|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
Aero India 2009: Asia's Premier Air Show Part I - Indian Air Force Aircraft
อินเดียประกาศว่าวิกฤตเศรษฐกิจของโลกจะไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณทางทหาร และยังยืนยันที่จะใช้จ่ายเงินสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายอีก 5 ปีนับจากนี้เพื่อจัดหาอาวุธที่ทันสมัยให้กับกองทัพอินเดียครับ
โดยเฉพาะกองทัพอากาศอินเดียซึ่งกำลังประสบวิกฤตอัตรากำลังรบที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเนื่องมาจากอากาศยานที่ตกบ่อยและอากาศยานที่ต้องปลดประจำการเนื่องจากหมดอายุ หลายปีที่ผ่านมา อินเดียประกาศโครงการ MMRCA (Medium Multi-Role Combat Aircraft) เพื่อจัดหาเครื่องบินขับไล่ 126 ลำที่จะมาปฏิบัติภารกิจภายใต้ Su-30MKI ด้วยงบประมาณเฉพาะโครงการนี้ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ MMRCA คือสนามประลองยุทธ์ของเครื่องบินขับไล่ชั้นนำทั่วโลกที่หมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าชัยชนะในโครงการนี้ซื้อถึงเป็นโครงการจัดซื้อเครื่องบินรบจากต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก
..... เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับที่จะทำให้ผมเก็บตังค์เกือบครึ่งปีไป Aero India 2009 ที่เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดียให้ได้ โดยไม่ฟังคำเตือนเกี่ยวกับอินเดียทั้งหลายของเพื่อน ๆ ที่เคยไปมาแล้ว ..... อย่างว่าล่ะใจมันรักไปแล้วจะถอนตัวก็ลำบาก ซึ่งมันก็แปลได้อีกอย่างว่ากรูนี่มันโรคจิตเป็นบ้าเลยวู้ย 
งานนี้ไปกันสามคนครับ หุหุ ....... มีเสี่ยโย Skyman คุณ Luftwaffe และคุณสมเสร็จจากเว็บโมเดล (ชื่อ Log In คิดได้ ) และเพื่อความมึนประกอบกับไม่อยากจะไปผจญอินเดียเป็นแสนในวันที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม เราจึงแอบอ้างไปในนามสื่อกับนิตยสาร Aerospace ด้วยความยินยอมจากพี่บก. (แต่ไม่ยินดีจะออกตังค์ให้ ) ซึ่งทริปนี้ได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำจากคุณ helldiver คนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่บังกาลอร์ (ช่างกล้า ) ...... ไปกันตั้ง 5 วัน อารมณ์ว่ากลับมาถูกไล่ออกกันยกทีมแน่นอน ...... พอดีการบินไทยรักคุณเท่าฟ้ามีตั๋วโปรราคาถูก BKK - BLR แค่หมื่นเดียวเอง สุดยอดครับ
เตรียมที่อุดหูให้พร้อม แล้วไปเที่ยวกันนะครับ 

อินเดียครับ
คือขาไปก็ยังถามตัวเองอยู่ว่า ทำไมไม่ไปที่ที่มันไฮโซอย่าง AVALON 2009 ที่ออสเตรเลียหรือ MAKS 2009 ที่รัสเซียหว่า ...... พอกลับมามองกระเป๋าตังค์ตัวเองแล้ว .... เอ่อ ไปอินเดียนั่นแหละดีแล้ว
ค่าครองชีพที่อินเดียค่อนข้างถูกครับ อาการมื้อหนึ่งตกราว ๆ 30 - 60 รูปีถ้าเรานั่งตามร้านอาหาร โดย 1 รูปีเท่ากับ 75 สตางค์ เพียงแต่ว่าเรามักจะเจอความเจริญควบคู่ไปกับความยากจนเท่านั้นเอง แถมการจราจรนี่ก็วุ่นวายมาก คนขับรถสามารถปาดซ้าย ปาดขวา ไปจนถึงขับสวนเลนส์ได้อย่างสบาย ๆ ผมว่าต่อให้รถร่วมเมืองไทยไปวิ่งล่ะก็ไปไม่เป็นแน่นอน อีกอย่างพวกเขาจะบีปแตรกันสนั่นถนนตลอดเวลา วันแรกก็โครตกลัวเลยครับเพราะชีวิตเฉียดความตายบนถนนนับครั้งไม่ถ้วน แต่วันหลัง ๆ จากกลัวก็เปลี่ยนเป็นมันส์แทน
ไปงานนี้พวกนายหน้าค้าอาวุธกับบริษัทอาวุธฝรั่งเขาจะเช่าลีมูซีนหรู ๆ เอาไว้ให้คนใหญ่คนโตนั่งกันครับ ส่วนระดับเสี่ยโยแล้ว ......... ต้องสามล้อเท่านั้นครับ อินเดียเรียกสามล้อว่าริกชอว์ ก็ไอ้เจ้านี่แหละครับที่พาผมไปงาน 
border=1>
งานจัดที่ Yelahenka Air Force Station นอกเมืองบังกาลอร์ครับ หลังจากริกชอว์ฝ่าการจราจรของเมืองมาจนถึงนอกเมืองแล้ว ระหว่างทางไปงานก็จะเห็นนี่ครับ ป้ายโฆษณาจากบริษัทผลิตเครื่องบินและบริษัทอาวุธต่าง ๆ ติดกันอย่างกะโฆษณาตามทางด่วนที่บ้านเรา ที่นี่การขายอาวุธเขาทำตลาดกันแบบนี้ครับ
เดี๋ยวต่อไปมีเด็ดกว่านี้อีก 

ตอนที่เกือบจะถึงทางเข้าแล้ว ผมดันชี้ให้เข้าผิดทาง แทนที่จะเข้าไปถึงงานได้ กลับต้องวิ่งอ้อมกองบินทั้งกองบินเป็นระยะทางตั้งหลายกิโลแหนะ แล้วถนนรอบ ๆ กองบินก็ไม่ใช่ถนนลาดยางนะครับ มันจะอารมณ์ถนนลูกรังยังไม่ได้ปรับระดับแบบต่างจังหวัดบ้างเรา ราว ๆ เขาชนไก่ยังไงอย่างงั้น เจอวัว เจอบ้านชาวบ้านเต็มไปหมด และที่สำคัญ ...... เรานั่งสามล้อไปครับ ...... คุณคิดดูสิครับสามล้อวิ่งบนถนนเขาชนไก่ มันสุดยอดขนาดไหน ... แบบว่ารถมันติดหล่มแล้วมันวิ่งขึ้นไม่ได้ ก็ต้องช่วยกันเข็น กว่าจะหลุดออกมาได้กินฝุ่นจนอิ่ม โอ้ววววว ชีวิตเสี่ยโยช่างดราม่ายิ่งนัก 
กว่าจะเข้างานมาได้ก็สบักสะบอมเล็กน้อยถึงปานกลางครับ รูปซ้ายล่างคือประตูทางเข้าฐานทัพอากาศ Yelahenka ซึ่งอารมณ์จะคล้าย ๆ ฐานทัพอากาศของบ้านเราเมื่อสามสิบปีก่อนครับ 

เหคุผลสำคัญที่ทำให้เราเลือกที่จะมาที่อินเดียนั้น นอกจากราคาที่ไม่แพงจนเกินไปแล้ว ยังเป็นเพราะว่ามีเครื่องบินมาโชว์เยอะมากครับ นอกจากเครื่องบินของกองทัพอากาศอินเดียที่เราไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นกันที่เมืองไทยไม่ว่าจะเป็น Su-30MKI, Mirage 2000, MiG-27, MiG-21, หรือ ฮ. Dhruv แล้ว ยังมีเครื่องบินจากนานาชาติมาโชว์ตัวกันคับคั่งครับเนื่องจากทุกคนก็อยากได้สัญญามูลค่ามหาศาลของกองทัพอินเดียทั้งนั้น งานนี้เครื่องเด็ด ๆ มาเยอะครับไม่ว่าจะเป็น MiG-35, Typhoon, และเครื่องของสหรัฐ

