Bloggang.com : weblog for you and your gang
"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
<<
สิงหาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 สิงหาคม 2554
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic
All Blogs
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2015
[Beauty Talk] Kiehls Dermatologist Solutions 10 Years Anniversary
[Beauty Talk] Botox - Filler ฉีดแล้วสวย กับ ฉีดแล้วซวย ต่างกันอย่างไร
[Beauty Talk] Rii Pure Wata Cotton Pads สำลีธรรมชาติไม่ฟอกสีแสนอ่อนโยน
[Beauty Talk] Scotch Collagen-LeffUp
[Beauty Talk] Start Better with Clinique
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2014
[Beauty Talks] Rii Less Toner 52 สำลีประหยัดโทนเนอร์ ไม่เป็นขุย
[Beauty Talk] Clarins V Shape Challenge
[Beauty Talk] Belif Essence
[Beauty Talk] L'Oréal Revitalift Laser X3
[Beauty Talk] eMAX Facial Rejuvenation (IPL+RF) at Meko Clinic
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2013
[Beauty Talk] 3 Musketeers from Jergens for this winter
[Beauty Talk] One of my best skin treatment experience at Clarins Skin Spa
[Beauty Talk] Aveda lands in Bangkok
[Beauty Talk] BRAND'S InnerShine RubySignature Essence
[Beauty Talk] Cottage Happy Shower Series
[Beauty Talk] Crabtree & Evelyn Somerset Meadow Bath & Body Collection
[Beauty Talk] Scotch Collagen-Aora
[Beauty Talk] It's a soap? No, it's Dove!!!
[Beauty Talk] มอบของขวัญที่ตราตึงแน่นในความทรงจำ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก Crabtree & Evelyn
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2012
[Preview] Pure Beauty : Pomegranate
[Trend] BRANDS InnerShine Marine Collagen Essence Strip
[Trend] "ฟันขาวสะอาด" อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้
[Beauty Talk] Lancome Genifique VS L'Oreal Youth Code
[Product Testing] Babi Mild Sweety Pink Plus
[Beauty Talk] PuPe's Five Favorite Item of Year 2011
[Beauty Talk] "รวม 16 สุดยอดไอเทมสุดกรี๊ดแห่งปีจาก 16 บล็อกเกอร์สุดแซ่บ"
[Product Testing] LANCOME : Renergie Yeux Multiple Lift Ultimate Rejuvenating Eye Duo
[Product Testing] Renokin : Hair Revitalizing Series
[Beauty Talks] SK-II 2011 Festive Set
[Beauty Talk] Hair-Removal Laser with Immagini Clinic & Daisy Diva Clinic
[Product Testing] The Body Shop : Rainforest Radiance Shampoo & Conditioner
[Product Testing] Bioderma : Sébium Purifying Foaming gel
[Product Testing] Kanebo : Impress IC White line
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Fresh Cosmetic" คืออะไร?
มาเช็คปัญหาริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 8 จุดสำคัญกันเถอะ
เมื่อพิราบขาวบุกตลาดเสริมหล่อสำหรับท่านชายด้วย DOVE Men +Care
[Beauty Talk] Dermal Filler with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Biotherm" not just 'Spring Water' in a jar
'Lancôme Rénergie Lift Volumetry' The new way to defy gravity?
Interview with "LIM Siok Hua" Kiehl's Training Manager
"Aviance UV Expert" Mission : 3rd Week
My heaven @ 'My Spa'
"Aviance UV Expert" Mission : 2nd Week
"Aviance UV Expert" Mission : 1st Week
'PuPe_so_Sweet' Skincare Regiment January 2010
[News] Reveal Your Skin with Olay
[ Preview ] New!!! OLAY White Radiance Intensive Brightening Serum & OLAY Natural White
Beauty Freak : Episode 2
PuPe_so_Sweet 'on' Buzzidea.tv
Happy Birthday to ME!!!
PuPe_so_Sweet on Video!!!
เรื่องเสียเงิน เสียสุขภาพจิต และเสียโฉม ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา...
