอน 

หน้าพัง สำหรับจูเนียร์  มันเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสิ่งดีๆ  การได้พบกับโลกใบใหม่ ที่เรียนรู้ว่าผู้คนนั้นยังมีน้ำใจไมตรีที่จริงใจ  เธอมีเพื่อนแท้ที่ไม่ได้คบกันที่เงินหรือหน้าตา  มีคนรักแท้ที่มองข้ามผ่านเปลือกนอก จากที่พยายามแอ๊บจนเพื่อจะเนียนเข้าสังคมกับคนอื่นๆ  เธอต้องหัดเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้  และที่สำคัญเธอรู้จักแล้วคุณค่าของเงิน คุณหนูเซเล็ปไฮโซ จะเติบโตอย่างคนเดินดิน  

เรียกได้ว่าเรื่องนี้  พี่เสือโชคดีที่สุดในสามโลก ใครจะไปคาดคิดว่าแฟนที่ได้มานั้น จะเป็นสุดสวยที่รวยมหาศาล แถมยังตลก น่ารักนิสัยดี และเป็นคนติดดินสมความปรารถนาทุกประการ (อิจฉา)

ชอบสำนวนของคุณ May112 มากค่ะ เขียนได้ตลกดี ทั้งที่ปกติไม่ชอบนิยายวัยรุ่นที่มีสัญลักษณ์หน้าตาทางอารมณ์  และไม่ค่อยชอบนิยายที่เล่าด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1  "ฉัน" หรือ "ผม" ด้วย แต่ผลงานของคุณ May112 นอกจากจะข้ามผ่านการตั้งแง่ทั้งสองอย่างแล้ว ยังติดอกติดใจอีกต่างหาก นอกจากซื้อเรื่องนี้มาเก็บแล้ว ยังตามอ่านเรื่องอื่นอีก 2 เรื่อง ชอบทั้ง 2 เรื่อง นี่ยังจะหาเรื่องอื่นมาอ่านอีกค่ะ  

อย่างที่บอกเสมอว่าเราชอบนิยายที่นางเอกอ่อนวัยกว่าพระเอก เรื่องนี้ นอกจาก "พี่เสือ" จะเป็นพี่แล้ว น้องจูผู้น่ารักของเรายังแทนตัวเองว่า "หนู" อีกด้วย  (น่ารัก)   เชื่อว่าอ่านนิยายเรื่องนี้จะเรียกรอยยิ้มความสนุกสนานวัยเยาว์ออกมาได้แน่ ทั้งการรับน้องใหม่ การอยู่หอพัก ..คิดถึงสมัยเรียนเลยค่ะ 

ละครออนแอร์แล้วนะคะ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา      ใช้ชื่อว่า Ugly Duckling  รักนะเป็ดโง่   ยังไม่ได้ดู จึงยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับนักแสดงค่ะ 





 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2558    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2558 7:23:56 น.
Counter : 5175 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.