Group Blog
 
All blogs
 
แสงเงารัก ..เธอคือแก้วตาดวงใจ

 

ทั้งตัวตนเเละหัวใจของเธอไม่ต้องการความรัก หรือถ้อยคำหวานพร่ำพลอด

สิ่งเดียวที่ปรารถนา คือ 'พิศวาส' ทว่าลึกลงไปจากสิ่งนั้น ที่ซุกซ่อนอยู่กับความสุขสม

คือความรู้สึกของผู้ชนะ ผู้มีอำนาจ ซึ่งเธอไม่เคยรับรู้ ไม่เคยสัมผัสมานานนับปี

เธอได้ตัวตนกลับคืนมา พร้อมทั้งพลังอำนาจที่เคยสูญหายไป

'ร้อยดาว' รักความรู้สึกนี้เหลือเกิน รัก อยากได้ โหยหา เเละติด ...จนขาดไม่ได้

ชื่อเรื่องน่าสนใจ แต่คำโปรยปกหลัง ไม่ชวนอ่านเอาซะเลย จึงไม่เคยอยู่ในสายตา นี่หากไม่ได้เพื่อนแนะนำมาอย่างมั่นอกมั่นใจว่าต้องชอบแน่ พร้อมบอกให้รู้เค้าโครงเรื่องคร่าวๆ ( ที่น่าสนใจกว่าคำโปรยปกหลังมาก) ก็คงจะยังมองข้ามกันไปอีกนาน  

เพื่อเป็นการบอกแนวเรื่องที่มากกว่าปกหลัง  ขอยกเอาคำนำของ 'พิมพ์คำสำนักพิมพ์' มาเป็นตัวช่วย

โชคดี บางทีก็มาพร้อมๆ กับโชคร้าย

ร้อยดาวเคยคิดว่าตัวเองโชคดีในเรื่องคู่ครอง เพราะมีสามีที่สมบูรณ์พร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ แต่ตัวตนของไกรฤกษ์ผู้สามีที่เธอค้นพบหลังวันแต่งงาน ก็ทำให้สาวสะคราญกลายเป็นนกน้อยในกรงทองที่มีชีวิตอยู่กับความเปล่าเปลี่ยวและหวาดกลัว

แต่ในความโชคร้ายนั้น เธอก็ยังโชคดีที่มี "เจิดจ้า" ลูกสาวคนเดียวเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

เด็กหญิงเติบโตมาท่ามกลางความลับในชีวิตของร้อยดาวและไกรฤกษ์ โดยมีโมทนาและมิ่งขวัญ -- เพื่อนบ้านผู้มากน้ำใจ คอยดูแลเอาใจใส่ และช่วยกันปกปิดไม่ให้เจิดจ้ารู้เรื่องราวร้ายๆ ของบิดามารดาที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ มี "น่านฟ้า" ลูกชายของโมทนาและมิ่งขวัญคอยปกป้องน้องน้อยของพี่ชายคนนี้ทุกย่างก้าว

แต่ความลับไม่มีในโลก .. และในวันที่ความจริงปรากฏ โลกของใครหลายคนก็มืดดับลงพลัน 

หากเพราะอุดมคติของความรักที่ว่า รักต้องอดทนนานและยอมได้ทุกอย่าง

โลกและชีวิตจึงกลับมาสว่างไสวด้วยแสงแห่งรักอีกครั้ง

 

๘๓๒ หน้า จัดไปแบบม้วนเดียวจบ ๘ โมงครึ่ง ถึง ๒ ทุ่มตรง  กับหนังสือด้วยความหนาพาท้อใจเช่นนี้ ย่อมแสดงว่ามีอะไรดีถึงเอาอยู่   อ่านแล้วขอยกนิ้วให้ด้วยคำนิยมฉันเอง ดังนี้ว่า ... "ดีเว่อร์  ดีที่สุดของดวงตะวันเท่าที่เคยได้อ่านมา" (ซึ่งก็ไม่มากเท่าไหร่หรอก น่าจะ  ๓ เล่มเองค่ะ เนื่องจากว่า อ่านแล้วยังไม่โดนสักเล่ม จึงเลิกสนใจไป)

