Group Blog
 
All blogs
 

เจ้าหญิงในดวงใจประชาชน - ๖๐ พระพรรษา ๖๐ มหามงคล


รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่ง ทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล
ในกิจการของมูลนิธิพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า



โปรยปกหลัง  

ปีมหามงคลนี้ มีหน่วยงานองค์กรต่างๆ จัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติถวายกันหลายเล่ม 
ส่วนมากเป็นหนังสือเล่มใหญ่ งดงาม ที่ประชาชนโดยทั่วไปอาจไม่มีโอกาสได้เห็น

หนังสือเล็กๆ เล่มนี้เป็นหนังสือที่ผู้จัดทำอยากเฉลิมพระเกียรติเจ้าหญิงในดวงใจของประชาชน
 และให้ประชาชนโดยทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของ
 ได้มีโอกาสเก็บพระฉายาลักษณ์ในวโรกาสต่างๆ ไว้ชื่นชม
 ได้อ่านพระราชประวัติโดยย่อ และได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจสำคัญๆ
 โดยสังเขปตลอด ๖๐ พระพรรษาแห่งเจ้าหญิงของปวงชนพระองค์นี้


ขอขอบคุณสำนักพิมพ์อัมรินทร์ ที่จัดพิมพ์หนังสือเล่มเล็กๆ  ๑๙๐ หน้านี้ ถ้าขาย ๑๙๙ บาท ตามราคาที่ติดไว้ว่าเป็นราคาปกติ เราก็คิดว่าคุ้มนะ เพราะเนื้อหาด้านเป็นกระดาษมันพิมพ์สีทั้งหมด  เปิดหน้าแรกมาสมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งยังสาวหอบสมุดบันทึกเดินอยู่กลางทุ่งก็ปลื้มใจแล้วค่ะ  เป็นพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจโดยสังเขป ทรงมีพระปรีชาเป็นเจ้าหญิงนักพัฒนา นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าหญิงนักเขียน เจ้าหญิงนักดนตรี และเจ้าหญิงนักวาดการ์ตูน  ในหลายเรื่องเล่าเล็กๆ ได้แสดงให้เห็นพระอุปนิสัยที่ทรงมีพระเมตตา มีความน่ารักเป็นกันเองทำให้พสกนิกรผู้มีโอกาสพบเห็นหรือเกี่ยวข้องต่างปลาบปลื้มประทับใจไม่รู้ลืม 

หนังสือหาซื้อได้ที่ร้านเซเว่น (ถ้ายังมีเหลือนะ) และราคาขายก็แค่ ๕๙ บาทเอง คุ้มมากๆ 


แต่เดิมก็รักสมเด็จพระเทพฯ ที่เรามักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า "พระเทพ" 

อ่านแล้วก็รักสมเด็จพระเทพฯ .. 

ขอกล่าวคำตามหน้าแรกของหนังสือเล่มนี้

เจ้าหญิงแห่งปวงประชา
ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพร
ขอทรงเป็นมิ่งขวัญแห่งปวงพสกนิกรตลอดกาลนาน
ขอทรงพระเกษมสำราญทุกทิวาราตรี
ขอทางมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงตลอดไปเทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ




 

Create Date : 30 กันยายน 2558    
Last Update : 30 กันยายน 2558 21:32:02 น.
Counter : 1378 Pageviews.  

รอยพระยุคลบาท บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร


รอยพระยุคลบาท  บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร
พิมพ์ครั้งที่ ๔  เมษายา ๒๕๔๙ สำนักพิมพ์มติชน 

