ลมซ่อนรัก_โอบล้อมใจด้วยสายลมเดียว
ภัทริน หญิงสาวผู้อ่อนต่อโลก หลงคิดว่าเพื่อนชายมอบความรักให้ด้วยใจจริง มารู้ตัวว่าถูกเขาหลอกใช้เป็นเครื่องมือ ก็เมื่อวันต้องรับชดใช้ในสิ่งที่เขาใส่ร้ายป้ายสี
วันเวลาที่ซมซานกลับบ้านเกิดที่เมืองเหนือไปพักรักษาแผลใจ ภัทรินได้รับข้อเสนอจาก ปราณนต์ คุณหมอผู้มีอุดมการณ์ ให้แต่งงานหลอก ๆ กับเขาเพื่อตบตาบิดา แลกกับเงินก้อนใหญ่ให้หญิงสาวนำไปใช้หนี้
ภัทรินตกสู่วังวนของการหลอกลวงอีกครั้ง... หลอกพ่อแม่เพื่อนพ้องของทั้งสองฝ่ายว่าได้ร่วมหอลงโรงกันนั่นหนึ่งละ สองคือหลอกตัวเองว่าไม่ได้รักกัน...แต่จะทำได้ง่าย ๆ หรือ การหลอกลวงยังคงเกิดต่อเนื่องไม่จบสิ้น จนกว่าคนทั้งคู่จะจูงมือกันเดินไปจนสุดทางรัก... เอาเถอะนะ ถึงแม้พระเอก ปราณนต์ จะเป็นหมอ โดยไม่มีฉากอะไรเกี่ยวกับการเป็นหมอหรือการรักษาพยาบาลใคร เว้นแต่ตอนพบเจอกับนางเอก ภัทริน ที่โรงพยาบาลตอนนางไปถอนฟัน หรือ ตอนทำแผล ปฐมพยาบาลกันบ้าง (รักษานางเอกอยู่คนเดียวนี่แหละ) เราก็ยังชอบที่พระเอกนิยายจะมีอาชีพเป็นหมอกันบ้างนี่แหละ คำโปรยปกหลังทำดีแล้ว เพราะไม่ชี้โพรง ความลับให้กระรอกได้เห็นร่องรอย "ไคลแมกซ์" แต่ก็อย่ามาหลอกกันซะให้ยาก เพราะหลังจากเกิดความสงสัยขึ้นตั้งแต่ในตอนพิธีแต่งงาน เรื่องลวงหลอกต่างๆ ที่ตามมายิ่งทำให้ข้อสงสัยชวนเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ครั้งหนึ่งจะเกิดอาการลังเลเล็กน้อย หรือที่เราเข้าใจมานั้นมันผิดหว่า จะพลิกพลอตแน่หรือ กล้าจริงง่ะ ..เฮ้ย ... เอาจริงดิ ? แต่..ด้วยความเชื่อมั่นในความเป็นนิยายไทย "นางเอก" "พระเอก" "ความรัก" ย่อมยากจะถูกบิดพลิ้วให้เป็นไปทางอื่น คนอื่น จึงยังคง "ปักใจ" เชื่อตามความรู้สึกต่อไป แล้วก็เห็นมั้ยล่ะ ถูกเผง.....! เวลาที่เก็งหวย ทำไมเก็งไม่ถูกอย่างนี้บ้างนะเนี่ย ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสความสนุกในพลอตของนิยายสูญเสียไป เพราะต่อให้เชื่ออย่างสุดใจ แต่ก็ไม่รู้เหตุผลอยู่ดีว่า ทำไม ทำไมต้อง ตบตา กลิ้งกลอก หลอกลวง ทรยศ กันอย่างนั้นด้วย โอเค เก็ตละ เข้าใจการเฉลยเผยไต๋ของเรื่องราว แต่ .. ก็แล้วทำไมเรื่องหลอกลวงนี้ ต้องเหมารวมใครคนหนึ่งอยู่ในหมู่ผู้ถูกหลอกด้วย คิดตบขวา ตลบซ้าย ก็ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่า ถ้าคนๆ นี้ รู้แล้ว จะส่งผลได้ผลเสียต่อเรื่องราวความลับที่ต้องการปกปิดมากน้อยที่ตรงไหน หลอกกันทำไม ไม่เข้าใจ ถ้าคนใกล้ชิดรู้กันได้สี่คน แล้วเห็นอีกคนเป็นคนอื่นหรือไร ถึงไม่ต้องการให้มีส่วนร่วม เสี่ยงบอกกันไม่ได้ เพราะกลัวจะเผลอมีพิรุธให้คนอื่นจับได้งั้นหรือ (เข้าใจว่างั้นนะ) แต่ดูน้ำหนักความได้เสียแล้ว ไม่เห็นจะคุ้มกับการลงทุนสับรางหลอก นี่หรือความรัก ปล่อยให้คนที่รักทั้งคน ต้องอยู่กับความสับสน เจ็บปวดเสียใจเนี่ยนะ พิลึก! ถ้าเราเป็นคนถูกหลอกในกรณีนี้นะ ก่อนจะเชิดหน้าสะบัดหน้าหนี ต้องมีตบสักฉาดสองฉาดเพื่อเอาคืนกับการเสียความรู้สึก แม้ว่ามันจะชดเชยกันไม่ได้ หลอกเรื่องอย่างนี้ กับคนที่อุตส่าห์รักและห่วงใย เอามีดมาแทงกันเลยยังเจ็บน้อยกว่า คุณอาจจะงงๆ นะคะ ว่ายัย prysang กำลังพล่ามอะไร (555) ก็จะทำไงได้ละคะ มันเป็นพลอตสนุกที่ไม่ต้องการจะสปอยล์แม้เพียงนิดน่ะค่ะ เผลอถูกผู้เขียนหลอกก็สนุก หรือต่อให้ไม่เผลอก็ยังจะสนุกได้ เพราะคุณคงจะไม่เข้าใจเหตุผลของการกระทำทั้งหมดจนกว่าจะได้รับการเฉลยอยู่ดี จุดนี้ผู้เขียนเก่งค่ะ และน่าจะเป็นจุดที่นำไปสร้างละครได้สนุกด้วย ทราบว่าเป็น ณเดช น้องแต้ว-ณัฐพร น้องแพทริเซีย ส่วนตนคิดว่าทีมแคสติ้ง ตาแหลมใช้ได้เลยล่ะ เพราะในบรรดานักแสดงชายรุ่นที่เข้ามาพร้อมๆ กัน ในเรื่องของฝีการแสดงเนียน ยกให้ ณเดช มากกว่าใครอยู่แล้ว ส่วนน้องแต้วก็พัฒนาขึ้นมามากในช่วงหลังๆ มานี้ ได้ณเดชมารับบท พระเอกฝาแฝด ปราณณต์ กับ ปราณ ส่งเสริมบารมีแก่กันด้วยความขาวใสน่ารักของน้องแต้วผู้รับบท ภัทริน หากได้ออกอาการแก่นนิดๆ เจ้าแง่แสนงอนเล็กน้อย เชื่อว่าจะต้องเป็นคู่สร้างคู่สมที่น่ารักน่าเอ็นดูแน่ๆ ส่วนแพทริเซีย ผู้รับบทอัณณา อีกหนึ่งนางผู้เข้ามามีส่วนพัวพันในความรักให้สับสน บังเอิญมากที่โทนหน้าตาของเธอมาแนวเดียวกันกับอัณณาในจินตนาการของเราเลย ลมซ่อนรัก จึงถือเป็นพลอตนิยายที่มีปมเรื่องชวนสนใจติดตาม เหมาะกับการขยายรายละเอียดสร้างเป็นละครมากค่ะ (ถ้าผู้กำกับกับคนเขียนบทเค้าจะทำให้สนุกน่ะนะ) ความโดดเด่นในใจสำหรับนิยายเรื่องนี้มีอยู่สองประการ คือ ความลับ ลวงหลอกไม่จบไม่สิ้น ที่ละไว้ในฐาน..ไม่สปอยล์ (มารยาทการรีวิวที่แทบไม่เคยจะหาได้จาก prysang ) ความรัก ชอบทุกบททุกตอนที่พระนางเค้ามีกัน ด้วยหลากหลายอารมณ์ หวานฉ่ำ กุ๊กกิ๊กน่ารัก ขมเศร้า เคล้าน้ำตา และ.. ฮาครืน "เพราะว่ามันเป็นข้อเสนอที่คุณไม่มีวันเสียเปรียบ" "เวลาแบบนี้จะมีอะไรน่าทำมากไปกว่า .. นับซอง" "มาจูบกันไหม" (เอ๊ยยย เขินนะ) สำนวนภาษาก็สละสลวยสวยงาม ยกตัวอย่างบทบรรยายนะคะ ...ทุกลมหายใจเข้าออกถูกหล่อเลี้ยงไว้ด้วยน้ำตา หัวใจยังเต้นเพราะมันบีบรัดหนักหน่วง สวนสวรรค์อันสวยงามไม่ผิดอไรจากสุสานที่ปกคลุมด้วยหมอกเทาหม่นหมอง... ..ก้มลงจูบรับขวัญละมุนบนกลีบปากนุ่ม ไม่ผิดผีเสื้อจุมพิตกุหลาบงามสีสด ดวงตาคู่สวยค่อยปิดลงโอนอ่อนสูญสิ้นเรี่ยวแรงทรงตัวหยัดยืน ดอกไม้งามในมือร่วงกระจายแทบเท้าพวกเขาทั้งสอง สนิทแนบเนิ่นนานราวผืนดินเล็กๆ นี้คือสวนสวรรค์... เป็นสำนวนที่มีกลินไอของบทกวีน่ะค่ะ "โอนอ่อนสูญสิ้นเรี่ยวแรงทรงตัวหยัดยืน" แหม มันพลิ้วซะจริง หรือจะเรียกตามคำนำสำนักพิมพ์ก็ได้ที่บอกว่า 'นราเกตต์ เรียงร้อย ลมซ่อนรัก ด้วยสำนวนภาษาพริ้งพราย' จะพบลักษณะ 'พริ้งพราย' ที่ว่านี้อยู่ตามบทบรรยายความรู้สึกนึกคิด แต่เนื่องจากในฉากบรรยายฉากสถานการณ์ต่างๆ ยังต้องอาศัยความปกติธรรมดา เพราะคงไม่ใช่อารมณ์สอดคล้องกับการจะใช้คำรุ่มรวยอยู่ตลอด บางครั้งจึงทำให้รู้สึกว่าภาษามันไม่สม่ำเสมอ ซึ่งโดยส่วนตนก็จะชอบการบรรยายแบบเรียบง่ายมากกว่า เหมือนดูลิเกค่ะ เป็นคนที่ชอบดูลิเกมาก แต่จะชอบตอนลิเกพูดมากกว่าตอนลิเกร้อง ทั้งที่นั่นคือเอกลักษณ์ของลิเก ก็ถ้าลิเกไม่ร้องแล้วจะเป็นลิเกได้ยังไง ต่างกับตอนดูโขน ชอบการบรรเลงปี่พาทย์ร้องขับเสภาของโขนมาก ฟังแต่ต้นจนจบสองสามชั่วโมงไม่มีเบื่อ ทั้งที่ก็เป็นการร้องเหมือนกัน ชอบการร้องโขน แต่ไหงไม่ชอบการร้องลิเก (555 อาจจะเป็นคนพิลึกที่เข้าใจยากสักนิดนะคะ เพราะเราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ) อย่างในนิยายเรื่องนี้ ก็เฉยๆ กับสำนวนพริ้งพรายที่ว่า แต่ในส่วนของบทกลอนกลับชอบมากค่ะ ผู้เขียนนราเกตต์ใส่มาในแต่ละช่วงจังหวะได้เข้ากับบรรยากาศเสียงซึงแว่วหวานมาจากอารมณ์บรรเลงของคุณพระเอก หึ...เป็นหมอ สูง หล่อ ฝีปากกล้า แต่ อัธยาศัยดี มีฐานะ ชาติตระกูล แต่ชอบชีวิตสมถะ พอเพียง รักธรรมชาติ รักเสียงดนตรี เป็นพ่อบ้านพ่อเรือน ..เพียบพร้อมเว่อร์ในความเรียบง่ายเช่นนี้ จะหามีได้จากที่ไหน บัวบานบานปริ่มน้ำ กลางบึง โสมส่องส่องคล้ายคลึง อยู่ใกล้ ตีคลื่นคลื่นเคลื่อนถึง ริมฝั่ง ชลเฮย จันทร์จากจากบึงไซร้ แนบไว้เพียงเงา เหมือนพลัดพลัดพรากร้าง เรียมลา คล้อยค่ำค่ำนภา หม่นเศร้า ซึงแว่วแว่วลมพา เพลงโศก บาดจิตจิตรุมเร้า กร่อนเนื้อดวงใจ จากสำนวนที่อ่านและการยกบทกลอนมาร่วมร้อยอารมณ์ ทำให้เดาเอาว่าผู้เขียนน่าจะเป็นคนรักบทกลอนกวีต่างๆ ยิ่งพอได้ทราบภายหลังว่ากลอนเหล่านั้นในเรื่องได้แต่งเองด้วย ยิ่งชัดเลย .. นั่นไง ใช่จริงๆ ด้วย ต้องเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนอยู่มิใช่น้อย แม้ส่วนตนจะชอบภาษาเรียบง่ายบรรยายฉาดฉานมากกว่าตามความเคยชินส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเห็นว่าสำนวนของคุณนราเกตต์แบบนี้ก็เป็นเอกลักษณ์ดี เหมาะแก่การแต่งนิยายรักหวานๆ โรแมนติก โดยทั่วไปของเนื้อเรื่อง ก็ชอบความน่ารักของพระเอกนางเอกอยู่แล้ว แม้จะแผ่วไปบ้างตามช่วงของดราม่า แต่ก็ไม่ถึงกับว่าความน่ารักจะขาดหาย และอย่างไรก็ได้จ่ายคืนมาทดแทนด้วยสองตอนสุดท้ายที่ทั้งตลกแล้วก็น่ารักมาก "นี่คุณ ฉันขอหย่าและคนขอหย่าเขาไม่นอนห้องเดียวกัน" "ถ้าคืนนี้คุณแตะฉัน คุณตายแน่" "ถ้าไม่หยุด พรุ่งนี้เจอกันที่อำเภอ เข้าใจไหม" "ผมจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ภัท" แต่ที่นางเอก ภัทริน ได้ใจไปสุดๆ คือ การตั้งชื่อลูก ฮาดีค่ะ .. เพราะในความหมายของชื่อ มีเจตนาชัดเจนมาก ตลอดชีวิต ตอกย้ำ ยังไม่สาย อย่าได้คิดลืม
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2557 23:58:21 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1820 Pageviews. |
|
|
..แปะใจให้นะคะ..