ปกติความรักแบบที่จะเปรียบเทียบว่าเป็น "แก้วตาดวงใจ" คือรักของพ่อและแม่ที่มีต่อลูกของตัวเอง  รักโดยปราศจากเงื่อนไข รักที่สามารถอดทนเสียสละได้ทุกอย่าง  ซึ่งก็ใช่..ที่นิยายเรื่องนี้สื่อถึงความรักจากพ่อและแม่  แต่เชื่อไหม .. ความรักที่โดดเด่นเป็นสาเหตุให้นึกถึงคำๆ นี้ จนต้องหยิบเอามาใช้ กลับเป็นความรักของพระเอก "พี่น่านฟ้า" ที่มีต่อนางเอก "จ้าจ๋า"  เพราะก็ไม่มีคำอื่นอีกแล้วจะนึกออก และถึงจะมี ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นคำที่ใช่เหมือนคำๆ นี้หรือเปล่า 

"แก้วตาดวงใจ"  คำที่ไม่มีอยู่ในนิยายเรื่องนี้ แต่เป็นความรู้สึกของตัวเราเองที่ยกขึ้นมาเปรียบเปรยจนใครบางคนบอกว่า   โห.. ถ้าพระเอกรักนางเอกขนาดนั้นนะ  ท่าจะกลิ่นแรง น้ำเน่าเงาจันทร์ป่ะ?

ไม่นะ .. ไม่เน่า ไม่รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้มันเน่า

แค่ไม่คิดว่าพลอตนิยายอย่างนี้มันจะหามีได้ง่ายในความเป็นจริง

ณ ขณะอ่าน อย่าได้นึกถึงพี่ชายข้างบ้าน หรือ ละแวกบ้านขึ้นมาก็แล้วกัน ไม่งั้นคุณอาจจะไม่สบอารมณ์ มโนสะดุดกึกๆ ได้ว่าเรื่องอย่างนี้ไม่มีอยู่จริง   Smiley  อย่างบรรดาพี่ชายละแวกบ้านของเราเนี่ยก็ไม่ได้ส่วนเสี้ยวสักกะผีกของพระเอกเรื่องนี้หรอก (ไม่ถึงขั้นตบกะโหลกน้องผู้หญิงอย่างเราก็ดีเท่าไหร่แล้ว 55)

ท่ามกลางความเร้นลับในเงามืดของครอบครัว 'เด็กหญิงเจิดจ้า' เติบโตขึ้นมาท่ามกลางแสงแห่งรักอันสว่างไสวจากใครหลายคนรอบข้าง เธอจึงได้รับการปกป้องจากทุกทิศทุกทาง ไม่เคยสัมผัสเงามืด ไม่เคยระแคะระคายความลับ ไม่เคยมีเรื่องร้าย หรือความทุกข์ใดมาแผ้วพาน 

ความรักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่ แล้วมันจะดีสักแค่ไหนถ้าคนเรามีพ่อแม่ถึงสี่คน

เพราะ "พ่อโม่" กับ "แม่มิ้ม" พ่อแม่ของ "พี่น่าน"  ก็เป็นพ่อแม่ของเจิดจ้าด้วย เป็นพ่อและแม่ที่คอยถนอมดูแล ประคับประคองให้เจิดจ้าเติบโตขึ้นมาอย่างงดงาม ท่ามกลางซากปรักหักพังในเงามืดระหว่างพ่อและแม่แท้ๆ ของตัวเอง  ความลับของพ่อและแม่ที่เจิดจ้าไม่เคยรู้

จากวันแรกที่พบกันตอนนั้นยังหนึ่งขวบ ตลอดมาทั้งชีวิตของจ้าจ๋ามีพี่น่านอยู่เคียงข้าง (คอยเลี้ยงต้อย) ทุกระยะการเติบโต  ไม่เคยจาก ไม่เคยพราก มีแต่กันและกันเสมอ

น่านฟ้าคือทุกสิ่งทุกอย่างในโลก

น่านฟ้าคือโลกทั้งใบของเจิดจ้า

นอกจาก 'โลกทั้งใบให้นายคนเดียว' ของพี่เต๋ากับพี่โมทย์ในอดีตแล้ว มันยากจะเข้าใจนะกับการที่ใครคนหนึ่งจะเป็นโลกทั้งใบของใครสักคน  ถ้าใครมาใช้คำบรรยายความรักอย่างนี้นะ คิดว่าจะต้องเป็นนิยายรักที่รักเว่อร์  และหากเนื้อหาไม่ทำให้เชื่อในความหมายได้จริงๆ  มันก็จะกลายเป็นเลี่ยน .. แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ที่ดวงตะวัน ทำได้ และทำได้ดีด้วย ทั้งในเนื้อหาที่เชื่อและความรู้สึกที่ใช่ ดังนั้น นอกจากถ้อยคำเหล่านี้จะไม่เว่อร์ ยังทำอินสุดๆ  (ร้องไห้ด้วย)