แม้ว่าจะพ้นตำแหน่งในราชสำนักออกมาแล้วนานเท่าใดก็ตาม 
แต่ผมก็ยังรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าผมไม่เคยอยู่ไกลพระยุคลบาทเลย 
พระราชกรณียกิจทั้งน้อยและใหญ่ได้รับการถ่ายทอด
ออกมาเป็นข่าวโดยสื่อมวลชนและหนังสือพิมพ์ให้ผมรู้เห็น
อยู่ตลอดเวลา และถ้าต้องการ ผมก็มีสิทธิเท่าๆ กับคนไทยอื่นๆ
ไม่เลือกวัยเลือกอาชีพ ที่จะไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทได้
ในโอกาสต่างๆเสมอ ข่าวพระราชกรณียกิจเหล่านั้นยืนยันว่า
พระเจ้าอยู่หัวยังทรงมั่นอยู่ในพระราชปณิธานที่จะ
"ครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
และสมเด็จฯก็ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจโดยเสด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งสองพระองค์ยังทรงพระราชอุตสาหะบากบั่น
ปฎิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อแบ่งเบาทุกข์ของประชาราษฎร์
อย่างไม่ลดละหรือหยุดยั้ง พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จฯ
ยังคงเสด็จฯกลับไปยังหมู่บ้านต่างๆ ที่ผมเคยตามเสด็จฯ
เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว โดยไม่ทรงท้อแท้ ท้อถอย หรือเบื่อหน่าย
ภาพความใกล้ชิดระหว่างพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จฯ
กับประชาชนคนไทยยังเป็นภาพที่ดูไม่รู้จักเบื่อ
และเป็นภาพที่หาดูในบ้านอื่นเมืองอื่นไม่ได้ นอกจากในเมืองไทย

รอยพระยุคลบาท บันทึกความทรงจำ เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติต่อเนื่องและสม่ำเสมอของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในสายตาของนายตำรวจราชสำนักประจำ ซึ่งมีหน้าที่ถวายความปลอดภัยเป็นเวลานานเกือบ ๑๒ ปี

เริ่มจากบทแรก  รำลึกความรู้สึกอิ่มใจที่ได้รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ไล่เรียงเหตุการณ์จนกระทั่งถวายบังคมลากลับไปปฏิบัติหน้าที่ยังกรมตำรวจตามเดิม  

สำหรับพระราชกรณียกิจของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทย่อมมองเห็นพระราชภาระอันหนักและใหญ่หลวงที่ทรงทุ่มเทอุทิศพระวรกายแก่คนไทยและเมืองไทยแจ่มชัดยิ่งขึ้น ( ที่มา : คำนำสำนักพิมพ์ )

รอยพระยุคลบาท เล่มนี้คือหนังสือที่เล่าความประทับใจในการให้ติดตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชกรณียกิจต่างๆ ไม่ว่าใกล้หรือไกล ลำบากเพียงไหน ในฐานะตำรวจราชสำนัก ที่ได้เห็นภาพความใกล้ชิดระหว่างในหลวงและประชาชนชาวไทยที่ไม่รู้จักเบื่อและปราบปลื้มทุกครั้งที่ได้รับใช้อย่างใกล้ชิด จึงถ่ายทอดความประทับใจมาสู่ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไปด้วยสำนวนภาษาที่อ่านง่าย โดยมีภาพประกอบตลอดทั้งเล่ม  (ที่มา : www.se-ed.com  )




สำหรับคนที่เกิดมาทั้งชีวิตนับจากจำความได้ แล้วได้รู้ได้เห็นว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ได้อุทิศพระองค์ ทรงกระทำสิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย แม้จะไม่เคยมีบุญได้เฝ้าพระองค์จริง ไม่มีบุญได้เห็นพระองค์จริงด้วยสายตาของตัวเอง  แต่แม้เพียงรับรู้การเคลื่อนผ่านของขบวนพระที่นั่ง  (ที่ไม่ทันมองเห็นพระองค์ด้วยผู้คนที่เบียดเสียดเยียดยัด) ก็สามารถทำให้น้ำตาเอ่อด้วยความปลาบปลื้ม   มันคือความรู้สึกผูกพันที่คนไทยคนหนึ่งจะมีต่อสถาบันกษัตริย์  คนๆ หนึ่ง บนปกสมุดที่เด็กเล็กๆ ในโรงเรียนประถมจะได้รับแจกกันทุกปี  คนๆ นี้คือพระมหากษัตริย์  ทุกๆ วันที่ไปโรงเรียนที่เขียนหนังสือ เราใช้สมุดเหล่านั้น ตอนเด็กๆ เราอาจจะไม่คิดอะไร แต่นั่นแหละ  คือจุดเริ่มต้นของการรู้จักและรับรู้แบบ เด็กๆ ถึงการมี "ในหลวงของเรา" 

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่เมืองทองธานี ปี ๒๕๔๙ การได้มีโอกาสรับรู้มากขึ้นจากนิทรรศการ "ตามรอยพระราชดำริ" ก่อเกิดเป็นความปลื้มปีติที่เราเกิดมาใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้  พระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย  แม้เราอาจไม่ได้เป็นผู้รับผลของประโยชน์สุขที่ว่านั้นโดยตรง แต่ในฐานะที่เป็นคนไทย แค่รู้สึกว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นพระเจ้าอยู่หัวของคนไทย เป็นในหลวงของเรา ก็เกิดความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จนอดไม่ได้ที่ชมนิทรรศการไปก็จะมีน้ำตาซึมบ้างเป็นบางครั้งคราว

