ครม.ผ่านกฎกระทรวง สิทธิการตาย ......เปิดช่องหมอยุติรักษาตามเจตนาคนไข้ ...

เรื่องนี้ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า เป็นเรื่องของ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ฯลฯ ...
แต่ จริงๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนทุกคน ที่มีโอกาสเจ็บป่วย จึงเป็นสิ่งที่ควรจะรู้ไว้ ...
//www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000149780 ครม.ผ่านกฎกระทรวงสิทธิการตาย เปิดช่องหมอยุติรักษาตามเจตนาคนไข้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ธันวาคม 2552 08:35 น.
เลขาฯสช.ชี้ครม .ผ่านกฎกระทรวงสิทธิการตาย ขอปฏิเสธการรักษา ไม่ใช่หนังสือขอให้หมอทำให้ตาย แต่เป็นความต้องการของผู้ป่วยระยะสุดท้ายขอให้ยุติการรักษาไม่ยื้อชีวิตเป็น ลายลักษณ์อักษร เปิดช่องให้หมอทำได้
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการตาม
หนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตหรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย พ.ศ
ที่ออกตาม มาตรา 12 ของพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติว่า หลังจากนี้คาดว่าหลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาจะมีผลบังคับใช้ประมาณ
ก.พ.-มี.ค.2553 สำหรับเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงนี้ เป็นการทำหนังสือแสดงความจำนงของผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่จะปฏิเสธการรักษา เพื่อยื้อชีวิต เป็นลายลักษณ์อักษร
"ถือเป็นสิทธิของผู้ป่วยโดยตรง ไม่ได้เป็นการบังคับ โดยขอให้บุคลากรทางวิชาชีพทำให้เสียชีวิต เพราะทุกข์ทรมานจากการป่วย เช่น การถอดสายออกซิเจน หยุดเครื่องช่วยหายใจ ฯลฯ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดแต่ที่จริงแล้วเป็นการแสดงความจำนงของผู้ป่วยเองมากกว่า ว่า
หากป่วยในระยะสุดท้ายแล้วรักษาด้วยวิธีใดไม่ดีขึ้น ก็ขอปฏิเสธการรักษา ให้จากโลกนี้ไปอย่างธรรมชาติ ซึ่งปกติมีการประพฤติปฏิบัติกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นลายลักษณ์อักษร เหมือนกรณีกับนายยอดรัก สลักใจ ที่บอกหมอและญาติว่า หากป่วยในระยะสุดท้ายแล้วไม่ขอให้แพทย์ดำเนินการรักษาใดๆอีก"นพ.อำพลกล่าว
นพ.อำพล กล่าวอีกว่า หนังสือดังกล่าวที่ผู้ป่วยทำไว้เพื่อขอปฏิเสธการรักษานั้น ไม่ใช่นิติกรรมผูกพันทางมรดก แต่เป็นแค่หนังสือแสดงเจตนาของผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีการพูดคุยมากขึ้น เพราะในร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้ระบุว่า
หากมีปัญหาในการดำเนินการตามหนังสือดังกล่าว ให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหารือกับญาติหรือบุคคลใกล้ชิดของผู้ป่วย เพื่อกำหนดแนวทางการดูแลรักษาต่อไป โดยเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ป่วยและดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของหนังสือให้มากที่สุด นพ.อำพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ได้เป็นหนังสือเชิงนิติกรรมที่แบ่งสมบัติ หรือนำไปใช้ในชั้นศาลได้ ขณะเดียวกันญาติและแพทย์ก็ต้องรับฟังหนังสือดังกล่าว ไม่สามารถยกเลิกได้ เนื่องจากเป็นประสงค์และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งในปัจจุบันแพทย์และญาติของผู้ป่วยจะเป็นผู้ใช้สิทธิส่วนตัวนี้มากกว่า อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาวะของผู้ป่วยขณะที่เขียนหนังสือดัง กล่าว เพราะจะมีพยานรับรองว่า ผู้ป่วยที่แสดงประสงค์ขอปฏิเสธการรักษาจะต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
ปล..
ลองถามอากู๋ เรื่อง สิทธิที่จะตาย ได้มาเพียบ ..
//search.conduit.com/Results.aspx?q=%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0% B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2&ctid=CT461365&octid=CT461365 พินัยกรรมแห่งชีวิต ...เรื่องน่ารู้ ... เตรียมเผื่อไว้ก่อน ก็ดี ...
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-05-2009& group=8&gblog=76 แถมเวบนี้ มีหนังสือแจกฟรี ด้วยนะครับ .. หนังสืออย่างดีเลยแหละ .
//www.thailivingwill.in.th/ ThaiLivingWill.in.th เป็นสื่อกลางเผยแพร่แนวคิดการตายอย่างมีศักดิ์ศรี ด้วยการรักษาพยาบาลที่เคารพในเจตจำนง คุณค่า และศรัทธาของผู้ป่วย
เว็บ ไซต์ นี้นำเสนอข้อมูลด้านกฎหมาย บทความ และเรื่องเล่าประสบการณ์ในวาระสุดท้าย เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับหนังสือ แสดงเจตนาและสร้างความเข้าใจเรื่องการตายอย่างสงบตามธรรมชาติ
ว่าง ๆ ก็ ลองแวะไปอ่านดูนะครับ...
สาระสำคัญของ Living Will ตามร่างกฏกระทรวง พรบ สุขภาพแห่งชาติ มาตรา 12 (PDF 172KB)
บทบรรยาย powerpoint โดย
ศาสตราจารย์แสวง บุญเฉลิมวิภาส
ผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
//www.thailivingwill.in.th/index.php?mo=3&art=351086 (ร่าง) แนวปฏิบัติของสถานพยาบาล
เพื่อปฏิบัติตามหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุข
//www.thailivingwill.in.th/index.php?mo=3&art=285155 ประเด็นจริยธรรมในการดูแลแบบประคับประคอง (palliative care)*
จัดทำโดย
สมาคม นานาชาติเพื่อการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายและการดูแลแบบประคับประคอง (International Association for Hospice & Palliative Care)
แปลและเรียบเรียงโดย ไพศาล ลิ้มสถิตย์**
//www.thailivingwill.in.th/index.php?mo=3&art=300223