คลังคุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ขรก. ... กรมบัญชีกลาง ยังไม่ให้เบิกยารักษาข้อเข่าเสื่อม ???
คลังคุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ขรก. ... กรมบัญชีกลาง ยังไม่ให้เบิกยารักษาข้อเข่าเสื่อม ??? vote [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน
//www.thairath.co.th/content/eco/178822
ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
14 มิถุนายน 2554, 05:15 น.
คลังคุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ขรก.
กระทรวงการคลัง คุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ พบ 8 เดือนยอดพุ่งแค่ 4 หมื่นล้าน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาก...
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจรายจ่าย เปิดเผยถึงยอดการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและบุคคลในครอบครัวใน 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 54 หรือ ณ สิ้นเดือน พ.ค.54 ว่า มียอดการเบิกจ่ายรวม 40,000 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาก แต่คาดว่ายอดการเบิกจ่ายในปีงบ 54 จะอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 62,000 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ยอดการเบิกจ่ายลดลง มาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่าย ทั้งการควบคุมการเบิกจ่ายยาที่ไม่จำเป็น เช่น คุมการเบิกจ่ายยานอกบัญชียาหลัก และการตรวจสอบการเบิกจ่ายยาที่ไม่เป็นไปตามระเบียบย้อนหลังของโรงพยาบาล รวมถึงการออกระเบียบใหม่เพื่อป้องกันการทุจริต
“ที่ผ่านมา ยอดการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลพุ่งขึ้นเฉลี่ยปีละ 20-25% ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมีมากถึง 50,000-60,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน หากไม่ควบคุมการเบิกจ่ายส่วนนี้ ประเมินกันว่า ยอดการเบิกจ่ายจะทะลุถึง 100,000 ล้านบาทในแต่ละปี ซึ่งจะทำให้การจัดทำงบประมาณสมดุลไม่เป็นไปตามเป้าหมาย”
นางสาวสุภา กล่าวต่อถึงแนวทางของกรมบัญชีกลางที่จะใช้ระบบประกันมาดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพื่อคุมให้งบประมาณรายจ่ายส่วนนี้อยู่ในเป้าหมายว่า กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการศึกษาข้อดีข้อเสีย คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
ส่วนข้อเรียกร้องที่จะให้ยกเลิกระเบียบห้ามการเบิกจ่ายยารักษาข้อเข่าเสื่อมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้มอบหมายให้แพทย์ที่วิจัยการใช้ยาดังกล่าว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคนี้ ไปหาข้อสรุปให้ตรงกันว่า ควรจะใช้ยาดังกล่าวรักษาคนไข้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากได้ข้อสรุปว่า ยานี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ก็พร้อมที่จะยกเลิก
สำหรับการเบิกจ่ายค่ารักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในแต่ละปีจะอยู่ที่ราว 800-900 ล้านบาท.
ผมนำไปตั้งกระทู้ในห้องสวนลุม ด้วย ..
//www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L10689825/L10689825.html#3
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ ๑๐ พค. ๕๔
อาทิตย์หน้าขรก.เบิกจ่ายยา กลูโคซามีนซัลเฟตได้แล้ว
//breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=508809
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงการคลังว่า
สัปดาห์หน้า กรมบัญชีกลาง จะแก้ไขระเบียบให้ข้าราชการให้สามารถเบิกจ่ายยา กลูโคซามีนซัลเฟต ( Glucosamine sulfate) ที่จะใช้รักษาโรคไขข้อเสื่อม ให้กับข้าราชการสูงอายุได้แล้วตั้งแต่สัปดาห์หน้า เป็นต้นไป
หลังจากที่เคยมีปัญหาถูกตัดออกจากสิทธิการรักษาและมีการข้าราชการออกมาร้องเรียน
ปล. หรือว่า เป็นแค่ การสยบ ความแรง ของกระแส ความไม่พึงพอใจ เลยออกมาให้ข่าวแบบนั้น .. พอผ่านไป คนลืม ๆ เลือน ๆ .. กรมบัญชีกลาง เลยกลับลำอีกรอบ ???
ความคิดเห็นที่ 2
นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจรายจ่าย
" ส่วนข้อเรียกร้องที่จะให้ยกเลิกระเบียบห้ามการเบิกจ่ายยารักษาข้อเข่าเสื่อมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ได้มอบหมายให้แพทย์ที่วิจัยการใช้ยาดังกล่าว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคนี้ ไปหาข้อสรุปให้ตรงกันว่า ควรจะใช้ยาดังกล่าวรักษาคนไข้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากได้ข้อสรุปว่า ยานี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ก็พร้อมที่จะยกเลิก " ...
..............................................................................
ทั้งที่ ราชวิทยาลัย ออร์โธฯ ซึ่งน่าจะเป็น องค์กรวิชาชีพ เป็น องค์กรวิชาการ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ออกมาแถลงฯ แล้ว ??? จะให้ แพทย์เชี่ยวชาญ ที่ไหนมาสรุปอีก ???
ถ้าจะรอให้เห็นตรงกัน ( ไม่มี คนค้าน ) .. แบบนี้ ข้าราชการ ก็คงต้องทำใจ ... ระเบียบ ห้ามเบิกจ่ายยา ก็คงไม่มีทางยกเลิกแน่ ๆ ...
งานนี้ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า "ข้าราชการ" ที่ใช้ยาเหล่านี้ จะทำอย่างไร ...
