1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2012
ปีนี้เป้นอีกหนึ่งปีที่มีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย ทั้งถูกและแพง มาดูกันว่าสิ่งที่ปูเป้ชอบในปีนี้จะมีอะไรบ้างนะ? ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ปูเป้ชอบ และเลือกมาโดยอิงจากสภาพผิว ความชอบ และผลที่ได้จากตัวของปูเป้เอง แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน มีปัญหาแตกต่างกัน ชอบฟีลที่ต่างกัน ยังไงก็ควรจะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ และทดลองผลิตภัณฑืก่อนตัดสินใจซื้อใช้ทุกครั้งนะครับMakeup Remover ปกติเป็นคนที่ไมได้แต่งหน้าอะไรมากไปกว่าการใช้เมคอัพเบส หรือ BB Cream และแป้งฝุ่น และไม่ชอบอะไรที่เหนอะหนะ จึงชอบ Cleansing Water มากที่สุด เทคนิคในการใช้คือ "อย่า-งก" และใช้สำลีคุณภาพดีหน่อยจะได้ไม่บาดผิว - Bifesta : Cleansing Express - Cleansing Lotion Moist เอาไว้ใช้ประจำวันในยามที่ผิวปกติ ไร้ปัญหาใด ๆ - Bioderma : Sebium H2O ตัวนี้จะใช้เมื่อมีปัญหาสิวอักเสบ เพราะว่ามีส่วนผสมที่ช่วยลดแบคทีเรียได้ด้วย ข้อเสียคือกลิ่นน้ำหอมมันแอบเยอะนะ แต่ใช้ไปเรื่อย ๆ จะชินไปเอง - Bioderma Sesibio H2O จะใช้ต่อเมื่อผิวมีอาการ Dehydrated หรือขาดน้ำ หรือช่วงที่ผิวแห้งFacial Cleanser - Kiehl's : Centella Skin Calming Facial Cleanser ตัวนี้จะเป็นฮีโร่ของเรายามผิวระคายเคืองมาก คัน ลอก แสบ แดง ขาดน้ำ มันคล้าย ๆ กับ Cetaphil แต่ว่าล้างออกง่ายและรู้สึกสะอาดมากกว่าเยอะ - Divinia : Amino Acid Cleanser เป็นโฟมล้างหน้าราคาหลักร้อยต้น ๆ ที่ใช้ดีมาก ไม่แห้งตึงและลางออกได้ง่าย ไม่ทิ้งคราบ - Bioderma : Sebium Purifying & Foaming Cleansing Gel - เป็นเจลล้างหน้าที่เอาไว้ใช้ยามเป็นสิว ผิวไม่ค่อยแห้งหลังใช้แล้วก็ไม่ลื่น ๆเท่าไหร่ - Sulwhasoo : Gentle Cleansing Foam ตัวนี้ชอบที่กลิ่น และให้ฟองที่เบานุ่ม ล้างออกได้ง่าย เอามาใช้กับเฯ็ทตีฟองได้ฟูดีToner / Water Lotion - Hada Labo : Arbutin Whitening Lotion โลชั่นเอาไว้ทำ Lotion Mask ยามอยู่บ้าน ราคาไม่แพง ใช้ได้บ่อยแบบไม่ต้องเสียดายของ - SK-II : Cellumination Mask-in-Lotion ช่วงไหนผิวขาดน้ำมาก ๆ หรือต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบสุด ๆ จะเอาตัวนี้เลย แต่มักจะใช้ก่อนนอนเท่านั้น เพราะใช้ในตอนกลางวันจะเยิ้มไปหน่อย - IPSA : The Time Reset Aqua W ถ้าอยากเติมน้ำให้ผิวอย่างเต็มที่ในช่วงกลางวันจะใช้ตัวนี้ทำ Lotion mask เพราะว่าให้ความรู้สึกฉ่ำน้ำ แต่ก็ไม่ทิ้งความรู้สึกหนักผิวเอาไว้ มีแอลกอฮอล์นะ แต่ใช้แล้วผิวไม่เคยแห้งเลยไม่วอรี่เรื่องนี้ - Paula's Choice : Skin Balancing Pore-Reducing Toner โทนเนอร์สามัญประจำบ้าน ในช่วงเวลาที่ผิวย่ำแย่เพราะลองอะไรแล้วหน้าแหก จะหยุดทุกอย่างแล้วกลับมาซบอกตัวนี้Tissue Mask - Neutrogena : Fine Fairness Mask มาส์กขำ ๆ สำหรับใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ราคาไม่แพง ให้ความชุ่มชื้นปานกลาง มีวิตามินและแอนติออกซิแดนท์ และอ่อนโยนกับทุกสภาพผิว เอาไว้หยิบใช้ยามขี้เกียจทำ Lotion Mask เอง - SK-II : Whitening Source Derm-Revival Mask มาส์กสุดที่เลิฟของเรา ถ้าอยากบูสต์ผิวให้ใสเด้ง จะใช้ติดกันอย่างต่ำ 7 วันก่อนวันออกงาน ถึงกระเป๋าจะฉีกแต่ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย อ้อ... แพ็คสุดคุ้มใน Duty Free เฉลี่ยเหลือแผ่นละ 2 ร้อยนิด ๆ ก็ประหยัดตังไปได้หลายอัฐ - Kanebo Impress : Concentrate Mask 3D ถ้ารู้สึกว่าต้องการใช้อะไรให้ผิวชุ่มฉ่ำสุด ๆ จะใช้มาส์กตัวนี้ เป็นตัวที่ชอบ แต่ใช้ไม่บ่อยนักเพราะว่าราคาแอบสูง และหาซื้อแบบถูก ๆ ไม่ได้ตาม Duty-Free จึงต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นจริงๆ เท่านั้นPre-Serum - L'Oreal : Youth Code Pre-Essence ใช้มาตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย มันเป็นเซรั่มที่เนื้อเบามากจนไม่รบกวนการลงผลิตภัณฑือื่น ๆ ตามหลัง และทำให้ผิวเราชุ่มชื้นขึ้นเมื่อใช้ติดต่อกันไปนาน ๆ ระยะหวังผลคือ 1 เดือนขึ้นไป - Shu Uemura : Tsuya Skin Youthful Radiance Generator ตัวนี้มี Rhamnose อยู่ 5% ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น สีผิวดูกระจ่างขึ้น เนื้อสัมผัสดีมาก กลิ่นหอมหวาน ๆ แต่กลิ่นก็แอบเยอะไปหน่อย - Vichy : Lift Actif Serum10 เราค้นพบตัวนี้หลังจากที่สนใจใน Rhamnose ขึ้นมา ตัวนี้ให้ Rhamnose เข้มข้นมากถึง 10% แถมมีราคาที่ถูกกว่า และกลิ่นน้ำหอมก็บางเบากว่าด้วย เนื้อเซรั่มบาง ๆ แต่แอบหนึบบ้างในช่วงก่อนจะแห้ง แอบมี Active ที่มีอยู่ใน L'Oreal : Youth Code Pre-Essence มาให้ด้วยอีก 1 ชนิด ตัวนี้จึงเป็นตัวที่อยู่กลาง ๆ ระหว่าง Mass กับ Prestige ซื้อช่วงลดราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1900 ล่ะ - Sulwhasoo : First Care Activating Serum หลังจากได้ลองใช้ ก็ใช้มาทุกวัน (ทิ้ง Youth Code ไปเลยล่ะ 555) เป็น Pre-Serum ที่เนื้อเบาและส่วนผสมอัดแน่นมาก แม้เราจะนอนดึก อดนอน โหมงานแค่ไหน ตัวนี้เป้นอีกหนึ่งตัวที่ช่วยชีวิตเอาไว้ได้Whitening Serum - Skin Will : Supreme C ในตอนแรกจะให้ Kiehl's นะ แต่พอมีตัวนี้ออกมาเราให้ตัวนี้แทนเลย เพราะว่ามีวิตามินซี Ethyl Ascorbic Acid เข้มข้นมาก + Tranxamic Acid และสารแอนติออกซิแดนท์อื่น ๆ มาให้ด้วย เนื้อเซรั่มบางสุด ๆ และราคาก็ไม่ถึงพันด้วย - Clinique : Skin Supplies for Men Dark Spot Corrector มันคล้ายกับ Even Better มาก แต่เนื้อบางกว่าและเซ็ทตัวแบบ Matte ช่วยให้ผิวไม่มัน และลดการระคายเคืองจากการโกนหนวดได้ด้วยในตัว - SK-II : Cellumination Essence EX ตัวนี้ไมได้เห็นผลเรื่องจุดด่างดำจางไวอะไรนัก แต่ทำให้ผิวไบร์ทขึ้นอย่างรู้สึกได้เลย - Shiseido : White Lucent Intensive Spot Targeting Serum+ เป็นตัวที่แนะนำมาตลอดทั้งปีถ้ามีปัญหาจุด่างดำ (และมีตัง)Anti-Aging Serum - Kiehl's : Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นอันดับหนึ่งในใจเรา เป็นที่รักของเรามาหลายปีและยังคงเป็นต่อไป (จนกว่าจะเจอตัวเลือกใหม่ที่แหล่มกว่านี้) - StriVectin-SD : Power Serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารบำรุงเข้มข้นที่สุดเท่าที่ StruVectin มอบให้ และเราชอบที่เนื้อสัมผัสมันเซ็ทตัวแบบ Soft-Matte ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม ใครที่อยากใช้ StriVectin แต่ทนความเข้มข้นและความมันของเนื้อครีมไม่ไหว จัดตัวนี้ไปได้เลย สิ่งที่ไม่ชอบคือการผสม Menthol มาให้ แม้จะไม่ได้เย็นวาบอะไรนัก แต่ก็ไม่อยากให้มีเท่าไหร่ หวังว่าจะมี Power Serum สูตร Sensitive ที่ไม่ใส่ Mentol และน้ำหอมมาแบบครีมบ้างAcne-Buster - La Roche-Posay : Effaclar-K สูตรเก่าไม่สะเทือนหนังหน้า แต่สูตรใหม่ช่วยลดพวกสิวอุดตันระดับ Mild ได้โอเคโดยที่ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง - Paula's Choice : BHA 9 มันคือสุดยอด Acne Treatment ที่จัดการสิวฝังลึกชนิดที่ทั้ง Bp และ กรดวิตามินเอ ยังขุดไม่ออก แต่ตัวนี้เอาออกจ้า ถึงราคาจะแพงโหดเอาการ แต่ส่วนตัวคืดว่าคุ้มค่ากับทุกสตางค์ที่จ่ายไป - Anne Semonin : Acne Set (Marine Toner + Mineral Mask + Balancing Intensive Complex) ตัวเด่นในชุดนี้คือ Mineral Mask ที่จัดการพวกสิวและผดเม็ดเล้ก ๆ ได้ดี ใช้เป็น Detox Mask หลังจากที่ผ่านวันหนัก ๆ มาทั้งวันได้ดีมาก หลังล้างหน้าแล้วผิวสะอาดขึ้นเลย จนต้องไปจัด Balancing Intensive Complex มาลองใช้คู่กัน จะผสมกับมาส์ก หรือทาก่อนลงมาส์กก็ได้ ราคาแพงเอาการ แต่ยินดีจ่ายเพราะมันดีจริง ๆEye Treatment - Sulwhasoo : Essential Rejuvenating Eye Cream ปีนี้ลองอายครีมมาประมาณ 6 ตัว นี่คือตัวที่รู้สึกว่าโอเคที่สุดและใช้มาเรื่อย ๆ ในช่วงท้าย ๆ ของปี ชอบที่มันให้ึความชุ่มชื้นกำลังดี และทำให้เส้นริ้วเล็ก ๆ ใต้ตาจางลงได้ - StriVectin-SD : Eye Concentrate For Wrinkle สุดยอดอายครีมในดวงใจจากปีก่อน ปีนี้ก็ยังหาใครมาโค่นล้มไม่ได้ Facial Moisturizer - Cerave : Moisturizing Lotion PM ในช่วงที่ป่วยหรือผิวกำลังมีปัญหา ต้องหยุดใช้ทุกสิ่งอย่าง เราจะใช้ตัวนี้เพราะมันอ่อนโยนมากและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าประโคมอะไรเยอะ ๆ แล้วลงตัวนี้ทับสิวจะขึ้นล่ะ - IPSA : The Time Reset R Aqua Clear Gel ตัวนี้เป็นมอยซืเจอไรเซอรืเนื้อเจลที่ทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดีมากถึงมากที่สุดเลยล่ะ เพราะมันฉ่ำแต่เบา ไม่เหนอะ ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์เนื้อเจลเน้นเรื่องความชุ่มชื้นแบบสุด ๆ ขอยกให้ Biotherm : AquaSource Nuit เพราะว่าแห้งกร้านยังไงก็เอาอยู่ แต่ที่ไม่ติดโผในดวงใจเพราะว่ากลิ่นน้ำหอมมันแน่นไปล่ะ ใช้ทุกวันไม่ไหวจริง ๆ - SK-II : Cellumiantion Deep Surge