|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
JAS-39 Gripen: ไขทุกข้อสงสัย....ทำไมต้อง Gripen
คำถาม-คำตอบเหล่านี้ เกิดขึ้นมาจากกรณีนี้ครับ พอดีเห็นว่าอุตส่าห์นั่งเขียนนั่งวิเคราะห์กันแทบตาย จะเอาไว้เฉย ๆ กับตัวก็เสียประโยชน์ เลยขอนำมาลงให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
ทั้งหมดนี้ เขียนโดยผม Skyman, คุณ Icy_CMU และคุณ CoffeeMix ครับผม ....... ถ้ากองทัพอากาศมีปัญหากับบทความนี้ ผมยินดีจะเป็นพยานให้ในชั้นศาลครับ ขอเพียงกันตัวไว้เป็นพยานเท่านั้น รับรองคดีปิดได้แน่นอน เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ 
Gripen เหมาะสมที่สุดใช่ไหม? ตอบ: คงบอกไม่ได้ว่าเหมาะสมที่สุด เพราะผู้เขียนก็ไม่ได้ไปบินมากับมือ แตกต่างจากกองทัพอากาศที่ไปบินมาแล้วทั้งสามแบบ แต่เท่าที่กล่าวได้คือเห็นด้วย เพราะ Gripen ก็เป็นเครื่องบินที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะซื้อได้แล้วในสถานภาพเศรษฐกิจของเราขณะนี้ เพราะเครื่องบินที่ดีกว่านี้ก็มี แต่เราไม่มีความสามารถที่จะจัดหามาใช้งานเนื่องจากราคาสูง
Su-30MKIT บินได้ไกล บรรทุกอาวุธได้มาก ความคล่องตัวยอดเยี่ยม ราคาไม่สูงมาก ทำไมไม่ซื้อ? ตอบ: บางที่การจัดซื้ออาวุธก็ดูแต่ของที่ดีที่สุดหรือไม่อย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องดูว่าเข้ากับเราและเหมาะสมกับเราหรือไม่ กองทัพอากาศไทยเป็นกองทัพอากาศที่ใช้อาวุธมาตราฐานนาโต้ ทำให้การใช้ Su-30 นั้นไม่เข้ากับระบบของเราที่ใช้อาวุธมาตราฐานนาโต้ เราจำเป็นต้องจัดหาอาวุธ และจัดตั้งสายการส่งกำลังบำรุงใหม่ จัดซื้ออุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นดินใหม่ อีกทั้ง Su-30 ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเป็นจำนวนมาก คือมากกว่า 2 เท่าของ F-16 และมากกว่า Gripen 4 เท่า ทั้งยังต้องเข้าคิวรอการผลิตนาน เพราะตอนนี้รัสเซียต้องผลิตเครื่องบินให้แอลจีเรีย อินโดนิเซีย อินเดีย ฯลฯ รวมมากกว่า 100 ลำ
ทำไมจึงไม่ซื้อ F-16? ตอบ: แม้ว่ากองทัพอากาศไทยจะมี F-16 เป็นจำนวนถึง 59 ลำ และใช้งานได้อย่างคุ้นเคย โดยกองทัพอากาศปฏิบัติงานกับ F-16 มามากกว่า 20 ปี แต่ F-16 ของกองทัพอากาศก็ไม่เคยประสบอุบัติเหตุตกเลย ซึ่งมีน้อยกองทัพที่จะสามารถทำได้ แต่เมื่อเทียบข้อเสนอในครั้งนี้แล้วนั้น Gripen มีข้อเสนอที่ดีกว่า ในจำนวนเงิน 34,000 ล้านบาทนั้น ถ้าเราจัดซื้อ F-16 เราจะจัดหา F-16C/D Block 50/52+ ได้จำนวน 12 ลำ พร้อมอาวุธ การสนับสนุน อะไหล่ และการฝึก แต่ถ้าเราจัดซื้อ Gripen เราจะได้รับ Gripen จำนวน 12 ลำ เครื่องบินความคุมและแจ้งเตือนล่วงหน้า (AEW&C) แบบ S-100B Argus จำนวน 2 ลำ เครื่องบินลำเลียง Saab 340 จำนวน 1 ลำ อาวุธปล่อยต่อต้านเรือรบ RBS-15 สถานีเรด้าร์ภาคพื้นดิน 3 สถานี กองทัพอากาศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมการเข้าถึง Source Code ของโปรแกรมในเครื่อง และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนนายเรืออากาศไทย นอกจากค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการของ Gripen ที่ต่ำกว่า F-16 ราวครึ่งหนึ่งแล้ว เรายังสามารถได้รับ Gripen ทันเวลาที่ F-5B/E จะปลดประจำการในปี 2554 ในขณะที่ F-16 ยังมีคิวการผลิตก่อนหน้าเราอีกเป็นจำนวนมาก
