อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

จะไปได้สักอีกกี่น้ำ!?

Monday, 08 June 2009 09:36

น่าสนใจกับ...อาการกระเพื่อมไหวภายในพรรคร่วมรัฐบาล...โดยเฉพาะในมิติระหว่างพรรคแกนนำอย่าง"ประชาธิปัตย์"กับพรรค"ขาดเขาแล้วเราจะรู้สึก"อย่าง"ภูมิใจไทย"ที่ยังคงปรากฎอย่างต่อเนื่องผ่านเงื่อนไข"อำนาจ-ผลประโยชน์"ตามสูตรเดิม ที่"พรรคการเมืองใหม่"ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หยิบฉวยจังหวะ สร้างความชอบธรรมด้วยการ บอกว่านี่แหล่ะคือรูปแบบของ"การเมืองเก่า"
ที่ถึงแม้"นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยเงาแห่ง"สุเทพ เทือกสุบรรณ"รองนายกฯและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์"ผู้จัดการรัฐบาล"จะพยายาม"ประวิงเวลา"ประวิงสถานการณ์"แตกหัก"

ที่ทำท่าว่าจะเกิดขึ้นและบานปลาย หลายต่อหลายครา นับแต่ที่ตัดสินใจ"ร่วมหอลงโรง"กับ"กลุ่มเพื่อนเนวิน"หรือ"พรรคภูมิใจไทย"ในการตั้งรัฐบาลมาเป็นเวลาถึงขณะนี้ก็ ๕ เดือนกว่าแล้ว..ด้วยการโยนเรื่องทำนองนี้ออกไปจากอกรัฐบาล ให้กับ"กระแสสังคม"เข้าจัดการกับความ"อิหลักอีเหรื่อ"ระหว่าง"จุดยืนทางการเมือง"กับ"ผลประโยชน์"แห่งการรักษา"อำนาจ"...

ไม่ว่าจะเป็นปรากฎการณ์แห่ง"พรทิวา นาคาศัย"รมต.พาณิชย์ ที่หาญกล้า"โต้ตอบ นายกอภิสิทธิ์"กรณี ปัญหาการ"รับจำนำข้าว"ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ขยายลุกลามไปสู่ความขัดแย้งจาก"ทีมเศรษฐกิจ"วง ครม.เศรษฐกิจ ไปจนถึง ครม.ปกติ และระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคภูมิใจไทย อันเป็นที่มาของฉายา"หนูทนได้"...มาจนถึง..ปรากฎการณ์แห่ง"โสภณ ซารัมย์" หรือที่คน ปชป.ล้อกันว่า"โสภณ ซาเล้ง"ที่หาญกล้าชนกับใครต่อใครในโปรเจ็กต์อันตรายที่ล้อกันว่า"เมล์นรกมาร์คยกล้อ"

ที่น่าสนใจคือ..ถึงที่สุด..คนที่เข้ามา"เคลียร์"และทำให้อุณหภูมิเย็นลงคือ"สุเทพ"ทุกครั้ง...และในทุกครั้ง จะจบลงด้วยภาพการ"ต่อรอง"กันในทางการเมือง...ชนิด"ขบเหลี่ยม"อำนาจ-ผลประโยชน์ จนนาทีสุดท้าย

โดยเฉพาะยิ่ง กรณี"เมล์NGV" ๔ พันคัน ที่สังคมต้องกังขากับ"ข้อต่อรอง"แลกเปลี่ยนระหว่างโครงการ"เช่าที่ดิน ๑๐ บาท"กระทรวงมหาดไทย ของ รมต.พรรคประชาธิปัตย์ (ถาวร เสนเนียม) แม้กระทั่งข่าวการ"ย้ายพรรค"ของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่หลุดโผออกมาอย่างบังเอิญชนิดน่าสงสัย

เฉกเช่นกันที่สังคมได้เห็นข่าว การออกมาเคลื่อนไหวของ กลุ่ม ๒๐ ส.ส. ปชป. และ ๔๐ ส.ว. ที่คัดค้านโครงการ รถเมล์NGV ถึงขนาดขู่ว่า"จะคว่ำ พ.ร.ก.เงินกู้ ๔ แสนล้าน"ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ(สมัยวิสามัญห้วงกลางเดือนมิ.ย.๒๕๕๒) หากรัฐบาล โดย ครม.จะยอมให้โครงการ รถเมล์NGV ผ่าน มติ ครม.ออกมา .. ที่ก็เป็น"เหตุผลต่อรอง"เชิงนัยยะเดียวกันกับที่พรรคภูมิใจไทยเคยส่งสัญญาณต่อนายกฯและรองนายกฯ"สุเทพ"เช่นกัน

