นายพล"ส."ปลอมเอกสารลับ/อนุพงศ์เครียดลาม/"เติ้ง"แกล้งมีกิ๊ก/เกมยุบพปช./ผวาจราจล
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานความเคลื่อนไหวการเมืองการทหาร ว่า เบื้องหลัง กรณี"เอกสารลับ"ที่เตรียมมีการสรุปว่าเป็น"ของจริง"หรือ"ของปลอม"โดยเฉพาะที่มีการระบุว่าเอกสารลับ ที่"สมัครสุนทรเวช"นำมาเปิดเป็นเอกสารปลอม ว่าในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานการประชุมหารือของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงเรื่องดังกล่าว หลังจากที่พบว่าเอกสารชุดที่ พรรคพลังประชาชน(พปช.)นำไปเปิดนั้น เป็น"ของจริง"แต่มีนายทหารยศ"พล.อ."รายหนึ่งในคมช.ชื่อ "ส."นำไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้แตกต่างจาก"เอกสารลับ"ที่มีการนำมาเผยแพร่ผ่านเวปไซต์"ไฮทักษิณ"ก่อนที่"สมัคร"จะนำมาเปิดข่าวต่อ"สื่อกระแสหลัก"
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ผลการหารือของผู้นำเหล่าทัพ ออกมาในลักษณะ ให้"ผู้ใหญ่"เข้ามาเป็น"ตัวกลาง"การตัดสินเรื่องนี้ โดยมีแนวโน้มว่า"นายพล ส."อาจจะกลายเป็น"คนผิด"ที่ปลอมเอกสารลับ ดังกล่าว เพราะจากที่ติดตามของฝ่ายตรวจสอบพบว่า"เอกสารลับ"ชุดเดียวกันที่กระจายไปยังหน่วยงานต่างๆก่อนหน้านี้ ซึ่งได้มีการนำมาตรวจสอบแล้วว่า เหมือนกับชุดที่"สมัคร"นำมาเปิดเผย..ผ่านสื่อ..ทำให้ทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงโดย"นายพล ส."ที่มีหน้าที่ดูแลแผนยุทธศาสตร์ของ คมช.ในห้วงก่อนที่"พล.อ.สนธิ"จะเกษียณอายุ..
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงาน ว่า นอกจากกระแสข่าวการเข้ารับการรักษาร่างกายที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ ของ"พล.อ.เปรม"ในช่วงวันศุกร์(๒๓พ.ย.)แล้ว ในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(๒๕พ.ย.)มีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของ"พล.อ.เปรม"ว่าเดินทางไปยังสวนสามพราน จ.นครปฐม ใกล้ๆสถานที่มีการจัดประชุมยุทธศาสตร์ของกองทัพ โดยมีรายงานว่า"พล.อ.เปรม"ได้เรียก ผบ.เหล่าทัพ เข้าพูดคุย ซึ่งกระแสข่าวนี้ไม่มีผู้ยืนยันชัดเจนว่าเป็นเพียง"ข่าว"ที่พูดกันจากฝ่ายของนายทหารผู้ใกล้ชิดเท่านั้นหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดคืองานดังกล่าวเป็นการเปิดโดย"พล.อ.บุญรอด สมทัศน์"และประเด็นหนึงที่ ผบ.เหล่าทัพ กำลังหารือนอกรอบคือ กรณีผลกระทบจาก"เอกสารลับ"..ที่ทำให้"ผู้ใหญ่"ต้องเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง ซึ่ง"ข่าวลือ"ลักษณะดังกล่าว ก็เคยมีการปล่อยออกมาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางภาคใต้ ชุมพร สุราษฎร์ นครศรีธรรมราช พัทลุง ว่า"ทหารเรือ"จะปฏิวัติ ที่กรุงเทพฯ(๒๑พ.ย.)...ซึ่งข่าวดังกล่าว มีการตรวจสอบแล้วว่า มาจากฝ่ายใด และพบว่าเกี่ยวข้องกับการที่"อดีตขุนศึก"ไม่พอใจทหารเรือที่เคยให้การช่วยเหลือ"ผู้ใหญ่"ท่านหนึ่งเข้ามาในประเทศ
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่ากรณี"เอกสารลับ"ที่ระบุตอนต้นจากกองทัพว่า ๙๐ % เป็นความจริง(๑๐ %มีการเปลี่ยนแปลงโดย"พล.อ."ส.""จากคำว่า"พรรคพลังประชาชน" (พปช.)เป็น"ทรท."หรือ"กลุ่มอำนาจเก่า" )โดย เอกสารดังกล่าวเป็นแนวทางการปฏิบัติจริงในการเข้าจัดการกับ"กลุ่มอำนาจเก่า"โดยการสกัดขัดขวางไม่ให้กลับมาสู่การเมืองทุกวิถีทาง แม้แต่การขัดขวางในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ..ซึ่งข้อนี้เป็นที่วิตกกังวลของ"พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา"ผบ.ทบ.มากในผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเขา(เอกสารลับ มีลายเซ็นต์ พล.อ.สนธิ,พล.อ.อนุพงศ์) เพราะเท่ากับว่า กองทัพ ซึ่งเป็น"ข้าราชการ"วางตัวไม่เป็นกลางด้วยการเข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงการเลือกตั้ง อันเข้าข่ายผิดกฎหมาย ที่แม้ว่า จะมีการสรุปว่าเป็น"เอกสารปลอม"โดย พปช.อาจถูกผนวกประเด็นนี้เป็น"ประเด็นหลัก"ในการ"จัดการ"จากฝ่าย"อำนาจรัฐ"ปัจจุบัน และ กกต. ให้"พปช."ต้องถูกลงโทษถึงขั้น"ยุบพรรค"ก็ตาม
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ความมุ่งมั่นที่จะยุบพรรคพลังประชาชนของฝ่าย"อดีตขุนศึก"โดยมี"ผู้ใหญ่"ท่านหนึ่งให้การสนับสนุน กำลังมีมีผลกระทบที่ มีความสอดรับ"สัญญานเตือน"จาก"พล.อ.ชวลิต"ว่าให้ระวัง"วันเสียงปืนแตก"เหมือนในอดีตจะกลับมา และสอดรับกับที่"พล.อ.สนธิ"มีการระบุใน"เอกสารลับ"อีกชุด อันเกี่ยวกับปฏิบัติการ"สงครามแย่งชิงมวลชน" ถึง ขบวนการจัดตั้งกองกำลังอย่างเป็นระบบ เช่นในอดีต การจัดตั้งกำลังหน่วยของ"พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย"โดยขณะนี้ มีการเชื่อมต่อ"กองกำลัง"ในอีสาน และหลายพื้นที่ อย่างเป็นระบบ หากเกิดการ"ยุบพปช."อาจจะมีความเคลื่อนไหวของกองกำลังนี้ในต่างจังหวัด ในการเข้ายึดกุมสภาพหน่วยงานราชการ และนำมาซึ่ง"จรยุทธ์"ปฏิบัติการ"ป่าล้อมเมือง"
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นที่มาของการเคลื่อนไหวของกำลังทหารฝ่าย"พล.อ.สนธิ"ที่กระจายอยู่ใน กอ.รมน.ที่วางฐานไว้ ในการเข้า"ตรึง-กดดัน" และเป็นที่มาของการออกมาแฉของ"นายยงยุทธ ติยะไพรัช"ว่ามีการเข้า"จัดการ"กับ"หัวคะแนน"ของ พปช.ในหลายรูปแบบทางภาคเหนือ-อีสาน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดียาเสพติด หรือการเข้ากดดันของเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการ"ยึดเอกสาร"ฯลฯ หากทราบว่าเป็นฝ่าย พปช. ที่การปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้เกิด"แรงบีบอัด"กับชาวบ้านที่มีใจให้กับ ทรท.เดิม และ"ทักษิณ"ขึ้นเรื่อยๆจนอยู่ในภาวะ"สุกงอม"พร้อมระเบิด
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า"พล.อ.อนุพงศ์"ได้มีคำสั่ง ห้ามกำลังพล เข้ายุ่งเกี่ยวกับ"การเมือง"แต่ยังมีทหารหลายส่วน ที่ได้รับคำสั่งเดิมจาก"พล.อ.สนธิ"เข้าปฏิบัติการในหลายพื้นที่ ผ่านบทบาทของ"กอ.รมน."ที่ทำให้"พล.อ.อนุพงศ์"ต้องเซ็นต์คำสั่งย้าย ๘๔ นายพล โดยการเซ๊นต์คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังมีผู้นำเอกสาร คำบรรยายของ"พล.อ.สนธิ"และ"ผบ.พล.๑"มาเปิดเผย ที่ให้ทหารทำสงครามแย่งชิงประชาชน และต่อต้านขัดขวางพรรคการเมืองที่มีนโยบาย"ประชานิยม"อันหมายถึง พปช. รวมทั้งมีการรับปากว่า จะดูแล ผบ.พันระดับคุมกำลัง และทหารที่ร่วมกันทำรัฐประหาร
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานด้วยว่า กรณีเนื้อหาในเอกสารลับ ที่"พล.อ.อนุพงศ์"กังวลนั้น จากรายงานข้อแนะนำของ"อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"ท่านหนึ่ง ระบุถึง"ความครบถ้วน"ใน"การกระทำความผิด"กรณีนี้ไว้ว่า กรณี กองทัพ นั้นต้องถือว่าอยู่ภายใต้กฎหมาย พรบ.การเลือกตั้ง ในฐานะ"ข้าราชการ"ที่ต้องวางตัวเป็นกลาง ซึ่งกรณีนี้ หากตรวจสอบพบว่าเป็น"เอกสารปลอม"พปช.ต้องรับโทษร้ายแรง ในฐานะที่ปลอมแปลงเอกสารราชการ ที่มีโทษหนักจำคุก แต่ในขณะเดียวกัน ในส่วนของกองทัพ อาจไม่ต้องรับผล เพราะถือเป็น"แผนเตรียมการ"ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติการ แม้นำมาผนวกเข้ากับคำสั่งของ"พล.อ.สนธิ"ก่อนวันเกษียณ ๒-๓วัน ที่กล่าวกับ ผบ.กองพัน ระดับคุมกำลังของกองทัพ ในการสกัด"กลุ่มอำนาจเก่า"ที่นิยมแนวทาง"ประชานิยม"แล้ว ก็ยังถือว่าขั้นนี้เป็นขั้น"สั่งการ"..นอกจากจะพบว่ามีการ"ปฎิบัติการ"ของทหาร ในแต่ละพื้นที่ตาม"แผน"ข้างต้น จะถือว่า"ครบองค์ประกอบความผิด"ที่ สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้..และเข้าข่ายความผิดตามกม.การเลือกตั้ง...อย่างไรก็ตาม"อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"ท่านนี้ ยังแนะนำว่า การตรวจสอบเอกสารดังกล่าวว่าจริงหรือปลอม ดูได้ไม่ยาก โดยสามารถดูผ่าน"เจตนา"ของคำสั่งในเอกสารว่าเป็นอย่างไรก็จะทราบ..(ที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อความใดๆ ก็ไม่สามารถปิดบังได้) ซึ่งเอกสารชุดนี้ ความหมายของการเข้าจัดการนั้นชัดเจนว่าหมายถึง"กลุ่มอำนาจเก่า"หรือ ทรท.เดิม ที่หมายถึงการสกัด พปช.ในการเลือกตั้งครั้งนี้
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงาน ว่า ในเร็วๆนี้ จะมีการขยายประเด็นเอกสารที่ออกมาจากกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย "ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล" ซึ่งขอความร่วมมือไปยัง ขรก.มหาดไทย ทุกจังหวัดในการ"ขัดขวาง"ต่อต้านพรรค พปช. ที่อาจจะถูกโยงว่ามีความผิดในการให้ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง ออกมา เชื่อมต่อกับประเด็น"เอกสารลับ"ที่หากมีการปฏิบัติการจริงตามคำสั่งของมหาดไทย เท่ากับว่า"ครบองค์ประกอบ"การกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งด้วย
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า กรณีดังกล่าว ที่จะนำไปสู่การยุบพรรค พปช.นอกเหนือจากประเด็นขนคนไปฟังปราศรัย การพบปึกเงินพร้อมบัตรหาเสียง ที่โคราช หรือกรณี การออกมาให้ข้อมูลของ"ยงยุทธ ติยะไพรัช"เกี่ยวกับการคุกคามผู้สมัครจากฝ่ายทหาร-อำนาจรัฐ ที่กกต.กำลังดำเนินการนั้น มีความเคลื่อนไหวของ"ผู้ใหญ่"ท่านหนึ่ง ในห้วง๒๓วันที่ผ่านมาในการเรียก กกต.บางท่านเข้าพบ(หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพบกับฝ่ายตุลาการ)เพื่อพูดคุยกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ แม้จะยังไม่ทราบผลหารือ แต่ มีความสอดคล้องกับท่าทีบางอย่าง ของ กกต.ผ่าน" สมชัย จึงประเสริฐ"ซึ่งออมาปัดการเข้าจัดการเรื่อง"เอกสารลับ"ของ กกต.โดยโยนให้ กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ และไม่ได้ขีดเส้นตายคณะอนุฯที่ตรวจสอบเรื่องนี้(๒๗พ.ย.-สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น.)