รีวิว "กันแดด" ที่ลองใช้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
การอ่าน Ingredients List นั้นจำเป็น... แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง
[Cosmetics] Beauty Talks ปิดท้ายเดือนมกราคม
Shopping ฉลองปีใหม่ + รีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ + เอารูปที่ถ่ายเอาไว้มาให้ชม
"แว่นขยาย" อุปกรณ์ที่จำเป็นชิ้นใหม่ & Mini Review ส่งท่ายปีเก่า
"อย่าหมิ่นเงินน้อย" + โรค "ชอบลอง" กำเริบ / เปิดกล่อง Pre Order
[Cosmetics] ของฝากจากพี่ซินดี้ (รอบสอง)
[Cosmetics] เปิดกล่อง Paula's Choice & ของฝากจาก "พี่ซินดี้"
[Cosmetics] Skincare Regiment Update (31/August/2008)
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic
หลังจากที่คราวก่อนได้ทำบทความเรื่องการทำ
Dermal Filler
ไปแล้ว ใครที่ได้อ่านมาก็คงจะจำได้ว่าปูเป้ก็ได้ลองทำ BOTOX ดูด้วยเหมือน ซึ่งปูเป้รออยู่นานกว่าครึ่งปีเพื่อดูผลของการฉีดที่สมบูรณ์ก่อนที่จะนำประสบการณ์รวมถึงข้อมูลที่ได้ศึกษานำมาเล่าต่อให้กับทุกคนในวันนี้
การฉีด BOTOX ในครั้งนี้ปูเป้ไปทำที่
Immagini Clinic & Daisy Diva Clinic
เช่นเคย ใครที่สนใจลองใช้บริการก็ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสอบถามข้อมูลกันทาง Facebook หรือโทรศัพท์ไปสอบถามทางคลีนิกได้ด้วยตนเองเลย ส่วนใครที่อยากเห็นการฉีด BOTOX และ Dermal Filler เขาทำกันยังไง ลองกดวีดีโอด้านล่างเพื่อชมได้เลย (มีภาพหวาดเสียวนิดนึงนะฮะ เตือนไว้ก่อน)
BOTOX คืออะไร?
เห็นเรียกกันจนติดปาก แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าจริงๆ แล้วคำว่า
BOTOX นั้นเป็น "ชื่อทางการค้า" หรือ "ยี่ห้อ" ของสารที่มีชื่อว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา
Botulinum Toxin Type A
เป็นสารพิษที่ได้จากเชื้อแบคทีเรีย
Clostridium Botulinum
โดยในความเข้มข้นที่สูงนั้นจัดว่าเป็นสารพิษที่อันตรายมากทีเดียวเชียวล่ะ แต่เจ้า BOTOX ที่เราฉีดเข้าไปในหน้าหรือร่างกายเราเนี่ยเป็นแบบที่นำมาเจือจางเหมาะสมแล้ว ไม่เป็นอันตราย (แต่ถ้าฉีดเกิน 3,000 ยูนิต อาจไปสวยในโลงแทนได้ ทว่าไม่มีใครฉีดถึง 3,000 ยูนิตได้หรอกครับ ไม่ต้องกังวลไปนะ)
BOTOX ของบริษัท Allergan เป็นสาร Botulinum Toxin Type A ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติโดย FDA ของอเมริกาเพื่อใช้ทางการแพทย์เมื่อปี 1989 - 2001 เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้ออย่าง ตาเหล่ หรือแม้แต่การลดการผลิตเหงื่อใต้วงแขน และเมื่อปี 2002 ก็พึ่งได้ไฟเขียวสำหรับการนำ BOTOX มาเพื่อใช้ในการเสริมความงาม ปัจจุบันการฉีด BOTOX เป็นหนึ่งในการศัลยกรรมความงามที่ไม่ใช่การผ่าตัดที่ได้รับความนิยมที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดด้วย
ได้ยินว่ามี BOTOX เกาหลี หรือ BOTOX อังกฤษด้วย... เริ่มงงแล้วว่ามันต่างกับ BOTOX ของอเมริกายังไง?