กระทั่ง ผลจากที่ประชุม ครม.เมื่อวันพุธ(๓ มิ.ย.)จึงต้องออกมาในท่วงทำนอง ให้สภาพัฒน์ฯ ไปศึกษาอีกครั้ง เหมือนกับเมื่อครั้งที่"สุเทพ"ลงทุนเข้ามาเคลียร์ปัญหา"เกาเหลา"ในทีมเศรษฐกิจรัฐบาล และจบปัญหาความ"คาใจ"จากพรรคร่วมที่ รองนายกด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์"กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ"โดนมองว่าทำตัวเป็น"คาน"เข้ามาขวาง"หมูจะหาม"ด้วยการตั้งกรรมการจากภาคเอกชนเข้ามาคอย"ตรวจสอบ"การใช้งบประมาณ ในสารพัดโครงการยักษ์ของรัฐบาล

แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า ปัญหาต่างๆจะจบ เมื่อพิเคราะห์ดูจากอาการกระเพื่อมจากกลุ่มการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการของ"สมศักดิ์ เทพสุทิน"ที่ออกมาเขย่ารัฐบาลกลางงานใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย

หรือจะเป็นปรากฎการณ์แรงชัดในการลงพื้นที่หาเสียงแบบเรียลลิตี้ของ"ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" มท.๑ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีการเปิดนโยบายต่างๆเพื่อหาเสียงล่วงหน้าของพรรคภูมิใจไทย(หนึ่ง อบต.หนึ่งธนาคารข้าว หนึ่งโรงสี - โฉนดคาร์บอนเครดิต) ที่ดูจะไม่เกรงใจใครโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์..

ด้วยเพราะ"เนวิน ชิดชอบ"หรือใครต่อใครที่อยู่ด้านหลังเงาทางปีก"อำนาจ"(ไม่ว่าจะสียเขียวหรือสีน้ำเงิน)นี้ ไม่ได้มองแค่การเมือง ณ ปัจจุบัน แต่ได้มองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว โดยดูได้จากการที่เขาประกาศแสดงความมุ่งหวังอย่างมั่นใจที่จะผลักดันโครงการ"รถเมล์NGV"เพียงเพราะ"หาเสียง"กับ"คนกรุงฯ" ไม่ใช่เพื่อ"เขมือบ"เหมือนอย่างที่หลายฝ่ายกล่าวหา ว่ากำลังมีการ"เก็บตุนเสบียงกรัง"ของพรรคการเมืองรัฐบาลเพื่อรับมือการเลือกตั้ง

ยิ่งเมื่อมีปรากฎการณ์ล่าสุดกับการไหลออกของพลพรรคฝ่ายค้าน"พรรคเพื่อไทย"ราว ๑๐ คน มาสู่พรรคภูมิใจไทย ที่ผนวกเข้ากับ"แคมเปญหาเสียง"ที่จะมีขึ้นละลอกที่สอง ผ่าน"คัตเอาท์ใหญ่"ในกรุงเทพในเร็วๆ นี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึง"แผนการใหญ่"ของพรรคภูมิใจไทยในอนาคต และรวมถึง"สัญญาณ"ของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบางประการที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ทั้งกระแสข่าว"ยุบสภา"ที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ยังไม่นับรวมถึงข่าวการกระเพื่อมอย่างเงียบๆคู่ขนานไป ภายใน"กองทัพ"โดยเฉพาะเริ่มมีการพูดถึง"กลุ่มทหารยังเติร์ก"ที่สะสมอุณภูมิ"ความไม่พอใจ"กับบทบาทของทหารสาย"ทหารเสือราชินี"ที่ผนึกกับอำนาจฝ่ายการเมือง สยายปีกปกคลุมกองทัพเวลานี้

