Group Blog
 
All blogs
 
เจ้าชาย ...อีกหนึ่งตำนานรัก ณ ดินแดนแห่งทะเลทราย.. โสภาค สุวรรณ

 

นวนิยายรักโรแมนติก ผจญภัย

ไพรัชนิยาย ท่ามกลางดินแดนแห่งทะเลทราย

ณ ที่ซึ่งก่อให้เกิดตำนานรักโรแมนติก ...หวานซาบซึ้ง

Smiley หวานซาบซึ้ง Smiley เป็นคำโปรยที่ไม่เว่อร์แม้แต่น้อย  ท่ามกลางปัญหาสังคมอันตึงเครียดที่เกี่ยวพันโยงใยกับความขัดแย้งทางการเมืองอันร้อนระอุ นวนิยายเรื่องนี้ก็ยังหวานซาบซึ้ง โดยเฉพาะยามวิกฤตท่ามกลางทะเลทราย ณ แดนมรณะ 'รัพ อัล อซารี'

ส่วนตัวคิดว่า ความเชื่อในศาสนา ความสัมพันธ์ของยิวกับอาหรับในเรื่องความลับบนแหลมไซไนที่ว่าแน่ เจอเรื่องราวของ เจ้าชาย มีสารสาระมากโข ทั้งประเพณีขลิบอวัยวะเพศของสตรีที่ถูกเรียกว่า  FGM (อ่านต่อไปอีกนิด มีคำอธิบายค่ะ)  เรื่องของศาสนา การเมือง สิทธิสตรี สิทธิมนุษยชน  ขบวนการก่อการร้าย และสงครามความขัดแย้งภายในประเทศ  ขนเนื้อหาจัดหนักมากันหลายกระบวนท่าแบบนี้ ก็ทำเอา ความลับบนแหลมไซไน เกือบจะพลาดท่าเสียทีได้   แต่ยังก่อน เพราะความลับบนแหลมไซไนก็ไม่ใช่ 'อ่อน' หรอกนะจะบอกให้  ซึ่งหากต้องทำการเปรียบเทียบความสนุกของไพรัชนิยายจากนามปากกา โสภาค สุวรรณ แล้วล่ะก็ นี่ถือเป็นมวยคู่เอกที่ซัดกันไม่ลง 

ชอบเนื้อเรื่อง เจ้าชาย  มากกว่านิดหน่อย เพราะนำเอาสถานการณ์ความเป็นไปในกลุ่มประเทศอาหรับมาผสมผสานเรื่องราวได้อย่างสอดคล้องลงตัว อ่านแล้วมัน 'เนียน' ในความรู้สึก  ส่วนเรื่องของความรัก แม้ เจ้าชาย จะหวานคลาสสิค ซาบซึ้งกว่ามาก แต่โดยคาแรคเตอร์ของตัวละครและรูปแบบความสัมพันธ์ เราชอบความเป็นผู้ใหญ่ ความดุดันเด็ดขาดของเจ้าชายฮัซซาร์ และรักนะแต่ไม่แสดงออกในเรื่อง ความลับบนแหลมไซไน มากกว่านิดหนึ่ง.. จึงถือว่าเจ๊ากันไป  ส่วนการผูกปมให้น่าสนใจให้ลุ้น ความสนุกชวนติดตาม อารมณ์โรแมนติก ดราม่า แอคชั่น ก็ไม่ถือว่าน้อยหน้าไปกว่ากัน  เพียงแต่ .. เรื่องของ เจ้าชาย จะเป็นเรื่องราวเชิงอุดมการณ์ที่ใหญ่โตกว่าตามฐานันดรศักดิ์ที่เจ้าชายชาครี เป็น 'เจ้าชาย' ในราชวงศ์ที่ยังปกครองประเทศ มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง ขณะที่เจ้าชายฮัซซาร์เป็นเพียงเจ้าชายสิ้นราชวงศ์ บทบาทหน้าที่ของ เจ้าชายองค์หนึ่ง (ชาครี-นายทหารผู้บัญชาการกองกำลังปฏิบัติการรบพิเศษ DESSERT CORPS)   กับ ประชาชนคนหนึ่ง - ที่ทรงศักดิ์เจ้าชาย (ฮัซซาร์-นายตำรวจกรมสืบราชการลับ) ยศพันเอกเท่ากัน แต่ความเท่ห์อลังฯ ย่อมต่างกันพอควร

จะเล่าถึงพื้นเพตัวละครอย่างคร่าวๆ (แต่ยาวหน่อย) สัก ๔ ตัวละครหลัก คาดว่าคงพอจะทำให้คนที่ยังไม่เคยอ่านพอนึกแนวเรื่องออกและเป็นข้อมูลให้พอช่วยตัดสินใจได้บ้างว่า.. หามาอ่านดูสักหน่อยดีมั้ยน๊อ ... และหวังว่าจะไม่เป็นการสปอยล์มากนักนะคะ 

เจ้าชาย  ชาครี ราชิด อัลซาอิด อัล โมราวิท  หรือที่หม่อมแม่ของท่านมีชื่อเรียกเฉพาะตนว่า ชาลี  แม้จะไม่ใช่ องค์มกุฎราชกุมาร (เจ้าชายรัชทายาท) เพราะมีแม่เป็นหญิงต่างชาติอันขัดกับกฏเกณฑ์การสืบราชบัลลังก์ตามโบราณราชประเพณี  แต่ด้วยพระบิดา เจ้าชายฮัสซัน สุไลมาน อัลซาอิด อัล โมราวิท เป็นถึงพระอนุชาของสมเด็จพระราชาธิบดีและมีบทบาทสำคัญในการช่วยบริหารปกครองประเทศ เจ้าชายชาครีจึงทั้งทรงสูงศักดิ์ และทรงคุณค่าในฐานะเชื้อพระวงศ์ -เจ้าชายของแผ่นดินอัลโมราเนีย