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ท่าทีความเคลื่อนไหวนี้ มีความเชื่อมโยงสอดคล้องกับ"การประชุมศาลปกครองนานาชาติ"ที่จัดในประเทศไทยเมื่อหลายวันก่อน ที่ปรากฎเนื้อหา"น่าสนใจ"อันส่งผลสะเทือนวงการ"ศาลปกครอง"ของไทย โดยมีรายงานถึง ผลการประชุมบางประเด็น ที่"ศาลปกครอง"หลายประเทศ กดดันให้"อัคราทร จุฬารัตน์"ตัวแทนศาลปกครองไทย เซ็นต์ลงนามใน"ข้อตกลงร่วม"กับการที่"ศาลปกครอง"จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการการเลือกตั้ง เหมือนดังที่เกิดขึ้นของศาลปกครองไทย ที่เข้าไปเกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีนี้ "ศาลปกครอง"ไทยยังไม่ได้เซ็นต์ลงนามร่วมกับหลายประเทศ..แต่ก็มีท่าทีบางอย่างของ"อัคราทร"(๒๖พ.ย.)ที่ระบุว่า กรณี "อดีต ๑๑๑ กก.บห.ทรท."สามารถร้องศาลปกครองกรณี คำสั่งใดๆของ กกต.ที่ส่งผลกระทบทางการเมือง ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้"ศาลปกครอง"ปฏิเสธ การร้องของ "อดีต ๑๑๑ กก.บห.ทรท."
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า การเคลื่อนตัวของฝ่าย"อดีตขุนศึก"อย่างหนักหน่วงระยะนี้ เพราะข้อมูลจากโพลหลายสำนัก แม้กระทั่งโพลของ"ทางการ"เอง ไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน.หรือสันติบาล มีผลที่ใกล้เคียงกัน คือ พปช.จะชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะมีคะแนนมาเป็นอันดับ ๑ คือ ๒๕๐(กอ.รมน.) หรือ ๒๑๙ (สันติบาล-๒๖พ.ย.๕๐)
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ผลโพลดังกล่าว ทำให้"อดีตขุนศึก"มีการเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง เพราะพบว่าโพลที่หลายค่ายสำรวจ แม้แต่กอ.รมน.ที่มีการสำรวจล่าสุด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา(๒๔พ.ย.)มีความสอดคล้องกับโพลที่"ฝ่ายวิชาการ"ของ"อดีตขุนศึก"ท่านนี้ ทำการสำรวจ นั่นคือตัวเลขของ พปช.มีการเพิ่มขึ้นเป็น ๒๖๖ เสียง
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ในส่วนของ โพลสันติบาล(พปช.=219) ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางตัวเลข โดยมี"สัดส่วน"ที่เพิ่มขึ้นของ"พรรคเพื่อแผ่นดิน"(40)กับ"พรรคชาติไทย"(57)นั้น มาจากสาเหตุที่ คนอีสาน ได้เทคะแนนเพิ่มให้กับ พรรคเพื่อแผ่นดิน และชาติไทย หลังจากที่ ทั้งสองพรรค โดยแกนนำ ทั้ง"นายสุวิทย์ คุณกิตติ"และ"นายบรรหาร ศิลปอาชา"ให้ห้วง ๒-๓สัปดาห์ที่ผ่านมามีการลงพื้นที่อีสาน และมีการปราศรัยหาเสียงเพื่อเอาใจชาวอีสาน ด้วยการ"ไม่ตี พปช."โดยพยายามทำให้เข้าใจว่า สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ พปช.ได้ ซึ่งเป็นที่มาของข่าว"นายบรรหาร"เลิก"ข้อตกลงร่วม"กับ"พันธมิตร"ประชาธิปัตย์-ชาติไทย-มหาชน"เดิม..
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ท่าทีดังกล่าวของ"นายบรรหาร"และ"นายสุวิทย์"ทำให้มีความเคลื่อนไหวของ พปช.ที่พยายามทำความเข้าใจกับชาวอีสาน ว่า แท้จริงแล้ว"นายบรรหาร"และ"นายสุวิทย์"ยังคงจับขั้วการเมืองกับ"พรรคประชาธิปัตย์"รวมถึง"พรรคเพื่อแผ่นดิน"ตามที่ก่อนหน้านี้"นายสุรเกียรติ เสถียรไทย"ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ด้วยอารมณ์ จากความไม่พอใจกรณีมีการ"จำกัดสิทธิ์"ของ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่รวมถึงตัวเขาด้วย
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า การที่"นายสุรเกียรติ" ออกมาเปิดข้อมูลดังกล่าว กระทั่ง"พล.อ.สนธิ"ต้องนัดพบ และมีการปลอบอกปลอบใจ ว่า การตั้งรัฐบาลของ ๓ พรรคจะดำเนินต่อไปได้ เพราะ พปช.จะถูกยุบ (ทำให้"พินิจ จารุสมบัติ"โล่งใจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไม่สบายใจว่าต้องอยู่ระหว่างเขาควายของ"อำนาจชั้นบน"ระหว่าง"ผู้ใหญ่"กับ"อดีตขุนศึก")ส่งผลกระทบกับ"พรรคชาติไทย"และ"พรรคเพื่อแผ่นดิน"เพราะทำให้คนอีสาน ทราบความจริง
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าเรื่องนี้มาสอดรับกับท่าทีของ"นายบรรหาร"หลังจากที่ถูกสื่อมวลชนรุกถาม จนต้องออกมายอมรับว่ายังคงเคารพนับถือ"ผู้ใหญ่"ที่ให้ความเคารพมากว่า ๓๐ ปี และจะไม่ทำให้ผิดหวัง(ตามที่ถูกนาย"อภิสิทธิ์"ออกมากระตุกเตือน) ซึ่งนายบรรหาร หมายถึง"พล.อ.เปรม"ที่มีรายงานว่าห้วง ๒-๓วันที่ผ่านมา(๒๔พ.ย.)มีการโทรศัพท์ไปด้วยตัวเองถึง"นายบรรหาร"ต่อกระแสข่าวท่าทีที่เปลี่ยนไป จนทำให้ทั้ง"พล.อ.เปรม"และทั้งแกนนำใน ปชป.เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถึงข้อมูลที่ได้รับจากพื้นที่..
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าสาเหตุที่ทำให้"นายบรรหาร"จำต้องใช้ยุทธวิธี "แสร้งเปลี่ยนท่าที" ส่วนหนึ่งเพราะ ก่อนหน้านี้ "นายบรรหาร"ได้เข้าไปหาเสียงในพื้นที่ข่อนแก่น และถูกโห่ไล่ เพราะมีการกล่าวโจมตี"พ.ต.ท.ทักษิณ"และไทยรักไทย รวมไปถึงท่าที กับ พปช.เช่นเดียวกับ"นายสุวิทย์ คุณกิตติ"หน.พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ถูกต่อต้านก่อนหน้านี้จากการที่ไปอ้างว่า"นโยบายของทักษิณ"เป็นการนำมาจากของ"พรรคกิจสังคม"ที่เป็นแนวของ"ม.รว.คึกฤทธิ์ ปราโมช"เดิม ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการ"พลิกกลับท่าที"การ"จับขั้ว"โดยเมื่อหาเสียงในพื้นที่"ชนชั้นกลาง"กรุงเทพฯหรือในเขตเมืองจะจับขั้ว ปชป.-ชท.-พผ. แต่หากหาเสียงในพื้นที่นอกตัวเมืองโดยเฉพาะ อีสาน-เหนือ จะใช้แนว"ยังไม่มีการจับขั้ว..หรือไว้รอหลังเลือกตั้งค่อยว่ากัน"
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550 |
|
17 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 13:17:10 น. |
Counter : 994 Pageviews. |
|
|
|