อาการเดียวกันกับที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้  ที่ทำให้น้ำตาซึมเป็นระยะ 

ไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องมีคำอธิบายอะไรทั้งสิ้นสำหรับหนังสือเล่มนี้  เพราะเลือกที่จะอ่าน ด้วยใจรักที่จะได้รับรู้เกี่ยวกับพระองค์ท่าน  เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน  ที่แม้แต่ไพร่ฟ้าสามัญชนอย่างเราๆ ก็สมควรจะยึดพระองค์เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต  

"เป็นบุญของคนไทยที่ได้พระมหากษัตริย์อย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช 
และได้สมเด็จพระบรมราชินีนาถอย่างสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ"

"พระเจ้าแผ่นดินอย่างของคุณนี้ ทั้งโลกเห็นจะมีอยู่เพียงพระองค์เดียว"

ในเมื่อเราเองก็คิดอย่างนั้นมาตลอด หนังสือเล่มนี้จึงไม่อาจเป็นอะไรไปได้มากกว่า ..ความปลาบปลื้ม ที่ได้อ่านได้รับรู้  และ .. ความสุข ที่ได้รู้สึกจากหัวใจอีกครั้งว่า "เรารักในหลวง" 



บุญของแผ่นดินไทย พ่อหลวงบันดาลให้ ที่ในยุ้งฉางมีข้าว 
น้ำรินดินดีใครเล่า ทุกข์ใดเหินไปบรรเทา ด้วยพระบาท
เกือบศตวรรษ ธ นำไทยทั้งชาติ พ้นภัย
แผ่นดินถิ่นเมืองทอง ผ่านพ้นโพยภัยเนืองนอง พระทรงคุ้มครองไทยไว้ 
ธ เป็นพลังแผ่นดิน สมานพลังชีวินของชนชาวไทย 
อุ่นใจไพร่ฟ้า พระบุญญาเกริกไกร ภูมิพลมหาราชา 

** อ้าองค์สุริย์ศรี มีธรรมส่อง ปกครองอย่างทรงพระเมตตา 
ดุจบิดรเหล่าประชา ทุกข์ร้อนใดใดกรายมา โอ้ฟ้าเป็นดั่งฝนดับไฟ 
ภูมิใจไทย ร่วมร้อยหัวใจร่วมใฝ่ร่วมหวัง ภูมิพลัง แผ่นดินถิ่นนี้ยิ่งใหญ่ 
ภูมิประวัติ ประชาชาติภูมิผไท ภาคภูมิประชาชัย ภูมิพลังแผ่นดิน 
เทิดไท้ นบน้อมเทิดทูน ธ เหนือเกล้า สราญนานเนา หทัยสุขล้ำสมจินต์ 
 เพริศแพร้ว พิพัฒน์ เภทภัยพ่ายแพ้สิ้น นวมินทร์มหาราชา ภูมิพล …….

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน





 

Create Date : 13 สิงหาคม 2558    
Last Update : 13 สิงหาคม 2558 22:22:33 น.
Counter : 1583 Pageviews.  

ลับ ลวง พราง อวสานยิ่งลักษณ์ ? โอ้..เธอ ดอกไม้ในดงท็อปบู๊ต

ลับ ลวง พราง ภาค ๘  อวสานยิ่งลัษณ์?

ดอกไม้ในดงท็อปบู๊ต

จากถั่งเช่า-สุดซอย ถึงปฏิวัตินกหวีด

 

คำโปรย - ปกหลังหนังสือ

เป็นที่รู้กันว่า "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" อยู่รอดด้วยการต่อรองทางการเมืองมาโดยตลอด

ซึ่ง "กองทัพ" ถือเป็นหน่วยงานที่หวังจะให้รัฐบาลชุดนี้ปลดแอกจากคนแดนไกล

แต่สุดท้ายภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งเดินหน้า พ.ร.บ. ฉบับสุดซอย

ทุกอย่างก็ล่มสลาย..

