1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
'PuPe_so_Sweet' Skincare Regiment January 2010
สวัสดีปีใหม่ขอรับทุกท่าน หวังว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาคงจะได้หยุดพักผ่อนกันอย่างเต็มที่เพื่อเตรียม ตัวให้พร้อมกับการเรียนและการงานในปีนี้ ปูเป้ก็ไมได้ไปเที่ยวไหนเลย ขอรับ จะว่าไปแล้วกระผมยังไม่ได้หยุดเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะหลังจากจบงาน KCR ที่เซ็นทรัลชิดลมเมื่อวันที่ 5 มกราคม (ทำยาวตั้งแต่ 15 ธันวาคม) กระผมก็ต้องทำงานอื่นต่อเลยทันที เฮ้อ... เหนื่อย จริง ๆ Skincare Regiment อันนี้ลงใน pantip.com ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน กะว่าจะทยอยเอาลง Blog แต่ก็ยังได้อัพเดทเสียทีเพราะติดงานไปเป็น Training ให้กับพนักงานขายเครื่องสำอาง (แบรนด์ไหนนี่เราไม่ขอบอก) นึกว่าจะได้หยุดพักสบาย ๆ แต่พอดีมีงาน Part-Time ที่ kiehl's เข้ามาก็เลยตกลงรับงานไป (จะได้มีเงินไปญี่ปุ่น มีนา - เมษานี้กับเพือน ๆ) ได้ไปทำงานในแผนกเครื่องสำอางนี่เป็นอะไรที่สนุกมาก ได้นั่งคุยกับ BA เคาเตอร์ข้างเคียง คุยนกับแคชเชียร์ ก็ได้ความรู้และเรื่องราวสนุกสนานมากมาย มีข้อมูลมาเขียนบล้อกเขียนหนังสือได้อีกเป็นกระบุง (ถ้ามีเวลามาเขียนนะ...) โอเค ไม่พูดพล่ามทำเพลงมากแล้ว ขออัพเดท skincare ที่กระผมใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ละกัน หลังจากได้อัพบล้อกคุยเรื่องเปื่อยในวันหยุด มีรูปห้องของกระผมที่ท่วมล้นไปด้วยเครื่องสำอางให้ดูกัน ก็มีคำถามร่อนมาทาง MSN และ E-mail เยอะแยะมากมายว่า "ต้องมีเครื่องสำเยอะมากขนาดนี้ถึงจะมีผิวดีได้งั้นหรือ?" "ต้องโปะหน้าเป็นสิบชั้นก่อนออกจากบ้านทุกวันถึงจะหน้าใสได้ใช่ไหม?" จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยขอรับ เครื่องสำอางมากมายในห้องนั้น ซื้อมาเองบ้าง ได้รับบริจาคจากผู้อ่านบ้าง บริษัทผู้ผลิต/จัดจำหน่าย/ฝ่าย PR ส่งมาให้ลองบ้าง เพื่อเก็บข้อมูลทำรีวิวเท่านั้น แต่ของที่ปูเป้ใช้เองในแต่ละวันนั้น Basic ขอรับ ไม่ได้โปะเป็นสิบชั้นอย่างที่เข้าใจผิดกันเลย มาดูกันดีกว่าว่าปูเป้ใช้เครื่องสำอางอะไรบ้างในแต่ละวันDAY REGIMENT Step 1 "Clean" Acne Aid : Gentle Cleanser ตอน เช้าผิวหน้าของเราไมได้สกปรกอะไรมาก ใช้ Cleanser ธรรมดา หรือตัวที่อ่อนๆ อย่าง Cetaphil หรือ Physiogel ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปนวด Oil หรือหาตัว Cleansing เช็ดเครื่องสำอางมาใช้ในตอนนี้ก็ได้
เห็นมีคนถามกันมาหลายคนละว่าตอนเช้าต้องใช้ Cleansing ล้างเครื่องสำอางรึเปล่า??? แหม่... เราทา skincare นะจ๊ะ ไม่ใช่โบกคอนกรีตเข้านอน แค่ cleanser ธรรมดาก็ล้างออกแล้ว จะใช้ Oil ใช้ตัวเช็ดเครื่องสำอางทำพระแสงของ้าวอะไรจ๊ะ (เว้นแต่ใครจะชอบทำตัวเหมือนนางเอกละครหลังข่าวที่เข้านอนแล้วยังแต่งหน้าฉ่ำโบ๊ะ แก้มชมพู ปากแดง ขนตากรีดเป็นแพยาวแปดเมตร... นั่นก็อีกเรื่องเนอะ) บาง คนอาจสงสัยว่าทำไมปูเป้ปันใจไปจาก One Step Cleanser ของป้าพอลล่า... จริงๆ ป้าพอลล่าก็ยังใช้ได้ดี แต่ใช้มาเกือบ 3 ปี มันก็เหมือนน้ำพริกถ้วยเก่าที่ไม่เร้าใจให้หวือหวาอีกแล้ว Acne Aid : Gentle Cleanser ราคาประมาณ 150 บาท ปริมาณ 100 ml เทียบแล้วถูกกว่าของป้าพอลล่าอีก แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป ทำความสะอาดได้ดี ล้างออกได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบลื่น หรือทำให้ผิวผสม (ธรรมดา + มัน) ของปูเป้แห้งตึง อ้อ... มันมีขายเป็นแกลอน 1 ลิตร ราคาแค่ 700 เอง ประหยัดไปได้อีกโขStep 2 "Lotion Mask" แต่แรกเริ่มเดิมที่ ชั้นตอนที่ 2 