แต่คราวนี้อินเดียเพิ่งเจอกับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เมืองมุมไบมาครับ ปีนี้เลยไม่เปิดให้ใครเข้าใกล้เครื่องบินเลยถ้าไม่ได้รับอนุญาต และเราก็ไม่ได้รับอนุญาตด้วยสิ เครื่องบินถูกกั้นด้วยรั่วสีฟ้าแบบนี้ถึงสองชั้นครับ แทบเข้าใกล้ไม่ได้เลย เลยได้แต่ภาพมุมภาพติดบัตรหน้ามาฝากครับผม ........ แต่สุดท้ายก็หาทางเนียน ๆ เข้าไปได้ครับซึ่งจะเล่าในโอกาสต่อไป
งั้นลองมาดูเครื่องบินของทอ.อินเดียกันนะครับ 
ลำแรกครับ พระเอกของกองทัพอากาศอินเดีย Su-30MKI หนึ่งในเครื่องบินรบที่ดีที่สุดแบบหนึ่งของโลกครับ ลำใหญ่ สะใจมาก แถบติดอาวุธมาโชว์ด้วยครับ ไม่เหมือนวันเด็กบ้านเราที่ดอนเมือง มาตัวเปล่าประจำ ไม่รู้จะหวงอะไร เขาก็รู้กันหมดแล้วว่าตัวเองมีอะไร 
อินเดียจัดหา Su-30MKI (Modernizirovannyi Kommercheskiy Indiski) ซึ่งเป็น Su-30 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาเพื่อกองทัพอากาศอินเดียโดยเฉพาะ โดยจัดหาจำนวน 50 ลำในปี 1996 ซึ่งราว 30 ลำในล็อตนี้เป็น Su-30 รุ่นมาตราฐานที่อินเดียนำมาใช้เตรียมความพร้อมของตน (ต่อมาขายให้กับกองทัพอากาศต่างชาติ) ต่อมาในปี 2000 อินเดียสั่งซื้อ Su-30MKI เพิ่มอีก 140 ลำ และเมื่อราว 2 ปีที่แล้วก็สั่งซื้ออีก 40 ลำเพื่ออุดช่องว่างของกำลังรบที่ต้องปลดประจำการไปครับ

ลำต่อมา Hawk 132 ซึ่งเป็นเครื่องบินฝึกลำใหม่ของกองทัพอินเดียครับ โดยอินเดียสั่งซื้อมือราว 2 - 3 ปีก่อนจากประเทศอังกฤษจำนวน 106 ลำครับ เหมือนกับเครื่องบินทุกแบบของอินเดีย อินเดียสั่งซื้อล็อตแรกจากประเทศอังกฤษจำนวน 24 และจัดตั้งสายการผลิตในประเทศเพื่อผลิตเองในจำนวนที่เหลือครับ Hawk จะมาเป็นเครื่องบินฝึกขั้นปลายให้กับศิษย์การบินของกองทัพอินเดียเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องบินฝึกขั้นสูงที่ทำให้ศิกษ์การบินของอินเดยประสบปัญหาด้านทักษะในการบินจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้งครับ

Mi-35 ครับ กองทัพอากาศอินเดียมีประจำการทั้งหมด 20 ลำครับ และกำลังประเมินค่าเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่เพื่อมาทดแทน Mi-35 ครับ

MiG-29 ครับผม อินเดียมี MiG-29 ประจำการทั้งหมด 62 ลำ ซึ่งปีที่แล้วอินเดียสั่งซื้อชุด kit มูลค่าเกือบ 1 พันล้านเหรียญเพื่อ upgrade เครื่องบินของตนให้เป็น MiG-29SMT พร้อมตั้งติดตั้งระบบ Avionic พัฒนาเองและสั่งซื้อจากฝรั่งเศสและอิสราเอลครับ

ลำนี้ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ครับ ..... กองทัพอากาศอินเดียมี MiG-27 ประจำการจำนวน 130 ลำ ซึ่ง MiG-27 นี้เป็นเครื่องบินโจมตีครับ

สาวฝรั่งเศสครับ ....... Mirage 2000_5 ....... กองทัพอินเดียมี Mirage 2000_5 ประจำการจำนวน 51 ลำครับ โดยมีประวัติการปฎิบัติการที่โดดเด่นจากสงคราม Kargil War ซึ่ง Mirage ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจหลังกองทัพอากาศอินเดียสูญเสีย MiG-21 และ MiG-27 ไปในการรบ โดย Mirage มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและสามารถทำลายเส้นทางการส่งกำลังบำรุงรวมถึงค่ายทหารของกองทัพบกปากีสถานและกลุ่มกบฏที่ปากีสถานให้การสนับสนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

