|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
แสนยานุภาพกองทัพกัมพูชา
ห้ามคัดลอกบทความนี้ออกจากเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เฉพาะข้อความในบทความนี้
หลังจากความขัดแย้งมากมายภายในประเทศ รวมไปจนถึงตำนานอันน่าหดหู่ของทุ่งสังหาร ปัจจุบันกัมพูชาเป็นประเทศที่สงบและกำลังดำเนินความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียนซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของการแบ่งผักแบ่งฝ่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นอดีตไป
กองทัพบกกัมพูชา
กองทัพบกกัมพูชาเป็นเหล่าทัพที่สำคัญที่สุดในจำนวน 3 เหล่าทัพ อาวุธส่วนมากของกัมพูชาจะเป็นอาวุธจากค่ายสังคมนิยมเดิมอย่างรัสเซียและจีน
กองทัพกัมพูชาประกอบด้วย กรมทหารราบ 9 กรม, กองพันยานเกราะ 3 กองพัน, กรมทหารช่าง 4 กรม, และกองพลน้อยต่อต้านการก่อการร้าย 3 กองพล มีกำลังทหาร 124,000 นาย งบประมาณกลาโหม 120 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีโดยประมาณ
อาวุธส่วนมากเป็นอาวุธในยุคสงครามเย็นที่เคยใช้ในสงครามกลางเมือง ในปัจจุบันอาวุธหลายรายการได้รับการช่วยเหลือจากจีน รัสเซีย และสหรัฐ สำหรับอาวุธหลักของกองทัพบกกัมพูชาประกอบไปด้วย
รถถัง
- รถถังหลัก T-55 จากรัสเซียจำนวนราว 100 คัน - รถถังหลัก Type-59 จากจีนจำนวนราว 200 คัน - รถถังเบา PT-76 จากรัสเซีย, รถถังเบา Type-62/63 จากจีนและรถถังเบา AMX-13 จากฝรั่งเศสจำนวนราว 50 คัน
รถเกราะ
- รถรบทหารราบ BMP-1 จากรัสเซียจำนวน 10 คัน - รถเกราะสายพาน M113A1/A3 จากสหรัฐจำนวน 20 คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-60 จากรัสเซียจำนวน 120คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-152 จากรัสเซียจำนวน 100 คัน - รถเกราะล้อยาง OT-64 จากโปแลนด์จำนวน 26 คัน
ปืนใหญ่/ปืนต่อสู้อากาศยาน/จรวดต่อสู้อากาศยาน
กองทัพบกกัมพูชามีปืนใหญ่ทั้งจากฝั่งสหรัฐและรัสเซียประจำการหลายรายการเช่นปืนใหญ่ขนาด 105 มม. แบบ M101, ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. แบบ M114 จากสหรัฐ หรือปืนใหญ่สนามขนาด 130 มม. แบบ M1954 และปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 152 มม. แบบ M1955
สำหรับปืนต่อสู้อากาศยานนั้น กองทัพบกกัมพูชายังมีปืนจากรัสเซียและจีนเป็นกำลังหลัก ส่วนจรวดต่อสู้อากาศยานนั้นกัมพูชาเคยมีจรวด SA-3 ไว้ใช้งาน แต่ได้ทำลายทิ้งไปตามข้อเสนอของสหรัฐเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือด้านอื่นเนื่องจากสหรัฐกลัวว่า SA-3 จะตกไปในมือของผู้ก่อการร้ายครับ
 OT-64 Royal Cambidian Army
กองทัพเรือกัมพูชา
กองทัพเรือกัมพูชายังมีสถานการณ์เป็นกองทัพเรือใกล้ฝั่ง (Green Navy) โดยกัมพูชามีเรือตรวจการณ์ลำน้ำชั้น Kaoh จำนวน 2 ลำ และเรือเร็วโจมตี (ปืน) อีก 2 ลำ
ในปี 2548 รัฐบาลจีนได้บริจาคเรือตรวจการณ์ขนาด 46 เมตรจำนวน 4 ลำ เรือตรวจการณ์ขนาด 20 เมตรจำนวน 3 ลำ และเรือลำเลียงสัมภาระอีก 1 ลำให้กองทัพเรือกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือในการป้องกันการกระทำผิดกฏหมายทางทะเลและลาดตระเวนปราบโจรสลัด
ทั้งนี้หลังจากการค้นพบแหล่งน้ำมันของกัมพูชาในบริเวณอ่าวไทย ทำให้เชื่อได้ว่ากองทัพเรือกัมพูชาอาจจำเป็นต้องจัดหาเรือตรวจการณ์ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มเติมเพื่อลาดตระเวนคุ้มกันแหล่งผลิตน้ำมันของตน



 Ceremony of the donation of Chinese vessel to Royal Cambodian Navy
กองทัพอากาศกัมพูชา
กองทัพอากาศกัมพูชามีฐานบินอยู่สองฐานคือ ฐานทัพอากาศพระตะบองและฐานทัพอากาศพนมเปญ แต่มีเครื่องบินประจำการที่ฐานทัพอากาศพนมเปญเพียงที่เดียว
กัมพูชาเคยจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-21 จำนวน 22 ลำจากรัสเซียในปี 2529 แต่เครื่องบินถูกสั่งกราวน์ทั้งหมดในปี 2535 เนื่องจากขาดงบประมาณ ต่อมาในปี 2539 กองทัพอากาศกัมพูชาว่าจ้างบริษัท Israel Aircraft Industry ให้ทำการปรับปรุง MiG-21 จำนวน 12 ลำ และจัดหา L-39C มือสองที่ได้รับการปรับปรุงอีก 6 ลำ โดยกองทัพอากาศกัมพูชาได้รับมอบ L-39C ทั้งหมดในปี 2540 แต่จากการที่สมเด็จฮุนเซ็นขับเจ้านโรดมรณฤทธิ์ออกจากการร่วมรัฐบาล ทำให้ธนาคารโลกและสหรัฐตัดความช่วยเหลือต่อกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบกับโครงการปรับปรุง MiG-21 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้อิสราเอลส่งมอบ MiG-21 คืนให้กับพูชา 2 ลำ ปัจจุบันเราไม่ทราบสถานะของเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้ แต่คาดว่าไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากขาดงบประมาณและขาดนักบินที่มีความชำนาญ
กองทัพอากาศกัมพูชามีอากาศยานดังต่อไปนี้
- เครื่องบินขับไล่ MiG-21 Bis และ MiG-21UM จากรัสเซียอย่างละ 1 ลำ (ทำการบินไม่ได้) - เครื่องบินขับไล่ฝึก L-39C จากสาธารณรัฐเช็คจำนวน 6 ลำ - เครื่องบินลำเลียง Y-12 จากจีนจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินลำเลียง An-24RV จากรัสเซียจำนวน 2 ลำ (รับโอนจากกัมพูชาแอร์ไลน์) - เครื่องบินลำเลียงเบา BN-2A Islander จากอังกฤษจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ Falcon 20E จากฝรั่งเศสจำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ AS350 Ecureuil จำนวน 2 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ SA365 Dauphin จำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ Mi-8/Mi-17 จำนวน 6 ลำ - เฮลิคอปเตอร์ Mi-26 จำนวน 2 ลำ
 MiG-21 of Royal Cambodian Air Force
หมายเหตุ
ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะผมเจอแต่คำถามว่ากองทัพกัมพูชามีอะไรบ้าง? ไทยสู้ได้ไหม? ไทยจะชนะไหม? ฯลฯ ..... และผมเบื่อเกินกว่าที่จะตอบ อีกทั้งผมยังไม่เคยเขียนถึงกองทัพกัมพูชาเลยทั้ง ๆ ที่เคยเขียนทุกแทบทุกประเทศในอาเซียนแล้ว ฉะนั้นนี่ก็เป็นโอกาสที่จะเขียนเอาไว้ใช้อ้างอิง
แต่ ........ อย่ามาถามผมว่าไทยรบกับกัมพูชาแล้วจะชนะไหม? ผมไม่ตอบแน่นอนครับ เพราะผมยังไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะทำสงครามกับกัมพูชาด้วยเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ ซึ่งเกิดมาจากการปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มการเมืองทั้งในกัมพูชาเองและในประเทศไทย
จะไม่มีสงครามระหว่างไทยและกัมพุชาแน่นอน แต่ถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ ผมจะออกไปประณามรัฐบาลไทยอย่างรุนแรงเป็นคนแรก ในฐานะที่ล้มเหลวทางการฑูตและการเจรจาอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมใช้พลังอำนาจที่เหนือกว่าทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและแสนยานุภาพทางทหารซึ่งสมควรจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการฑูตในการเจรจาเพื่อไม่ให้นำไปสู่สงคราม และมันจะเป็นความล้มเหลวทางการฑูตครั้งที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย
ฝากถึงท่านที่อยากจะรบใจจะขาดว่า .......... ขอให้คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ ชีวิตจริงไม่ใช่ DotA ที่จู่ ๆ จะยกพวกไปตีใครก็ได้ และการรบมันไม่ง่ายเหมือนเกมส์ Special Force ที่เด็ก ๆ หลายคนคิดว่าสมจริงจนเล่นเกมส์นี้อย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องฝึกทหาร ......... การจะทำอะไรสักอย่างในระดับประเทศ เอาความสะใจมานำหน้าไม่ได้ เราต้องพิจารณาถึงผลประทบทุกด้านที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราทำสงคราม เราจะอธิบายต่อชาวโลกอย่างไร? ความชอบธรรมในการทำสงครามคืออะไร? ใครจะสนับสนุนเราในเวทีนานาชาติ? รับประกันได้หรือไม่ว่าเราจะไม่ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตร ? ..... นี่ยังไม่รวมถึงธุรกิจของไทยในกัมพูชาจำนวนเป็นหมื่นล้านที่สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมากในแต่และปี ยังไม่รวมถึงแหล่งน้ำมันของกัมพุชาที่ปตท.สผ.ควรเร่งเข้าไปขอสัมปทานขุดเจาะเพื่อมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจของไทย ยังไม่รวมถึงการแทรกแทรงของต่างชาติ ยังไม่รวมถึงงบประมานเป็นหมื่นล้านที่ต้องจ่ายไปในการทำสงคราม ยังไม่รวมถึงชีวิตของทหารที่ต้องตายเพื่อสนองความสะใจของหลายคนทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น ยังไม่รวมถึงระบบเศรษฐกิจที่จะต้องพังพินาจจากผลพวงของทุกอย่างที่กล่าวมา ฯลฯ ........... สุดท้าย ท่านไม่เคยเจอสงครามจริง ไม่เคยไปรบจริง ๆ ท่านอย่าเชียร์ให้รบกันอย่างเดียว อย่าเป็นนักรบคีย์บอร์ด อย่าเป็นนักรบหน้าจอ เพราะคนที่จะไปรบไม่ใช่ท่านแต่เป็นลูกหลานหรือสามีของคนอื่น หรือแม้กระทั่งท่านก็อาจจะถูกเกณฑ์ไปรับกระสุนและกับระเบิดด้วยเช่นกัน
อย่ารักชาติจนคลั่งชาติ อย่ารักชาติจนขาดสติครับ
Create Date : 11 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 8:34:34 น. |
|
22 comments
|
Counter : 20506 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Yoawarat วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:16:43 น. |
|
|
|
โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:40:02 น. |
|
|
|
โดย: หมีสีชมพู วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:35:17 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:49:21 น. |
|
|
|
โดย: vanilla_ole วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:25:46 น. |
|
|
|
โดย: [v] (BONDJUNG_TH ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:27:37 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:14:38:47 น. |
|
|
|
โดย: unsa วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:03:26 น. |
|
|
|
โดย: ซอมพอแสด วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:15:43:51 น. |
|
|
|
โดย: birdfriday วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:9:45:09 น. |
|
|
|
โดย: ratko วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:15:02:45 น. |
|
|
|
โดย: pn51d550 (AIRRO01 ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:33:36 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณนะจ๊ะ (solodano ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:43:31 น. |
|
|
|
โดย: SaZmi (solodano ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:03:05 น. |
|
|
|
โดย: couples (AIRRO01 ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:48:56 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|
หลีกเลี่ยงได้ก็ต้องทำ
แต่ผมไม่คิดว่าเหตการเขาพระวิหาร
จะบานปลายกันใหญ๋โต