"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic


หลังจากที่คราวก่อนได้ทำบทความเรื่องการทำ Dermal Filler ไปแล้ว ใครที่ได้อ่านมาก็คงจะจำได้ว่าปูเป้ก็ได้ลองทำ BOTOX ดูด้วยเหมือน ซึ่งปูเป้รออยู่นานกว่าครึ่งปีเพื่อดูผลของการฉีดที่สมบูรณ์ก่อนที่จะนำประสบการณ์รวมถึงข้อมูลที่ได้ศึกษานำมาเล่าต่อให้กับทุกคนในวันนี้



การฉีด BOTOX ในครั้งนี้ปูเป้ไปทำที่ Immagini Clinic & Daisy Diva Clinic เช่นเคย ใครที่สนใจลองใช้บริการก็ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลกันทาง Facebook หรือโทรศัพท์ไปสอบถามทางคลีนิกได้ด้วยตนเองเลย ส่วนใครที่อยากเห็นการฉีด BOTOX และ Dermal Filler เขาทำกันยังไง ลองกดวีดีโอด้านล่างเพื่อชมได้เลย (มีภาพหวาดเสียวนิดนึงนะฮะ เตือนไว้ก่อน)







BOTOX คืออะไร?


เห็นเรียกกันจนติดปาก แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าจริงๆ แล้วคำว่า BOTOX นั้นเป็น "ชื่อทางการค้า" หรือ "ยี่ห้อ" ของสารที่มีชื่อว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา



Botulinum Toxin Type A เป็นสารพิษที่ได้จากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Botulinum โดยในความเข้มข้นที่สูงนั้นจัดว่าเป็นสารพิษที่อันตรายมากทีเดียวเชียวล่ะ แต่เจ้า BOTOX ที่เราฉีดเข้าไปในหน้าหรือร่างกายเราเนี่ยเป็นแบบที่นำมาเจือจางเหมาะสมแล้ว ไม่เป็นอันตราย (แต่ถ้าฉีดเกิน 3,000 ยูนิต อาจไปสวยในโลงแทนได้ ทว่าไม่มีใครฉีดถึง 3,000 ยูนิตได้หรอกครับ ไม่ต้องกังวลไปนะ)

BOTOX ของบริษัท Allergan เป็นสาร Botulinum Toxin Type A ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติโดย FDA ของอเมริกาเพื่อใช้ทางการแพทย์เมื่อปี 1989 - 2001 เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้ออย่าง ตาเหล่ หรือแม้แต่การลดการผลิตเหงื่อใต้วงแขน และเมื่อปี 2002 ก็พึ่งได้ไฟเขียวสำหรับการนำ BOTOX มาเพื่อใช้ในการเสริมความงาม ปัจจุบันการฉีด BOTOX เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมความงามที่ไม่ใช่การผ่าตัดที่ได้รับความนิยมที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดด้วย





ได้ยินว่ามี BOTOX เกาหลี หรือ BOTOX อังกฤษด้วย... เริ่มงงแล้วว่ามันต่างกับ BOTOX ของอเมริกายังไง?


อย่างที่บอกไปแล้วว่า BOTOX เป็นชื่อทางการค้า หรือยี่ห้อ ของสารที่ชื่อว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งมีบริษัท Allergan ของประเทศ "สหรัฐอเมริกา" เป็นผู้ผลิต อะไรก็ตามที่ไม่ได้ผลิตจากบริษัทจากบริษัท Allergan ประเทศ อเมริกา ไม่สามารถที่จะเรียกว่า BOTOX ได้นะฮะ



Botulinum Toxin Type A ที่มาจากอังกฤษมีชื่อทางการค้าว่า Dysport ผลิตโดยบริษัท Ipsen ได้รับการอนุมัติจาก FDA หลังจาก BOTOX อีกที ส่วนที่มาจากเกาหลีเป็นยี่ห้อน้องใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Neuronox ของบริษัท Medy-Tox พึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA เมื่อไม่นานมานี้เอง



