|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทาร์ตสตรอว์แบร์รี่


วันนี้ลูกสนชวนเพื่อนๆมาทำขนมยอดฮิตกันค่ะ รู้สึกว่าทุกๆฤดูหนาว เวลาสตรอว์แบร์รี่ ราคาถูก ร้านเบเกอรี่แทบทุกร้านจะทำเมนูนี้ออกมาวางขายกันค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ลูกสน มีความสุขในการเดินเข้าร้านเบเกอรี่ที่สุดเลย ได้เห็นผลไม้สีแดงสดใสกับครีมคัสตาร์ด หรือไม่ก็วิปครีมสีขาว ถึงไม่ได้กินก็อิ่มใจค่ะ ได้มองขนมสวยๆก็พอแล้ว
ทาร์ตสตรอว์แบร์รี่เป็นขนมที่อาจจะยุ่งยากตรงขั้นตอนการทำซักนิดนึงค่ะ เพราะว่า ต้องทำทั้งเพสตรี้ครีม และแป้งพาย แต่ว่าทั้งสองอย่างทำไม่ยากเลยนะคะ ใจเย็นๆค่ะ ทำเสร็จแล้วต้องภูมิใจอย่างแน่นอน อร่อยกว่าไปซื้อตามร้านเยอะค่ะ ไม่น่าเชื่อนะคะ... ว่าแค่แป้งพาย เพสตรี้ครีม กับสตรอว์แบร์รี่ ส่วนผสมธรรมดาๆที่พอเอามารวมกันแล้ว จะกลายเป็นความอร่อยที่กินแล้วทำให้ยิ้มได้เลยล่ะค่ะ
ทั้งสูตรแป้งพายและเพสตรี้ครีมที่ลูกสนพิมพ์ให้วันนี้ เป็นสูตรที่อร่อยทั้งคู่เลยค่ะ และเหมาะที่จะเป็นส่วนประกอบของพายชนิดอื่นเช่นกัน ถ้าเพื่อนๆอยากทำ แป้งพายหวาน หรือไส้ครีมหอมอร่อย ลูกสนแนะนำให้ลองเลยค่ะ ปรับเปลี่ยน หน้าเป็นผลไม้อย่างอื่นตามชอบ หรือจะเอาเพสตรี้ครีมไปเป็นส่วนผสมไอศครีม รสวานิลลาก็ได้ อร่อยจริงๆค่ะ
เรามาเริ่มจากเพสตรี้ครีม แล้วค่อยเป็นแป้งพายนะคะ เริ่มลงมือกันเลยค่ะ
ส่วนผสมเพสตรี้ครีม(ปริมาณ 1 1/4 ถ้วยตวง) สูตรจากเวบไซต์ Allrecipes.com
1. นมสด 1 ถ้วยตวง 2. ไข่แดงของไข่ไก่เบอร์สอง 3 ใบ 3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง 4. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ 5. เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ 6. เกลือ 1/8 ช้อนชา 7. ฝักวานิลลา 1/2 ฝัก(ถ้าไม่มีใส่กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาแทนค่ะ)
วันนี้ลูกสนใส่ทั้งฝักวานิลลาและกลิ่นวานิลลาเลยค่ะ กันกลิ่นไข่ ฮิฮิ

วันนี้ใช้ฝักวานิลลาของพี่ก้อยนะคะ อยู่ในน้ำตาลทรายมานานแล้ว ยกมือเรียกร้องกันใหญ่ว่าให้เอาออกไปใช้ซักทีเถอะ หุหุ เสียใจด้วย เราใช้แค่ครึ่งฝักเอง ที่เหลือก็ต้องนอนอยู่ในนั้นต่อไป ฮิฮิ

วิธีทำ
1. กรีดฝักวานิลลาและรูดเม็ดออกมาให้มากที่สุด จากนั้นเทนมสดลงในหม้อด้ามยาว ใส่เม็ดวานิลลา ฝักวานิลลา และน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากัน

2. นำส่วนผสมนมสดขึ้นตั้งไฟกลางและคอยคนเรื่อยๆ เมื่อส่วนผสมเดือดและมีฟอง ให้ดับไฟ แล้วพักส่วนผสมนี้ไว้ก่อนค่ะ

3. ใส่ไข่แดง น้ำตาลทรายที่เหลือ แป้งสาลีเอนกประสงค์ เกลือ และกลิ่นวานิลลาลงในชามผสม จากนั้นใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเนียนเข้ากันดี แล้วค่อยๆเทนมร้อนผ่านกระชอน ลงไปยังชามไข่แดง ใส่นมร้อนแค่ครึ่งเดียวพอนะคะ ที่เหลือก็เอาไว้ในหม้อเหมือนเดิมค่ะ
เวลาเทนมร้อนลงไปแล้วต้องรีบเอาตะกร้อมือคนให้นมกับไข่เข้ากันเร็วๆนะคะ ไม่งั้นไข่จะสุก กลายเป็นลิ่มๆ เนื้อครีมจะไม่เนียน ในรูปที่ 4 คือส่วนผสมไข่แดงกับนมที่เข้ากันดีแล้วนะคะ ลูกสนเผลอเทนมลงไปมากกว่าครึ่งค่ะ แหะแหะ เลยดูเหลวๆหน่อย

4. นำส่วนผสมในข้อ3 กลับไปเทใส่หม้อที่มีนมเหลืออยู่ ตั้งบนไฟกลางและใช้ช้อนไม้คนตลอด คนไปเรื่อยๆจนส่วนผสมข้นขึ้น จะสังเกตเห็นรอยบางๆบนหน้าครีมค่ะ ให้ปิดเตาได้เลย เอาใส่เนยลงไป คนให้เนยเข้ากับเนื้อครีม ครีมก็จะข้นมากขึ้นค่ะ เป็นแบบรูปที่ 4

5. นำหม้อที่ใส่ครีมไปวางบนอ่างที่ใส่น้ำเย็นจัดหรือน้ำแข็ง คอยคนครีมในหม้อเรื่อยๆค่ะ วิธีนี้จะทำให้ครีมคลายความร้อนเร็วขึ้น คนไปเรื่อยๆจนครีมอุ่นจนสามารถใช้นิ้วแตะได้นะคะ ครีมที่เย็นลงจะมีความข้นมากขึ้นค่ะ พอได้แบบนั้นแล้วก็ให้กรองครีมอีกครั้งด้วยกระชอน แล้วเอาพลาสติกคลุมภาชนะใส่ครีม แช่ตู้เย็นไปซัก 2-3 ชั่วโมง หรือจนครีมเย็นจัดค่ะ แล้วก็เอาไปใช้ได้เลย

เท่านี้ก็เสร็จไปหนึ่งอย่างแล้วค่ะ เพสตรี้ครีมสูตรนี้สามารถเก็บในตู้เย็นได้มากที่สุด 3 วันนะคะ ถ้าใครอยากได้ครีมที่เบาบางกว่าเดิม ก็ให้ตีวิปปิ้งครีม 3/4 ถ้วยตวงให้ขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อนๆค่ะ แล้วตะล่อมเข้ากับเพสตรี้ครีมที่ทำไว้ เวลารับประทานก็จะนุ่มนวลมาก แต่ลูกสนไม่ได้ใส่วิปครีมค่ะ อยากกินแบบเพียวๆ ฮิฮิ
ทีนี้มาทำแป้งพายหวานกันนะคะ
ส่วนผสมแป้งพายหวาน(สำหรับพิมพ์พายขนาด 9 นิ้ว 2 พิมพ์) สูตรจากหนังสือ A Passion for Baking, Marcy Goldman
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง 2. เนยจืด 1/2 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ หั่นเป็นลูกเต๋าและแช่เย็นไว้ 3. ไข่แดงของไข่ไก่เบอร์สอง 1 ใบ 4. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ 5. เกลือ 1/2 ช้อนชา 6. น้ำเย็นจัด 3 - 6 ช้อนโต๊ะ