นั่นมิใช่เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ พ.ต.ท. ทักษิณ เพียงอย่างเดียว

แต่เพราะช่วงเวลาและ "โอกาส" ของศัตรูเก่าที่เคยใส่หน้ากากปกปิด

หลบซ่อนอยู่ในมุมมืด หวนกลับมาสุกงอมโดยไม่อาจหลีกพ้น

และเมื่อมวลชนต่อต้านรัฐบาลมีพลังขึ้นมา กองทัพก็แสดงท่าทีรู้เห็นเป็นใจ

เรื่องราวทางการเมืองในวันนี้ จึงคล้าย "ภูเขาน้ำแข็ง" ที่คนส่วนใหญ่มองเห็นแต่เพียงยอด

หารู้ไม่ว่าฐานล่างมหึมา เต็มไปด้วยการช่วงชิงอำนาจโดยมีประเทศชาติเป็นเดิมพัน

นำมาซึ่งฉากสุดท้ายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

คำโปรย - www.matichonbook.com

นับแต่การผงาดขึ้นนั่งบัลลังก์ผู้นำประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามที่จะปลดแอกจากพี่ชายเพื่อเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่ง เธอจึงต้องค่อยๆ ก้าวเดินในช่วง ๒ ปีแรก ท่ามกลางความหวาดระแวงระหว่างรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับกองทัพ หลังการสลายการชุมชุนใหญ่ในปี ๒๕๕๓ แต่กระนั้นสถานการณ์ในช่วงแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ได้หนุนเนื่องให้กองทัพและรัฐบาลร่วมงานกันได้ด้วยดี  เนื่องจากกองทัพบก โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หันกลับมาสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประคับประคองเธอให้ปีกกล้าขาแข็ง อีกทั้งยังอยู่เบื้องหลังการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหญิงอีกด้วย

แต่ทุกอย่างก็ล่มสลาย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใจร้อนต้องการกลับประเทศด้วยการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ตนเองได้กลับประเทศ ถึงแม้ร่างกฎหมายนี้อาจทำให้ทุกคนทุกฝ่ายพ้นผิด แต่ความเกลียดชังที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมากกว่า ศัตรูเก่ามากมายที่รอจังหวะเวลามานานจึงได้เริ่มเผยตัวออกมาจากมุมมืด บ้างที่ใส่หน้ากากมิตรภาพก็ร่วมกฐินสามัคคีกันอีกครั้ง เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังการล้มอำนาจของเขายังอยู่กันครบถ้วนและพร้อมหน้า เพื่อที่จะล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและจัดตั้งรัฐบาลคนกลางโดยอ้างเรื่องการปฏิรูปประเทศ ขณะที่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่จนตรอก ก็พร้อมที่จะสู้ทุกหนทางเช่นกัน

หนังสือ "ลับ ลวง พราง ภาค ๘ อวสานยิ่งลักษณ์?"  จึงเป็นหนังสือเล่มสำคัญที่ "วาสนา นาน่วม" แกะรอยและเปิดเผยทุกแง่มุมของการทหาร-การเมืองไทย ซึ่งถือว่ากลับมาสู่จุดล่อแหลมอีกครั้งหนึ่ง

วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้หยิบหนังสือ ลับ ลวง พราง ภาค ๘ ตอน อวสาน ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเขียนโดย วาสนา นาน่วม ขึ้นมาอ่านอย่างสนใจ ( ที่มา : //www.matichon.co.th/)

เมื่อตั้งชื่อเรื่องซะขนาดนี้แล้ว ไฉนเลยจะเมินเฉยไม่สนใจได้  เพราะโดยปกติก็สนใจงานเขียนของคุณ วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารท่านนี้อยู่แล้วเป็นทุนเดิม  เพียงแต่ตอนที่ได้อ่านผลงานของเธอเป็นครั้งแรกนั้น เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนาน จนพลาดผลงานเก่าๆ ไปแล้วหลายเล่ม แต่ก็ตั้งใจว่าจะเป็นแฟนหนังสือของเธอแบบพันธุ์แท้ ที่จะต้องค่อยๆ หา ค่อยๆ อ่านกันไป แม้สถาการณ์ทางการเมืองในช่วงนั้นมันจะเอาท์ไปแล้วในช่วงเวลาหลังจากนี้ แต่เชื่อว่าหนังสือของเธอทุกเล่มจะยังคงเป็นบทบันทึกการเมืองไทย ที่น่าจดจำอย่างยิ่ง เหมือนกับ ลับ ลวง พราง เล่มนี้