ในเรื่องของความน่าเชื่อถือ BOTOX ถือว่ามีมากสุดเพราะว่าเป็นเจ้าแรกและมีการวิจัยสนับสนุนมากมาย ในแง่ของความแตกต่างนั้นหลังจากที่ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือคุณหมอที่สัมผัสกับตรงนี้บ่อย ๆ ท่านให้ความเห็นว่า BOTOX จะเหมาะมากกับการใช้ในจุดที่ต้องการความแม่นยำอย่างกลุ่มกล้าเนื้อเล็ก ๆ บนใบหน้า เพราะมีการกระจายตัวของยาที่น้อยกว่า Dysport ส่วนการใช้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างอย่างบริเวณน่องอาจจะต้องใช้ Dysport เพราะมีการกระจายตัวที่มากกว่า ซึ่งการเลือกใช้ตัวยาที่ต่างกันนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชี่ยวชาญของแพทย์จ้า

ส่วนเรื่อง Neuronox ของเกาหลีเนี่ยมันมีข้อดีตรงที่ต้นทุนถูกที่สุด (BOTOX แพงที่สุด) นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมค่าใช้จ่ายในการฉีดของแต่ละคลีนิคนั้นถึงได้ ถูก-แพง ไม่เท่ากัน และจากประสบการณ์ของแพทย์ที่ใช้เทียบกันจะพบว่า Neuronox มีผลอยู่ได้ไม่นานเท่า Botox และ Dysport

ดังนั้นถ้าเห็นราคาค่าฉีด BOTOX ที่ถูกมากจนน่าแปลกใจ อาจจะตั้งข้อสังเกตุเอาไว้ว่าสิ่งที่ฉีดเข้าไปอาจไม่ใช่ BOTOX ก็ได้นะฮะ ให้สอบถามและขอดูตัวยาที่จะฉีดเข้าไปให้ชัวร์ว่าใช่ยี่ห้อ BOTOX ของ Allergan USA รึเปล่า เพราะถ้าไม่ใช่เขาไม่ควรบอกแต่แรกว่าเป็นการฉีด BOTOX ครับ :P





Botulinum Toxin Type A ทำงานอย่างไร?


หลักการทำงานของ Botulinum Toxin นั้น ถ้าอธิบายให้ง่ายที่สุดก็คือการทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดหรือบริเวณที่ฉีดเข้าไปเป็น "อัมพาต" เมื่อกล้ามไม่สามารถที่จะขยับหรือหดตัวได้มันจึงคลายตัวออก ส่งผลให้ริ้วรอยย่นที่เกิดขึ้นจากการขยับหรือหดเกร็งของกล้ามเนื้อนั้นหายไปนั่นเอง



ถ้าเอาแบบให้งงมากขึ้นอีกหน่อยก็อธิบายได้ว่า ทันทีที่สาร Botulinum Toxin Type A เข้าไปถึงส่วนของปลายประสาท มันจะไปโจมตีโปรตีนสามชนิด ( VAMP กับ Syntaxin และ SNAP-25) ซึ่งสัมพันธ์กับหลั่ง Acetylcholine ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท (Neurotransmitter) ที่รับผิดชอบเรื่องการความคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ผลก็คือกล้ามเนื้อในจุดนั้นจะเป็น "อัมพาต" นั่นเอง (งงดีมะ)





BOTOX ใช้ทำอะไรได้บ้าง?