เตรียมพิมพ์ทาร์ตไว้ด้วย ขนาด 3 นิ้วค่ะ เป็นแบบ non-stick พออบแล้วแป้งหด ลงมาเหลือนิดเดียวเอง ตกใจเหมือนกันค่ะ แต่ลูกสนอบ 2 ครั้ง ครั้งที่สองดีขึ้นค่ะ เพราะเอาแป้งกรุพิมพ์แล้วให้แช่เย็นก่อนอบ

อุณหภูมิในการอบแป้งพายคือ 200C ค่ะ อุ่นเตาก่อนอบนะคะ
วิธีทำ
1. ใส่แป้งสาลีเอนกประสงค์ น้ำตาลทรายและเกลือลงในโถ Food Processor ปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี แล้วเติมเนยทั้งหมดลงไป ปั่นต่อจนได้ส่วนผสมที่ เหมือนเม็ดทรายร่วนๆ แล้วก็หยุดค่ะ

2. ใส่ไข่แดง และค่อยๆรินน้ำลงไป เทน้ำแค่ครึ่งนึงก่อนนะคะ แล้วปั่นต่อค่ะ ถ้าส่วนผสมเกาะกันเป็นก้อนแล้วก็หยุดได้เลย แต่ถ้าส่วนผสมแห้งไปก็ค่อยๆเติมน้ำ ที่เหลือลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วปั่นต่อจนกว่าส่วนผสมจะเป็นก้อนค่ะ พอได้แล้ว ให้เทโดว์ในโถออกมานวดบนพื้นที่โรยแป้งบางๆไว้ นวดจนเป็นก้อนเนียนๆก็พอค่ะ แบ่งโดว์ออกเป็น 2 ส่วนแล้วนำไปแช่ตู้เย็น 1-2 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแข็งพอที่จะนวดได้ แล้วค่อยเอาออกมาใช้ค่ะ ถ้าคิดว่าใช้ไม่หมดให้แช่ช่องฟรีซเก็บไว้ อยู่ได้เป็นเดือนค่ะ

รูปนี้แช่เย็นเสร็จแล้ว 2 ก้อน ก้อนละ 250 กรัมค่ะ

3. แบ่งแป้งออกมาเท่าที่ต้องการใช้ ลูกสนหยิบมาก้อนนึงค่ะ ใช้กับพิมพ์ทาร์ต 3 นิ้ว ได้ 8 ชิ้นพอดี เวลานวดให้ปูพลาสติกแรปลงบนพื้น โรยแป้งลงไปบนพื้น วางโดว์ลง แล้วโรยแป้งบนโดว์อีกนิดหน่อยค่ะ ทีนี้ก็เอาพลาสติกแรปอีกอันมาปิดทับโดว์ไว้ แล้วใช้ไม้คลึงแป้ง คลึงโดว์ออกให้เป็นแผ่นบางๆ หนา 1/8 นิ้วค่ะ

4. เรียงพิมพ์ให้ห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตรค่ะ จากนั้นดึงพลาสติกแรปชิ้นบนออกจาก แป้งพายที่คลึงไว้ แล้วเอาแป้งพายคว่ำลงไปบนพิมพ์เลยค่ะ ดึงพลาสติกแรปอีกชิ้นออก แล้วแบ่งแป้งพายตามรอยพิมพ์ ใช้นิ้วช่วยกรุให้แน่นๆนะคะ แล้วเอาไปแช่เย็นอีกรอบนึงค่ะ แช่ประมาณ 20 นาทีนะคะ