จะเป็นการลง Toner แต่ หลังจากซื้อหนังสือ The Japanese Skincare Revolution ของป้า Chizu Saeki เจ้าแม่บิวตี้ของญี่ปุ่นมาอ่าน กระผมก็เอาเทคนิคการทำ Lotion Mask มาทำเป็นประจำทุกวัน (แต่เดิมก็เคยมั่วทำเองบ้าง เดือนละ 2 3 ครั้ง บางเดือนไม่ได้ทำเลย ลืม+ขี้เกียจ) แต่ที่ไหนด๊ายยยย ป้าแกบอกว่าทำได้ทุกวันเลยนะเธอว์ ของที่จะเอามาทำ Lotion Mask นั้นจะเป็น Toner หรือโลชั่นน้ำก็ได้ ขอเย่างเดียวว่าอย่ามีแอลกออฮอลืหรือมีให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าไม่มีน้ำหอมหรือสารก่อการระคายเคืองอื่น ๆ เลยจะเจิดมาก อันนี้ปู เป้ก็ใช้โทนเนอร์ของป้าพอลล่าตัว Skin Refreshing Toner เพื่อช่วงหน้าหนาวผิวระคายเคืองง่าย (เพราะมันมีสารลดการระคายเคืองเพียบ) ถ้าวันไหนหน้าลอกเป็นขุยก็ใช้เป็น Skin Balancing Toner แทน (เพราะมันมี Ceramide และตัวที่เสริมความแข็งแรงของชั้นเคลือบผิว) ช่วงไหนอยากให้ผิวเด้ง ๆ ก็ผสมน้ำป้าเจี๊ยบ (SK-II Face Treatment Essence) เข้าไป สำลีที่ใช้กระผมใช้ของ MUJI ที่แผ่นใหญ่บึ้ม แถมลอกออกมาเป็นแผ่นบางๆ ได้ 4 แผ่น แล้วก็ยืดแผ่ขยายออกได้อีกด้วย (วิธีทำ Lotion Mask แวะไปดูได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pupesosweet&month=04-2009&date=30&group=5&gblog=17 ) แต่ สำลีแผ่นใหญ่ จะสาดโทนเนอร์ขวดละ 700 บาท (หรือน้ำป้าเจียบขวดละ 4000 +) ให้ชุ่มโชกมาพอกหน้าอาจเสี่ยงกับ โรคทรัพย์จางและ โรคเยื่อบุกระเป๋าสตางค์อักเสบ ได้ (จนนั่นเอง) เราก็ใช้น้ำ เปล่าหรือโทนเนอร์แบบไร้สีไร้แอลกอฮอล์ที่มีราคาถูก ๆ อย่าง Neutrogena Alcohol Free Toner มาพรมให้เปียกหมาด ๆ ก่อน แล้วค่อยสาดโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมดี ๆ ให้พอชุ่มมาพอกหน้า ก็ช่วยประหยัดงบไปได้เยอะอยู่ (แต่ก็ยังแพงกว่าการเช็ดโทนเนอร์อยู่ดีแหล่ะ) แต่ ผลที่ได้นี่แหล่มมั่ก!!! ปกติปูเป้จะมีอาการแดงและลอกที่รอบปากได้ง่ายมาก (เพราะยารักษาสิวนั้นเอง) ผิวก็รู้สึกแห้งหร้านมากในช่วงหน้าหนาว โปะครีมบำรุงปกติมันก็ยังไมได้ช่วยมากเท่าไหร่ พอลองทำ Lotion Mask พอกไว้ 15 นาที แล้วประคบผิวด้วยการวอร์มครีม / โลชั่น ที่ใช้ให้อุ่นเท่าอุณหภูมิร่างกายทับลงไป ปรากฏว่าผิวรู้สึกชุ่มชื้นและไม่แห้งลอกเลย ปัดแป้งแล้วไม่เป็นขุยแล้ว ทำติดกันทุกวัน (6วัน พัก 1 วัน) 1 สัปดาห์พบว่าผิวเราดูเปล่งปลั่งมาก เพราะผิวเราชุ่มชื้นเต็มที่ ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นของที่เราใช้มาตลอด แค่เปลี่ยนวิธีใช้และพิถีพิถันในการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นสักหน่อย ก็เห็นผลที่แตกต่างกันมากเลยแฮะ สรุป ตอนนี้ก็ต้องตื่นเร็วกว่าปกติ 20 นาทีเพื่อมาทำ Lotion Mask 10 -15 นาทีก่อนออกไปทำงาน (แต่ก็นอนเร็วกว่าเดิม 20 นาทีด้วยเช่นกัน) Step 3 "Treatment" ใครที่ติดตามปูเป้มาแต่ ต้นจะพบกว่ากระผมบ้า Vitamin B3 หรือ Niacinamide มาก เพราะเป็นวิตามินที่มีประสิทธิภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะช่วยเรื่องจุดด่างดำ ลดการอักเสบของสิว (ที่ความเข้มข้น 4% สามารถลดการอักเสบของสิวได้ดีกว่า Clindamycin 1% เลยนะ) ช่วยเพิ่มปริมาณ Ceremide ในผิวให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ที่สำคัญคือเป็นวิตามินที่มีราคาถูกและเสถียรได้นาน (ซื้อเซรั่มหลอดละเป็นพันแต่ได้แค่ Niacinamide นี่ถือว่าขาดทุนสุด ๆ) Niacinamide เป็นสาร Active ที่หาได้ง่ายที่สุด เพราะทั้ง OLAY หรือ Ponds หรือ Oriental Princess และแบรนด์อื่นๆ ก็มีกันให้เกลื่อน (เกลื่อนจนคิดว่าพวกคุณจะหาอะไรที่มันแปลกใหม่กว่านี้มาขายพวกเราไมได้รึไง