นอกจากใช้รักษาโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อแล้ว การใช้ BOTOX เพื่อการเสริมความงามก็ได้แก่



- "ลดริ้วรอย" ที่เกิดขึ้นจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและการแสดงอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก หัวคิ้ว หางตา รวมถึงการใช้เพื่อยกกระชับใบหน้าเป็นต้น

- "ปรับรูปหน้า" กล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวบริเวณแนวกรามเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ใครที่ชอบกินของที่เคี้ยวยากบ่อย ๆ กล้ามเนื้อก็แข็งแรงเป็น "มัด" เป็น "ก้อน" ใหญ่ ๆ การฉีด BOTOX เข้าไปตามจุดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมจะไปทำให้กล้ามเนื้อก้อนใหญ่ ๆ นั้นคลายตัวลง รูปหน้าก็จะดูเล็ก ดูเรียวขึ้นได้ ถ้าใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบางจุดที่คอก็ทำให้ลำคอดูเรียวขึ้นได้ด้วยนะ

- "ทำขาเรียว" ก็คือการฉีดไปที่กล้ามเนื้อให้มันฝ่อลง ลีบลง ขาก็จะดูเรียวขึ้นได้

มีการ BOTOX ไปใช้เรื่องอื่นอีกหลายอย่าง แต่ที่เห็นบ่อย ๆ จะมีเท่านี้แหล่ะจ้า





มีผลข้างเคียงในการฉีด BOTOX รึเปล่า?


ขอบอกเลยว่ามี อย่างแรกเลยคือจนลงแน่นอนเพราะการฉีด BOTOX ก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย อย่าที่สองคือถ้าฉีดกับหมอที่ไม่เชี่ยวชาญพอ (หรือพวกหมอเถื่อนที่ไปฉีดกันเองตามห้องพักหรือตามรถอย่างที่ออกข่าว) การฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่ผิดจุดหรือปริมาณยาที่มากเกินไป อาจมีผลข้างเคียงตนั้งแต่การทำให้มุมปากตก หนังตาย้อย รูปหน้าเสียทรงหรือดูไม่เท่ากัน หรืออาจทำให้เป็นคนหน้าตาย แสดงสีหน้าไม่ค่อยจะได้

ผลข้างเคียงอื่น ๆที่พบได้และไม่ร้ายแรงก็ก็อย่างเช่น "เมื่อย" โดยเฉพาะคนที่ไปฉีด BOTOX ปรับรูปหน้ามา อาจจะรู้สึกเมื่อย ๆ เวลาเคี้ยวได้ (ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการคุมน้ำหนักก็ได้นะ เพราะจะรู้สึกว่ากินอะไรลำบากขึ้น)

ส่วนผลข้างเคียงถึงแก่ชีวิตนั้นไม่ต้องกังวลไป เพราะคงไม่มีใครฉีดถึง 3,000 ยูนิตอยู่แล้ว...





การฉีด BOTOX จะออกฤิทธิ์ได้นานแค่ไหน?


ผลของการฉีด BOTOX นั้นเป็นผลชั่วคราวเท่านั้น จะเริ่มเห็นผลจของการฉีดอย่างชัดเจนหลักจาก 2 - 4 สัปดาห์ และจะมีผลอยู่ได้ประมาณ 2 - 6 เดือน ในครั้งแรกที่ฉีด ขึ้นอยู่กับปริมาณ และตำแหน่งที่ฉีดอีกด้วย กล้ามเนื้อจุดเล็ก ๆ หรือจุดที่เราใช้งานมันบ่อย ๆ ก็อาจจะอยู่ได้ไม่นานมาก (รอบดวงตา ปีกจมูก)



การฉีดเติมก่อนที่ผลของ BOTOX จะสลายไปหมด จะช่วยทำให้ผลของมันอยู่ได้นานขึ้นด้วยนะ เพราะเหมือนกับการระงับการใช้งานของกล้ามเนื้อติดต่อกัน มันก็จะกลับคืนมาช้าลงด้วยเช่นกัน





ค่าใช้จ่ายในการทำ BOTOX แพงไหม?


หลายพันยันหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดเข้าไป (รวมถึงยี่ห้อของ Botulinum Toxin ด้วย) ได้โปรดอย่าถามว่าค่าฉีดเท่าไหร่ ที่ไหนถูกสุด เพราะมันแตกต่างกันไปในแต่ละคน ถ้าคุณต้องฉีดปริมาณเยอะมันก็แพง ถ้าฉีดปริมาณน้อยมันก็ถูก ซึ่งตรงนี้คุณหมอจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจว่าควรจะฉีดมาก-น้อยเท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายเท่าใด

ย้ำว่าอย่ามาถามปูเป้ว่าค่าฉีดเท่าไหร่เพราะตอบให้ไม่ได้ เข้าใจ๋!!!!!





หลังจากฤิทธิ์ของ BOTOX หมดไปแล้ว ริ้วรอยจะกลับมาเป็นมากขึ้นรึเปล่า?


ถ้าหมายถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการใช้กล้ามเนื้อล่ะก็ ไม่เพิ่มขึ้นหรอกครับ ดีไม่ดีจะเป็นการป้องกันการเกิดริ้วรอยจากการแสดงอารณ์ไม่ให้เพิ่มขึ้นด้วยนะ





ตอนฉีดนั้นเจ็บรึเปล่า?


ปูเป้จะไม่โกหกว่ามันไม่เจ็บเลยหรอกนะ แต่มันไม่เจ็บมากจนถึงขั้นทนไม่ได้จะเป็นจะตายหรอก ถ้ากลัวเจ็บก็มียาชาให้ทาด้วยนะ เอาเป็นว่าเคยไปฉีดวัคซีนกันมั๊ย? มันเจ็บน้อยกว่านั้นอีก



อ้อ... แต่ถ้าจุดที่ฉีดมีเส้นประสาทรวมอยู่เยอะ อย่างปีกจมูกเนี่ย เตรียมใจไว้หน่อยก็ดีนะฮะ....





การดูแลตัวเองหลังฉีด BOTOX


ถ้าฉีดบริเวณใบหน้าครึ่งบน ห้ามนอนราบประมาณ 4 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภันฑ์บำรุงผิวที่อาจจะระคายเคืองผิวได้ (AHA / BHA หรือพวกกรดต่างๆ ) ภายใน 1 วันหลังการฉีด

ในช่วง 2 สัปดาห์แรก "ห้าม" นวดหน้า ความร้อน ห้องสตรีม ซาวน่า เลเซอร์ IPL และทุกสิ่งอย่างที่จะก่อให้เกิดความร้อนที่ทำให้ตัวยาสลาย หรือการนวดที่ก่อให้เกิดการกระจายตัวของตัวยาไปยังที่ ๆ ไม่ต้องการ

การฉีด BOTOX ไมได้ป้องกันริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการลด หด หายไปของคอลาเจน และมวลไขมัน ที่เป็นเหมือนกับโครงสร้างค้ำยันของผิว คุณจำเป็นต้องทายากันแดดรวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ เพื่อชะลอความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผิวอีกอยู่ดี





เครื่องสำอางที่บอกว่าใช้ทดแทนการทำ BOTOX ได้มัน Work จริงหรอ?


ไม่มีเครื่องสำอางใด ๆที่ให้ผลได้เหมือน BOTOX จากการ "ทา" เหตุผลนั้นง่ายมากเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ส่วนผสมที่อยู่ในเครื่องสำอางจะไปทำงานลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อได้ (มันซึมไปไม่ถึงหรอก) และสมมุติว่าหากมันสามารถซึมลงไปถึงกล้ามเนื้อได้จริง เราจะไปควบคุมให้มันทำงานเฉพาะกล้ามเนื้อที่ต้องการได้ยังไงมิทราบ?





สรุปว่า BOTOX มันต่างกับ Dermal-Filler ยังไง?


ถ้าอ่านมาทั้งสองบทความจนถึงตอนนี้แล้วยังถามแบบนี้อีก มันน่าจับตีซะจริงๆ !!!