5. พอครบเวลา เอาพิมพ์ทาร์ตออกมาแล้วใช้ส้อมเจาะแป้งให้เป็นรูค่ะ เจาะให้ทั่ว แล้วเอาเข้าเตาอบ อบเป็นเวลา 20-25 นาทีค่ะ พออบเสร็จแล้วก็คว่ำพิมพ์เพื่อเอา แป้งพายออก ในรูปที่ 3 เป็นการอบครั้งแรกค่ะ ลูกสนไม่ได้แช่แป้งให้เย็นก่อนอบ แป้งเลยหดๆแบบนั้น แต่พออบครั้งที่ 2 ก็ดีขึ้นค่ะ ดูรูปแล้วตลกดี ฮิฮิ พักแป้งให้ เย็นก่อนนะคะ เอาค่อยเอาไปใส่ไส้

เอาล่ะ ตอนนี้ก็เรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เหลือแต่ผลไม้ ลูกสนซื้อสตรอว์แบร์รี่มาจาก วิลล่ามาร์เก็ตค่ะ กล่องละ 129 บาท ก็พอไหวอยู่ สีแดงสดใส รสหวานเปรี้ยวกำลังดี จับมาล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วก็พร้อมนำไปตกแต่งค่ะ

ตกแต่งง่ายๆนะคะ ตามแบบฉบับลูกสน หยอดเพสตรี้ครีมลงไปตรงกลางแป้งพาย แล้วก็หั่นสตรอว์แบร์รี่ตกแต่งลงไปตามแบบที่ชอบ บีบวิปครีมลงไปเป็นขอบให้ ทาร์ตซักหน่อยค่ะ เอาไปแช่เย็นให้วิปครีมเซ็ตตัว แล้วค่อยหม่ำนะคะ

มากินกันนะ ช้อน ส้อม หรือมือ สะดวกแบบไหนใช้แบบนั้นค่ะ ลูกสนขอมือละกัน หยิบไปชิ้นนึงนั่งกินเงียบๆคนเดียว ฮิฮิ

หวานเปรี้ยว กรอบนุ่ม อร่อยค่ะ

เพื่อนๆคนไหนชอบก็ลองเอาไปทำดูนะคะ ขอให้อร่อยกันทุกคนค่ะ
สูตรที่เกี่ยวข้อง :
Mille Feuille
Create Date : 03 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 27 ธันวาคม 2551 16:24:13 น. |
|
30 comments
|
Counter : 6991 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ka-o-jung วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:22:04:19 น. |
|
|
|
โดย: Limegirl วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:22:53:11 น. |
|
|
|
โดย: กระแต (pp_parich ) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:23:15:04 น. |
|
|
|
โดย: chef umim วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:7:23:41 น. |
|
|
|
โดย: Pastel pied วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:7:41:48 น. |
|
|
|
โดย: pepsakoy IP: 203.218.235.239 วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:7:45:37 น. |
|
|
|
โดย: POPANG (popang ) วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:8:30:40 น. |
|
|
|
โดย: เนส IP: 125.26.149.138 วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:10:00:10 น. |
|
|
|
โดย: Tiny Bakery วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:12:52:04 น. |
|
|
|
โดย: FreakGirL วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:14:25:54 น. |
|
|
|
โดย: ลาบปลา วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:15:29:25 น. |
|
|
|
โดย: อุ้ม (vigannda ) วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:17:28:09 น. |
|
|
|
โดย: มาแจมแมน วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:19:55:54 น. |
|
|
|
โดย: ลูกสน วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:21:49:05 น. |
|
|
|
โดย: mook (haiti ) วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:4:19:30 น. |
|
|
|
โดย: jjbd วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:14:40:46 น. |
|
|
|
โดย: maczy วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:17:37:46 น. |
|
|
|
โดย: จ๊ะเอ๋ (coco&mimi ) วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:4:46:52 น. |
|
|
|
โดย: หวานคะ IP: 58.9.149.167 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:12:12:35 น. |
|
|
|
โดย: หวานคะ IP: 58.9.149.167 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:12:13:34 น. |
|
|
|
โดย: แมวน้อยผู้โดดเดี่ยว IP: 125.26.36.113 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:18:12:50 น. |
|
|
|
| |
|
|