แผนกวนป่วนหัวใจ_เรื่องนี้มีถือสาหาความ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่ออยู่ๆ แฟนสาวซึ่งคบกันมานานเกิดเปลี่ยนใจไปคบกับเพื่อนสนิทที่ดันมาแทงข้างหลังกันได้อย่างเจ็บแสบ ภากร จึงเกิดอาการสติแตก กลายเป็นคนเลื่อนลอย ปล่อยชีวิตไปวันๆ นอนกอดขวดเหล้าเป็นเพื่อนแก้ทุกข์ใจแทบทุกคืน เคราะห์ดีที่ครอบครัวเข้าใจและคอยอยู่เคียงข้าง แม้แต่ ปัญจมาลย์ สาวทอมบอยผู้มีศักดิ์เป็นน้องต่างสายเลือด ซึ่งปกติไม่ค่อยจะกินเส้นกันสักเท่าไร ยังต้องยื่นมือมาปลอบ แถมยอมดื่มเหล้าอำลาเป็นเพื่อนเมื่อเขาตกลงใจจะเลิกดื่มตามคำขอ เมื่อฟื้นจากฤทธิ์แอลกอฮอล์อาละวาด เธอและเขาก็ต้องตกใจสุดขีดกับสิ่งที่เห็น! เพราะร่างของเธอและเขาอยู่บนเตียงเดียวกัน... กอดเกี่ยวกัน... ในสภาพที่ต่างฝ่ายต่าง เปิดเผย กันแบบสุดๆ และนั่นคือจุดพลิกผันที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมาเกี่ยวข้องกันมากกว่าความเป็นพี่น้อง เรื่องวุ่นๆ ของว่าที่คู่รักคู่ใหม่ที่ไม่เคยคิดจะมีใจให้กันจึงเริ่มต้นขึ้น (อย่างเลี่ยงไม่ได้) ความรักที่เขาเคยสูญเสียไปจนก่อเกิดเป็นบาดแผลใหญ่กลางใจ กลับถูกเยียวยาได้ด้วยหัวใจดวงน้อยๆ จากหญิงสาวผู้ไม่เคยอยู่ในสายตา ไม่เคยอ่านผลงานของผู้แต่ง " ภิญญดา " มาก่อนค่ะ และไม่เคยอ่านรีวิวที่ไหนเลยด้วย แต่จากพลอต ชวนอดใจไม่ไหวจริงๆ คนหนึ่งเป็นลูกติดพ่อ คนหนึ่งเป็นลูกติดแม่ มีปมทางใจ กับวัยที่ใกล้เคียง ทำให้ทั้งสองคนไม่ค่อยจะถูกกัน เติบโตมาด้วยกันแต่ก็อย่างแข่งๆ และข่มๆ ข่มกันว่าใครดีกว่า เพื่อแข่งกันเป็นลูกรัก ที่พึ่งพาได้ เป็นผู้สืบทอดกิจการ เพื่อจะครองตำแหน่งผู้นำครอบครัวรุ่นต่อไป ด้วยบุคลิกภาพอันแตกต่าง ภากร เป็น "ไอ้หนู" ลูกแหง่ที่พ่อแม่สุดแสนจะถนอมเอาใจใส่ ปัญจมาลย์ เป็น "ไอ้จ๋า" ผิดจากไอ้หนู คือ โคตรแมน จึงไม่ต้องห่วงใยให้มากนัก สมควร จะสลับเพศกันให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะสาวนิดสาวน้อยก็ล้วนปลื้มใจ "นายจ๋า" ที่ทั้งเท่ ทั้งสมาร์ท กันถ้วนหน้า ใช่ว่า "ไอ้หนู" จะแพ้ "ไอ้จ๋า" อะไรๆ ก็สู้มันไม่ได้หรอกนะ ตอนที่ยังเด็กไอ้หนูก็โอเค สู้บ้าง ยอมบ้าง มีอะไรก็แข่งๆ ข่มๆ กันไป แต่ตอนโตมานี้ไซร้ ไม่รู้จะแข่งกับมันทำไมให้มากความ มันอยากเป็นผู้นำ เป็นลูกพี่ ก็ให้มันเป็นไป มันอยากทำไร่สืบต่อจากพ่อก็ปล่อยมัน เขาเป็นผู้ชายยอมหลีกทางให้ก็ได้ ยังมีอะไรอื่นอีกมากมายให้เลือกทำ ไม่ใช่เด็กแล้วที่จะต้องคอยแข่งกับมันอยู่ร่ำไป .. น่ารำคาญ จากที่ได้อ่านบทแรกๆ ยิ่งรู้สึกสนใจอยากติดตาม ต่อมจิ้นทำงานไปแล้วล่วงหน้า ณ เช้าวันหนึ่ง เมื่อพี่ชายลืมตาตื่นขึ้นมาจากคืนเมาอันหยำเป ก็รู้สึกแปลกๆ กับตัวเอง งัวเงีย หันไปมองคนข้างกาย คลับคล้าย คลับคลา ... เอ๊ะ นั่นมัน "ไอ้จ๋า" น้องสาวเรานี่หว่า มึน ! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ ดูจากสภาพ 'เปลือย' ของเธอ (ใต้ผ้าห่มปก) ก้มลงมองสภาพ 'เปิดเผย' ของเรา (หรา) และแล้ว สติก็ค่อยทยอยมาสู่สมอง ประมวลผลเป็นการรับรู้ ...เข้าใจ ...ช็อก! "ตายห่ะ ฉิบหายแล้วกู!" นั่นคือฉากไคลแมกซ์ในจินตนาการค่ะ แล้วก็ยังจิ้นไปเองอีกเป็นตุเป็นตุ แต่จากการดำเนินเรื่องมาสักพัก จึงรู้ว่าไม่ใช่แนวอย่างที่เราจิ้นไว้ เป็นเพราะมึนเมา จึงไร้สติ เผลอตัว จนงานเข้า และคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงจากสถานะที่เคยเป็นพี่น้อง ไปเป็นอย่างอื่น เพียงเพราะความสัมพันธ์จุ๊กกรูเพียงชั่วคืน พ่อแม่เป็นสามีภรรยา ถ้าลูกๆ จะต้องเป็นสามีภรรยากันอีกคู่ จะเหมาะหรือ ปัญหาแน่นอน! พ่อกับแม่จะรับได้อย่างไรกับเรื่องนี้ คนอื่นอีกเล่าจะครหาสักแค่ไหน เพราะขึ้นชื่อว่าพ่อแม่แต่งงานกัน จะอย่างไรลูกๆ ก็ถือว่าเป็น "พี่-น้อง" ถึงไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่นี่ก็เป็น "หลักการ" ที่ต้องยึดถือ แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ.. (คนมันเมา) ฝ่ายหนึ่งต้องการจะเดินหน้าต่อไปในฐานะลูกผู้ชายที่ต้องรับผิดชอบ แต่อีกฝ่ายเพียงต้องการจะยึดอยู่ในที่มั่นแห่งเดิม แห่งที่เราเคยเป็นเรา ลืมเสียเถิด..ความพลาดพลั้งในคืนฝันดี เป็นเรื่องความแตกต่างของมุมมอง ที่ถึงแม้ไม่ทำให้เราปลื้ม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านิยายเรื่องนี้จะไม่สนุกสำหรับคนอื่นๆ เพราะเราเชื่อว่าเหตุเป็นเพราะตัวเราเองที่จูนไปไม่ติดกับเรื่องราวที่จิ้นเอาไว้ซะเยอะ เพราะมีบางเรื่องที่เราถือสา ( หลักยึดถือบางประการสำหรับเฉพาะบุคคล ที่ไม่จำเป็นต้องยึดถืออย่างเดียวกัน ยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่งก็เช่น น้องจะแต่งงานก่อนพี่ไม่ได้ ธรรมเนียมบางท้องถิ่นไม่ถือสา ใครหาคู่ได้ก่อนก็แต่งก่อนสิ แต่บางท้องถิ่นก็ถือสา จะอย่างไรก็ต้องรอพี่แต่งก่อน หรือถ้ารอไม่ได้ก็ต้องมีพิธีแก้เคล็ดบางอย่าง) เด็กชายหนู - ภากร เป็นเด็กอ่อนโยนมองโลกในแง่ดี แม่ของ เด็กหญิงจ๋า - ปัญจมาลย์ ก็รักและห่วงใยลูกชายติดสามีคนนี้ไม่ต่างจากลูกตัวเอง เช่นเดียวกับสามีก็รักลูกจ๋าเป็นลูกสาวเหมือนกัน ดังนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสี่คือครอบครัว และ ภากร กับ ปัญจมาลย์ ตามศักดิ์แล้วจะเป็นอะไรอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเป็น "พี่-น้อง" ต่อให้มีวัยใกล้เคียง และเป็นเหมือนเพื่อนเกลอกันก็ตาม หากสองคนต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้สนิทกันก็อาจจะให้ความรู้สึกในอีกแง่หนึ่ง แต่ในกรณีนี้ถูกรวมกันเป็นครอบครัวมาตั้งแต่ยังเล็ก ทว่าในเนื้อหาไม่มีที่จะพูดถึงคำ "พี่-น้อง" เลย ดังนั้น การเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงไม่ใช่ปมขัดแย้งของเรื่อง