 "ผมรอได้"   ละม้ายว่านี่เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ที่น่านฟ้าเฝ้าบอกตัวเองมานานนักหนาแล้ว

 รอ..แม้ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่า คนที่เขารอคือใคร  ..

และแท้ที่จริงแล้ว น่านฟ้าแทบไม่เคยคิดเลยว่านี่คือการรอ เขาเติบโตมากับเจิดจ้า ใช้ชีวิตมากับผู้หญิงคนเดียวในชีวิตคือเจิดจ้า   ทุกเวลานาที ทุกชั่วโมง และทุกวัน  ไม่ใช่การรอคอย หากเป็นการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอดมา ค่อยซึมซับรับความรู้สึกนึกคิดของกันและกันซ่านเข้าสู่ห้วงหัวใจทุกวัน 

กระทั่งวันนี้ วันที่ทุกสิ่งทุกอย่างเอ่อล้นจนเต็ม กระจ่างแจ้งแก่ใจ

ถ้าอ่านเพียวๆ แค่จากที่คัดมาแค่นี้ .. อาจพาคิดว่านิยายเรื่องนี้ต้องอินเลิฟกันหวานแหวว แต่ความจริงคือ..ไม่ใช่  ไม่ได้อินเลิฟกันขนาดนั้น   "ดวงตะวัน" ยังคงสไตล์ความเป็นงานเขียนของดวงตะวันตามประสบการณ์เคยอ่าน คือความรักไม่หวานมาก ไม่หวือหวาพาอารมณ์พระ-นางถึงเนื้อถึงตัวมากนัก  และแม้เรื่องนี้จะ 'ไม่หวาน' ในความรู้สึกของเรา แต่ก็ยังอุตส่าห์ร้องไห้น้ำตาเปรอะหน้าซะมากมาย นั่นเป็นเพราะความละเมียดละไมในการถ่ายทอด.."ความผูกพัน"    ส่วนตัวมีความเชื่ออย่างนี้ว่า

เขียนความรักให้อ่านอิน คงเป็นเรื่องยากมากระดับหนึ่ง

แต่เขียนความผูกพันให้ซาบซึ้ง  น่าจะยากมากกว่านั้น

การดำเนินเรื่องครึ่งแรก จะเป็นเหมือนกันการถักทอสายใยความผูกพัน

ความผูกพันของผู้ใหญ่สองครอบครัว ไกรฤกษ์--ร้อยดาว  มิ่งขวัญ-โมทนา ความรัก ความลับ ความระแวงหวั่นไหว ความหวาดกลัว 

ความผูกพันของสองพี่น้องต่างพ่อแม่  น่านฟ้า กับ เจิดจ้า (หรือจ้าจ๋าของพี่น่าน) แต่เล็กจนโต เรื่องเล็กเรื่องน้อย เรื่องใหญ่ ทุกเรื่องที่มีกันและกันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

แต่มาบัดนี้ ผู้ชายคนเดียวกันนั้นเองกลับเป็นผู้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไปจนสิ้น

ไม่เหลือชิ้นดี ไม่เหลืออะไรอีกเลย

โลกของหล่อนถล่มทลายลงแล้ว

และนั่นคือเรื่องราวต่อไปของครึ่งเรื่องหลัง ซึ่งเราชอบมากกว่าครึ่งแรกเยอะ   ตามประสาคนชอบดราม่า เจ็บลึก ร้าวราน   ในช่วงครึ่งแรกจะมีความเบื่อเล็กน้อย เพราะปล่อยให้ลุ้นนาน เข้าใจว่าที่ให้ความละเอียดในความสัมพันธ์มากจนเรื่องมันค่อนข้างยาว น่าจะเป็นการพยายามสร้าง 'ความผูกพัน' ให้แนบแน่น ..แต่เล็กจนโต   แต่ก็จะดีกว่านี้มากถ้าสามารถกระชับมันให้ยาวน้อยกว่านี้ลงหน่อยโดยที่เรายังคงอินกับความผูกพันนั้นได้อยู่