Jaguar ครับ เป็นเครื่องบินโจมตีทางลึกที่อังกฤษกับฝรั่งเศสร่วมกันพัฒนาในช่วงทศวรรตที่ 70 แม้ว่าทั้งสองประเทศจะปลดประจำการ Jaguar ไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับอินเดียนั้นยังใช้ Jaguar ต่ไปอีกนานครับเนื่องจากอินเดียมีการผลิต Jaguar มาอย่างต่อเนื่อง และเครื่องสุดท้ายที่ผลิตก็ยังใหม่อยู่มาก โดย Jaguar ในกองทัพอากาศอินเดียนั้นแทบจะแตกต่างอย่างชัดเจนจาก Jaguar ที่เคยประจำการในประเทศผู้ผลิตทั้งสองครับ โดยอินเดียปรับปรุงและพัฒนารวมถึงจัดหาระบบต่าง ๆ เข้ามาติดตั้งกับ Jaguar ของตนจนมีความทันสมัยมากกว่า Jaguar ของประเทศผู้ผลิตเองด้วยซ้ำครับ

MiG-21 ครับ เครื่องบินในฝันของผมเลยนะเนี๊ย ....... คิดว่าตัวเองโชคดีจังเลยที่มีโอกาสเห็นมันตัวเป็น ๆ ขนาดที่มันประจำการอยู่นะเนี๊ย ..... สำหรับผมแล้ว MiG-21 คือเครื่องบินที่รัสเซียออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดครับ ทุกอย่างลงตัวไปหมดเลย รูปร่างหน้าตาของมัน ผมว่าดูดีกว่าเครื่องบินรัสเซียทุกแบบครับ เครื่องยนต์ของมันนั้นแทบจะกินพื้นที่ทั้งหมดของช่วงลำตัวของมันแล้ว ประกอบกับปีกที่เล็ก มันจึงดูเหมือนจรวดบินได้มากกว่ามากกวาเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นอีก มีผู้ใช้ MiG-21 กว่า 50 ประเทศทั่วโลก มันจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของค่ายสังคมนิยมเหมือนกับที่ F-5 เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของค่ายประชาธิปไตยยังไงอย่างงั้นครับ
สำหรับอินเดียแล้ว อินเดียมี MiG-21 ประจำการกว่า 200 ลำ ในจำนวนนี้ราว 125 ลำได้รับการปรับปรุงให้เป็นรุ่น MiG-21Bison ซึ่งแทบจะเหมือนเครื่องบินลำใหม่เลยทีเดียวครับ โดย MiG-21Bison ได้รับการเปลี่ยนระบบเรด้าร์และระบบ Avionic ให้สามารถใช้อาวุธที่ทันสมัยอย่างจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ R-77 และจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้แบบ R-73 ได้ครับ นักการทหารของสหรัฐกล่าวว่าการปรับปรุง MiG-21 ในครั้งนี้ทำให้ MiG-21 มีความทันสมัยเทียบเท่ากับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 ทีเดียว และด้วยขนาดที่เล็กของมันทำให้ยากต่อการมองเห็นด้วยเรด้าร์ จึงทำให้มันเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวต่อเครื่องบินขับไล่ที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่าง F-15 หรือ F15 ซึ่งสหรัฐก็เคยเห็นประสิทธิภาพของมันมาแล้วในการฝึกกับกองทัพอากาศอินเดียที่ผ่านมาครับ
แต่ในทางกลับกัน MiG-21 ของอินเดียประสบกับอุบัติเหตุมากมายหลายครั้ง จากสถิติที่ผ่านมา MiG-21 ของอินเดียประสบอุบัติเหตุตกไปราว 100 ครั้ง มากกว่าเครื่องบินขับไล่ของข้าศึกที่มันยิงตกเสียอีก จนได้รับฉายาว่า The Flying Coffin หรือโลกศพบินได้ แม้แต่ก่อนงานเริ่มในเดือนมกราคมที่ผ่านมา MiG-21 ของกองทัพอากาศอินเดียก็ประสบอุบัติเหตุตกไปอีก 1 ลำ ซึ่งกองทัพอากาศอินเดียมีโครงการที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ในโครงการ MMRCA มาทดแทน MiG-21 ที่จำเป็นต้องปลดประจำการบางส่วนลงในปี 2011 ครับ แต่ปัญหาความล่าช้าของโครงการ MMRCA นั้นทำให้สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่ากองทัพอากาศอินเดียจะต้องประสบกับช่วงเวลาที่กำลังทางอากาศนั้นไม่เพียงพอต่อการดำรงความพร้อมเนื่องจากเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ที่จะนำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 2013 - 2014 นั้นผลิตไม่ทันการปลดประจำการของ MiG-21 ครับ

แล้วมาต่อตอนที่สองนะครับ
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2552 8:39:14 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4918 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:16:03 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:01:59 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:02:49 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าแสบโนอาห์ (Noahdaddyboy ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:58:57 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|