...เชาปีติแน่นอนหากว่าท่านจะทรงสลัดความไม่สมหวัง กลับมาเป็นพระองค์เอง เป็น 'เจ้าชาย' แห่งพระราชวงศ์ อัล โมราวิท ที่แม้จะไม่ทรงสิทธิ์ในราชบัลลังก์ เนื่องด้วยหม่อมแม่ของท่านมิได้เป็นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ หรือเป็นชนพื้นเมือง หากพระจริยวัตร ตลอดจนพระนิสัยส่วนพระองค์ซึ่งร่ำลือกันไปทั่วในหมู่พสกนิกรว่าทรงเป็นแบบอย่างของ 'เจ้าชาย' และ 'เจ้านาย' ยุคใหม่อย่างแท้จริง ที่ทรงตั้งพระทัยมั่นที่จะเสียสละความสุข สะดวกสบาย ลำบากพระวรกายเพื่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ และความเจริญ ความสุขสบายของประชาชน .....

ทรงเป็นที่รักของพระราชาธิบดีและพระราชินีแห่งอัลโมราเนีย (สมเด็จลุง, สมเด็จป้า) ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เสด็จมาทรงศึกษาวิชาการทหารในต่างประเทศ เริ่มจากอเมริกา สู่โรงเรียนนายร้อยแซนเฮิร์สที่ประเทศอังกฤษซึ่งเป็นโรงเรียนทหารที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นอกจากนี้เจ้าชายชาครียังใส่พระทัยศึกษาเพิ่มเติมจนสำเร็จการศึกษาด้านการเมืองการปกครองมาอีกแขนง ทั้งยังรอบรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศอีกด้วย (เลอค่าสุดๆ ) 

ไม่อาจมีใครคาดเดาได้ว่า..  พระบิดา-เจ้าชายฮัสซันสุไลมาน ทรงดำริเช่นไร  จึงทรงส่งพระโอรสไปประทับในต่างแดน  ห่างราชสำนัก ไกลพระเนตรพระกัณฑ์ และให้เจ้าชายได้ใกล้ชิดกับหม่อมแม่อลิซาเบธที่เป็นหญิงต่างชาติและเลิกร้างแยกทางกันไป เจ้าชายชาครีจึงทรงเจริญพระชันษาอยู่ในโรงเรียนกินนอนและศึกษาเล่าเรียนอยู่ห่างไกลบ้านเกิดเมืองนอนเป็นเวลายาวนานถึง  ๑๕ ปี 

...แน่นอน พระราชวงศ์อัล โมราวิท จะมี 'เจ้าชาย' พระองค์หนึ่งที่ไม่เหมือน 'เจ้าชาย' พระองค์ไหนๆ ทั้งสิ้น  'เจ้าชาย' พระองค์นี้จะเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายอย่างแท้จริง มิใช่ 'เทวดาเดินดิน' เฉกเช่นเจ้าชายทั้งหลายที่รู้ๆ กัน...

๐๐๐๐๐๐๐

'...คุณก็รู้นะ ผู้ชายในประเทศเรา กับผู้ชายที่นี่ หรือในซีกโลกอื่นๆ ถูกอบรมเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน ผู้ชายของเราคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้าน คือผู้ที่จะกำหนดชะตาชีวิตความเป็นตายร้ายดีของผู้หญิงในครอบครัว เป็นนาย .. เป็นผู้ออกคำสั่ง แล้วจะไม่มีเมียหรือลูกสาวคนไหนกล้าขัดขืนต่อล้อต่อเถียง  เจ้านายของเราพระองค์นี้ จะเสด็จกลับไปบ้านเมืองของท่านแล้วมีชีวิตอย่างไม่มีความสุข จะถูกใครต่อใครดูถูกดูแคลนให้เจ็บช้ำพระทัย เพราะทรงมีความรู้สึกสำนึกกับผู้หญิง ไม่เหมือนใครทั้งหลาย'..

เจ้าชายชาครีในพระชันษา ๒๕ ปี ทรงรอคอยวันนั้น  วันรับกระบี่ ที่จะได้ฉลองรับปริญญา และในฐานะ 'นายทหาร' พิธีสวนสนามอันยิ่งใหญ่เฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระราชาธิบดีเพื่อสาบานตัว- สาบานธง  มีความสำคัญเป็นเกียรติยศ เป็นศักดิ์ศรีของนายทหารทุกคน โดยเฉพาะนายทหารที่จะได้รับพระราชทานยศและสังกัด กรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์อัลโมรา การแสดงยุทธวิธีการรบบนหลังม้าของนักรบทะเลทราย ตามอย่างองค์ปฐมกษัตริย์อัลโมรา เป็นเอกลักษณ์ความภาคภูมิใจ เป็นเกียรติประวัติของราชวงศ์อัลโมราวิทรวมถึงประชาชนอัลโมราเนียด้วย

ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเจ้าชายชาครีเป็นที่ประทับใจให้ประชาชนพากันกล่าวขวัญถึงพระองค์ มากเสียยิ่งกว่าสมเด็จอาที่เป็นเจ้าชายมกุฎราชกุมาร   ผ่านมานานสิบกว่าปีที่ทรงเสด็จไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ประชาชนย่อมอยากยลโฉม 'เจ้าชาย' เต็มแก่ 

จึงควรที่จะได้เสด็จกลับสู่มาตุภูมิอย่างสง่าผ่าเผย ได้รับการต้อนรับอันมีเกียรติยิ่ง และตามโบราณราชประเพณี จะต้องมีการเฉลิมฉลอง จัดงานราตรีสโมสรทั้งอย่างเป็นทางการ คือมีคณะรัฐบาลหลวง ทูตานุทูตต่างประเทศมาร่วมงาน การสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของสามเหล่าทัพ งานเลี้ยงพระราชทานอันยิ่งใหญ่สวยงามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงเสด็จเป็นประธาน 