เรื่องทหารกับการเมืองไทย  ที่บ่อยครั้งเกือบจะเป็นเรื่องเดียวกันจนแทบแยกจากกันไม่ออก

และบางครั้งก็กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างปฏิเสธไม่ได้

เพราะชั่วโมงข่าวที่จะพบเจอก็มีเพียงแต่ข่าวเช้าชั่วครู่ชั่วยามตอนก่อนออกไปทำงานและข่าวเย็นหลังจากเลิกงาน (ททบ.5 เท่านั้น เพระช่องอื่นเป็นละครหมด) ที่กลับมาทันบ้างไม่ทันบ้าง จึงไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารการเมืองชนิดเกาะติดสถานการณ์  หากอยากรู้เรื่องราวแบบเห็นภาพ ปะติดเชื่อมโยงทหารกับการเมือง  หนังสือ ลับ ลวง พราง ของ วาสนา นาน่วม คือ คำตอบ โดยเฉพาะเล่มนี้ที่่เธออย่างกับเป็น "นกรู้" เพราะเนื้อหาในเรื่องคือความเป็นมา ความเคลื่อนไหวในช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่บางสิ่งที่ตอนนั้นไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า แต่ว่าตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว หนังสือพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ มีนาคม ๒๕๕๗ การ "ปฏิวัติ -รัฐประหาร" (แล้วแต่จะเรียก) เกิดขึ้นเมื่อ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ สองเดือนต่อจากนั้น

ไม่ได้หมายความว่าคุณวาสนา รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดการรัฐประหารหรอกนะคะ   เพราะบทเรียนเก่าๆ ที่ทำเจ็บปวดมาแล้ว  ทำให้ "ทหาร" พยายามดิ้นรนหลีกหนีหนทางนี้อย่างสุดกำลัง แต่จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราต่างรู้ได้ว่า ทางออกเหลืออยู่ไม่มากนัก และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้น ..จนได้

หนังสือเล่มหนาพอควร หนังสือไม่อยู่ในมือจึงจำไม่ได้ว่ามีกี่หน้า น่าจะประมาณ สามร้อยกว่าหน้ามั้ง

เนื้อหามี ๕ บท แต่ละบทมีประมาณ ๑๐-๑๕ ตอน

เธอชื่อ "ยิ่งลักษณ์"

เกิดเป็น "ยิ่งลักษณ์"

หงส์เหนือมังกร

กองทัพในมือ "ปู"

อวสาน "ยิ่งลักษณ์"

อ่านแล้วเพลิดเพลินมาก เพราะเราคุ้นเคยอยู่แล้วกับยอดของ "ภูเขาน้ำแข็ง" ที่ได้ดูข่าวสารบ้านเมืองกันอยู่คร่าวๆ แต่ลึกลงไปใต้ฐานของมัน มีอะไรมากมายกว่านั้น..มหึมา  เล่ห์เหลี่ยม ความล้ำลึก ที่ไม่มีใครฟันธงบอกเราได้ว่า จริงหรือไม่ .. แม้แต่แผนลับคืนรัง ของคลิปถั่งเช่า คลิปจริงหรือปลอม แผนของใคร มือดีคนไหนที่เป็นคนปล่อยคลิป ชายชุดดำคือใคร ของฝ่ายไหน แดง หรือไม่ใช่แดง  ตำรวจแอบแฝง  ทหารแอบทำ หรือ กองกำลังต่างชาติ ?  ปริศนา ๙๘ ศพ จากการกระชับพื้นที่ "คนเสื้อแดง" ก่อนนั้น   ทุกเรื่องไม่มีคำตอบ แต่สิ่ีงที่วาสนาบอกเล่า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือความเชื่อมโยง และนั่นอาจจะเป็นเหตุผล .. ใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านเอง

อ่านดูขัดๆ กันไหมคะ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับการเมืองเรื่องทหาร -- หนังสือของวาสนาคือคำตอบ  แต่ในหนังสือไม่มีคำตอบของวาสนา ... เพราะที่สุดแล้วก็เป็นเพียงมุมมองของนักข่าวคนหนึ่ง ที่วิเคราะห์เจาะลึกด้วยความรู้ ด้วยการคลุกคลีเกาะติด และประสบการณ์การทำงานมากว่ายี่สิบปี

ส่วนตัวแล้ว เมื่อได้อ่านงานเขียนของคุณวาสนา นาน่วม จะรู้สึกเลยว่า

เธอคือ "นักข่าว" ที่ซื่อสัตย์ในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ตัวจริง เสียงจริง

และประโยชน์อย่างยิ่งคือ  เตือนใจได้เสมอ เวลาเสพข่าวสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก

สิ่งที่เราอ่าน สิ่งที่เราเห็น  อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด 

อย่าผลีผลามโผเข้าเกาะติดกระแส




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2557    
Last Update : 16 มิถุนายน 2557 7:01:19 น.
Counter : 1669 Pageviews.  

ลิลิตยวนพ่าย ...ลึกแท้ เกินหยั่งถึง


ได้มาจากร้านหนังสือเก่า

คำอธิบาย พระนิพนธ์ สมเด็จพรเจ้าวรวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เล่าว่า  "หนังสือลิลิตยวนพ่าย นับอยู่ในหนังสือซึ่งแต่งดีอย่างเอกในภาษาไทยเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องพงศาวดารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครั้งเมื่อพระเจ้าติโลกราชเมืองเชียงใหม่ลงมาชิงหัวเมืองฝ่ายเหนือ ทรงพยายามทำสงครามจนมีชัยชนะเอาหัวเมืองเหล่านั้นคืนมาได้จงเรียกชื่อเรื่องว่ายวนพ่าย".... 

"...แต่งเมื่อศักราชเท่าใด และใครเป็นผู้แต่งหาปรากฏไม่ สังเกตดูโดยทางสำนวนดูเป็นสำนวนเก่ามาก ทั้งความรู้เรื่องในพงศาวดารในตอนที่แต่งนั้น ก็รู้ถ้วนถี่กว่าที่ปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดารและหนังสือพงศาดารเชียงใหม่  เพราะฉะนั้นน่าที่จะแต่งในเวลาใกล้ๆ กับเหตุการณ์ที่กล่าวถึง จึงยังสามารถรู้เรื่องได้ถ้วนถี่ สันนิษฐานว่า เห็นจะแต่งในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ซึ่งเป็นพระราชโอรสสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เสวยราชย์ตั้งแต่ พ.ศ.๒๐๓๔ จน พ.ศ. ๒๐๗๒ แต่สังเกตโดยทางสำนวนรู้ได้แน่อย่างหนึ่งว่า ผู้แต่ลิลิตเรื่องยวนพ่ายนี้ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในทางภาษาและแบบแผนขนบธรรมเนียมราชการ คงเป็นกวีที่เป็นคนสำคัญในสมัยเมื่อแต่งหนังสือเรื่องนี้ หนังสือเรื่องยวนพ่ายจึงเป็นที่นับถือกันว่าเป็นตำราเรื่องหนึ่ง ทุกสมัยสืบมาจนกาลบัดนี้..."

พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ทรงพระดำริเห็นว่า ถ้าพิมพ์หนังสือยวนพ่ายฉบับนี้ให้แพร่หลาย คงจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนทั้งในความรู้วรรณคดีและความรู้พงศาวดาร จึงโปรดให้พิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ...


พิมพ์ครั้งแรก   พ.ศ.๒๔๖๕   (๙๒ ปี)

พิมพ์ครั้งที่ห้า   พ.ศ. ๒๕๑๔  (๔๓ ปี)  

หนังสือแต่งดีอย่างเอก แต่อาภัพจริงๆไม่รู้ว่าใครเป็นผู้แต่ง

แต่ที่อาภัพหนักกว่า .. คือคนรุ่นหลังคนนี้ ที่ไม่อาจเข้าใจความ "ดีอย่างเอก" ที่ว่านั้น

หากแม้แต่ในยุคสมัยของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ยังว่า...คำนมัสการและคำยอพระเกียรติในช่วงต้นของลิลิตยวนพ่าย เป็นการใช้ศัพท์และแสดงอรรถอันลึกซึ้งเข้าใจยาก  ผู้อ่านมักฉงนสนเท่ห์แล้วเลยเบื่อหน่าย จนอ่านไม่ทันไปถึงเรื่องพงศาวดาร..    ภายหลังจึงมีผู้รู้แปลอรรถในต้นฉบับอันหนึ่ง ซึ่งหอพระสมุดได้มา เป็นฝีมืออาลักษณ์ครั้งรัชกาลที่ ๒ เขียน จึงเข้าใจว่าเป็นฉบับซึ่งคัดไว้ในหอหลวง

แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้แปลอรรถ เป็นผู้ใด .. นั่นไง  อาภัพอีกแล้ว

ยกตัวอย่างแปลอรรถนะคะ

แจ้งจตุรภักตรพ้ยง  จตุรเทศ
(แจ้งไปในหมู่พรหม ดังพระอริยเจ้า)

จตุโรบาเยศแจ้ง  จตุรงค์
(อุบาย ๔ สัมปธานะ ๔๗)

แจ้งจตุฤทธิฌาณ ท่ววแท้
(จตุฤทธิบาท ๔)

จตุราริยสัตยทรง ทายาท
(ทุกขสัตย สมุไทยสัตย นิโรธสัตย มรรคสัตย รวม ๔๗)

แจ้งจตุรผลแก้ ยวดชาญฯ
(ผล  ๔)

นั่นคือแปลแล้วนะคะ Smiley  ลึกแท้..เกินหยั่งถึง 

Smiley ดูเหมือนว่าปราชญ์เท่านั้นถึงจะเข้าใจปราชญ์ด้วยกัน 

คนธรรมดาสามัญอย่างเราต้องหลบไปไกลๆ  Smiley

แต่แม้จะไม่เข้าใจ ก็อ่านหมดนะคะ (บางๆ ๙๓ หน้า)  อ่านดู "รูปคำ" ไปเพลิดๆ ก็เพลินดี

เพราะไม่ใช่แค่หนังสือจะเก่าอย่างเดียว  รูปแบบการเขียนก็เก่าด้วย

ทำให้รู้ว่าภาษาไทยสมัยโบราณนั้น คงยังไม่มีสระบางตัว และเขียนอย่างไร

ชยงใหม่   คือ เชียงใหม่

ดยรดาษ   (เดาว่าเป็น) ---> เดียรดาษ

เตอมเตม -----> เติมเต็ม

เพรอศพราย ---> เพริศพราย

หววเมือง ---> หัวเมือง

ตรยมแต่ง---> เตรียมแต่ง

จรดจ้งง ----> จรดจ้อง

พระส่งง ----> พระส่อง

ช่ยวพ้น --->  ช่วยพ้น

เลอศเลอ ---> เลิศเลอ

เขื่อนขนนธ์ ---> เขื่อนขันนธ์

ฯลฯ 

นั่นคือการเดาที่ไม่รับรองความถูกต้องนะคะ  

เสียดายจริง ที่อ่านไม่เข้าใจ   น่าจะมีผู้รู้ นำลิลิตพงศดารเล่มนี้มาแปลร้อยแก้วใหม่ให้เข้าใจได้นะคะ  วรรณกรรมสเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ต่างชาติต่างภาษา ยังมีคนแปลเลย   ก็น่าจะดีถ้ามีคนแปลวรรณกรรมไทยเป็นไทยให้อ่านบ้าง 

เวลาไปลาวแทบไม่มีปัญหากับการอ่านป้ายต่างๆ ในภาษาลาว  ที่ยากหน่อยก็ยังพอเดาออก

ภาษาอังกฤษ ถ้าคำไหนไม่รู้อ่านไม่ออก ก็ยังอาศัยดิกชันนารี ได้ snake snake fish fish พอไปไหว

แต่ภาษาไทยแต่โบราณของเรานี้ พจนานุกรมฉบับราชบัณทิตยสถานก็สถานเหอะน่า  เอาไม่อยู่!!

แต่ถึงจะอ่านไม่เข้าใจ ก็มีความสุขที่ได้หนังสือมา Smiley แค่ได้สัมผัสความเก่าก็ปลื้มปริ่ม 

จึงหยิบมาเล่าขำๆ  เมื่อคนไทยรุ่นหลังอย่างเราเจอกับภาษาไทยชั้นรากเหง้าเข้าไป Smiley ถึงกับมึน





 

Create Date : 02 มิถุนายน 2557    
Last Update : 3 มิถุนายน 2557 1:32:08 น.
Counter : 1696 Pageviews.  