อย่างที่บอกไปแล้วว่า BOTOX เป็นชื่อทางการค้า หรือยี่ห้อ ของสารที่ชื่อว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งมีบริษัท Allergan ของประเทศ "สหรัฐอเมริกา" เป็นผู้ผลิต อะไรก็ตามที่ไม่ได้ผลิตจากบริษัทจากบริษัท Allergan ประเทศ อเมริกา ไม่สามารถที่จะเรียกว่า BOTOX ได้นะฮะ
Botulinum Toxin Type A ที่มาจากอังกฤษมีชื่อทางการค้าว่า
Dysport
ผลิตโดยบริษัท Ipsen ได้รับการอนุมัติจาก FDA หลังจาก BOTOX อีกที ส่วนที่มาจากเกาหลีเป็นยี่ห้อน้องใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า
Neuronox
ของบริษัท Medy-Tox พึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA เมื่อไม่นานมานี้เอง
ในเรื่องของความน่าเชื่อถือ BOTOX ถือว่ามีมากสุดเพราะว่าเป็นเจ้าแรกและมีการวิจัยสนับสนุนมากมาย ในแง่ของความแตกต่างนั้นหลังจากที่ได้สอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือคุณหมอที่สัมผัสกับตรงนี้บ่อย ๆ ท่านให้ความเห็นว่า BOTOX จะเหมาะมากกับการใช้ในจุดที่ต้องการความแม่นยำอย่างกลุ่มกล้าเนื้อเล็ก ๆ บนใบหน้า เพราะมีการกระจายตัวของยาที่น้อยกว่า Dysport ส่วนการใช้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างอย่างบริเวณน่องอาจจะต้องใช้ Dysport เพราะมีการกระจายตัวที่มากกว่า ซึ่งการเลือกใช้ตัวยาที่ต่างกันนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชี่ยวชาญของแพทย์จ้า
ส่วนเรื่อง Neuronox ของเกาหลีเนี่ยมันมีข้อดีตรงที่ต้นทุนถูกที่สุด (BOTOX แพงที่สุด) นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมค่าใช้จ่ายในการฉีดของแต่ละคลีนิคนั้นถึงได้ ถูก-แพง ไม่เท่ากัน และจากประสบการณ์ของแพทย์ที่ใช้เทียบกันจะพบว่า Neuronox มีผลอยู่ได้ไม่นานเท่า Botox และ Dysport
ดังนั้นถ้าเห็นราคาค่าฉีด BOTOX ที่ถูกมากจนน่าแปลกใจ อาจจะตั้งข้อสังเกตุเอาไว้ว่าสิ่งที่ฉีดเข้าไปอาจไม่ใช่ BOTOX ก็ได้นะฮะ ให้สอบถามและขอดูตัวยาที่จะฉีดเข้าไปให้ชัวร์ว่าใช่ยี่ห้อ BOTOX ของ Allergan USA รึเปล่า เพราะถ้าไม่ใช่เขาไม่ควรบอกแต่แรกว่าเป็นการฉีด BOTOX ครับ :P
Botulinum Toxin Type A ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของ Botulinum Toxin นั้น ถ้าอธิบายให้ง่ายที่สุดก็คือการทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดหรือบริเวณที่ฉีดเข้าไปเป็น "อัมพาต" เมื่อกล้ามไม่สามารถที่จะขยับหรือหดตัวได้มันจึงคลายตัวออก ส่งผลให้ริ้วรอยย่นที่เกิดขึ้นจากการขยับหรือหดเกร็งของกล้ามเนื้อนั้นหายไปนั่นเอง
ถ้าเอาแบบให้งงมากขึ้นอีกหน่อยก็อธิบายได้ว่า ทันทีที่สาร Botulinum Toxin Type A เข้าไปถึงส่วนของปลายประสาท มันจะไปโจมตีโปรตีนสามชนิด ( VAMP กับ Syntaxin และ SNAP-25) ซึ่งสัมพันธ์กับหลั่ง Acetylcholine ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท (Neurotransmitter) ที่รับผิดชอบเรื่องการความคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ผลก็คือกล้ามเนื้อในจุดนั้นจะเป็น "อัมพาต" นั่นเอง (งงดีมะ)