  

(กันจาร์ - Khanjar)

แต่เพราะความยุ่งยากทางการเมืองและปัญหาข้ามชาติของพวกที่จับกลุ่มก่อตั้งขบวนการก่อการร้ายโดยใช้ศาสนาเป็นอาวุธ เอาความถูกต้องดีงาม การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติไปเปลี่ยนแปรให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของพวกตน  ทำให้วันแห่งเกียรติยศของเจ้าชายต้องหายไป ต้องกลายเป็นมนุษย์ล่องหนแล้วเสด็จกลับสู่อัลโมราเนียอย่างเร้นลับ ด้วยภาระหน้าที่ต่อชาติบ้านเมืองที่ได้รับมอบหมาย 'เจ้าชาย' จึงต้องไว้หนวดไว้เคราเกินอายุและกลายไปเป็น "ซาลิม อัล ฮาร์ซูซี" เบดูอีนเลี้ยงอูฐเผ่าฮาร์ซูซี ที่ถูกว่าจ้างให้เป็น 'ล่าม' และ  'ไกด์ทะเลทราย' (Desert Guide) ในโครงการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวของรัฐบาลหลวง

แล้วนางเอกเล่า ... เธอเป็นใคร

มาดมัวแซลล์ มิลาน เดอ ลูเซ  เธอเป็นลูกผสมของลูกผสม  คือ  คุณย่าลอเรนซา เป็นอิตาเลียน-อเมริกัน คุณปู่อองตวนเป็นชาวฝรั่งเศส  คุณพ่อบรูโน ศาสตราจารย์วิชาประวัติศาสตร์และการเมือง จึงเป็นลูกผสม อิตาเลียน อเมริกัน ฝรั่งเศส  พบรักกับคุณขวัญใจ สาวไทยที่เป็นสถาปนิกฝีมือเยี่ยมยุทธ  ลูกๆ ทั้งสี่คนจึงเป็นลูกผสม อิตาเลียน อเมริกัน ฝรั่งเศส และไทย  (เยอะนะ) มิลาน เป็นลูกสาวคนเล็ก เธอมีพี่ชายสามคนคือ โรมา- นักการทูต   ปารี-เปิดกิจการท่องเที่ยว ซีบิล- ครูสอนภาษาและวิชาประวัติศาสตร์ 

นอกจากจะผสมผสานมาจากหลายเชื้อชาติ ครอบครัวของเธอยังมีความเป็น 'สหประชาชาติ' เต็มพิกัด พี่เลี้ยง- ซู่ปิง   หญิงชาวจีนที่คุณย่าลอเรนซาเมตตาเก็บมาเลี้ยงดูอยู่กับครอบครัวมาตั้งแต่เล็กก่อนที่มิลานจะลืมตาดูโลกเสียอีก  เช่นเดียวกับ  โมนา ที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงอีกคน เธอมาจากประเทศทางตอนเหนือของทวีปอัฟริกา  แล้วยังมี เจี่ยหยวน ชาวจีนอพยพที่อาศัยอยู่ในย่านคนจีนและไปมาหาสู่ครอบครัวนี้เป็นกิจวัตร เพราะชายสูงวัยผูกสมัครรักสุดใจอยู่กับซู่ปิงมาช้านาน  ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างขนมธรรมเนียมประเพณี แต่สมาชิกครอบครัวนี้ก็อยู่ร่วมกันอย่างรักใคร่ปรองดอง

ในวันไหว้เจ้าของซู่ปิง เจี่ยหยวนผู้มีหัวใจเปี่ยมด้วยรักให้ซู่ปิง จึงจัดตี่จู้หลังใหม่มาให้อย่างสุดฝีมือ ตี่จู้สลักนูนลึกลวดลายมังกร  วัดขนาดตามตำราฮวงจุ้ยให้ตกที่ตัว 'กัว' เพราะปีนี้ซู่ปิงอยากขอพรจาก 'เจ้า' ให้บันดาลโชคลาภ ความสำเร็จ และยศถาบรรดาศักดิ์แก่คุณหนูมิลานในปีที่เธอเพิ่งจะสำเร็จการศึกษา 'ปริญญาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต' (เรื่องความลับบนแหลมไซไน นางเอกก็เป็นนักศึกษาแพทย์ค่ะ ชื่อ..ก็มีส่วนคล้ายคลึงกันอีก  มิลาน/ เอมิลา)

โดยปกติเจ้าองค์จำลองของตี่จู้จะเป็นผู้ชายแก่หนวดขาวๆ แต่ตี่จู้หลังนี้ไม่รู้เจี่ยหยวนนึกอะไรขึ้นมา จึงวาด 'เจ้า' ออกมาเป็นหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว สะดุดตาคุณหนูมิลานที่ออกปากทักว่าเจี่ยหยวนทำยังไงถึงได้เจ้าที่ดูผึ่งผายและยังเป็นเจ้าที่ยังดูหนุ่มอยู่เลย  

แล้วมิลานก็เก็บไปฝันถึง ..ตี่จู้หลังมหึมา กับ 'เจ้า' ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นตุ๊กตาทหารแบบในบัลเลต์ เรื่อง The Nutcracker พักตร์เข้ม เนตรคม ทั้งดำขลับ ทั้งหวานจัด เสด็จออกจากตี่จู้ลายมังกรพันเสาแทนที่จะเป็นปราสาทราชวังในอังกฤษหรือไอร์แลนด์  เป็นความฝันอันบรรเจิดเพลิดแพร้วด้วยสีสันคล้ายสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าสีครามสวย (ยืมสำนวนของคุณโสภาคเค้ามาค่ะ)