การถ่ายทอดเทคโนโลยีสำคัญอย่างไร? ตอบ: ถ้าเราได้รับเทคโนโลยี เราก็จะสามารถเรียนรู้ที่จะเป็นได้มากกว่าผู้ใช้ธรรมดา นั้นคือสามารถเข้าใจระบบการทำงานในเครื่องบินได้ ทั้งนี้ สหรัฐไม่มีนโยบายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับไทย และแม้แต่พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐก็จะไม่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ทั้งหมด ดังเช่นในกรณีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตีของตุรกี ที่เบื้องต้นตุรกีเลือกเฮลิคอปเตอร์ของสหรัฐ แต่สหรัฐไม่สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ตามข้อกำหนดของตุรกีได้ ทำให้โครงการต้องล้มเลิกไป และเมื่อเริ่มโครงการใหม่ ตุรกีก็เลือกที่จะไปจัดหาเฮลิคอปเตอร์ของยุโรป ทำให้โครงการต้องใช้เวลานานกว่า 12 ปี จึงจะได้แบบของเฮลิคอปเตอร์ที่จะเข้าประจำการ
การได้รับ Source code สำคัญเพียงไรและจำเป็นแค่ไหน? ตอบ: การเข้าถึง Source Code หรือรหัสในการพัฒนาโปรแกรมนั้น จะทำให้กองทัพอากาศสามารถปรับแต่งแก้ไขเครื่องบินให้เหมาะสมกับความต้องการในอนาคตของกองทัพอากาศได้ ทั้งนี้ ยังเอื้ออำนวยให้กับการวิจัยและพัฒนาอาวุธใหม่ ๆ ของกองทัพอากาศที่จะนำมาติดตั้งกับ Gripen ได้ เนื่องจากอาวุธต่าง ๆ นั้นจำเป็นต้องมีการสื่อสารกับเครื่องบิน ซึ่งถ้าเราไม่สามารถปรับแก้โปรแกรมได้ การติดตั้งก็จะมีอุปสรรค กรณีศึกษาของเรื่องนี้คือ กองทัพอากาศได้พัฒนาระบบปีก Long Shot ซึ่งสามารถติดตั้งกับระเบิด GBU-10 ที่กองทัพอากาศมีใช้งานอยู่ได้ ระบบปีกนี้จะทำให้ระเบิดร่อนไปได้ไกลขึ้น ทำให้เครื่องบินไม่ต้องเข้าไปใกล้เป้าหมายมากนัก จึงไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกต่อต้านโดยระบบอาวุธต่อสู้อากาศยาน แต่กองทัพอากาศก็ไม่สามารถใช้งานระบบนี้ได้เนื่องจากกองทัพอากาศไม่สามาถแก้ไข้โปรแกรมของ F-16 ซึ่งจะต้องติดตั้งระบบการเล็งและการปล่อยอาวุธชนิดนี้
ทำไมในปี 2549 จึงต้องยกเลิกการจัดหา Su-30MKIT? ตอบ: การจัดซื้อในช่วงนั้นมีข้อเป็นห่วงถึงความไม่โปร่งใสที่อาจจะเกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อ ประกอบกับการเจรจาการค้าแบบ Barter Trade ประสบปัญหาและไม่เป็นไปตามความคาดหวัง เนื่องจากสัญญามีมูลค่าสูง และทางผู้ผลิตแต่ละรายก็ไม่เต็มใจนักที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรเต็มจำนวน ประกอบกับข้อกำหนดและปัญหามากมาย ทั้งนี้ แม้แต่มาเลเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลก ยังสามารถเจรจา Barter Trade ในการจัดซื้อ Su-30MKM กับรัสเซียได้เพียง 1 ใน 3 ของมูลค่าทั้งหมดเท่านั้น