สวัสดีเจ้าดอกไม้ สบายดีไหมเจ้าผีเสื้อ




Smiley สวัสดีเจ้าดอกไม้ ..  สบายดีไหมเจ้าผีเสื้อ 

My dear flower  my dear butterfly  Smiley


คำโปรย จาก SE-ED.COM

รวบรวมบทกวีโรเเมนติก ที่กลั่นมาจากการใช้ชีวิต ใช้หัวจิตหัวใจ ของนักเขียนที่ชื่อ "กุดจี่" ที่คุณจะพบกับหลากลายเรื่องราวของความรู้สึก และความเป็นไปในชีวิต เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน พลิ้วไหว ซึ่งบางเรื่องราวจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกร่วมไปกับเนื้อหาเลยทีเดียว

ไม่มีอารมณ์ไหนเป็นพิเศษไหนการหยิบหนังสือบทกวีขึ้นมาอ่าน  
มีอยู่อารมณ์เดียว  อารมณ์อยากเคลียร์กองดอง   Smiley

ใกล้แล้ว  ใกล้แล้ว  กองดองของเรา  
ไม่ใช่ใกล้จะหมด แต่ใกล้จะถมหัวตาย (  Smiley เยอะไปไหน)


แว่บแรกเห็นเล่มนี้นึกกว่า กวีฝรั่งแปลไทย แบบเรื่อง "พระจันทร์พันดวง" ซึ่งรวบรวมและแปลโดย ปราย พันแสง  เป็นหนังสือกวีเล่มโปรดที่อ่านได้ซ้ำไม่รู้เบื่อ  แต่ปกสีชมพูหวานเรื่องนี้เป็นกวีไทยโดย กุดจี่ (พระชัย แสนยะมูล) แปลอังกฤษควบคู่บทต่อบท โดย The lover & Saendee เป็นการเพิ่มเวอร์ชั่นกวีภาษาอังกฤษให้หนังสือดูน่าอ่าน และคงจะดีหากสามารถเรียนรู้ศัพท์ได้อีกหลายๆ คำพร้อมกันไปด้วย แถมยังเป็นสมุดบันทึกได้อีกต่างหาก เพราะมีหน้าว่างๆ แต่งแต้มอารมณ์โรแมนติกดีด้วยภาพวาดลายเส้นที่น่ารัก  เรียกได้ว่าการรวมตัวกันของ ดอกไม้ ผีเสื้อ ภาพวาด รูปเล่ม ปก ภาษา ทำให้หนังสือกวีเล่มนี้มีความน่ารักน่าเอ็นดู



สวัสดีเจ้าดอกไม้
ดูสิสายรุ้งเหนือทุ่งหญ้า
ยังคงทรงพลังเสมอมา
กระซิบว่าฟ้าหลังฝนยังมีรุ้ง

ทุ่งอ้อยังคงเป็นทุ่งอ้อ
ยังคงล้อลมแม้แดดพวยพุ่ง
หยัดยืนตนโชยละอองฟุ้ง
ประดับทุ่ง ประดับกล้องนักเดินทาง

เข้มแข็งไว้นะดอกไม้ 
โลกอาจแอบร้องไห้อะไรบ้าง
น้ำตาอาจช่วยทำหน้าที่ชะล้าง
คราบความเจ็บปวดต่างๆ นานา

ถึงที่สุดฟ้าหลังฝนยังมีรุ้ง
มีฝันหอมจรุงแด่คนกล้า
บอกหัวใจให้รู้จักรอเวลา
บอกหัวใจลุกขึ้นมาอย่ายอมแพ้



My dear flower,
look at the rainbow above the grassland.
It never loses its colorful power
which says that it will come to please  the
world after hard rain.

The reed grasses are still dancing in the sunbeam.
They are strongly standing against the blowing wind,
decorating  the land and visitors' cameras
with their liveliness.

Be strong! my dear flower.
The world may cry for some sad stories.
Tears may help refresh life
by washing out the stain of pain.

The rainbow always greets the sky after rain.
It's the same that dreams always come to the brave one.
Tell your heart to calmly wait for a while
and not to yield to weakness.





เป็นกวีอารมณ์เบาๆ  มองโลกอย่างอ่อนโยน อ่านเอาความเพลิน
ยิ่งถ้าเป็นบรรยากาศฝนโปรยบางๆ พลิ้วละออง 
แล้วตามด้วยแสงตะวันส่องทอสายรุ้งที่ปลายฟ้าไกลๆ นอกหน้าต่าง 
คงได้่เผลอหลังกลางวันแล้วนอนฝันดี








 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2557 21:06:17 น.
Counter : 1607 Pageviews.  

1  2  3  

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.