โลกของจ้าจ๋าถล่ม แต่สงสารพี่น่านเหลือจะทนแล้ว .. (ซะงั้น) เพราะหากเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นทุกข์โลกสลายของจ้าจ๋า แต่สำหรับพี่น่าน.. นั่นเป็นทุกข์น้อยที่สุดเท่าที่เขาจะเลือกให้ทุกข์ได้  และแม้ว่าหนทางที่เลือกนี้จะทำให้โลกของเขาต้องมืดมิดลงก็ตาม

ความลับของไกรฤกษ์และร้อยดาว ทำให้นึกถึงซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนึง เป็นปัญหา 'ความรัก' ในแบบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าใครจะตำหนิหรือเกลียดชังตัวละครตัวนั้นอย่างไร  เรากลับรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร เธอน่าสงสาร จุดจบของตัวละครหนึ่งในเรื่องนั้นเพื่อหนทางที่จะหยุดปัญหาลงได้ จึงเป็นการเสียสละที่ที่ทำให้เราค่อนข้างสะเทือนใจ ... ใครเคยดูบ้างมั้ย  นั่นคือ ความสัมพันธ์ของคนรักกันคู่หนึ่งใน Last Friend

แต่กรณีของไกรฤกษ์และร้อยดาวในเรื่องนี้ .. เห็นใจในสิ่งที่ไกรฤกษ์และร้อยดาวต้องทำ

แค่คาใจอยู่เรื่องเดียว  .. นั่นดีที่สุด  พยายามที่สุด  แล้วเหรอ

เพราะตลอดทั้งเรื่อง  ดูเหมือนจะไร้ประเด็นเรื่องการหาทางรักษา (หมายถึง ป้องกันมิให้เกิดเหตุ) หรือ อย่างน้อยก็เยียวยาให้บรรเทา .. เหตุจะได้ไม่ร้ายแรง หรือไม่ซ้ำซากขนาดนั้น

คงจะต้องเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้  และเมื่อเราไม่มี และไม่คิดจะหาเอาความสมจริงอะไรมากมายกับนิยาย  ...จึงข้ามไป

นิยายเรื่องนี้ดึงดูดความความสนใจให้อ่านติดหนึบต่อเนื่องอยู่ได้ราว ๑๒ ชั่วโมง ด้วยความรู้สึกที่เป็นเหตุผลแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ตรงที่ มันเป็นความรู้สึก "ไม่สบายใจ" ..เพราะไม่สบายใจกับตัวละครว่าจะเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้..หรือเปล่า? จึงต้องอ่านไปเรื่อยๆ จะได้สบายใจซะทีไง   นั่นเป็นผลพวงจากวิธีการเปิดเรื่องที่ดึงดูดด้วย  มีอยู่สองครั้งที่ทนไม่สบายใจไม่ไหว ต้องไลน์ไปถามเพื่อนถึงสองหนว่าจะเกิดเรื่องอย่างนั้น กับ อย่างโน้น ขึ้นรึเปล่า  ช่วยสปอยล์มาทีเหอะ  เพราะไม่ต้องการจะลุ้นเรื่องอย่างว่า ..กลัวเจอเฉพาะหน้าแล้วใจจะหล่นหาย   

นอกจากตัวละครหลักสองครอบครัวที่มีบทบาทความสำคัญทุกคน  ร้อยดาว ไกรฤกษ์ มิ่งขวัญ โมทนา  ยังมีตัวละครอื่นที่ทำให้เรื่องนี้มีเรื่องให้ติดตามอยู่เรื่อยๆ  คือ ไกรฤทธิ์ น้องชายของไกรฤกษ์  ปลายฝน เพื่อนของน่านฟ้าที่เป็นเพื่อนร่วมชั้น ร่วมสถาบันการศึกษา แต่เด็กจนโต  .. และเธอเป็นคนที่น่านฟ้าเคยชอบพอเมื่อครั้งย่างเข้าสู่วัยรุ่น (จ้าจ๋ายังเป็นน้องเล็กเด็กประถม)   แต่ก็มีบางเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ถูกแล และกว่าปลายฝนจะนึกอยากแล  น่านฟ้าก็แน่ใจแล้วว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อใคร ... วิ้วววว

ชอบมากค่ะ  Smiley 

 




Create Date : 17 มีนาคม 2557
Last Update : 18 มีนาคม 2557 10:51:23 น. 12 comments
Counter : 2932 Pageviews.