เทียบง่าย ๆ ว่า BOTOX ทำงานที่กล้ามเนื้อ ใช้รักษาปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ

Dermal-Filler คือการเข้าไป "เติมเต็ม" ส่วนที่หายไป ให้เต็มขึ้น หรือเพิ่มในส่วนที่ต้องการ "เสริม" อย่างเสริมจมูก เสริมคางเป็นต้น

ถ้ายังงงอยู่ คงจะสะดวกกับชีวิตที่สุดถ้าไปปรึกษากับแพทย์และให้เขาแนะนำมาเลยว่าต้องจิ้มอะไรตรงไหนบ้างนะ เข้าใจ? โอเค๊?





ก่อนที่จะจากไปในบทความนี้ มาดูกันว่าจากประสบการณ์ตรงของปูเป้ที่ฉีด BOTOX มาเป็นอย่างไรบ้างกันดีกว่า...

ปูเป้ไม่ได้ฉีด BOTOX เพื่อการลดริ้วรอย เพราะว่ามันยังไม่มีนะฮะ ป้องกันมาดีด้วยการทาครีมกันแดดมาตั้งแต่อายุ 12 และส่วนไม่ค่อยแสดงสีหน้ามากเท่าไหร่ เวลาเฉย ๆ หน้าจะนิ่ง ๆ เชิด ๆ หยิ่ง ๆ จนโดนคนเข้าใจผิดกันมาเยอะ (แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยหน้าเราก็ไม่เหี่ยวไวนะ...) จริง ๆ แล้วปูเป้หยิ่งรึเปล่า คนที่เคยสัมผัสตัวจริงก็คงตอบได้เลยฮะว่าอีนี่ "รั่ว"

จริง ๆ ปูเป้ไม่ได้คิดว่าอยากจะฉีด BOTOX มาก่อนเลย เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องทำอะไรกับตรงนี้ ก็เลยลองฉีด BOTOX เพื่อปรับรูปหน้าเพราะเป็นคนมีแก้มไง เวลาถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอก็จะดูอุดมสมบูรณ์นิดนึง ซึ่งตอนก่อนฉีด BOTOX ก็ไม่ได้สังเกตุหรอกครับ แต่พอมาสังเกตุเทียบหน้าตัวเองก่อนและหลังฉีดแล้วก็แบบว่า เมื่อก่อนทำไมหน้าเราบานได้ขนาดนี้!!!


(กดเพื่อดูวีดีโอ / 06 Feb 2011 / 26 Mar 2011 / 13 May 2011)


รูปด้านบนนี้เป็นรูปที่ปูเป้ Capture มาจากวีดีโอที่ลงใน Youtube ทั้งหมด ซึ่งทุกคนสามารถกด Link ไปดูเองได้เลยว่าแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไปนั้น หน้าปูเป้ดูเรียวขึ้นจริงๆ ทั้งที่น้ำหนักไม่ได้ลดลงเลย (เพิ่มขึ้นจาก 62.5 เป็น 65 ด้วยซ้ำไป) ปูเป้เชื่อว่าวีดีโแเหล่านี้เป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนเพราะเห็นกันจะ ๆ ไปเลยว่าไม่ได้ใช้มุมกล้องหลอกหน้าเรียวแต่อย่างใด มันเรียวเล็กลงได้แบบนั้นจริง ๆ :)



กลายเป็นว่าตอนนี้เสพติดไปแล้วฮะ พอ BOTOX เริ่มหมดฤิทธิ์นิดนึงต้องไปฉีดเติมให้มันกลับมาเล็กเรียวอีกครั้ง :D