ปล. แจ้งไว้ก่อนเลยนะครับ ....
ผม ลาออกจากราชการ เปิดคลิินิก .. ตัดปัญหา เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวไปได้เลยนะครับ แถม ถ้าเบิิกไม่ได้ ผมกลับได้ประโยชน์มากกว่า ด้วยซ้ำ เพราะ ข้าราชการ ที่เคยใช้ยา ไป รพ.ก็เบิกไม่ได้ จะไปเสียเวลารอ เสียเวลาเดินทาง ไป รพ.รัฐ ทำไม .. ก็ไปซื้อยาที่คลินิก จ่ายถูกกว่า ด้วยซ้ำไป ..
ความคิดเห็นที่ 3 [
ผมลงข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในบล๊อก ..ว่าง ๆ ก็แวะไปอ่านกันนะครับ ..
คำชี้แจง จาก ราชวิทยาลัยออร์โธฯ เกี่ยวกับยารักษาข้อเข่าเสื่อม ..(ที่กรมบัญชีกลางสั่งห้ามเบิก)
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=08-04-2011&group=7&gblog=132
คำชี้แจง จาก ราชวิทยาลัยออร์โธฯ เกี่ยวกับยารักษาข้อเข่าเสื่อม (ที่กรมบัญชีกลางสั่งห้ามเบิก)..( ต่อ )
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=21-04-2011&group=7&gblog=134
ข้อเข่าเสื่อม
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-05-2008&group=5&gblog=15
จากคุณ : หมอหมู [FriendFlock] [Bloggang]
เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 17:31:14 [แก้ไข]
อย.ค้านตั้งคณะอนุ กก.พิจารณายาข้อเสื่อม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
22 มิถุนายน 2554 09:56 น.
//manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000075854Opinion
อย.ส่งหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง ค้านการตั้งคณะอนุ กก.พิจารณาประสิทธิภาพยาข้อเข่าเสื่อม แจงสรุปประสิทธิภาพแล้ว ได้ผลจริง
จากกรณีกรมบัญชีกลาง มีคำสั่งไม่ให้มีการเบิกจ่ายยากลุ่มบรรเทาอาการข้อเสื่อมนั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ทำหนังสือ เรื่อง ขอให้พิจารณาหลักการในการดำเนินการของคณะกรรมการบริหารระบบสวัสดิการรักษาพย าบาลช้าราชการในการทบทวนรายการยากลุ่มบรรเทาอาการข้อเสื่อม ส่งให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ทบทวนบทบาทของคณะอนุกรรมการ
อนึ่ง รายละเอียดของหนังสือดังกล่าว ระบุว่า จากการที่กรมบัญชีกลางจะไม่ให้มีการเบิกจ่ายยากลุ่มบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ ออกฤทธิ์ช้า และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม และมีประเด็นโต้แย้งอย่างกว้างขวาง ซึ่งต่อมาคณะกรรมการบริการระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาหาข้อสรุปเกี่ยวกับประสิทธิผลความคุ้มค่า ของยานั้น อย.พิจารณาแล้ว จึงขอให้กรมบัญชีกลางทบทวนบทบาทของคณะอนุกรรมการดังกล่าว เนื่องจาก
1.อย.ได้พิจารณาประสิทธิผลและความปลอดภัยของยา ตามที่กรมบัญชีกลางได้มีข้อสงสัยและทำหนังสือสอบถามมาครั้งหนึ่ง ตามหนังสือเลขที่ กค 0422.2/00173 ลงวันที่ 6 ม.ค.โดย อย.ได้จัดประชุมหารือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า ยาดังกล่าวมีข้อมูลสนับสนุนวิชาการที่เชื่อถือได้ ทั้งด้านประสิทธิผลในการรักษาและความปลอดภัย และมีหนังสือแจ้งกลับให้กรมบัญชีกลางแล้ว เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา
2.การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ว่า ยากลุ่มดังกล่าวจะสามารถเบิกจ่ายจากระบบสวัสดิการข้าราชการได้หรือไม่ ควรพิจารณาเฉพาะประเด็นความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ หรือความพร้อมทางการคลังของประเทศ ไม่ควรนำเรื่องข้อสงสัยในการทบทวนประสิทธิผลทางการรักษามาพิจารณา เนื่องจากปัจจุบัน อย.ได้อนุมัติทะเบียนตำรับยาเฉพาะยากลูโคซามีน รวมทั้งสิ้น 131 ตำรับ จำนวน 44 บริษัท หากมีการพิจารณาประเด็นเรื่องประสิทธิผลของการรักษาของยา และผลการพิจารณาของอนุกรรมการออกมา จะก่อให้เกิดความสับสนต่อประชาชนและผู้ป่วย รวมทั้งความน่าเชื่อถือต่อระบบการขึ้นทะเบียนยาของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในตอนท้ายของหนังสือระบุเพิ่มเติมว่า หากคณะกรรมการวิชาการภายใต้คณะกรรมการบริหารระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราช การ มีประเด็นที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิผล หรือผลการรักษาของยากลูโคซามีน ควรส่งให้ อย.เป็นผู้พิจารณาการแต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองข้อมูลทางวิชาการ เพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับประสิทธิผลของกลุ่มยาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้าและกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม โดย อย.เห็นว่า เป็นการดำเนินการที่ก้าวล่วงภารกิจของ อย.และจะทำให้เกิดความสับสนกับประชาชนในบทบาทภารกิจของหน่วยงาน