 
กับดวงตะวัน ไม่ได้ป๊ะกันซักที
เพราะความหนาเนี่ยละค่ะ
แถมงานยังออกไปทางดราม่าเบา ๆ
ก็เลยผ่านแบบยาวไป ๆ กะจะไปเริ่มที่ธิโมส์ ก็เยอะเกิ้นนนน
ของดองที่มีอยู่ก็ช่างมหาศาลนักแล


โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:22:37:21 น.  

 
ชอบงานดราม่าของคุณดวงตะวันนะฮะ ทำได้บีบคั้นอารมณ์
เล่มนี้อ่านตั้งแต่ออกใหม่ๆ เลย ชอบมาก


โดย: Boyne Byron วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:22:57:51 น.  

 
ใช่แล้ว! เล่มนี้แหละที่ยังไม่มี … จดลงลิสต์ด่วนๆ ค่ะ


โดย: polyj วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:23:30:53 น.  

 
เล่มนี้อ่านแล้วครับ หนักทั้งเนื้อหาดราม่า และตัวหนังสือ อ่านแล้วอึดอัดกับตัวละครครับ ว่าเมื่อไหร่เจิดจ้าจะรู้ความจริงเรื่องพ่อแม่ที่ทำตัวแสนงอนกับน่านฟ้า
ส่วนเรื่องการรักษา ก็เห็นด้วยอย่างที่คุณ Pysang ว่าไว้ละครับ เรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการรักษา แต่จะกล่าวถึงการหนีปัญหามากกว่า สงสัยจะเป็นคนรวยหน้าบาง...
ส่วนผลงานที่ผมชอบสุดของดวงตะวันน่าจะเป็น"แผ่นดินหัวใจ"ครับ


โดย: Nat_NM วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:8:11:22 น.  

 
เรื่องนี้เป็นนิยายที่หวานปนขมค่ะ

ประเด็นของ ร้อยดาวและไกรฤกษ์ ก็ตะหงิด ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ ตอนอ่าน...แต่ทำใจปล่อยผ่านเพราะมันจำเป็นต่อความดราม่าของ น่านฟ้าและเจิดจ้าค่ะ ( ที่ร้อยดาวเป็นอย่างนี้ ไม่น่าจะใช่เหตุผลตามที่ในเรื่องกล่าวไว้เลยค่ะ....ส่วนไกรฤกษ์ มันน่าจะมีวิธีแก้ไขได้ดีกว่านี้นะคะ )

แต่กระนั้นก็เป็นงานที่อ่านแล้วชอบค่ะ ชอบกว่างานในยุคปัจจุบันของผู้เขียนเยอะเลย



โดย: Serverlus วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:9:28:49 น.  

 
อ่านแล้วชอบค่ะ
เป็นหนังสืออีกเล่มในดวงใจ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:11:51:58 น.  

 
รักมิ้ม !!! ....

อ่านงานดวงตะวันกี่เล่มๆ ก็ยังชอบเล่มนี้มากที่สุดครับ...



โดย: อุ้มสม วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:17:47:50 น.  

 
เคยอ่านแต่แผ่นดินหัวใจครับ เรื่องหลังๆของคุณดวงตะวัน ยังไม่มีโอกาสได้อ่านซะที


โดย: สามปอยหลวง วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:18:51:58 น.  

 
ขอไม่อ่านรีวิวมากนะคะ เพราะอยากหามาอ่านอยู่ค่ะ มีคนแนะนำไว้ (แต่เห็นความหนาขนาดนั้น ชักหวาดกลัว )


โดย: kunaom วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:9:45:28 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:10:35:40 น.  

 
เพราะหนังสือหนา
เพราะเรื่องดราม่าหนัก
เราจึงยัง ดองไว้อยู่


โดย: นัทธ์ วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:17:54:23 น.  

 
เป็นอีกเรื่องของผู้เขียนที่ชอบมากกกกกก


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:10:39:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.