ถึงจะอยู่ด้วยกันมานานหลายปีแต่พี่เลี้ยงโมนา ก็อยู่มาอย่างมี 'ความลับ' มีเรื่องคอขาดบาดตายที่ปิดบังซ่อนเร้น และในที่สุดอันตรายก็มาถึงตัว  ความลับที่มิลานได้ล่วงรู้ และแปรเปลี่ยนเส้นทางในชีวิตของเธอ จากบัณฑิตแพทย์ที่ยังจะต้องเป็นแพทย์อินเทิร์นอีกหลายปีกว่าจะสำเร็จเป็นแพทย์อย่างแท้จริง  พี่เลี้ยงโมนาที่ถูกตามล่าเอาชีวิต และสภาพ 'ผู้หญิง' ของโมนาที่ถูกทำ FGM และเป็นบ่อเกิดของอาการเจ็บป่วยที่คุณหนูมิลานได้พบเห็นในฐานะของแพทย์ เป็นเหตุนำพาให้มิลานได้พบกับโครงการบ้านฉุกเฉิน หนึ่งในเครือข่ายขององค์กรลับที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ต่อต้าน FGM  และคอยช่วยเหลือสตรีที่ถูกทำทารุณกรรมทางร่างกายหรือจิตใจอันเป็นผลพวงมาจากประเพณีนี้

FGM : FEMALE GENITAL MUTILATION  การขลิบอวัยวะเพศของสตรีหรือขลิบปุ่ม CLITORIS รวมทั้งตัดแคมในและปิดช่องคลอดสตรี เปิดไว้เพียงเท่าปลายดินสอ  กระทำกันในประเทศที่นับถือศาสนามุสลิมบางประเทศ เช่น อียิปต์ ซูดาน และในเขต ซับ ซาฮาร่า  ผลการรณรงค์จากต่างประเทศ ทำให้ประเทศอียิปต์ออกกฎหมายห้ามประเพณีนี้ในปี ค.ศ. 1995 เป็นประเทศแรก สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ 2 ที่ร่างกฏหมายนี้ใช้บังคับเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1997..

"ชาลี ลูกก็คงจะทราบเป็นเลาๆ เกี่ยวกับความคิดความเชื่อดึกดำบรรพ์ที่ผู้ชายบนแผ่นดินโน้น ยังเชื่อว่าผู้หญิงเป็นสัตว์โลกที่เหมือนสัตว์เลี้ยงในเรือนชนิดหนึ่ง แต่มีอะไรเหนือกว่าสัตว์ทั้งหลาย ตรงที่เป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติเป็นความภาคภูมิใจ เป็นผู้รองรับความต้องการความปรารถนาแล้วก็ทำหน้าที่เป็นโรงงานผลิตทายาทชีวิตใหม่ให้ครอบครัวให้สืบสกุลวงศ์"

๐๐๐๐๐๐๐

"แม่ไม่แน่ใจว่าชาลีจะทรงทราบความเป็นไปของผู้หญิงบนแผ่นดินโน้นมากน้อยเพียงไร"

"แม่ไม่แน่ใจว่าชาลีจะทรงทราบไหมเพคะว่า ผู้ชายบนแผ่นดินโน้นเชื่อว่าผู้หญิงควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกความปรารถนา รัก ใคร่ และกามารมณ์ไม่ได้"

๐๐๐๐๐๐๐

"ผู้หญิงทุกคน เมื่อเกิดมาจนถึงวัยที่สมควร  ชาลีทรงทราบหรือไม่เพคะ ผู้หญิงทุกคน จะต้องเข้าพิธีกำจัดความรู้สึก ความปรารถนาทางกามารมณ์ อารมณ์ทางเพศ ก่อนจะรู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เป็นอย่างไร"

๐๐๐๐๐๐๐

ผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ผู้หญิงต้องได้รับจากพิธีกรรมกำจัดความรู้สึกในอารมณ์ทางเพศ หรือ FGM นี้  ทำให้คุณหมอมิลานอาสาเข้าร่วมงานกับโครงการบ้านฉุกเฉินเพื่อหวังจะใช้ความรู้ความสามารถทางการแพทย์ให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้หญิงมากมายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน เธอจึงออกเดินทางไปสู่อัลโมราเนีย  ประเทศที่มีปัญหาทางการเมืองคุกรุ่น  อุดมการณ์อันแรงกล้าอันเกิดมาจากน้ำเนื้อจิตใจที่มี 'ความรักในเพื่อนมนุษย์' ด้วยความปรารถนาดีที่บริสุทธิ์จริงใจ และจริงจัง ที่อยู่เหนือความรักตัวกลัวตาย ถึงจะรู้ว่าอันตราย เพราะสมาชิกแกนนำของโครงการบ้านฉุกเฉินกำลังถูกตามล่าล้างบาง   แต่การได้รับรู้ว่ามีผู้หญิงมากมายต้องเผชิญความอยุติธรรมอันโหดร้ายนี้ ทำให้มิลานไม่อาจปล่อยให้มันเป็นเรื่องที่ .. แค่ผ่านการรับรู้ไปเฉยๆ 

'ป่านนี้ ใครต่อใครก็กำลังเป็นอินเทิร์น เป็นแพทย์ฝึกหัด แพทย์ประจำบ้าน แล้วก็จะเป็นแพทย์เฉพาะทางจบออกมาทำงานเป็นเรื่องเป็นราว คุณล่ะ  มิลาน วิ่งแล่นมาทำอะไรบนแผ่นดินที่เกิดมายังไม่เคยพบเคยเห็น  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีดีมีร้าย เป็นหรือตายอยู่ข้างหน้า'

คำเปรียบเปรยของเขาเวียนวนอยู่เช่นนี้ ... แล้วมิลานก็จะตอบเขาด้วยประโยคคล้ายๆ กันนี้ว่า

