กองทัพเรือไทย เตรียมปรับปรุงเรือชั้นเจ้าพระยาครั้งใหญ่

กองทัพเรือไทย เตรียมปรับปรุงเรือชั้นเจ้าพระยาครั้งใหญ่ ในอีกไม่นาน ราชนาวีไทยจำเป็นจะต้องปลดประจำการเรือรบรุ่นเก่าสมัยสงครามโลกหลายลำ ทำให้ช่วงหลังมานี้มีการพิจารณาจัดหาเรือชั้นใหม่ ๆ เข้ามาคือ เรือชั้นเรือหลวงปัตตานี และมีโครงการที่จำเป็นจะต้องจัดหาเรือฟริเกตชั้นใหม่ที่ว่ากันว่าจะเป็นเรือฟริเกตที่ทำหน้าที่ป้องกันภัยทางอากาศอีก 2 ลำ เพื่อทดแทนเรือเก่าที่จะต้องปลดประจำการไป และได้ดำเนินการสร้างเรือชั้นต.991 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย
แต่เนื่องจากประเทศกำลังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจขาลง ทำให้เงินในการจับจ่ายใช้สอยนั้นมีไม่มาก ดังนั้นจึงมีข่าวว่ากองทัพเรือไทยเตรียมปรับปรุงเรือฟริเกตชั้นเรือหลวงเจ้าพระยาซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าในปัจจุบันมาก เพื่อทำให้เรือที่มีอยู่มีความสามารถเพิ่มขึ้นและรองบประมาณในการจัดซื้อเรือที่จำเป็นไปก่อน
แต่ก็เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่การจะติดตามพัฒนาการของกองทัพไทยจะทำได้แต่เพียงการอ่านข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเท่านั้น เพราะกองทัพไทยไม่นิยมเปิดเผยการซื้ออาวุธเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียหรือสิงคโปร์ ทำให้ข่าวที่จะมาลงต่อไปนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากราชนาวีไทยว่าเป็นความจริงหรือไม่ ฉะนั้น ผมก็จะขอตั้งสมมุติฐานว่าข่าวนี้เป็นความจริงแล้วกันครับ
เราลองมาดูครับว่าใครจะทำอะไรบ้าง
C-802 for Thai frigates
Chinese experts will assist the Royal Thai Navy in upgrading 4 Chinese-built Chao Phraya class frigates with the YJ-82 (export designation C-802) anti ship missiles, a Chinese official said friday. The Thai frigates carry eight C-801 SSM, two 100 mm/56 DP (1 in last two), foul dual 37 mm AA, two RBU-1200 ASW rockets. The Thai Navy will be replaced the C-801 with C-802 SSM with in next 2 years. The upgrade program also includes installation of new fire-control systems, air/surface search radars, long-range air search radars, electronic warfare systems and electronic equipment. A military source said that the Thai Navy will sign a $ 70 million contract with as soon as the Thai cabinet approves the navy development plans. The source also said that the Thai Navy wants to improve underwater warfare and air warfare combat system performance. There have been unconfirmed reports that MK 32 Mod 5 (2 triple) torpedo tubes and a launched variant of the LY-60 SAM would be fitted on the frigates if the funds are available.
คุณ FatBoy เจ้าของกระทู้ที่ thaifighterclub บอกว่ามาจาก //www.chinadaily.com แต่ผมตามไปเพื่อจะหา link จริง ๆ กลับพบว่ามันกลายเป็นเว็บสมัครงาน????? เลยไม่รู้ว่าต้นตอของข่าวมาจากไหน
รู้จักเรือในชุดเรือหลวงเจ้าพระยา
เรือในชุดเรือหลวงเจ้าพระยาประกอบไปด้วยเรือ 4 ลำคือ
เรือหลวงเจ้าพระยา หมายเลข 455 เรือหลวงบางปะกง หมายเลข 456 เรือหลวงกระบุรี หมายเลข 457 เรือหลวงสายบุรี หมายเลข 458
ในราคาประมาณลำละ 2,000 ล้านบาท ราคาของเรือในชุดนี้ทั้ง 4 ลำซื้อเรือฟริเกตยุโรปได้เพียงลำเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ เรือในชุดนี้ก็มาช่วยเพิ่มกำลังรบและจำนวนเรือให้ทร.ไทยซึ่งในสมัยนั้น (2534) มีแต่เรือฟริเกตติดปืนและเรือโจมตีเร็วติดอาวุธปล่อยนำวิถีเท่านั้น
เรือหลวงเจ้าพระยาติดตั้งอาวุธดังนี้
- ปืนเรือขนาด 100 ม.ม. แท่นคู่ 2 กระบอก (ในร.ล.กระบุรีและสายบุรีนั้นติดตั้งเพียง 1 กระบอก โดยด้านหลังเปลี่ยนเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แทน ซึ่งเป็นเรือลำแรกของราชนาวีไทยที่สามารถนำฮ.มาลงจอดได้) - อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 จำนวน 8 นัด ระยะยิง 50 กม. - ปืนกล 37 ม.ม. แท่นคู่ 4 กระบอก - จราดปราบเรือดำน้ำ RBU-1200 จำนวน 2 แท่น
คราวนี้ตามเนื้อข่าวกล่าวว่า ราชนาวีไทยจะเปลี่ยนอวป. C-801 เป็น C-802 รุ่นที่ใหม่กว่า พร้อมทั้งปรับปรุง fire control system (ระบบควบคุมการยิงอาวุธ) air/surface search radars, (เรด้าห์ตรวจการณ์ภาคอากาศและผิวน้ำ) long-range air search radars (เรด้าห์ตรวจการณ์ภาคอากาศระยะไกล), electronic warfare systems (ระบบสงครามอิเล็กทรอนิค) ฯลฯ และถ้ามีงบประมาณก็จะติดตั้งตอร์ปิโดว์และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู้อากาศ (SAM) แบบ LY-60 ด้วย
ตอนนี้ ไปรู้จักกับของแต่ละอย่างกันครับ
อาวุธปล่อยนำวิถี C-802

C-802 เป็นจรวดในตระกูลเดียวกับ C-801 และ C-803 ครับ เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากระบบเชื้อเพลิงแข็งมาเป็นเครื่องยนต์ Turbojet โดยมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 120 กม. จากเดิม C-801 มีระยะยิงเพียง 50 กม. เท่านั้น ในภูมิภาคอาเซียนนั้นมีกองทัพเรือที่ประจำการด้วย C-802 อีกหนึ่งกองทัพก็คือกองทัพเรือพม่าที่มีเรือขนาดเล็กที่ติด C-802 อยู่จำนวน 5 ลำ
อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ LY-60

SAM รุ่นนี้พัฒนามาจากจรวด Aspide ของอิตาลี ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Sparrow ของสหรัฐอีกทีนึงครับ ตัวจรวดสามารถยิงเป้าหมายในระยะกลางและต่ำได้ ต่ำที่สุดประมาณ 30 เมตร ผมว่ายังสูงเกินไปสำหรับจรวดที่จะวิ่งเข้าหาเรือรบของเราที่ปกติจะบินอยู่ในระยะประมาณ 10 เมตร แต่ด้วยระยะยิงที่ไกลประมาณ 18 กม. นั้นทำให้สามารถป้องกัยภัยทางอากาศให้กับเรือได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถยิงได้ในระยะสูงถึง 12 กม. สูงพอที่จะสอยเครื่องบินรบได้สบาย ๆ ระบบเรด้าห์ของ LY-60 สามารถติดตามเป้าหมายได้ 12 เป้าหมาย และสามารถยิงเป้าหมายได้พร้อมกัน 3 เป้าหมาย นั้นหมายความว่าถ้า Su-30 เข้ามาในระยะ 18 กม. 3 ลำ ตัวระบบก็จะสามารถปล่อยจรวดไปทำลายได้พร้อมกันทั้งสามลำครับ
นอกนจากนั้นการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพของเรือดีกว่าในปัจจุบันมากทีเดียว ทั้งนี้ตามเนื้อข่าวบอกว่าโครงการจะใช้งบ 70 ล้านเหรียญและจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 2 ปีนับจากวันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัติ)
ต้องลองตามดูกันต่อไปครับว่าโครงการจะเกิดขึ้นได้จริงไหม และจะเกิดเมื่อไหร่ และอีก 2 ปี จะได้เห็นภาพเรือหลังการปรับปรุงหรือเปล่า ต้องลองตามดูกันครับ
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Create Date : 07 เมษายน 2550 |
Last Update : 7 เมษายน 2550 18:59:20 น. |
|
50 comments
|
Counter : 15987 Pageviews. |
 |
|
|