BOTOX ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
นอกจากใช้รักษาโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อแล้ว การใช้ BOTOX เพื่อการเสริมความงามก็ได้แก่
- "ลดริ้วรอย" ที่เกิดขึ้นจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและการแสดงอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก หัวคิ้ว หางตา รวมถึงการใช้เพื่อยกกระชับใบหน้าเป็นต้น
- "ปรับรูปหน้า" กล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวบริเวณแนวกรามเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ใครที่ชอบกินของที่เคี้ยวยากบ่อย ๆ กล้ามเนื้อก็แข็งแรงเป็น "มัด" เป็น "ก้อน" ใหญ่ ๆ การฉีด BOTOX เข้าไปตามจุดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมจะไปทำให้กล้ามเนื้อก้อนใหญ่ ๆ นั้นคลายตัวลง รูปหน้าก็จะดูเล็ก ดูเรียวขึ้นได้ ถ้าใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบางจุดที่คอก็ทำให้ลำคอดูเรียวขึ้นได้ด้วยนะ
- "ทำขาเรียว" ก็คือการฉีดไปที่กล้ามเนื้อให้มันฝ่อลง ลีบลง ขาก็จะดูเรียวขึ้นได้
มีการ BOTOX ไปใช้เรื่องอื่นอีกหลายอย่าง แต่ที่เห็นบ่อย ๆ จะมีเท่านี้แหล่ะจ้า
มีผลข้างเคียงในการฉีด BOTOX รึเปล่า?
ขอบอกเลยว่ามี อย่างแรกเลยคือจนลงแน่นอนเพราะการฉีด BOTOX ก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย อย่าที่สองคือถ้าฉีดกับหมอที่ไม่เชี่ยวชาญพอ (หรือพวกหมอเถื่อนที่ไปฉีดกันเองตามห้องพักหรือตามรถอย่างที่ออกข่าว) การฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่ผิดจุดหรือปริมาณยาที่มากเกินไป อาจมีผลข้างเคียงตนั้งแต่การทำให้มุมปากตก หนังตาย้อย รูปหน้าเสียทรงหรือดูไม่เท่ากัน หรืออาจทำให้เป็นคนหน้าตาย แสดงสีหน้าไม่ค่อยจะได้
ผลข้างเคียงอื่น ๆที่พบได้และไม่ร้ายแรงก็ก็อย่างเช่น "เมื่อย" โดยเฉพาะคนที่ไปฉีด BOTOX ปรับรูปหน้ามา อาจจะรู้สึกเมื่อย ๆ เวลาเคี้ยวได้ (ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการคุมน้ำหนักก็ได้นะ เพราะจะรู้สึกว่ากินอะไรลำบากขึ้น)
ส่วนผลข้างเคียงถึงแก่ชีวิตนั้นไม่ต้องกังวลไป เพราะคงไม่มีใครฉีดถึง 3,000 ยูนิตอยู่แล้ว...
การฉีด BOTOX จะออกฤิทธิ์ได้นานแค่ไหน?
ผลของการฉีด BOTOX นั้นเป็นผลชั่วคราวเท่านั้น จะเริ่มเห็นผลจของการฉีดอย่างชัดเจนหลักจาก 2 - 4 สัปดาห์ และจะมีผลอยู่ได้ประมาณ 2 - 6 เดือน ในครั้งแรกที่ฉีด ขึ้นอยู่กับปริมาณ และตำแหน่งที่ฉีดอีกด้วย กล้ามเนื้อจุดเล็ก ๆ หรือจุดที่เราใช้งานมันบ่อย ๆ ก็อาจจะอยู่ได้ไม่นานมาก (รอบดวงตา ปีกจมูก)
การฉีดเติมก่อนที่ผลของ BOTOX จะสลายไปหมด จะช่วยทำให้ผลของมันอยู่ได้นานขึ้นด้วยนะ เพราะเหมือนกับการระงับการใช้งานของกล้ามเนื้อติดต่อกัน มันก็จะกลับคืนมาช้าลงด้วยเช่นกัน
ค่าใช้จ่ายในการทำ BOTOX แพงไหม?
หลายพันยันหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดเข้าไป (รวมถึงยี่ห้อของ Botulinum Toxin ด้วย) ได้โปรดอย่าถามว่าค่าฉีดเท่าไหร่ ที่ไหนถูกสุด เพราะมันแตกต่างกันไปในแต่ละคน ถ้าคุณต้องฉีดปริมาณเยอะมันก็แพง ถ้าฉีดปริมาณน้อยมันก็ถูก ซึ่งตรงนี้คุณหมอจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจว่าควรจะฉีดมาก-น้อยเท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายเท่าใด
ย้ำว่าอย่ามาถามปูเป้ว่าค่าฉีดเท่าไหร่เพราะตอบให้ไม่ได้ เข้าใจ๋!!!!!
หลังจากฤิทธิ์ของ BOTOX หมดไปแล้ว ริ้วรอยจะกลับมาเป็นมากขึ้นรึเปล่า?
ถ้าหมายถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการใช้กล้ามเนื้อล่ะก็ ไม่เพิ่มขึ้นหรอกครับ ดีไม่ดีจะเป็นการป้องกันการเกิดริ้วรอยจากการแสดงอารณ์ไม่ให้เพิ่มขึ้นด้วยนะ
ตอนฉีดนั้นเจ็บรึเปล่า?
ปูเป้จะไม่โกหกว่ามันไม่เจ็บเลยหรอกนะ แต่มันไม่เจ็บมากจนถึงขั้นทนไม่ได้จะเป็นจะตายหรอก ถ้ากลัวเจ็บก็มียาชาให้ทาด้วยนะ เอาเป็นว่าเคยไปฉีดวัคซีนกันมั๊ย? มันเจ็บน้อยกว่านั้นอีก
อ้อ... แต่ถ้าจุดที่ฉีดมีเส้นประสาทรวมอยู่เยอะ อย่างปีกจมูกเนี่ย เตรียมใจไว้หน่อยก็ดีนะฮะ....
การดูแลตัวเองหลังฉีด BOTOX
ถ้าฉีดบริเวณใบหน้าครึ่งบน ห้ามนอนราบประมาณ 4 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภันฑ์บำรุงผิวที่อาจจะระคายเคืองผิวได้ (AHA / BHA หรือพวกกรดต่างๆ ) ภายใน 1 วันหลังการฉีด
ในช่วง 2 สัปดาห์แรก "ห้าม" นวดหน้า ความร้อน ห้องสตรีม ซาวน่า เลเซอร์ IPL และทุกสิ่งอย่างที่จะก่อให้เกิดความร้อนที่ทำให้ตัวยาสลาย หรือการนวดที่ก่อให้เกิดการกระจายตัวของตัวยาไปยังที่ ๆ ไม่ต้องการ
การฉีด BOTOX ไมได้ป้องกันริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการลด หด หายไปของคอลาเจน และมวลไขมัน ที่เป็นเหมือนกับโครงสร้างค้ำยันของผิว คุณจำเป็นต้องทายากันแดดรวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ เพื่อชะลอความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผิวอีกอยู่ดี
เครื่องสำอางที่บอกว่าใช้ทดแทนการทำ BOTOX ได้มัน Work จริงหรอ?
ไม่มีเครื่องสำอางใด ๆที่ให้ผลได้เหมือน BOTOX จากการ "ทา" เหตุผลนั้นง่ายมากเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ส่วนผสมที่อยู่ในเครื่องสำอางจะไปทำงานลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อได้ (มันซึมไปไม่ถึงหรอก) และสมมุติว่าหากมันสามารถซึมลงไปถึงกล้ามเนื้อได้จริง เราจะไปควบคุมให้มันทำงานเฉพาะกล้ามเนื้อที่ต้องการได้ยังไงมิทราบ?
สรุปว่า BOTOX มันต่างกับ Dermal-Filler ยังไง?
ถ้าอ่านมาทั้งสองบทความจนถึงตอนนี้แล้วยังถามแบบนี้อีก มันน่าจับตีซะจริงๆ !!!
เทียบง่าย ๆ ว่า BOTOX ทำงานที่กล้ามเนื้อ ใช้รักษาปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
Dermal-Filler คือการเข้าไป "เติมเต็ม" ส่วนที่หายไป ให้เต็มขึ้น หรือเพิ่มในส่วนที่ต้องการ "เสริม" อย่างเสริมจมูก เสริมคางเป็นต้น
ถ้ายังงงอยู่ คงจะสะดวกกับชีวิตที่สุดถ้าไปปรึกษากับแพทย์และให้เขาแนะนำมาเลยว่าต้องจิ้มอะไรตรงไหนบ้างนะ เข้าใจ? โอเค๊?
ก่อนที่จะจากไปในบทความนี้ มาดูกันว่าจากประสบการณ์ตรงของปูเป้ที่ฉีด BOTOX มาเป็นอย่างไรบ้างกันดีกว่า...
ปูเป้ไม่ได้ฉีด BOTOX เพื่อการลดริ้วรอย เพราะว่ามันยังไม่มีนะฮะ ป้องกันมาดีด้วยการทาครีมกันแดดมาตั้งแต่อายุ 12 และส่วนไม่ค่อยแสดงสีหน้ามากเท่าไหร่ เวลาเฉย ๆ หน้าจะนิ่ง ๆ เชิด ๆ หยิ่ง ๆ จนโดนคนเข้าใจผิดกันมาเยอะ (แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยหน้าเราก็ไม่เหี่ยวไวนะ...) จริง ๆ แล้วปูเป้หยิ่งรึเปล่า คนที่เคยสัมผัสตัวจริงก็คงตอบได้เลยฮะว่าอีนี่ "รั่ว"
จริง ๆ ปูเป้ไม่ได้คิดว่าอยากจะฉีด BOTOX มาก่อนเลย เพราะไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องทำอะไรกับตรงนี้ ก็เลยลองฉีด BOTOX เพื่อปรับรูปหน้าเพราะเป็นคนมีแก้มไง เวลาถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอก็จะดูอุดมสมบูรณ์นิดนึง ซึ่งตอนก่อนฉีด BOTOX ก็ไม่ได้สังเกตุหรอกครับ แต่พอมาสังเกตุเทียบหน้าตัวเองก่อนและหลังฉีดแล้วก็แบบว่า เมื่อก่อนทำไมหน้าเราบานได้ขนาดนี้!!!