การ Barter Trade เป็นการช่วยเกษตรกร ดังนั้นการจัดซื้อ Gripen เกษตรกรก็จะไม่ได้รับประโยชน์? ตอบ: ประเด็นนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาของกระทรวงพาณิชย์ในการจ่ายเงินและการรับผลตอบแทนในการจัดซื้อ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Saab มีนโยบายที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศที่จัดซื้อ Gripen เป็นมูลค่าเท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าที่ลูกค้าจ่าย ซึ่งทำให้ประเทศลูกค้าได้รับการลงทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนเท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าสัญญากลับคืนไป และเงินที่กลุ่มบริษัท Saab มาลงทุนก็จะกระจายเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเหมือนการลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Inverment) ของนักลงทุนต่างชาติทั่วไป เช่นในกรณีของฮังการีและเช็คที่ได้รับการตอบแทนทางอุตสาหกรรม (Industrial Offset) เป็นจำนวน 110% และ 130% ของมูลค่าเครื่องบินตามลำดับ และในกรณีของแอฟริกาใต้ กลุ่มบริษัท Saab ก็เข้ามาช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมทางทหารของแอฟริกาใต้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ หากต้องการระบายสินค้าทางการเกษตรในการจัดหาเครื่องบินชุดนี้ ก็สามารถเจรจาให้ทางสวีเดนจัดซื้อสินค้าเกษตรกลับคืนไปในมูลค่าที่เท่ากับมูลค่าที่ทางการไทยจัดหาเครื่องบิน เราเรียกว่าการค้าแบบ Counter Trade ซึ่งจะมีความยุ่งยากน้อยกว่าการค้าแบบ Barter Trade เนื่องจากการจัดซื้อของทั้งสองฝ่ายกระทำด้วยเงินสด เช่นในกรณีของการจัดหาปืนใหญ่ L115 ของกองทัพบกจำนวน 36 กระบอกด้วยเงินสดนั้น รัฐบาลไทยก็ให้ทางการอังกฤษจัดซื้อสินค้าทางการเกษตรกลับคืนไปในมูลค่าเท่า ๆ กันด้วยเงินสด
กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินจากสวีเดน จะทำให้สหรัฐคว่ำบาตรการค้าอาวุธกับไทย? ตอบ: Gripen เป็นเครื่องบินที่สามารถใช้อาวุธได้หลากหลาย ทั้งของสหรัฐ ยุโรป สวีเดน หรืออิสราเอล ซึ่งอันที่จริงประเด็นนี้ไม่น่าจะก้าวไปถึงขั้นการคว่ำบาตรการค้าอาวุธ เนื่องจากสวีเดนก็เป็นมิตรประเทศที่สหรัฐนำเข้าและส่งออกอาวุธให้เสมอ และยังมีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีต่อกัน แต่ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลสหรัฐจะทำการคว่ำบาตรจริง ก็เชื่อว่าทางบริษัทผู้ผลิตอาวุธจะต้องทำการกดดันให้รัฐบาลสหรัฐอนุญาตให้ตนขายอาวุธให้กับไทย เนื่องจากไทยไม่ใช่ศัตรูของสหรัฐ ทั้งยังเป็นพันธมิตรสำคัญนอกนาโต้อีกด้วย และมูลค่าในการขายอาวุธแต่ละครั้งก็สูง ซึ่งถ้าสหรัฐไม่ขายก็จะทำให้ตนเองเสียโอกาสและเสียตลาด และจะยิ่งเป็นการผลักให้ไทยลดการจัดหาอาวุธจากสหรัฐไปหาผู้ผลิตรายอื่นเช่นยุโรป หรืออิสราเอลมากขึ้น ในกรณีนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลไทยต้องการจัดหา F-16A/B ฝูงแรก ซึ่งสหรัฐไม่ยอมขายให้ อันเนื่องมาจากมีประสบการณ์ในการขายอาวุธที่ทันสมัยให้กับอิหร่าน แต่เมื่ออิหร่านเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้อาวุธเหล่านั้นตกอยู่ในมือสหภาพโซเวียต สหรัฐจึงเสนอให้ไทยจัดซื้อ F-16/79 ซึ่งเป็น F-16 รุ่นที่ถูกลดประสิทธิภาพลง แต่ทางบริษัทผู้ผลิต F-16 ทำการกดดันรัฐบาลสหรัฐอย่างหนัก และไทยก็เรียกร้องให้สหรัฐขาย F-16A/B ให้ จนในที่สุดสหรัฐจึงต้องยอมขาย F-16A/B ให้แทน F-16/79 ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า