นี่เองจึงทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของ"นายกฯอภิสิทธิ์"มิอาจปฏิเสธครหา"ประวิงเวลา"ด้วยเกรงว่าจะเสียสภาพ"อำนาจ" เหมือนที่ฝ่ายค้านออกมาถล่ม (๗ มิ.ย.)ว่า "รัฐบาลนี้ไม่มีผลงานและพยายามซื้อเวลา แม้แต่แกนนำพรรคภูมิใจไทยที่มีบารมีนอกพรรค คือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ยังออกมาบอกว่า รัฐบาลบริหารงานแบบซื้อเวลาไม่มีผลงาน

โดยฝ่ายค้านสรุปว่ารัฐบาลกำลังซื้อเวลาใน 3 เหตุผล คือ

1. การซื้อเวลาเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันที่ครม.ให้กรรมการสภาพัฒน์ไปศึกษา 1 เดือนว่าจะเช่าหรือซื้อนั้น เพราะนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย บอกว่าต้องเช่า แต่นายกฯ บอกว่าต้องซื้อนั้น สุดท้ายคนเศร้าคือประเทศไทย เพราะนายกฯซื้อเวลาศึกษาเรื่องรถเมล์ในช่วง 1 เดือน เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 รวมทั้ง ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทและร่างพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมเสียเปรียบอยู่แล้ว

2 .การซื้อเวลาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนายสมศักดิ์ บอกว่ารัฐบาลนี้"บริหารงานรายวัน"เพราะวันนี้เศรษฐกิจของประเทศแย่มาก นายอภิสิทธิ์ เสมือนกัปตันเรือที่ร่วมกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่ไม่เคยออกทะเลไปหาปลา แม้เจอฝูงปลาก็ไม่มรู้วิธีจับปลา จนทำให้พรรคร่วมรัฐบาล และประชาชนว้าเหว่กับกัปตันเรือมือใหม่ ขอถามว่า รัฐบาลนี้แก้ปัญหาไม่ได้ รัฐบาลก็ขึ้นภาษีต่างๆแทน ซึ่งฝ่ายค้านได้ตั้งคำถามว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะฟื้นเศรษฐกิจของพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะร่างพ.ร.ก.กู้เงินนั้นไม่ลงรายละเอียดใดๆ เลย

3.การซื้อเวลาแก้วิกฤตการเมือง ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯและคณะอนุกรรมการฯเสนอไว้หลายประเด็นที่จะแก้วิกฤตการเมือง โดยจะมีการเสนอต่อประธานรัฐสภาและนายกฯ เช่นการแก้ไขรัฐธรรมูญมาตรา 237 นั้น เรื่องนี้จะพิสูจน์ว่านายกฯจะซื้อเวลาในเรื่องนี้หรือไม่"

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นอีกหนึ่งสัญญานที่หลายฝ่ายจับตาแรงกระเพื่อมเหนือผิวน้ำหลังการก่อตัวเป็น"คลื่นใต้น้ำ" มาระยะหนึ่ง..จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในของรัฐบาล ที่สำแดงผ่านเรื่องราวของ"ผลประโยชน์"และการท้าทายต่อม"จริยธรรมทางการเมือง"ของพรรคนำ และ"ผู้นำ"หลายต่อหลายครั้ง ที่แม้ พาหนะแห่งการโต้คลื่นอย่าง"สุเทพ"จะนำพารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านมาได้หลายสถานการณ์ แต่ก็ยังไม่มีใครประกันแรงอึดของ"นายกอภิสิทธิ์"นายกฯมือใหม่ ว่าจะทนฝ่าคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าที่ถาโถมเข้าใส่ จากทั้งข้างหน้า ข้างหลัง และข้างๆ จนน้ำเข้าหูเขาตาสำลักก็หลายครั้ง ไปได้อีกสักกี่น้ำ และ นานเพียงใด และจะได้ทันเห็นฝั่งหรือไม่

ที่สำคัญทุกอย่างได้มีการวางเดิมพันไว้ค่อนข้างสูงเสียในระดับที่ว่าถ้าพลาดท่า ก็อาจถึงขั้น เสียพรรค หรือ เสียคน ซะด้วย !

โดย...อาทิตย์....





 

Create Date : 08 ตุลาคม 2552
0 comments
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 22:21:21 น.
Counter : 2020 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.