(กดเพื่อดูวีดีโอ /
06 Feb 2011
/
26 Mar 2011
/
13 May 2011
)
รูปด้านบนนี้เป็นรูปที่ปูเป้ Capture มาจากวีดีโอที่ลงใน Youtube ทั้งหมด ซึ่งทุกคนสามารถกด Link ไปดูเองได้เลยว่าแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไปนั้น หน้าปูเป้ดูเรียวขึ้นจริงๆ ทั้งที่น้ำหนักไม่ได้ลดลงเลย (เพิ่มขึ้นจาก 62.5 เป็น 65 ด้วยซ้ำไป) ปูเป้เชื่อว่าวีดีโแเหล่านี้เป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนเพราะเห็นกันจะ ๆ ไปเลยว่าไม่ได้ใช้มุมกล้องหลอกหน้าเรียวแต่อย่างใด มันเรียวเล็กลงได้แบบนั้นจริง ๆ :)
กลายเป็นว่าตอนนี้เสพติดไปแล้วฮะ พอ BOTOX เริ่มหมดฤิทธิ์นิดนึงต้องไปฉีดเติมให้มันกลับมาเล็กเรียวอีกครั้ง :D
ปูเป้มีสิ่งที่อยากจะฝากบอกถึงทุก ๆคนที่มาอ่านบทความนี้ว่า "ความงาม" เป็นสิ่งที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน อะไรก็ตามที่คุณทำแล้วรู้สึกพึงพอใจ ก็จงพอใจตามนั้น อย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นว่าฉีดมาแล้วฉีดมาแล้วไม่ดี แบบเก่าสวยกว่า เพราะนี่คือหน้าของเรา ตัวของเรา ความงามในแบบของเรา เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่หนักแน่นหรือมั่นคงในความเชื่อ มุมมอง และความคิดของตัวเอง มันมีความป็นไปได้ว่าคุณจะหลงไปกับคำพูดของคนรอบข้าง ทำให้คุณไม่มั่นใจ และอาจนำไปสู่การศัลยกรรมปรับเปลี่ยนไม่รู้จักจบ เพียงเพราะคุณไม่มี "จุดยืน" ในความงามของตัวเอง
ถ้าอยากจะสวยขึ้น หล่อขึ้น ดูดีขึ้น ขอให้คุณทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข มีความมั่นใจก็พอเถอะครับ อย่าทำเพื่อคนอื่นเลย :)
(Source :
The Science of Botox - How Botox Works to Reduce Wrinkles
,
BOTOX Injections in Plastic Surgery
,
Botox injections
,
Is Any Cosmetic Better than BOTOX®
)
เห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์ ก็ช่วยกันกดปุ่ม
มุมขวาล่างเป็นกำลังใจให้ให้ปูเป้ด้วยนะคร้าบ
Create Date : 28 สิงหาคม 2554
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 19:22:20 น.
18 comments
Counter : 29063 Pageviews.
Share
Tweet
หน้าเรียวอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ
รุปสุดท้ายแอบเหมือนพี่นัฐเอเอฟ
ปล.ผิวคุณปูเป้ใสค่อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โดย: jack jaa IP: 183.88.67.242 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:19:32:38 น.
เราชอบเราติด และเราไม่รู้สึกว่าเกิดผลเสียใดใด ยังคงฉีดต่อไป
โดย: cinnamongal IP: 223.206.36.4 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:19:50:47 น.
ตอนแรกกะจะไปฉีดลบทรีนที่หางตา แต่เห็นหน้าเรียวๆของน้องเป้แล้ว คงต้องเพิ่มอีกหนึ่งจุด 55555
โดย: พี่เก๋ alekay IP: 49.48.11.222 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:05:59 น.
อยากรู้ว่า ผู้หญิงที่ให้นมบุตร สามารถฉีดได้รึป่าวค๊ะ คือลูก2ขวบแล้วแต่ยังทานนมแม่อยู่อ่ะค่ะ
โดย: ปุ๊กกี้ IP: 124.121.43.127 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:09:36 น.
ยังไม่การศึกษาเรื่องผลกระทบของ BOTOX กับการให้นมบุตร เพื่อความชัวร์ ให้งดไปจนกว่าจะให้นมบุตรเสร็จครับ
โดย:
PuPe_so_Sweet
วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:20:42:04 น.
หลงรักพี่ปูเป้ ทำไงดี ^-^
โดย: โบว์ IP: 202.28.248.140 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:21:51:18 น.
เริ่ดค่ะ ต้องลอง หน้าเรียวจงเจริญญญญ
โดย: LittleParrot IP: 183.89.121.99 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:12:51:21 น.
สุดยอดดดดดดดดดดเลยคะ ข้อมูลดี มีประโยชน์ ทำออกมาอีกนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ
ปล.หน้าเป้ใสม๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ขอบอก
โดย: BB IP: 103.1.164.199 วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:22:37:54 น.