'ถ้าทุกคนในโลกนี้คิดเพียงว่า ความเดือดร้อนความทุกข์ยากทรมานของคนอื่น ไม่ใชเรื่องของตนล่ะก็ .. โลกใบนี้คงย่อยยับไปนานแล้วล่ะค่ะ  คงจะไม่มีความเอื้ออารีย์มีน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เอื้อกันไปมาระหว่างประเทศ ผ่านองค์กร สมาคม ไม่มีการรณรงค์ระหว่างประเทศที่จะช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ที่ด้อยโอกาส ถูกปิดหู ปิดตา ปิดปาก อย่างที่เราได้ยินทุกวันนี้'

แล้วงานของโครงการบ้านฉุกเฉิน มาบรรจบพบเจอ และร่วมเส้นทางเดียวกันได้อย่างไรกับงานของเจ้าชายชาครี

'ถ้านครโบราณ เอล อิด ซาลา ของพวกเรา กลายเป็นศูนย์กลางของพวก 'หัวเก่า' เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตระเบิดร้ายแรง เป็นที่ฝึกทหารนอกเครื่องแบบของกองทัพปิศาจที่เป็นมัจจุราชเที่ยววางระเบิด ฆ่าชาวโลก เป็นที่ซ่องสุมนักปฏิวัติทางศาสนาวัฒนธรรม นานาชาติและเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกจะรู้สึกอย่างไรกับประเทศของเรา เราเองนั่นแหละจะทนไม่ได้ถ้าชาวโลกจะเข้าใจความเชื่อและศาสนาของเราอย่างผิดๆ '

งานที่ทรงแบกไว้เพียบสองพระอังสา เพื่อความสงบสุขของประชาชนชาวอัลโมราเนีย จะต้องป้องกันนครโบราณ เอล อิ ซาลา  ไม่ให้กลายไปเป็นคลังอาวุธ เป็นโรงงานผลิตผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ และจะต้องต่อต้านการปฏิวัติวัฒนธรรมที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการปลุกปั่นให้ประชาชนเห็นว่า การเปิดประเทศทางการค้าและการท่องเที่ยว เป็นหายนะทางสังคม ศาสนา และขนบประเพณี  หากการปฏิวัติวัฒนธรรมของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า "ผู้อนุรักษ์" กระทำได้สำเร็จ นั่นหมายถึงการล่มสลายของราชวงศ์อัลโมราวิท และประเทศอัลโมราเนียจะถูกชักนำหรือบีบบังคับให้หวนกลับไปสู่ความเชื่อ ค่านิยมและสังคมดั้งเดิมในอดีตอันจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน

'ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครล่วงรู้แผนงานลับสุดยอดเกี่ยวกับโครงการบ้านฉุกเฉิน ตลอดจนกฏหมายฉบับใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของวัฒนธรรมความเชื่อที่เคยลิดรอนสิทธิโดยชอบธรรมทั้งร่างกายและจิตใจของสตรีชาวอัลโมราเนียทั้งประเทศ  ให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกมากที่สุดเท่าที่จะมากได้  โดยไม่กระทบกระเทือนบทบัญญัติทางศาสนา และพระคัมภีร์  เป็นศึกอันใหญ่ยิ่งซึ่งอาจจะเรียกว่าใหญ่ยิ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศชาติระหว่างฝ่ายอนุรักษ์อย่างรุนแรงผู้มีกำลังสนับสนุนจากผู้นำฝ่ายศาสนานิกายสิบสองผู้นำ ...ชีอะห์'

นั่นล่ะเขาและเธอจึงมาพบกัน ไม่ว่าจะที่ไหน ในคราบใด ดวงตาภายใต้หน้ากากตุ๊กตาทหารไม้กับชุดแฟนซีนายทหารฝรั่ง  หรือดวงตาภายใต้หน้ากากบูรการ์กับชุดคลุมมืดๆ สีดำ  หรือ ดวงตาจากนายไกด์ทะเลทราย ที่คุณหมอมาเซย์เรียกขานอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า  'ไ-อ้ ถ่อย'  เบดูอีนเผ่าอาร์ซูซี

มากาเร็ต อลิซาเบธ อัล โมราวิท (หม่อมลิบบี้)    หม่อมแม่ของเจ้าชายชาครี  พ่อของหม่อมลิบบี้เป็นนายแพทย์ชาวอังกฤษ ส่วนแม่เป็นลูกสาวนักการเมืองชาวอินเดีย (ดังนั้นเจ้าชายชาครีก็เลือดผสมเหมือนกัน  อังกฤษ-อินเดีย-อัลโมราเนีย)  เธอเรียนวิชานางพยาบาลแล้วไปอยู่ที่เมืองอัลโมฮัท พ่อของเธอเปิดโรงพยาบาลเป็นแห่งแรกที่นั่นเพื่อวางรากฐานทางการแพทย์และได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์และได้ชื่อว่าเป็นบิดาทางการแพทย์ของอัลโมราเนีย  พอเธอกลับมาเรียนที่ลอนดอน เป็นช่วงเวลาที่ เจ้าชายฮัสซันสุไลมาน พระอนุชาของสมเด็จพระราชาธิบดีเสด็จมาเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยแซนเฮิร์สและได้พบกัน  รักและแต่งงานกัน  หม่อมลิบบี้ต้องยอมเปลี่ยนศาสนาเพื่อเข้าวังไปเป็นสะใภ้หลวง มีโอรส ธิดา กับเจ้าชายฮัสซันด้วยกัน ๔ คน  สองคนแรกเป็นเจ้าหญิง ถัดมาคือเจ้าชายชาครี  และเจ้าหญิงพระองค์เล็ก

เป็นเวลาเนิ่นนานมาแล้วที่หม่อมลิบบี้เสด็จมาประทับในประเทศอังกฤษ แยกทางกับสวามีโดยที่ไม่อาจนำเอาโอรสธิดาติดตามมาได้สักคน  เพราะตามกฏเกณฑ์ของราชสำนัก  ลูกๆ เป็นสมบัติของราชวงศ์ที่ต้องอยู่กับพระบิดา  คนอื่นภายนนอกรับรู้กันเพียงว่าเธอมีปัญหาในการปรับใจเกี่ยวกับเรื่องการมีชายามากกว่าหนึ่งคน  แต่การจะแต่งงานกับเจ้านายเชื้อพระวงศ์ประเทศนั้น  มีหรือที่เรื่องเหล่านี้หม่อมลิบบี้จะไม่รู้และเตรียมใจไว้ก่อนหน้า การผิดคำมั่นสัญญาของสวามีที่จำเป็นต้องมีชายาเพิ่มอีก เป็นเรื่องขมขื่นที่หม่อมลิบบี้ก็พอจะทนกล้ำกลืนมันไว้ได้ แต่การที่เธอต้องระเห็จออกจากอัลโมราเนีียเพียงลำพังโดยไม่อาจมีสิทธิในตัวลูกหญิงชายสักคนนั้น มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้นที่ถูกเคลือบแฝงปิดบังเอาไว้อย่างมิดชิด 

คุณหมอมาเซย์  หมอหนุ่มชาวอังกฤษที่เป็นคุณหมอรุ่นพี่ของมิลานและรู้จักคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก คุณหมอหมายมาดปรารถนาจะได้มิลานมาเป็นคู่ชีวิต ความรักที่มีให้อย่างสุดหัวใจตั้งแต่เมื่อครั้งแรกรุ่นจนเธอเติบโตเป็นสาวเต็มตัว..ไม่เคยมีอะไรมาเปลี่ยนแปลง แม้จะได้รับคำเตือนเกี่ยวกับอุปนิสัยใจคอของมิลานอยู่บ่อยครั้งว่าเธอไม่เหมาะกับเขา และไม่มีทางหรอกที่ความรักของคุณหมอมาเซย์จะเป็นไปได้ แต่ด้วยรักทั้งหมดหัวใจที่มี คุณหมอมาเซย์จึงไม่ยอมเชื่อในคำตักเตือน ถึงจะย่อท้ออยู่หลายครั้งหลายหน ก็ยังหลงเหลือความเชื่ออยู่ว่าสักวันหนึ่งมันจะต้องเป็นไปได้  หรืออย่างน้อยถ้าหากมิลานจะไม่เลือกเขาจริงๆ คุณหมอก็อยากจะเห็น 'ผู้ชายคนนั้น' คนที่จะสามารครองหัวใจของผู้หญิงอย่างมิลาน ผู้ที่ได้ชื่อว่าจะต้องเป็นคน "เรื่องมาก" ที่เลือก..อย่างมาก ในเรื่องของความรัก

มิลานจะรักและจะเลือกคนแบบไหนกัน จะเพื่อความหวังในหัวใจหรือเพื่อคำตอบนี้ คุณหมอมาเซย์ก็ต้องติดตามไปบนเส้นทางที่มิลานเลือกเดินให้ถึงที่สุด ตามไปให้สุดเส้นทาง คุณหมอมาเซย์จึงต้องไปให้ไกลสุดกู่..สู่ประเทศอัลโมราเนีย .. เหตุผลเพราะ ...ความรักในเพื่อนมนุษย์น่ะเหรอ คุณหมอมีเพื่อมนุษย์เพียงคนเดียวชื่อ มิลาน 

แต่ มิลาน เธอเรื่องมากจริงหรือ .. ที่จริงเธอก็แค่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสิทธิมีอิสระเสรีจะแสวงหา 'ความรัก' และ 'คนรัก' ที่ปรารถนาจะมีความรัก ความสุข และใช้ชีวิตในระดับเดียวกัน..ร่วมกัน

'ความรักระหว่างคู่ผัวตัวเมียนี่ ไม่เสมอไปหรอกนะ มิ ..เปลี่ยนแปลงหายไปสลายสิ้นได้ง่ายๆ ..แต่ความรู้สึกที่เหนือกว่านั่นคือความปรารถนาดี  ความเสียสละ เอื้ออาทร เกื้อกูลกันให้อิสระและยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน  การปรับทุกสิ่งทุกอย่างให้พอเหมาะพอควร ไม่เอาเปรียบหรือเสียเปรียบ นี่ซีลูก มีค่าเหนือกว่า'

๐๐๐๐๐๐๐

..เพียงแต่ว่าวันนี้ ..หล่อนได้ผ่านพ้นประสบการณ์วัยเด็ก วัยรุ่น ผ่านความรักประเภทวูบวาบ ผิวเผินสดชื่นสุขสันต์ไปแล้ว มิลานกำลังแสวงหาความรักใหม่ที่ซาบซึ้ง อ่อนหวานอย่างลึกล้ำ จริงใจ ... มีความภาคภูมิใจ มีศรัทธา มีความนับถือ  มีความคิดนึกและจิตใจอยู่ในระดับใกล้เคียงกับหล่อนมากที่สุดนั่นเอง ...

..มิลานปรารถนาบางสิ่งบางอย่างที่เหนือกว่านั้น เหนือกว่าความรัก ความใคร่  มันต้องยิ่งใหญ่ โอฬาร ความนับถือศรัทธา ความรักที่ลึกซึ้งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ว่าอุดมคติ รสนิยม หรือวิถีชีวิต ...

๐๐๐๐๐๐๐

แล้วผู้ชายที่มีภาระหน้าที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดลืมตาดูโลกไปจนตราบสิ้นลมหายใจสุดท้ายอย่างเจ้าชายชาครี ที่จะไม่ได้มีชีวิตสุขสบายหรือมีอิสระดังใจปรารถนาสักเท่าไร เพราะเป็นผู้ชายที่จะต้องรับผิดชอบ การงาน ชาติ บ้านเมือง ประชาชน ราชบัลลังก์ พระราชวงศ์  เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะทำงาน อยากมีความสุข ความสงบ อยากรักใครสักคนที่รักเรา เท่าๆ กับที่เรารักเขา ..เท่านั้นเอง 

"..ความรักและชีวิตที่ว่ามานี้ ระดับเดียวกันกับของคุณมิลานหรือเปล่า"   

 

THE MOST AND BEAUTIFUL THINGS IN THE WORLD

CNNNOT BE SEEN OR EVEN TOUCHED.

THEY MUST BE FELT WITH THE HEART ..

WITH LOTS OF LOVE IN MY HEART FOR YOU. 

 

ตี่จู่ไหว้เจ้า, หน้ากากบูรการ์, กำไลข้อเท้า, การลงนามในพิธีมุลกา , ลูกปืน, ระเบิด อาวุธเคมี-ชีวภาพ,  Desert Peace (กุหลาบทะเลทราย) , ชุดแสงจันทร์พระราชทาน, ตำแหน่งเจ้าชาย EL-KABIR และเจ้าหญิงแห่งฮาราดจ์ ...และอีกหลายๆ เหตุผลที่รวมกันเป็นความคลาสสิคของนวนิยายเรื่อง เจ้าชาย

หน้าการบูรการ์นี่ต้องหาเสิร์ชกูเกิลกันเลยนะคะ ถึงจะจินตนาการได้ชัดเจนขึ้นว่าผ้าคลุมมีตาข่ายโปร่งตรงช่องดวงตาให้แค่มองเป็นเป็นอย่างไร  

 

ส่วนรูปสามคนภายใต้หน้ากากบูรการ์สีดำนี้ ทำให้นึกถึงตอนสำคัญตอนหนึ่งที่เจ้าชายชาครีแฝงตัวเข้าไปร่วมการประชุมลับของคณะบ้านฉุกเฉินพร้อมกับองค์รักษ์ทั้งสอง จัฟเฟอร์และอับเดล ในคราบของนางพระกำนัล (ร่างสูงใหญ่) 

อ่าน เจ้าชาย กับ ความลับบนแหลมไซไน มักจะมีบางฉากที่ทำให้เห็น (จินตนาการ) หน้าตานางเอกเป็นแบบนี้  คือดวงตาสวยๆ ที่โผล่พ้นมาจากผ้าคลุมหน้าสีดำ ความจริงอยากได้มาสักภาพกับดวงตาสักคู่ที่สวยๆ แต่เหมือนจะหาที่ "ใช่" ไม่ได้เลย ตอนเราอ่านนวนิยาย เรารู้สึกว่าดวงตานางเอกจะสวยกว่านี้ และอ่อนโยนกว่าดวงตาเหล่านี้ เป็นแบบดวงตาสวยซึ้งน่ะค่ะ ... แต่แบบนี้ก็สวยดีดูมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา ชอบมากเลยค่ะ    

ส่วนพ่อคนนี้ Jake Gyllenhaal ไม่ได้ตั้งใจจะนึกถึงหรอกนะคะ แต่เวลาอ่านนวนิยายทะเลทรายพระเอกเป็นอาหรับเมื่อไร  หน้าตาเค้าจะเป็นคลื่นแทรกคอยรบกวนตลอด  สุดท้ายหน้าตาเจ้าชายฮัซซาร์ หรือเจ้าชายชาครี ก็กลายเป็นหน้าตาหนุ่มเจคตอนยังเป็นหนุ่มหล่อๆ ในชุดอาหรับเท่ห์ๆ ไปซะเลย Smiley 

 

 

เป็นนวนิยายที่เขียนอย่างเอาจริงเอาจังมากทีเดียวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยคนยุคใหม่ กับขบวนการต่อต้านอย่างรุนแรงจากพวกอนุรักษ์ 'ความเก่า' เชื่อมโยงถึงขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ การผลิต การทดลองอาวุธเคมีชีวภาพ  โดยได้ดึงเอาชื่อและบทบาทขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ที่มีอยู่จริงมาเขียนถึง นำปัญหาของอียิปต์ อัฟกานิสถาน อิรัก อิหร่านมาโยงใยเป็นสถานการณ์ของ 'ประเทศเพื่อนบ้าน' ให้รู้สึกเหมือนจริง ( แต่ประเทศอัลโมราเนียไม่มีอยู่จริง )  ความขัดแย้งทางสังคม ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี ถูกนำมาผูกเป็นเรื่องราวใหญ่ระดับชาติ ให้สมสง่าราศี เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา สมคุณค่าแห่ง  'เจ้าชาย' 

'การได้เกิดมาเป็น 'เจ้าชาย' นั้น คือการอุทิศชีวิตให้กับชาติบ้านเมือง คือการเห็นประโยชน์ของบ้านเมือง ของแผ่นดิน ของประชาชนก่อนประโยชน์ของตนเอง คือ ไม่ทำสิ่งใดให้เสื่อเสี่ยถึงสถาบัน ชาติ กำเนิด  .

การเป็น 'เจ้าชาย' คือจะต้องสำนึกในหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง แผ่นดินและประชาชนผู้ให้ความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น ความนับถือ สำนึกเช่นนี้ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต'

สนุกดีค่ะเรื่องนี้ ชอบมาก แม้จะยังเสียดายอยู่นิดนึงตรงที่ อยากให้เจ้าชายชาครีมีบทบาทของการเป็น ผู้บัญชาการ DESERT CORPS มากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด เช่นเดียวกับที่อยากให้คุณมิลาน มีบทบาทในการวิชาแพทย์ของเธอมากขึ้นอีกหน่อย  ณ จุดนี้ ความเท่ห์จะได้ทะลุเกินร้อยไปเลย  เรื่องนี้แม้จะอุดมการณ์เยอะ แต่เรื่องความรักก็เยอะด้วยเช่นกัน ทูอินวันให้คนที่ชอบหวานไม่ขาดหวาน  คนชอบเนื้อหาไม่ขาดสาระ  แต่.. มันก็อาจจะหนักหนาสำหรับคนที่ไม่ชอบสาระอันอัดแน่น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของใครของท่านกันนะเอย 

ขอบคุณ โสภาค สุวรรณ อีกครั้ง สำหรับผลงานดีๆ ในความทรงจำ ..

อันที่จริง เรื่องนี้ก็ .. จัดเต็ม รอบที่สามแล้วล่ะค่ะ

 

 




Create Date : 06 กันยายน 2556
Last Update : 6 กันยายน 2556 23:30:58 น. 14 comments
Counter : 17355 Pageviews.

 
สงสัยต้องไปหามาอ่านบ้างแล้วค่ะ


โดย: Aneem วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:6:48:51 น.  

 
อ่านแล้วชอบเจ้าหนุ่มหล่อในตี่จู้ แล้วมิลานเก็บไปฝันค่ะ เรื่องนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างหนัก


โดย: polyj วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:7:28:38 น.  

 
55555 จขบ. เป็นเหมือนเราเลยค่ะ บางทีอ่านนิยายก็จะมีหน้าดาราขึ้นมาแทรกในความคิด อ่านรีวิวแล้วเพิ่งรู้เนี่ยแหละค่ะว่ามีพิธีการ FGM อย่างนี้ด้วย โหดร้ายจังเลย


โดย: ~*Sing Praise*~ วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:9:20:11 น.  

 
รีวิวละเอียดมากเลยค่ะ
ทำให้อยากอ่านเลยค่ะ
เป็นเหมือนกัน ชอบนึกว่าใครเหมาะกับบทพระนางนะ จะได้จิ้นถูก อิอิ

ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: lovereason วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:12:50:03 น.  

 
อาจจะได้อ่านแล้ว แต่ก็ลืมแล้วน่ะค่ะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:17:31:13 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มาก ใกล้เคียงกับความลับบนแหลมไซไนเลย
ชอบความจริงจัง+สาระของเรื่อง พล๊อตเดาได้ แต่ไม่ทิ้งความหวาน (หวานกว่าความลับฯ)

ส่วนความลับฯ จริงจังเหมือนกัน พล๊อตจะเดายากกว่านิด หวานน้อยกว่าหน่อย

พระนาง ชอบทั้งสองเรื่องเลย เป็นสองเรื่องของโสภาค สุวรรณที่ชอบมากๆ

ปล.นางเอก อ่านทีไรนึกถึงหน้าตาแบบมาช่าทุกที
แต่พระเอก นึกไม่เคยออก พอจขบ.พูดถึงเจค ใกล้เคียงมาก


โดย: ฟ้าใส ในเงาจันทร์ วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:19:27:36 น.  

 
ว้า....เล่มนี้ไม่ได้อ่านค่ะ
จะว่าไปก็ไม่ได้อ่านงานยุคหลัง ๆ ของป้าโสภาค มาหลายปีมากเลยค่ะ


โดย: Serverlus วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:20:31:25 น.  

 
ว๊าววว เจคตอนหนุ่มๆหล่อจริง


โดย: Sab Zab' วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:14:15:26 น.  

 
อ่านเมื่อนานมาแล้วเหมือนกันเล่มนี้ แต่ส่วนตัวประทับใจความลับบนแหลมไซนายมากกว่าแฮะ

นิยายคุณโสภาคจะค่อนข้างหนักหน่วงและแน่นด้วยเนื้อหาสาระ จึงส่วนใหญ่จะอ่านจบแล้วจบเลย ไม่ค่อยมีอารมณ์อยากจะหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำรอบสองรอบสาม...

ที่บล็อกจึงไม่ค่อยมีรีวิวของนักเขียนนามนี้ ทั้ง ๆ ที่อ่านนิยายของท่านไปเยอะมาก ๆ นับนิ้วดูแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 เล่ม...

จขบ.นี้รีวิวได้ละเอียดลออแถมเสริมด้วยเกร็ดข้างเคียงอีก
ปรบมือให้ด้วยความชื่นชมค่ะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:14:21:56 น.  

 

รีวิวได้ละเอียดมากค่ะ เล่มนี้เคยอ่านค่ะ
ซื้อเก็บไว้ด้วย ชอบในระดับนึงค่ะ บรรยายนานมากกว่าพระเอกจะเจอกับนางเอก ถ้าจำไม่ผิดเข้าเล่มสอง ใช่มั้ยค่ะ?


โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:20:09:54 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเลยครับ...รีวิวละเอียดมากๆๆ


โดย: อุ้มสม วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:21:17:26 น.  

 
ชอบอ่านนิยายหลายเรื่องของคุณโสภาคเหมือนกันค่ะ แต่บางทีก็เบื่อบทบรรยายยาว ๆ เกี่ยวกับแนวความคิดที่แทรกเกร็ดเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาด้วย หลายคนอาจชอบ แต่เราอ่านแล้วออกจะมึน ๆ ค่ะ....


โดย: bussabongkot วันที่: 9 กันยายน 2556 เวลา:20:49:08 น.  

 
อ่านแล้วทั้ง2เรื่อง ชอบมาก


โดย: ๊๊Uraiwan nita IP: 223.206.159.187 วันที่: 24 กันยายน 2557 เวลา:13:41:26 น.  

 
ชอบมากเรื่องนี้ อ่านแล้วจิ้นพระเอกสุดฤทธิ์ แต่แอบเบื่อตอนบรรยายเหมือนกันค่ะ โดยรวมแล้วชอบเป็นหนึ่งใน my favorite


โดย: อภิชญา IP: 1.10.248.56 วันที่: 12 มิถุนายน 2558 เวลา:10:49:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prysang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]




จำนวนผู้ชม คน : Users Online
New Comments
Friends' blogs
[Add prysang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.