Gripen มีจำนวนการประจำการเพียงราว 150 ลำ ในขณะที่ F-16 และเครื่องบินตระกูล Su-30 มีประจำการทั้งโลกมากกว่าพันลำ จะทำให้มีปัญหาด้านอะไหล่หรือไม่? ตอบ: ปัญหาอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ในอดีตสวีเดนก็เคยผลิตและจำหน่ายเครื่องบิน J-35 Darken ซึ่งมีผู้ใช้อยู่หลายประเทศ และก็ได้รับการสนับสนุนอะไหล่มากกว่า 30 ปี ในปัจจุบัน Gripen มีผู้ใช้คือสวีเดน เช็ค ฮังการี แอฟริกาใต้ และไทยเป็นประเทศต่อไป ซึ่งยังมีประเทศที่ให้ความสนใจ Gripen มากอีกหลายประเทศเช่นโครเอเชีย โรมาเนีย สโลเวเนีย สวิสเซอร์แลนด์ (Gripen เป็นตัวเต็ง) มีความต้องการรวมกันเกือบ 80 ลำ ทำให้ยังมีความหวังว่าในอนาคตจะมีประเทศที่จะจัดหา Gripen ไปใช้งานเพิ่มเติม อีกทั้งทางสวีเดนยังลงทุนพัฒนา Gripen รุ่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนา Gripen ในมาตราฐาน NG หรือการพัฒนา Gripen-N และ Gripen-DK สำหรับนอร์เวย์และเดนมาร์คตามลำดับ ซึ่งยังทำให้ Gripen มีอนาคตในตลาดโลกอยู่
การจัดซื้อโปร่งใสหรือไม่? ตอบ: โดยหลักการแล้วการจัดซื้อระบบ G2G ก็ไม่น่าจะมีค่าคอมมิชชั่นที่ผิดกฏหมาย และประเทศสวีเดนเองก็ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการคอร์รัปชั่นต่ำมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ของสวีเดนไม่สามารถติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งอาจจะทำให้รัฐบาลสวีเดนมีความผิดและต้องรับผิดชอบทางการเมืองได้ นอกจากนั้นจากการศึกษาราคาของ Gripen ในอดีตเปรียบเทียบกับราคาที่เราซื้อแล้ว พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ทั้งนี้ เราก็ควรจะต้องช่วยกันตรวจสอบถ้าพบความผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
จำนวนที่จัดหา 12 ลำเพียงพอหรือไม่? ตอบ: อันที่จริงจำนวนเพียง 12 ลำนั้นไม่เพียงพอ เพราะอัตราฝูงบินของกองทัพอากาศนั้น กำหนดให้มีเครื่องบิน 16 - 18 ลำต่อ 1 ฝูงบิน แต่ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องจัดหามาในเบื้องต้นก่อนจำนวน 12 ลำ
แทนที่จะจัดหาเครื่องบินมาทดแทน ทำไมจึงไม่ยุบฝูงบินลงไป? ตอบ: อัตราฝูงบิน ณ ปัจจุบันนี้ เป็นอัตราความต้องการที่ต่ำที่สุดที่กองทัพอากาศจะสามารถดำรงขีดความสามารถในการป้องกันประเทศได้ ถ้าฝูงบินถูกลดลงต่ำไปกว่านี้ จะทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติการ ทั้งนี้ กองทัพอากาศก็เคยลดอัตราของฝูงบินลงมาแล้วครั้งหนึ่งจำนวนกว่า 12 ฝูงบินเหลือ 24 ฝุงบินในปัจจุบัน และมีฝูงบินขับไล่เพียง 5 ฝูง ฝูงบินโจมตี 3 ฝูงเท่านั้น
ทำไมจึงไม่ทำการปรับปรุง F-5 ให้ใช้งานได้ต่อไป? ตอบ: แม้ว่าการปรับปรุงเครื่องบินที่มีใช้งานอยู่แล้วให้ทันสมัยขึ้นจะประหยัดงบประมาณไปได้มาก แต่ว่าโครงสร้างและระบบต่าง ๆ ก็มีอายุการใช้งานที่ถูกกำหนดไว้ F-5 ของกองทัพอากาศมีอายุการใช้งานเกือบ 40 ปี โครงสร้างของอากาศยานล้าและเริ่มที่จะไม่สามาถทนแรง G สูง ๆ ในท่าทางการบินยาก ๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการรบทางอากาศได้ การปรับปรุงโครงสร้างก็ไม่สามารถทำได้อย่างคุ้มค่า ประกอบกับการปรับปรุงระบบอาวุธก็มีข้อจำกัดเรื่องแบบแผนของเครื่องบิน F-5 ที่ไม่ตอบสนองต่ออาวุธใหม่ ๆ ที่จะต้องนำมาติดตั้ง จึงทำให้ไม่เหมาะสมหนักในการปรับปรุง F-5 เพื่อใช้งานต่อไป
ในอนาคต เทคโนโลยีตรวจจับได้ยาก (Stealth) จะเข้ามามีบทบาท ทำไมจึงไม่รอเทคโนโลยีนี้ก่อน? ตอบ: อย่างที่ได้เรียนไป F-5 ของกองทัพอากาศนั้นจำเป็นต้องปลดประจำการในอีกไม่นาน ในขณะที่เครื่องบินที่มีเทคโนโลยีตรวจจับได้ยากที่เราสามารถจัดหาได้ก็คือ F-35 นั้น จำเป็นต้องรอนานจนถึงปี 2020 - 2030 เนื่องจากโครงการประสบปัญหาล่าช้า และประเทศไทยไม่ได้เข้าร่วมวิจัยและพัฒนา จึงทำให้ไม่ได้รับคิวในการจัดซื้อก่อน ทำให้ช่วงนี้กำลังทางอากาศจะขาดหายไปมาก อีกทั้ง เทคโนโลยียังมีการพัฒนาตลอดเวลา เมื่อถึงวันที่เราสามารถจัดหาเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีตรวจจับได้ยากได้ ก็จะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาอยู่ดี ฉะนั้นถ้ากองทัพอากาศต้องรอเทคโนโลยีในอนาคตทุกครั้ง ก็จะต้องรอต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า Gripen จะสามารถต่อสู้กับเครื่องบินของข้าศึกได้? ตอบ: แม้ว่า Gripen จะไม่ใช่เครื่องบินที่ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องบินที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีล่าสุดของการบินทางทหารเช่นกัน ทั้งนี้ ในการรบจริงนั้น ปัจจัยในการชนะหรือแพ้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่เหนือกว่าเพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่การฝึก ความคุ้นเคย ยุทธวิธี และความชำนาญในตัวเครื่องบินของนักบินเอง ซึ่งกองทัพอากาศไทยมีการฝึกกับกองทัพชั้นนำของโลกเสมอ ๆ เช่นกองทัพอากาศสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐ นาวิกโยธินสหรัฐ กองทัพอากาศออสเตรเลีย กองทัพอากาศอังกฤษ กองทัพอากาศฝรั่งเศส กองทัพอากาศสิงคโปร์ ฯลฯ ในการฝึกต่าง ๆ เช่น Cope Tiger, Cobra Gold, Picth Black ฯลฯ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความชำนาญให้กับนักบินไทยได้ไม่ยากนัก
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2550 10:19:58 น. |
Counter : 4552 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: Skyman (Analayo ) 7 พฤศจิกายน 2550 8:45:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: yoddel19 18 กรกฎาคม 2553 16:38:12 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|