ไม่เคยมีใครตำหนิหรือแปลกใจในความสัมพันธ์ของ ภากร กับ ปัญจมาลย์ ในแง่ของพี่น้องรักกัน ทั้งที่เลี้ยงกันมาอย่างลูกชายลูกสาวของตัวเอง แต่ทั้งพ่อและแม่ก็ดีใจ ร่วมยินดีสนับสนุนให้ลูกสองคนรักกัน โดยปราศจากความตะขิดตะขวงใจใดๆ ทั้งสิ้น ราวกับว่าไม่ได้เห็นสองคนนี้เป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกันมาแต่แรก การที่ทั้งสองคนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน อาจเป็นเรื่องปกติในมุมมองของคนทั่วไป แต่ในมุมมองของเราเป็นเรื่องถือสา เรื่องนี้จึงเป็นตัวอย่างหนึ่งที่นิยายเรื่องหนึ่งๆ 'ใช่เลย' สำหรับบางคน แต่ก็อาจ 'ไม่ใช่' สำหรับบางคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับรสนิยม ประสบการณ์ และพื้นฐานการรับรู้ในเรื่องต่างๆ สิ่งที่เรารับรู้คือ พ่อแม่แต่งงานกัน ลูกคือพี่น้องกัน หรืออย่างกรณี ลูกพี่ลูกน้อง เราได้รับการสอนสั่งเสมอว่า ต้องนับเป็นพี่น้องไม่ต่างจากพี่น้องท้องเดียวกัน (แม้ในความเป็นจริงเราจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น) ต่อให้เติบโตต่างถิ่นไม่เคยใกล้ชิดก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงข้อยึดถือนี้ได้ ลูกพี่ลูกน้องคู่หนึ่งที่เรารู้จัก เติบโตคนละที่ มาเจอกันเมื่อตอนโต เกิดรักกันขึ้นมา แต่ก็แต่งงานกันไม่ได้ เพราะคำว่า "พี่น้อง" ทำให้รักนี้ต้องห้าม ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับ ในสังคมท้องถิ่นก็เป็นเรื่องครหานินทา สองคนจึงอยู่กินกันไปเลย (เจ๋งฝุดๆ) กว่าจะได้รับการยอมรับจากครอบครัวสนิทใจ ก็ต้องใช้เวลาจนลูกโต แต่กรณีนี้ยังถือว่ามีสายเลือดเดียวกันจริงๆ ส่วนในนิยาย เมื่อต่างสายเลือด จึงเป็นช่องโหว่อย่างดีให้ยัง "รักกันได้" ดังนั้น แรกเริ่มจึงคิดว่าต้องเป็นเรื่องแนวนี้ที่สนุกมากแน่ๆ แต่พอคำว่า "พี่น้อง" ไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นประเด็นอุปสรรคของเรื่องสักติ๊ด ก็เลยรู้สึกเฉยๆ ไป ตามที่เพิ่งอ่านรีวิวนิยาย "ผู้ชายของฉันไม่ใช่คนที่ฝันเอาไว้" ของคุณ Pdจิงกุเบล มา พลอตนิยายเรื่องนั้น แม่ก็บังคับลูกสาวแต่งงานกับพี่ชายลูกของพ่อเลี้ยงจนลูกต้องหาผู้ชายมาตบตาเป็นแฟน นั่นเป็นข้อยืนยันได้ว่า พี่น้องนอกไส้ ไม่ได้เป็นเรื่องถือสาสำหรับคนทั่วไป แม้ว่าพ่อแม่จะใกล้ชิดเป็นสามีภรรยากัน พ่อแม่ของ ไอ้หนู ไอ้จ๋า ในเรื่องนี้จะสนับสนุนเต็มที่จึงไม่แปลก พลอตของผู้เขียน จึงเป็นเรื่องของ การหันมารักคนสนิทใกล้ตัว บทของลูกต่างพ่อต่างแม่มีศักดิ์พี่น้องถูกใช้เป็นสื่อ "ความผูกพัน" ที่จะเป็นพื้นฐานของความรักต่อมา จากคนที่ไม่เคยคิดว่าจะรัก ก็พัฒนาเป็นความรักได้เพราะมีความผูกพันเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่เป็นทุน ทำให้ความรักก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ชอบพอ ติดใจ ตามรัก ตามตื๊อ ค่อนข้างไว ทั้งที่ไอ้หนูเพิ่งเป็นผู้ชายที่อกหักช้ำทรวง เมาหัวราน้ำมากว่าครึ่งปี แต่ก็สามารถจะรักไอ้จ๋าได้ง่ายดาย แต่ก่อนหน้าเราดันคาดผิดไปอีกว่า ความผูกพันนี้จะกลายเป็นความอิหลักอิเหลื่อ รู้สึกเป็นภาระที่ไม่รู้จะต้องแก้ปัญหาอย่างไร และคงยากจะยอมรับว่าความรู้สึกได้เปลี่ยนเป็นความรักไปแล้วในภายหลัง (เยอะนะเธอ ไปเขียนเองเลยไป - อิอิ ก่อนจะมีใครหมั่นไส้ ขอออกตัวหมั่นไส้ตัวเองเอาไว้ก่อน ) ทำให้ไม่อินเท่าไรกับนิยายเรื่องนี้จากมุมมองส่วนตน (ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการดำเนินเรื่องราวของผู้เขียนเค้าเลย) โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องของความคาดผิดในประเด็น รักนี้พี่น้องต้องฟันฝ่า แต่บังเอิญว่ามันไม่ได้ประเด็นให้ฝ่าฟันตั้งแต่แรกน่ะค่ะ (555) เป็นเหตุขัดข้องจากตัวเราเอง ไม่ใช่ที่ตัวนิยาย แต่ก็ทำให้รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวเรื่องนี้นะคะ ส่วนที่เกี่ยวกับแนวการเขียน จะเป็นเรื่องบทบาทของตัวละคร นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของใคร ภากร กับ ปัญจมาลย์ หรือ ภาคพิเศษของ สี่สาวจากนิยาย "ร้อยดวงรัก กับดักแห่งใจ" ที่มีบทบาทมากซะจนทำให้เนื้อเรื่องของพร-นางหลวมไป กว่าเพื่อนเกลอจะเกิดเหตุความสัมพันธ์ในคืนเมา เพื่อเริ่มต้นเรื่องราวความรักอย่างจริงจัง ก็ปาเข้าไปแล้วกว่าครึ่งเล่ม เข้าใจว่าคนเคยอ่านนิยายเรื่องนั้น คงจะมีความสุขใจ เมื่อได้อดีตพระ-นางถึงสี่คู่ มามีบทบาท เจ๊ดัน -ป๋าดัน โลดแล่นโชว์ความรักความหวานกันจริงจังกับบทบาท สามีหนุ่ม-ภรรยาสาว อยู่ในเรื่องนี้ แต่สำหรับคนไม่เคยอ่านมาก่อนอย่างเรา ย่อมเกิดอาการเหวอ เพราะใส่เข้ามาเยอะจริงๆ แล้วกว่าจะเขียนถึงสามีภรรยาแต่ละเหตุการณ์ร่วมกันครบทั้งสี่คู่ ก็ต้องเบียดบังพื้นที่ลดทอนความโดดเด่นของพระ-นาง เจ้าของเรื่องไปอย่างช่วยไม่ได้ และบางอย่างก็ดูจงใจมากไปยกตัวอย่างหนึ่ง เช่น .. ท้องพร้อมกันทั้งสี่คน และที่เรารู้สึกว่าเกินไปจริงๆ คือ ตอนพิเศษท้ายสุดยี่สิบห้าหน้า ที่เป็นเรื่องราวชวนสุขของทั้งสี่คู่ ทำไปทำมา ภากร กับ ปัญจมาลย์ เหมือนเป็นเพียงตัวประกอบให้นิยายรักภาคพิเศษของทั้งสี่คู่นั้นซะมากกว่า แต่แฟนของ ร้อยดวงรัก กับดักแห่งใจ ต้องโปรดเรื่องนี้แน่ เพราะเท่าที่อ่านยังรู้สึกว่าน่ารักเลย ทั้งคู่ เจ้าพ่อธีรพัฒน์ - ใบเตย หาญวงศ์-อนัญญดา วีรพันธ์-ณรุดี อนพัทย์-ประกายแก้ว โดยเฉพาะตอนพิเศษของคู่หลังสุด "เบื้องหลังการผลิต 'น้องกัน' " "คลอดแล้วจ้า" กับ "ผมถึงเส้นตายแล้วครับ" น่ารักและตลกดี ขโมยซีนพระ-นางของเรื่องกันไปเต็มๆ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2557 18:56:08 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1867 Pageviews. |
|
|
แวะมาแปะหัวใจให้ด้วยค่ะ