ปูเป้มีสิ่งที่อยากจะฝากบอกถึงทุก ๆคนที่มาอ่านบทความนี้ว่า "ความงาม" เป็นสิ่งที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน อะไรก็ตามที่คุณทำแล้วรู้สึกพึงพอใจ ก็จงพอใจตามนั้น อย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นว่าฉีดมาแล้วฉีดมาแล้วไม่ดี แบบเก่าสวยกว่า เพราะนี่คือหน้าของเรา ตัวของเรา ความงามในแบบของเรา เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่หนักแน่นหรือมั่นคงในความเชื่อ มุมมอง และความคิดของตัวเอง มันมีความป็นไปได้ว่าคุณจะหลงไปกับคำพูดของคนรอบข้าง ทำให้คุณไม่มั่นใจ และอาจนำไปสู่การศัลยกรรมปรับเปลี่ยนไม่รู้จักจบ เพียงเพราะคุณไม่มี "จุดยืน" ในความงามของตัวเอง

ถ้าอยากจะสวยขึ้น หล่อขึ้น ดูดีขึ้น ขอให้คุณทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข มีความมั่นใจก็พอเถอะครับ อย่าทำเพื่อคนอื่นเลย :)

(Source : The Science of Botox - How Botox Works to Reduce Wrinkles, BOTOX Injections in Plastic Surgery , Botox injections, Is Any Cosmetic Better than BOTOX®)



เห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์ ก็ช่วยกันกดปุ่ม มุมขวาล่างเป็นกำลังใจให้ให้ปูเป้ด้วยนะคร้าบ



Create Date : 28 สิงหาคม 2554
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 19:22:20 น. 19 comments
Counter : 30058 Pageviews.

 
หน้าเรียวอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ
รุปสุดท้ายแอบเหมือนพี่นัฐเอเอฟ

ปล.ผิวคุณปูเป้ใสค่อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


โดย: jack jaa IP: 183.88.67.242 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:19:32:38 น.  

 
เราชอบเราติด และเราไม่รู้สึกว่าเกิดผลเสียใดใด ยังคงฉีดต่อไป


โดย: cinnamongal IP: 223.206.36.4 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:19:50:47 น.  

 
ตอนแรกกะจะไปฉีดลบทรีนที่หางตา แต่เห็นหน้าเรียวๆของน้องเป้แล้ว คงต้องเพิ่มอีกหนึ่งจุด 55555


โดย: พี่เก๋ alekay IP: 49.48.11.222 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:05:59 น.  

 
อยากรู้ว่า ผู้หญิงที่ให้นมบุตร สามารถฉีดได้รึป่าวค๊ะ คือลูก2ขวบแล้วแต่ยังทานนมแม่อยู่อ่ะค่ะ


โดย: ปุ๊กกี้ IP: 124.121.43.127 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:09:36 น.  

 
ยังไม่การศึกษาเรื่องผลกระทบของ BOTOX กับการให้นมบุตร เพื่อความชัวร์ ให้งดไปจนกว่าจะให้นมบุตรเสร็จครับ


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:42:04 น.  

 
หลงรักพี่ปูเป้ ทำไงดี ^-^


โดย: โบว์ IP: 202.28.248.140 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:21:51:18 น.  

 
เริ่ดค่ะ ต้องลอง หน้าเรียวจงเจริญญญญ


โดย: LittleParrot IP: 183.89.121.99 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:12:51:21 น.  

 
สุดยอดดดดดดดดดดเลยคะ ข้อมูลดี มีประโยชน์ ทำออกมาอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ
ปล.หน้าเป้ใสม๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ขอบอก


โดย: BB IP: 103.1.164.199 วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:22:37:54 น.  

 
พี่ปูเป้คะ หนูก้หน้าบานอะ แต่รู้สึกว่าหน้าบานเพราะกราม ถ้าฉีดโบทอกซ์ จะทำให้หน้าเรียวลงไหมคะ?


โดย: แจน IP: 61.90.104.65 วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:18:04:35 น.  

 
พี่ปูเป้ครับ ถ้าทำตัว"Dermal filler" มันจะไม่กลายเป็นสารตกค้างในร่างกายหรอครับ!!?? แล้วถ้าเกิดไปทำไปแล้วซักเดือนสองเดือนแล้วเกิดล้มจมูกชนขอบส้วมหรือแค่เผลอตัวบีบกดจมูก แล้วมันจะยังมีโอกาศผิดรูปป่าวอ่ะ


โดย: เครื่องบิน!! IP: 180.183.154.121 วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:20:04:34 น.  

 
ตอบคุณ "เครื่องบิน!!" (พอดีแวะมาเจอแล้วไม่มีใครตอบ ^^)

Filler คือ สาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ้งมีอยู่ในร่างกายทั้งคนและสัตว์ เพราะฉะนั้นหายห่วงครับ ไม่มีสารตกค้างอย่างแน่นอน

ส่วนหลังฉีด 2 เดือนแล้วตรงบริเวณที่ฉีดโดนกระแทก ผมว่าถ้ากระแทกแรงๆอาจมีบุ๋มครับ แต่ถ้าเผลอตัวบีบหรือกดจมูกอันนี้ไม่บุ๋มหรือผิดรูปทรงครับ เพราะ filler จะอยู่ทรงหลังจากฉีดไปแล้ว 2 สัปดาห์ ^^


โดย: นุ IP: 180.183.29.137 วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:2:12:38 น.  

 
คนเป็นไทรอยด์ ฉีดได้ไหมคะ


โดย: M IP: 124.121.125.3 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:19:51 น.  

 
ไม่ทราบว่าคุณหมอที่ทำให้อยุ่สาขาไหนค่ะ



โดย: Jei IP: 110.171.0.71 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:14:38:07 น.  

 
อยากทราบว่า เราไม่ควรฉีด HA เข้าไปในร่างกายเกินกี่ % ค่ะ


โดย: แป้ง IP: 202.28.7.22 วันที่: 3 ธันวาคม 2556 เวลา:18:03:57 น.  

 
รบกวนถามหน่อยนะค่ะ คือว่าหนูไปฉีดBotoxมาได้ 2 วันแล้วไปทำ IPL มันจะมีผลข้างเคียงอะไรมากป่าวค่ะ ตัวยาจะสลายการทำงานมากไหมค่ะ กลัวมากค่ะ


โดย: พู IP: 49.230.165.198 วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:7:40:22 น.  

 
คุณปูเป้ไปฉีดร้านไหนมาคะ แนะนำด้วย กลัวไปเจอของปลอม


โดย: ipanda IP: 27.55.222.64 วันที่: 31 มกราคม 2558 เวลา:15:44:25 น.  

 
สุดยอดมากค่ะ ได้ความรู้มากๆ ก่อนจะตัดสินใจทำโบ 👍🏼👍🏼👍🏼


โดย: พี่แตน IP: 115.87.1.202 วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:11:05:55 น.  

 
ขอถามค่ะ โรคไทรอยด์เป็นพิษ สามารถฉีดโบท๊อก และ ฟิวเล่อ ได้หรือไหมค่ะ

อาการ มาเจอตอนตั้งท้องค่ะ และกินยามาตลอดจนน้องอายุได้ 6 เดือน ก็หยุดยามาตลอด จนตอนนี้น้องอายุ 4 ปีแล้วค่ะ


โดย: กุลณสร สามสี IP: 223.207.194.156 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:14:16:04 น.  

 
The goddess Katyayani is honored on the sixth day of Navratri. She was Katyan's daughter. The Mahishasurmardini is a popular name for the goddess Katyayani. She is the goddess of wisdom and harmony. The four-handed riding of Maa Katyayani. She alights a lion. The lotus and mudra are held in the hands. This variety of maa is extremely aggressive and vicious.

https://healthylifehuman.com/sixth-day-of-navratri/


โดย: pallavi IP: 49.36.144.6 วันที่: 14 กันยายน 2565 เวลา:13:38:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.