EX น้อยมากที่จะใช้มอยซืเจอไรเซอร์จนหมดกระปุก แต่ตัวนี้ปาดจนเกือบหมดแล้ว Facial Sunscreen กันแดดที่ปูเป้ชอบจะไมได้เซ็ทตัวแบบ Matte เพราะว่าใช้แบบ Matte ทีไรสิวจะขึ้นง่ายกว่าปกติ และมักมีปัยหากับการลง BB Cream ได้ง่ายกว่า - Hada Labo : Air Aqua UV Day Emulsion SPF30 / PA++ กันแดดสำหรับวันสบาย ๆ อยู่บ้าน ไม่เจอแดดอะไรเท่าไหร่ ใช้แทนมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวมันได้เลย ไม่หนักมาก แต่ก็ไมได้เซ็ทตัวแบบแห้ง - Kanebo ALLIE : UV Protector Gel (Mineral Moist) SPF50+ / PA+++ กันแดดตัวนี้เกลี่ยง่าย ให้ความรู้สึกฉ่ำผิว และทำให้เอฟเฟคผิวไบร์ทขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่วอก ประสิทธิภาพและ Feel ที่ได้นั้นเทียบเคียงกันแดดราคาแพง ๆตามเคาน์เตอร์แบรนด์ได้เลย - Kiehl's : Ultra Light Daily UV Defense SPF50 / PA+++ กันแดดที่ใช้แทนมอยซ์เจอไรเซอร์เวลาจะออกจากบ้านเพราะค่า SPF สูงหน่อย และเนื้อไม่ค่อยมีปัญหากับพวก BB Cream ที่จะใช้ ไม่มีน้ำหอมด้วย - SUQQU : Face protector SPF 50 สิ่งเดียวที่เราไม่ชอบคือกลิ่นกุหลาบที่ใส่มา (เราไม่ชอบกลิ่นกุหลาบ) แต่เนื้อดีมาก ใช้แล้วเกลี่ย BB ได้เรียบลื่นและติดทนกว่าเดิม เอาไว้ใช้ในโอกาสที่ต้องการความเป๊ะของหน้า จึงทำให้เรายอมทนกลิ่นของมันได้ (เพราะปล่อยไว้สักพักกลิ่นเริ่มหายไปแล้วล่ะ)BB Cream - Laneige : Snow BB Soothing Cusion SPF50+ / PA+++ ตัวนี้ใช้มาเรื่อย ๆ จนเปลี่ยน Refill มา 2 รอบแล้ว มันใช้ง่ายมาก ๆ และให้ผลลัพธ์ของผิวที่ดูเนียนฉ่ำดูสุขภาพดี ตบแป้งฝุ่นเซ้ทอีกหน่อยก็โอเคแล้ว ไม่ค่อยปกปิดอะไรนักแต่ชอบที่มันดูเป็นธรรมชาติ อ้อ ตัวนี้ไม่ Matte นะจ๊ะ สำหรับคนหน้ามัน ถ้าใช้แล้วไม่สถิตอยู่ในห้องแอร์หน้าจะเยิ้มเลยล่ะ - FairyDrops : Candy Bar BB Cream เป็น Bb Cream ที่เหมาะมากสำหรับการถ่ายรูป เพราะโดนสาดไฟ สาดแฟลชหน้าก็ไม่ลอย ไม่วอก เห็นบางคนบอกว่าสีมันเข้มไป แต่เราก็ใช้มันได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะเราไม่ชอบทาอะไรแล้วหน้าขาว ๆ น่ะBody Wash - Dove : Go Fresh Body Wash with Nutrium Moisture ในที่สุดก็เจอครีมอาบน้ำราคาไม่แพง อาบแล้วผิวไม่แห้ง ล้างออกได้ง่าย ไม่ลื่น ไม่ฝืด แถมกลิ่นหอมถูกใจ มีหลายสีให้เรียงสวย ๆ ในห้องน้ำ คลั่งมากถึงขนาดเสาะแสวงหา+ฝากคนอื่นซื้อกลิ่นที่ไม่มีขายในไทยจนได้มาครบทุกกลิ่นที่วางขายในโลกใบนี้Special Body Care - Biotherm : Lait De Gommage สครับขัดผิวกายกลิ่นส้มที่หอมมาก เป็นกลิ่นส้มที่สดชื่นและเป็นธรรมชาติมาก สครับเนื้อค่อนข้างละเอียด ขัดเบา ๆให้ทั่วแล้วล้างออกตัวจะเนียนนุ่มมาก เป็นสครับที่ชอบที่สุดเท่าที่ลองมาในปีนี้ - Biotherm : Celluli Laser Size.Code มีคนถามว่าปูเป้กินแหลกขนาดนี้ทำไมไม่อ้วน? นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ปูเป้ก็ใช้ตัวนี้นวด ๆ ตบ ๆ บริเวณพุง เอว และก้นเป็นประจำ รู้สึกว่าผิวเรียบและกระชับดี ยอดสะสมใน Biotherm กว่าครึ่งมาจากการซื้อเจ้าหลอดนี้ใช้มาเรื่อย ๆ นี่แหล่ะBody Sunscreen - Biore Aqua Rich : Watery Jelly SPF 30 / PA+++ กันแดดทาตัวที่ใช้ประจำวันยามที่ต้องออกไปนอกบ้านและพกติดตัวไว้ในกระเป๋าสำหรับเติมในระหว่างวันได้ตามต้องการ ช่วงที่ Lotus ลดเหลือร้อยกว่าบาทได้ทำการตุนไว้พอใช้ไปได้อีก 1 ปี - Nivea : Body UV Whitening Serum SPF 25 / PA++ ตัวนี้จะเอาไว้ใช้แทนมอยซืเจอไรเซอร์ + กันแดด ในยามที่อยู่กับบ้าน เพราะว่ากันแดดได้ครบและเสถียร มีแอนติออกซิแดนท์มาให้ตามสมควร กลิ่นหอมแนวดอกไม้+ผลไม้ทำให้เราใช้ง่ายขึ้น (แต่ไม่อยากให้ใส่น้ำหอมมาจะดีที่สุด) แถมราคาก็ไม่แพงด้วย แม้ส่วนตัวจะไม่ชอบการโฆษณาเรื่องผิวบางของแบรนด์นี้ แต่ตัวนี้มันก็ตอบโจทยืเราในหลายๆ ด้านจึงเป็นหนึ่งตัวที่เป็นตัวโปรดของเราในปีนี้Body Moisturizer - Cerave : Moisturizing Lotion โลชั่นตัวนี้จะเอาไปทาผิวหน้าก็ยังได้นะ มันช่วยกำหราบผิวแห้งกร้านและเคลือบผิวได้ดีมาก ไม่มีน้ำหอม ทาไปแล้วจะซึมได้ไม่ยาก แม้จะรู้สึกว่ามันไม่เหนอะหนะ แต่หลังจากนอนไปตืนหนึ่งแล้วลุกไปอาบน้ำก็จะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวยังมีอะไรเคลือบอยู่ ข้อเสียอย่างเดียวคือไม่วางขายในไทยล่ะ - La Mer : The Reparative Body Lotion เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายที่แพงที่สุดเท่าที่เคยใช้มา แต่มันใช้ดีมากจริง ๆ ตั้งแต่ส่วนประกอบที่มีสารบำรุงหลากหลาย เนื้อสัมผัสที่ดี เกลี่ยได้ง่าย ไม่เหนอะ และติดผิวได้ทน กลิ่นน้ำหอมที่ใส่มาก็โอเคมาก ๆ คือกลิ่นไม่ฉุนแต่ก็ติดทนทานตลอดทั้งวัน เหมือนกลิ่นน้ำหอมแพง ๆ ข้อเสียอย่างเดียวคือ "ราคา" อ้อ... ตัวนี้เป็นตัวที่มะม๊าของปูเป้เลิฟสุด ๆ อีกด้วย - La Roche-Posay : Lipikar Lait Lipid-Replenishing Body Milk แม้กลิ่นจะไม่ค่อยหอม แต่ตัวนี้ทาแล้วผิวนุ่มนิ่มขึ้นจริงอะไรจริง ช่วงอากาศแห้ง ๆ หรือรู้สึกว่าผิวกร้าน ๆ จะใช้ตัวนี้ล่ะFragrance - Victor & Rolf : Spice Bomb ปูเป้ไม่ชอบน้ำหอมผูชายเท่าไหร่ แต่นี่เป็นน้ำหอมผู้ชายที่โอเคมาก ๆ ไม่แมนจ๋าจนน่ามึนหรือน่าปวดหัว กลิ่นแรกจะให้ความรู้สึกซ่า ๆ ของเครื่องเทศ และจางลงไปเป็นกลิ่นที่หวานขึ้นหน่อย อธิบายไม่ถูก แต่ว่ามันเป็นกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่หอมมาก ๆ และค่อนข้างแตกต่างจากกลิ่นน้ำหอมผู้ชายอื่น ๆที่เคยได้กลิ่นมา - Hermes : Un Jardin Sur Le Toit นี่เป็นน้ำหอมขวดเดียวในห้อง ที่ยอมซื้อแม้มันจะไม่ลดสักสตางค์เดียว กลิ่นเหมือนกับเดินเข้าไปในสวนต้นแพร์ยามหลังฝนตก - Jo Malone : English Pear & Freesia + Nectarine Blossom & Honey เป็นคอมบิเนชั่นน้ำหอมที่ชอบมาก เข้าถึงได้ง่าย เชื่อว่าใครๆ ได้กลิ่นก็จะได้ต้องหลงรักAll Time Favorite - SK-II : Facial Treatment Essence ใช้มา 7 ปีแล้ว แต่มาปีนี้เองที่ใช้แบบหนักมือมากถึงขนาดทำเป็น Lotion Mask และผลที่ได้ก็ประทับใจทีเดียว เวลาเป็นสิวเม็ดแดง ๆคัน ๆ ใต้ผิว จะเอาสำลีชุบ FTE แล้วโปะสิวเอาไว้ในระหว่างนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ทำซ้ำเรื่อยๆ เมื่อสำลีแห้ง จะทำให้สิวแดง ๆ คัน ๆ บรรเทาลงได้ด้วยล่ะ ไม่เชื่อลองไปทำกันดูBest Packaging - The Body Shop : Ginger Sparkle ขอยกตำแหน่งแพคเกจยอดเยี่ยมแห่งปีให้กับน้องขนมปังขิงที่ปล้นเงินและหัวใจเราไปอย่างง่ายดาย ถึงขนาดเดินไปถามที่ร้านทุกวันว่าของเข้ารึยัง ของเข้าเมื่อไหร่เลยนะ
Create Date : 31 ธันวาคม 2555
Last Update : 31 ธันวาคม 2555 18:12:45 น.
22 comments
Counter : 161033 Pageviews.
โดย: Pin popo IP: 27.55.159.156 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:19:25:46 น.
โดย: wind IP: 124.122.218.70 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:20:31:34 น.
โดย: mm IP: 125.25.150.80 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:20:46:08 น.
โดย: ว่าน IP: 171.99.0.60 วันที่: 31 ธันวาคม 2555 เวลา:21:55:57 น.
โดย: Originalzer IP: 110.169.165.193 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:13:25:08 น.
โดย: หน้ากลมจัง IP: 171.100.252.114 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:15:04:39 น.
โดย: ploy IP: 202.28.35.250 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:15:16:44 น.
โดย: Wonderful gal IP: 101.108.236.188 วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:12:14:09 น.
โดย: NickyOkawa วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:14:57:51 น.
โดย: หวานนี้ IP: 27.55.154.32 วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:0:58:16 น.
โดย: หวานนี้ IP: 27.55.154.32 วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:1:00:53 น.
โดย: nana IP: 223.206.172.89 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:9:06:36 น.
โดย: Thenewqueenb IP: 115.67.230.170 วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:23:05:04 น.
โดย: วิว IP: 115.87.219.198 วันที่: 13 มกราคม 2556 เวลา:18:18:59 น.
โดย: Timep IP: 58.9.120.252 วันที่: 15 มกราคม 2556 เวลา:19:44:49 น.
โดย: น้ำ IP: 124.122.182.161 วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:11:31:48 น.
โดย: malina IP: 49.49.51.252 วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:19:25:31 น.
โดย: Percy IP: 180.183.243.76 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:2:12:35 น.
โดย: Vya IP: 118.173.65.167 วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:1:56:15 น.
Advertisement
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ
Web Counter
Counter Start on 29 September 2008
Search by Google
ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