ห๊า!!!!) กระผมเลือก OLAY White Radiance Intensive Brightening Serum เพราะเป็น Serum ตัวเดียวของ OLAY ที่เนื้อบางเบาและไม่ใช่ Silicone Base จึงซึม (แห้ง) ได้ไว ไม่ทิ้งคราบเหนอะหนะ และไม่ลอกเป็นขุยด้วย จะว่าไปแล้วนี่เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ OLAY ไม่กี่ตัวที่ปูเป้รับ กลิ่น ของมันได้ ขวดละ 699 นี่ก็เกือบแพงละ (เพราะ Serum ที่มี Vitamin B3 เยอะ ๆ ที่หาได้ในตลาดราคามันไม่ถึง 450 ด้วยซ้ำไป) แต่เราชอบเนื้อผลิตภัณฑ์ และปริมาณ 50 ml ก็โออยู่ ตอนนี้ขึ้นขวดที่ 3 แล้ว จริง ๆ ก็เริ่มเบื่อแล้วล่ะ แต่ก็ยังหาตัวที่เราถูกใจกว่าอันนี้ (และในราคาที่ถูกกว่านี้) ไม่ได้ ถ้าใครมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจก็กระซิบบอกกันบ้างนะขอรับ ช่วงนี้ปูเป้ทำแต่งาน ไม่ค่อยได้เดินอัพเดทสินค้าใหม่ ๆ สักเท่าไหร่เลย Step 4 "Moisture" (Eye) จริงๆ แล้ว Eye Cream มันก็ไม่จำเป็นหรอกขอรับ เอาครีมทาหน้าที่ส่วนผสมปลอดภัยมาทาแทนก็ได้เหมือนกัน แต่ก็มีบางตัวที่ปูเป้จะยกเว้นเอาไว้สักหน่อยPrescriptives : Vibrant-C Eye Brightening Treatment เป็นอายครีมที่ปูเป้ชื่นชอบเป็นเศษ เพราะมันมีเนื้อบางเบาแต่ก็ให้ความชุ่มชื้นดีสำหรับผิวรอบดวงตาที่แห้ง ส่วนผสมของเม็ดสีช่วยกระจายแสงที่ทำให้รอยคล้ำจางลงด้วย นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวจริง บรรจุภัณฑ์เป็นขวดปั้มสุญญากาศ ใช้สะดวก สะอาด แถมเก็บกักสารบำรุงได้นาน (ไม่เหมือนกระปุก) เดิมมันเคยขายในไทยแล้วก็ม้วนเสื่อกลับบ้านไป ขายแต่ใน USA ไม่เป็นไรยังฝากเพื่อนหิ้วกลับมาได้ แต่ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าทาง Estee Lauder จะไม่ทำแบรนด์นี้ต่อแล้ว มายก๊อดดดดดดดดดด!!!! เธอทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไร T-T ไม่ เข้าใจจริงๆว่าทำไมของเราเราชอบมันต้องเลิกผลิตหรือมีอันเป็นไปตั้งหลายตัว (อย่างกันแดดสเปรย์แบบทาตัวของ Loreal ที่ชอบมากก็ดันไม่ผลิตต่อ เคืองมาก!!! ทีไอ้ไวท์เทนนิ่งผสมทูมาลีนอัญมนีสีชมพูบ้าบอคอแตกอะไรนั่น ดั๊นผลิตเอา ๆ) แต่กระผมก็หาตัวแทนมาเผื่อไว้แล้วขอรับ Lab Series : Age Rescue Eye Theraphy เป็นอายครีม (น่าจะบอกว่าเป็นโลชั่น) ที่ส่วนผสมดีมาก (มากจนแบรนด์เครื่องสำอางผู้หญิงควรมองดูและเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) แถมยังบรรจุในหลอดบีบทึบแสงใช้สะดวกอีกด้วย จริง ๆ ราคามันไม่แพงมากนะขอรับ 26 US$ แต่ในไทยขายอัพราคาไปได้ยังไงตั้ง 1700 บาท...บ้าไปแล้วหรอ? Step 4 +5 "Moisture" + "Protect" (Face) Prescriptive Vibrant-C Skin Brightening Lotion ข้อดีคือ มีเนื้อโลชั่นสีขาวเหลือบชมพูอมส้มเล้กน้อย มีเม็ดสีกระจายแสงละเอียดมากผสมอยู่ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งกว่าเดิมได้นิดนึง (แต่ก็ยังดีกว่าไม่ช่วยอะไรเลย) มีส่วนผสมของวิตามินซีที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินอีและสารกันแดดได้ด้วย ขวดปั้มใช้ง่าย สะอาด กลิ่นหอมออกส้ม ๆ สดชื่นดี ข้อเสีย... มันไม่มีสารกันแดดมาให้SpectraBAN SC SPF40 กันแดดเบสซิลิโคนล้วนที่ปราศจากสี (เนื้อเบสซิลิโคนในที่นี้มันเหมือน เบสใส Smashbox นะ ไม่ใช่กันแดดซิลิโคนที่เนื้อเหมือนแป้งหน่อยอย่าง OP) ข้อดีคือ มันกันแดดได้ครบและเสถียรไม่ระคายเคืองผิว เบสซิลิโคนจะไปกลบร่องไม่เรียบทำให้ผิวนวลเนียนขึ้นในทันทีเหมือนกับใช้เบส ซิลิโคนไปในตัว (ตบแป้งตามนี่เนียนมาก) ข้อเสียคือเนื้อซิลิโคน มันไม่ได้ ซึม หรือ แห้ง ลงไปในผิว มันจะเคลือบกองไว้แบบนั้นแหล่ะ ถ้าเราทาเยอะไปมันจะเยิ้มมาก จะโปะแป้งมันก็ต้องตบหลายรอบหน่อย พอดีว่าชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้โดนแดด โดนแดด 30 นาทีตอนไปทำงาน นอกนั้นก็อยู่แต่ในห้าง/ในสำนักงานตลอด ก็เลยเอาทั้งสองตัวนี้มาผสมกันในอัตราส่วน 1 / 1 เราก็จะได้มอยซ์เจอไรเซอร์ผสมสารกันแดด (ที่มีค่า SPF น้อยลงมาประมาณครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่า) ที่มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นบางเบา ช่วยกระจายแสงให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น แถมยังพ่วงคุณสมบัติเป็นเบสซิลิโคนอ่อน ๆ ที่ช่วยเตรียมผิวให้เรียบเนียนขึ้นในทันทีโดยไม่หนักหรือเยิ้มหน้า (ฟังดูแจ่มมั๊ยฮะ) ตบแป้ง KP ดูดซับความมันสักรอบ ตามด้วยแป้ง Skin Finish ของ MAC จะช่วยทำให้ดูผิวดี เปล่งปลั่งมากมาย สิ่งเดียวที่กลุ้มใจคือ ถ้า prescriptive ขวดนี้หมดแล้วเราจะหาอะไรมาใช้แทนดีน๊า.... NIGHT REGIMENT ตอนกลางคืน ใคร ๆ มักบอกว่าเราต้องบำรุงเข้มข้นล้ำลึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องใช้ผลิตภันฑ์อะไรให้เยอะแยะหลายขั้นตอน เลือกตัวให้ที่ให้ประโยชน์รอบด้านและตรงกับความต้องการของเราที่สุดสัก 1 - 2 ตัวก็พอแล้วStep 1 "Clean" กลับถึงบ้านมาก็ล้างหน้าให้สะอาด หนึ่ง ในคำถามที่เจอบ่อยที่สุดคือ ใช้ Cleanser ตัวไหนถึงจะล้างกันแดด XXX ออกคะ ไม่ทราบว่าเจล YYY จะล้างกันแดด + แป้งฝุ่น ออกรึเปล่าคะ กลัวล้างหน้าไม่สะอาด อ่านคำถามแล้วอยากเอาทีนก่ายหน้าผาก (แต่ก่ายไม่ถึงเพราะตัวไม่อ่อน) ตัวเองยังไม่รู้ว่าล้างหน้าสะอาดหรือไม่สะอาด แล้วกระผมจะไปรู้ได้ยังไงมิทราบ? เดี๋ยวนี้คนเราไม่รู้เป็น อะไรกันไปหมด ถึงได้วิตกกังวลกับเรื่องอะไรที่มันไม่เป็นเรื่อง แถมยังโดนการตลาดยัดเยียดความเชื่อว่า ใช้กันแดด ต้องใช้ Cleansing ล้างกันแดดด้วย เพราะ Cleanser ปกติจะล้างกันแดดออกไม่หมด ทำให้เป็นสิวตามมา แต่ขอโทษนะขอรับ กันแดดมันไม่ใช่คอนกรีต กาวช้าง หรือยางมะตอย ที่ล้างออกยากออกเย็นขนาดนั้น กัน แดดแบบ Chemical ที่มัน กันน้ำ หรือ ทนน้ำ (Water Resistance) เพราะว่ามันเป็น Oil Soluble หรือละลายในน้ำมัน น้ำ กับ น้ำมัน มันเข้ากันไม่ได้อยู่แล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมครีมกันแดดจึงสามารถติดบนผิวได้โดยไม่ค่อยโดนน้ำหรือ เหงื่อละลายมันออกมา Cleanser อย่าง เจล โฟม หรืออื่นๆ ใช้ Serfactant หรือสารทำความสะอาดที่ทำทำให้สารที่ไม่ละลายในน้ำลอยออกมาจับตัวกับน้ำ และไหลหลุดลงท่อน้ำไปเมื่อเราล้างน้ำออก มันจึงล้างครีมกันแดด (โดยเฉพาะตัวที่เป็น Chemical) ให้หลุดออกได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะบอกไว้ว่าเป็นโคตร water-resistance หรืออะไรก็ตาม ส่วน กันแดดแบบ Physical (Titanium Dioxide / Zinc Oxide) ที่เป็นผงแร่ เดิมมันไม่ค่อยติดผิว เลยต้องใช้ตัวเบสที่ยึดเกาะผิวได้ดี การนวด Cleanser ทั่วไปอาจเอาออกไม่หมด แต่มันก็เอาออกได้แค่เราเพิ่มปริมาณ Cleanser และใช้เวลาในการนวดนานถึง รวมถึงใช้ตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอย่างเช่นฟองน้ำ หรือ ผ้าขนหนู หลัง จากนวด Cleanser ปริมาณมากลงบนหน้าที่เปียกประมาณ 1 นาที ให้เอาฟองน้ำหรือผ้าขนหนู ชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาด เช็ดหน้า (ในวิธีเดียวกับที่คุณเช็ดเครื่องสำอาง) ออกก่อน 1 รอบ แล้วก็ล้างตามด้วยน้ำสะอาดอีก 1 ครั้ง ปูเป้มั่นใจว่า 90 % ของกันแดดที่ขึ้นชื่อว่าติดทนทาน (อย่าง ZA หรือ Anessa) ก็ล้างออก (เพราะผมล้างออกมาแล้ว) หรือถ้ายังออกไม่หมด (หรือคิดว่ายังล้างออกไม่หมด) ก็ล้างซ้ำอีกรอบก็ได้ บางวันมีแป้งผสม รองพื้น + คอนซีลเลอร์ด้วย ใช้วิธีนี้กับ Acne Aid ก็ล้างออกหมดในขั้นตอนเดียว ไม่เห็นต้องไปสรรหา Sunscreen Cleansing ให้เปลืองเงินเลย เขาพยายามสร้างความเชื่อและค่านิยมพวกนี้เพื่อให้ เขาสามารถขายของได้มากขึ้น (ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องใช้) เราไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นเหยื่อการตลาดที่ดีโอยการทำตามทุกอย่างหรอกขอรับ ใช้สติและเหตุผลคิดกันสักหน่อย เราจะประหยัดเงินเราไปได้เยอะเลย เรื่อง อุดตันเนี่ย บางทีมันไม่เกี่ยวกับการล้างหน้าไม่หมด หรือการทาอะไรลงไปบนผิวหรอก บางคนไม่ทาอะไรเลยก็ยังเป็นสิวได้ บางคนนอนไม่ล้างหน้าพอกเครื่องสำอางทิ้งไว้ก็ไม่เป็นสิวก็ยังมี เรื่องพวกนี้สาเหตุหลัก ๆ มันมาจากพื้นฐานของผิวและการทำงานของรูขุมขน + ต่อมไขมันเป็นหลักขอรับ Step 2 "Exfoliate" BHA ของป้าพอลล่า อันนี้ขึ้นชื่อเลื่องลือระบือนามอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ก่อน หน้านี้ปูเป้จะลง Toner ก่อน รอให้แห้งแล้วค่อยลง BHA ตาม (ไม่เคยรอให้โทนเนอร์แห้ง 20 นาทีแล้วจึงลง BHA เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าวิธีนี้ใครเป็นคนคิดขึ้นมา....) แต่หลัง ๆ เริ่มเข้าหาความ Basic มากขึ้น ตัด Toner ทิ้งไป หลังล้างหน้า วับผิวให้แห้งแล้วก็เอาสำลีชุบ BHA เช็ดผิวไปเลยแล้วรอ 20 นาที ก็ เห็นว่ามันก็ทำงานได้ดีโดยไม่ต้องมีขั้นตอนของการใช้ Toner มาให้เปลืองเงิน หรือเสียเวลาเพิ่ม (อีกอย่าง เรามั่นใจแล้วว่าเราล้างหน้าสะอาด) คำถามว่า จะใช้ BHA 2% แบบไหนดีคะ แบบน้ำ หรือเจล หรือ โลชั่น เลือกไม่ถูกค่ะ อันนี้ได้ยินแล้วก็อยากเอาทีนก่ายหน้าผากอีกเช่นกัน ไม่ ว่าจะเป็นแบบ น้ำ เจล หรือโลชั่น สิ่งที่คุณจะได้ก็คือ BHA 2% เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะชอบเนื้อผลิตภัณฑ์แบบไหน จะชอบที่เป็นน้ำเหมือนโทนเนอร์บางเบา หรือชอบแบบเจลที่บีบมาใช้ง่าย หรือโลชั่นเนื้อเข้มข้น เทียบง่าย ๆ ว่าคุณจะเลือกกิน กาแฟ แบบไหน ไม่ว่าคุณจะกิน กาแฟดำ กาแฟเย็นปั่น หรือไอติมกาแฟ คุณก็จะได้กินกาแฟเหมือนกัน ต่างแค่รูปแบบเท่านั้นเอง จะเลือกกินแบบไหนก็แล้วแต่ความชอบ ถ้าไม่เคยกินก็ต้องลองกินแล้วค่อยมาพิจารณาว่าชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ถ้า ไม่เคยลองใช้ BHA มาก่อน ก็หา Sample มาลองดูว่าคุณจะชอบ Feel แบบใด มาถามคนอื่นเขาก็ตอบไม่ได้หรอกขอรับ ถ้ากระผมชอบแบบน้ำ แต่คุณลองแล้วไม่ชอบ คุณบอกว่าชอบแบบ Lotion มากกว่า แล้วจะมาถามผมทำไมแต่แรก??? (ขอบ่นหน่อยเหอะ เจอบ่อยจนเอือม) Step 3 "Treatment" จะมีทรีตเมนท์อะไรที่ ดีไปกว่าวิตามินซี เพราะพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์กับผิวมากมาย (เมื่อนำมา ทา ส่วนเรื่อง ทาน นั้นยังไม่ค่อยมีอะไรมายืนยันเท่าไหร่) การ ใช้วิตามินซีที่ความเข้มข้น อย่าง 10% ขึ้นไป จะไปขัดขวางการทำงานของเอมไซม์ไทโรซิเนส ที่ผลิตเมลานิน จึงช่วยทำให้จุดด่างดำลดเลือน เป็นไวท์เทนนิ่งที่เชื่อถือได้อีกตัวหนึ่ง กระตุ้น การสร้างคอลาเจนในผิวชั้น Dermis ทำให้ผิวแน่นขึ้น ผลคือริ้วรอยก็เลือนลง แถมยังไปขัดขวางการทำงานของเอมไซม์ MMP-1 ที่ทำลายคอลาเจนด้วย (ทั้งลดการทำลาย แถมกระตุ้นการสร้างอีก แหล่มดีแท้) นอกจากนี้ยังช่วยเสริมการทำงานของวิตามิอี โดยจะทำให้วิตามินอีที่ผ่านการใช้งานแล้วกลับมา Active ทำงานได้ใหม่อีกด้วย แต่ เนื่องจากวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid มีปัญหาเรื่องความเสถียร ทำให้ Shelf-life ต่ำ จึงเป็นปัญหาที่สำคัญในการผลิตออกขาย นอกจากนี้ Ascorbic Acid ต้องใช้ค่า pH 3.5 ซึ่งเป็นกรด จึงจะทำงานบนผิวได้ดี คนที่ซื้อวิตามินซีรูปแบบนี้ไปใช้แต่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่อง pH ก็อาจประสบกับความผิดหวัง (เพราะว่ามันไม่เห็นผลนั่นเอง)Kiehls Dermatologist Solution Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate (ชื่อจะยาวไปไหน...) มีวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid 10.5% ในเบสซิลิโคนปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ พร้อมค่า pHเป็นกรด ขวดปั้มสีชาเข้ม จึงเสถียรได้นานและ work จริง ข้อเสียอย่างเดียวคือราคา 2900 บาท (ที่ US 55 US$ เอง) แต่ในปริมาณ 50 ml นั้นก็ถือว่ายอมรับได้ นี่ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ วิตามินซีเข้มข้น ที่ควรค่าแค่การลงทุนที่สุดตัวหนึ่งในท้องตลาด ส่วนใครคิดว่าแพงเกินไป ยังมีตัวเลือกของ The Body Shop ตัว Night Treatment ที่มี Ascorbic Acid 10% ราคา 1200 (มั้ง) ปริมาณ 30 ml แต่มีน้ำหอมและสีติดมาด้วย (ซึ่งกระผมไม่ชอบ) ปูเป้ก็กด 2 ปั้ม ทาทั่วหน้า และใต้ตา + หางตา (พนักงานบอกว่าใช้ไมไ่ด้ ต้องซื้อตัวเฉพาะรอบดวงตาแทน แต่จริง ๆ มันทาได้ 100%) ทา หลัง BHA (หรือ AHAs ก็ได้) ทิ้งเอาไว้อีก 15 20 นาทีให้มันทำงานหน่อย แล้วค่อยบำรุงเป็นขั้นต่อไป จะรู้สึกอุ่นๆ หน้านิดนึงไม่ต้องวิตกกังวลไป มันเป็นเรื่องปกติจ้า ใครที่ใช้ Vitamin C รูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ Ascorbic- Aicd ขอให้เข้าใจตรงกันว่า มันไม่ต้องใช้ความเป็นกรดเพื่อทำงาน จะทาก่อน ทาหลัง AHAs / BHA ก็ได้ทั้งนั้น (ไปตัดสินใจกันเอาเอง)Step 4 "Moisture" (Face+Eye) ถ้าต้องการแค่ความชุ่มชื้นและการเคลือบผิว ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์แบบปราศจากน้ำหอมหลอดละ 250 400 บาท ตาม Boots หรือ Watson ก็หาได้ แต่ ถ้าต้องการอะไรที่มันแฟนซีขึ้นหน่อย มีตัวลดการระคายเคือง ต้านอนุมูลอิสระ บลา ๆ ๆ ขอให้รู้ไว้ว่าตลาด Consumer หลอดละไม่กี่ร้อยนี้หาไม่ได้หรอก (มันก็มีนะ แต่ดันใส่มาเป็นกระปุก แย่จริง ๆ ) กระผมซื้อมอยซ์ เจอไรเซอร์หลอดเขียวของ Clinique ตัวนี้ มาตั้งแต่ยังเป็น Continuous Rescue Antioxidant Moisturizer ที่ใช้ได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน จนตอนนี้มัน เปลี่ยนชื่อเป็น Super Rescure Antioxidant Night Moisturizer สำหรับให้ใช้แต่ตอนกลางคืนไปแล้วก็ยังใช้อยู่ เพราะส่วนผสมมันเหมือนเดิม เด๊ะ!!! (นี่เป็นการบอกนัย ๆว่า ผลิตภัณฑ์ที่แปะว่าเป็น Night Cream มันก็ไมได้แปลกหรือแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้แปะว่าเป็น Night Cream หรอก) เอาเป็นว่า มอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีค่า SPF จะเอามาทากลางวัน หรือทากลางคืนก็ได้ (เพราะตัวครีมมันแยกเวลาไม่ออกหรอกว่าตอนไหนมันกลางวัน หรือกลางคืน) เพียงแต่ในตอนกลางวันคุณควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปร่วมด้วยเป็นประจำเท่านั้นเอง หลอดใหญ่เป็นสูตร Combination to Oily (แต่เนื้อมันไม่เหมาะกับคนที่ผิวมันอย่างที่เขาบอกนักหรอกนะ ผิวผสมไปทางธรรมดาหรือแห้งน่ะกำลังดีเลย) แต่เนื้อมันไม่ข้นพอจะเอามาทารอบดวงตา ครั้นจะซื้ออีกหลอดเป็นสูตร Dry Combination ก็ใช่ที (เพราะไม่รู้กี่ชาติจะใช้หมด เบื่อตายก่อน) ข้อ ดีของการซื้อเครื่องสำอางแบรนด์จากเคาเตอร์ให้ห้าง คือเราสามารถ ขอ (ไถ) จาก BA ที่เราสนิทชิดเชื้อกันได้อย่างไม่ต้องกระดากปากหรือเกรงใจอะไรมากมาย (เชื่อเหอะ ของพวกนี้มันมีมาให้แถมอยู่แล้ว แค่คุณญาติดีกับเขาหน่อย เขาให้ได้อยู่แล้วแหล่ะ) เวลาซื้อหลอดใหญ่ ปูเป้ก็จะขอหลอดเล็กมาพ่วงด้วยเสมอ หลอดใหญ่สูตรผิวมันทาหน้า หลอดเล็กสูตรผิวแห้งทารอบดวงตา และมันมักจะหมดพร้อมกันพอดีด้วยสิ :D อ๊ะ... ลืมบอกว่ามอยซ์เจอไรเซอร์ตัวนี้มีส่วนผสมที่ดี ช่วยลดอาการระคายเคือง ต้านอนุมูลอิสระ และให้ความชุ่มชื้น เคลือบผิวกำลังดี ไม่มีน้ำหอมและสีมากวนใจด้วย ราคา 1900 บาท ต่อปริมาณ 50 ml ถือว่ายังคุ้มค่าที่จะลงทุนอยู่นะ (แต่ถ้าหาของที่ถูกกว่า และส่วนผสมดีเท่า หรือดีกว่านี้ได้ กระผมก็ไม่ซื้อหรอก เรื่องอะไรต้องจ่ายแพงกว่าล่ะ :P) ขอทิ้งท้ายด้วยรูปของ "ไมเคิล" ลูกชายสุดที่ Love สักหน่อย หล่อ+น่ารัก ขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว!!!
Create Date : 18 มกราคม 2553
Last Update : 18 มกราคม 2553 15:30:53 น.
89 comments
Counter : 28827 Pageviews.
โดย: NaiRunn IP: 202.28.248.45 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:17:54:14 น.
โดย: Galilee วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:19:29:59 น.
โดย: *นอท IP: 125.24.102.2 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:20:58:16 น.
โดย: หนูมิโกะ IP: 58.8.193.89 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:21:51:50 น.
โดย: kaewnumsai วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:22:05:14 น.
โดย: Destiny IP: 114.73.129.209 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:22:13:12 น.
โดย: T-ZeR IP: 192.168.0.114, 124.157.214.66 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:23:00:48 น.
โดย: shiro_niji IP: 81.23.49.249 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:1:15:27 น.
โดย: หนูเหนือ วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:20:26:57 น.
โดย: น้องใหม่ IP: 115.87.99.183 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:20:38:10 น.
โดย: นูเน่ IP: 124.121.37.183 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:23:58:28 น.
โดย: nat IP: 58.8.169.47 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:0:14:44 น.
โดย: มัดหมี่ IP: 118.172.172.170 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:12:42:18 น.
โดย: nakawin วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:13:23:46 น.
โดย: ไตเติ้ล IP: 202.91.23.3 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:14:05:25 น.
โดย: นุ IP: 192.168.0.5, 161.200.107.132 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:16:47:45 น.
โดย: ติศักดิ์ วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:17:17:41 น.
โดย: PAINTI IP: 124.122.176.118 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:18:06:50 น.
โดย: sunny IP: 118.172.134.51 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:22:44:37 น.
โดย: lilaby IP: 222.123.40.61 วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:0:57:40 น.
โดย: sAMOnx IP: 202.28.62.245 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:17:25:30 น.
โดย: Allis IP: 203.144.144.164 วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:23:46:23 น.
โดย: tan-tan IP: 61.7.229.46 วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:13:38:44 น.
โดย: meaw noi IP: 117.47.149.169 วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:21:07:52 น.
โดย: beginner IP: 203.144.144.164 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:15:27:26 น.
โดย: มะปราง IP: 203.144.144.164 วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:23:20:59 น.
โดย: แจง IP: 118.174.31.106 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:10:25:28 น.
โดย: biw IP: 125.24.187.128 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:14:27:12 น.
โดย: PP IP: 203.144.144.165 วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:17:54:42 น.
โดย: แพร IP: 203.131.211.142 วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:23:37:55 น.
โดย: ning IP: 112.142.59.240 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:59:20 น.
โดย: kk IP: 58.136.74.242 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:52:12 น.
โดย: peach IP: 125.25.208.45 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:30:53 น.
โดย: โอ๋ IP: 118.174.99.253 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:23:36 น.
โดย: Pango IP: 202.44.8.100 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:14:24 น.
โดย: antzie IP: 180.183.239.3 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:11:18 น.
โดย: แม่น้องไอริณ IP: 203.156.44.95 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:27:44 น.
โดย: job IP: 203.144.144.165 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:46:27 น.
โดย: mint IP: 112.142.43.30 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:27:05 น.
โดย: มินตรา IP: 125.24.125.5 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:50:27 น.
โดย: bowzo12 IP: 58.136.59.222 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:23:05:16 น.
โดย: gade IP: 61.19.52.106 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:16:17:14 น.
โดย: ออฟ IP: 58.64.52.225 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:17:01:51 น.
โดย: Nick_2H IP: 203.144.144.164 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:21:01:18 น.
โดย: gulikoko IP: 203.144.144.164 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:22:14:13 น.
โดย: gulikoko IP: 203.144.144.164 วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:22:16:43 น.
โดย: vicky007 IP: 125.25.140.185 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:2:53:08 น.
โดย: ฝนตกกลิ้ง IP: 68.43.57.44 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:10:55:22 น.
โดย: moomoo IP: 118.172.180.96 วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:20:10:26 น.
โดย: PAGE 6 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:9:37:10 น.
โดย: ReLaKKuMa IP: 203.144.144.165 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:21:47:02 น.
โดย: เเพร์ IP: 222.123.146.58 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:15:46:18 น.
โดย: นิวT_T IP: 112.142.24.110 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:21:24:54 น.
โดย: rachel IP: 118.172.37.185 วันที่: 15 มีนาคม 2553 เวลา:20:04:57 น.
โดย: ตังเม (ladymay ) วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:13:13:49 น.
โดย: maymee IP: 118.173.3.81 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:10:17:42 น.
โดย: เคน IP: 124.157.139.41 วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:22:03:11 น.
โดย: r IP: 125.24.67.4 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:23:07:09 น.
โดย: BowKie & The Lucky Cats (BowKie ) วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:0:00:01 น.
โดย: timep IP: 192.168.0.35, 127.0.0.1, 58.136.98.43 วันที่: 2 เมษายน 2553 เวลา:8:03:26 น.
โดย: กาน IP: 113.53.55.97 วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:21:54:54 น.
โดย: princess IP: 93.97.113.175 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:11:30:03 น.
โดย: ผู้หญิงจากดาวอังคาร IP: 58.9.203.79 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:7:06:50 น.
โดย: a IP: 119.42.97.119 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:04:27 น.
โดย: a IP: 119.42.97.119 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:16:55 น.
โดย: LOOK EE IP: 192.168.2.17, 118.172.52.212 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:55:31 น.
โดย: ดี IP: 119.42.98.19 วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:58:21 น.
โดย: เหนียวหนับ IP: 183.89.206.49 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:25:53 น.
โดย: tenton IP: 114.128.121.107 วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:35:48 น.
โดย: a IP: 110.164.238.154 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:8:58:36 น.
โดย: สงสัย IP: 124.121.70.12 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:20:20:51 น.
โดย: a IP: 110.164.168.234 วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:9:54:50 น.
โดย: แมลงปอ IP: 58.9.55.16 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:46:45 น.
โดย: morning kiss IP: 203.131.212.44 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:41:14 น.
โดย: morning kiss IP: 203.131.212.44 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:44:29 น.
โดย: skyrocket IP: 58.137.180.130 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:16:50 น.
โดย: cc IP: 124.120.114.193 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:18:07 น.
โดย: Kook IP: 58.9.201.26 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:15:22:17 น.
โดย: แมว IP: 203.130.131.194 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:13:38:48 น.
โดย: เนเน่จัง IP: 118.173.232.234 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:18:51:56 น.
โดย: ปูปัง IP: 123.242.159.10 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:12:07:46 น.
โดย: Broute Original IP: 118.173.45.246 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:14:00:14 น.
โดย: The-B-i-[O] IP: 118.173.40.219 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:15:49:09 น.
โดย: replica bags IP: 192.99.14.36 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:21:49:33 น.
โดย: Cheap Basketball Jerseys IP: 218.251.113.57 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:45:30 น.
โดย: Cheap Football Jerseys IP: 157.7.205.214 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2557 เวลา:9:42:40 น.
Advertisement
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ
Web Counter
Counter Start on 29 September 2008
Search by Google
ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ
มีคำถามไม่รู้จะถามตรงไหน แอบมาถามตรงนี้ล่ะกันคับ
คือ เด๋วนี้เวลาคลิกที่ Puala's Choice Review ทำไมมีแต่ตัว
Clear System หล่ะคับ แล้วตัวอื่นๆ หาย ปาย ไหนคับผม