พี่ปูเป้คะ หนูก้หน้าบานอะ แต่รู้สึกว่าหน้าบานเพราะกราม ถ้าฉีดโบทอกซ์ จะทำให้หน้าเรียวลงไหมคะ?
โดย: แจน IP: 61.90.104.65 วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:18:04:35 น.
พี่ปูเป้ครับ ถ้าทำตัว"Dermal filler" มันจะไม่กลายเป็นสารตกค้างในร่างกายหรอครับ!!?? แล้วถ้าเกิดไปทำไปแล้วซักเดือนสองเดือนแล้วเกิดล้มจมูกชนขอบส้วมหรือแค่เผลอตัวบีบกดจมูก แล้วมันจะยังมีโอกาศผิดรูปป่าวอ่ะ
โดย: เครื่องบิน!! IP: 180.183.154.121 วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:20:04:34 น.
ตอบคุณ "เครื่องบิน!!" (พอดีแวะมาเจอแล้วไม่มีใครตอบ ^^)
Filler คือ สาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ้งมีอยู่ในร่างกายทั้งคนและสัตว์ เพราะฉะนั้นหายห่วงครับ ไม่มีสารตกค้างอย่างแน่นอน
ส่วนหลังฉีด 2 เดือนแล้วตรงบริเวณที่ฉีดโดนกระแทก ผมว่าถ้ากระแทกแรงๆอาจมีบุ๋มครับ แต่ถ้าเผลอตัวบีบหรือกดจมูกอันนี้ไม่บุ๋มหรือผิดรูปทรงครับ เพราะ filler จะอยู่ทรงหลังจากฉีดไปแล้ว 2 สัปดาห์ ^^
โดย: นุ IP: 180.183.29.137 วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:2:12:38 น.
คนเป็นไทรอยด์ ฉีดได้ไหมคะ
โดย: M IP: 124.121.125.3 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:19:51 น.
ไม่ทราบว่าคุณหมอที่ทำให้อยุ่สาขาไหนค่ะ
โดย: Jei IP: 110.171.0.71 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:14:38:07 น.
อยากทราบว่า เราไม่ควรฉีด HA เข้าไปในร่างกายเกินกี่ % ค่ะ
โดย: แป้ง IP: 202.28.7.22 วันที่: 3 ธันวาคม 2556 เวลา:18:03:57 น.
รบกวนถามหน่อยนะค่ะ คือว่าหนูไปฉีดBotoxมาได้ 2 วันแล้วไปทำ IPL มันจะมีผลข้างเคียงอะไรมากป่าวค่ะ ตัวยาจะสลายการทำงานมากไหมค่ะ กลัวมากค่ะ
โดย: พู IP: 49.230.165.198 วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:7:40:22 น.
คุณปูเป้ไปฉีดร้านไหนมาคะ แนะนำด้วย กลัวไปเจอของปลอม
โดย: ipanda IP: 27.55.222.64 วันที่: 31 มกราคม 2558 เวลา:15:44:25 น.
สุดยอดมากค่ะ ได้ความรู้มากๆ ก่อนจะตัดสินใจทำโบ 👍🏼👍🏼👍🏼
โดย: พี่แตน IP: 115.87.1.202 วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:11:05:55 น.
ขอถามค่ะ โรคไทรอยด์เป็นพิษ สามารถฉีดโบท๊อก และ ฟิวเล่อ ได้หรือไหมค่ะ
อาการ มาเจอตอนตั้งท้องค่ะ และกินยามาตลอดจนน้องอายุได้ 6 เดือน ก็หยุดยามาตลอด จนตอนนี้น้องอายุ 4 ปีแล้วค่ะ
โดย: กุลณสร สามสี IP: 223.207.194.156 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:14:16:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ให้ทิปเจ้าของ Blog
[
?
]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [
?
]
Advertisement
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ
Web Counter
Counter Start on 29 September 2008
Search by Google
ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ
Custom Search
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
รุปสุดท้ายแอบเหมือนพี่นัฐเอเอฟ
ปล.ผิวคุณปูเป้ใสค่อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด