Bloggang.com : weblog for you and your gang
"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
<<
เมษายน 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
25 เมษายน 2554
"Biotherm" not just 'Spring Water' in a jar
All Blogs
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2015
[Beauty Talk] Kiehls Dermatologist Solutions 10 Years Anniversary
[Beauty Talk] Botox - Filler ฉีดแล้วสวย กับ ฉีดแล้วซวย ต่างกันอย่างไร
[Beauty Talk] Rii Pure Wata Cotton Pads สำลีธรรมชาติไม่ฟอกสีแสนอ่อนโยน
[Beauty Talk] Scotch Collagen-LeffUp
[Beauty Talk] Start Better with Clinique
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2014
[Beauty Talks] Rii Less Toner 52 สำลีประหยัดโทนเนอร์ ไม่เป็นขุย
[Beauty Talk] Clarins V Shape Challenge
[Beauty Talk] Belif Essence
[Beauty Talk] L'Oréal Revitalift Laser X3
[Beauty Talk] eMAX Facial Rejuvenation (IPL+RF) at Meko Clinic
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2013
[Beauty Talk] 3 Musketeers from Jergens for this winter
[Beauty Talk] One of my best skin treatment experience at Clarins Skin Spa
[Beauty Talk] Aveda lands in Bangkok
[Beauty Talk] BRAND'S InnerShine RubySignature Essence
[Beauty Talk] Cottage Happy Shower Series
[Beauty Talk] Crabtree & Evelyn Somerset Meadow Bath & Body Collection
[Beauty Talk] Scotch Collagen-Aora
[Beauty Talk] It's a soap? No, it's Dove!!!
[Beauty Talk] มอบของขวัญที่ตราตึงแน่นในความทรงจำ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก Crabtree & Evelyn
[Beauty Talk] PuPe's Favorite Item of Year 2012
[Preview] Pure Beauty : Pomegranate
[Trend] BRANDS InnerShine Marine Collagen Essence Strip
[Trend] "ฟันขาวสะอาด" อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้
[Beauty Talk] Lancome Genifique VS L'Oreal Youth Code
[Product Testing] Babi Mild Sweety Pink Plus
[Beauty Talk] PuPe's Five Favorite Item of Year 2011
[Beauty Talk] "รวม 16 สุดยอดไอเทมสุดกรี๊ดแห่งปีจาก 16 บล็อกเกอร์สุดแซ่บ"
[Product Testing] LANCOME : Renergie Yeux Multiple Lift Ultimate Rejuvenating Eye Duo
[Product Testing] Renokin : Hair Revitalizing Series
[Beauty Talks] SK-II 2011 Festive Set
[Beauty Talk] Hair-Removal Laser with Immagini Clinic & Daisy Diva Clinic
[Product Testing] The Body Shop : Rainforest Radiance Shampoo & Conditioner
[Product Testing] Bioderma : Sébium Purifying Foaming gel
[Product Testing] Kanebo : Impress IC White line
[Beauty Talk] BOTOX with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Fresh Cosmetic" คืออะไร?
มาเช็คปัญหาริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 8 จุดสำคัญกันเถอะ
เมื่อพิราบขาวบุกตลาดเสริมหล่อสำหรับท่านชายด้วย DOVE Men +Care
[Beauty Talk] Dermal Filler with Immagini & Daisy Diva Clinic
"Biotherm" not just 'Spring Water' in a jar
'Lancôme Rénergie Lift Volumetry' The new way to defy gravity?
Interview with "LIM Siok Hua" Kiehl's Training Manager
"Aviance UV Expert" Mission : 3rd Week
My heaven @ 'My Spa'
"Aviance UV Expert" Mission : 2nd Week
"Aviance UV Expert" Mission : 1st Week
'PuPe_so_Sweet' Skincare Regiment January 2010
[News] Reveal Your Skin with Olay
[ Preview ] New!!! OLAY White Radiance Intensive Brightening Serum & OLAY Natural White
Beauty Freak : Episode 2
PuPe_so_Sweet 'on' Buzzidea.tv
Happy Birthday to ME!!!
PuPe_so_Sweet on Video!!!
เรื่องเสียเงิน เสียสุขภาพจิต และเสียโฉม ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา...
รีวิว "กันแดด" ที่ลองใช้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
การอ่าน Ingredients List นั้นจำเป็น... แต่มันไม่ใช่ทุกอย่าง
[Cosmetics] Beauty Talks ปิดท้ายเดือนมกราคม
Shopping ฉลองปีใหม่ + รีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ + เอารูปที่ถ่ายเอาไว้มาให้ชม
"แว่นขยาย" อุปกรณ์ที่จำเป็นชิ้นใหม่ & Mini Review ส่งท่ายปีเก่า
"อย่าหมิ่นเงินน้อย" + โรค "ชอบลอง" กำเริบ / เปิดกล่อง Pre Order
[Cosmetics] ของฝากจากพี่ซินดี้ (รอบสอง)
[Cosmetics] เปิดกล่อง Paula's Choice & ของฝากจาก "พี่ซินดี้"
[Cosmetics] Skincare Regiment Update (31/August/2008)
"Biotherm" not just 'Spring Water' in a jar
เมื่อนึกถึงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสำคัญเป็นเอกลัษณ์ในทุกผลิตภัณฑ์ และเป็นส่วนผสมที่หาไม่ได้ในผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นแล้วนั้น เราจะคิดถึงแบรนด์อะไรกันบ้าง?
หลายคนน่าจะนึกถึง
The Miracle Broth
ซึ่งเป็นสารที่ได้จากการหมักสาหร่ายสายพันธ์เฉพาะด้วยกระบวนการหมักทางชีวภาพ คิดค้นโดยดอกเตอร์ของนาซ่าที่เสียโฉมจากอุบัติเหตุและต้องการหาวิธีรักษาผิวของตัวเองจนเป็นต้นกำเนิดของ
La Mer
บางคนก็อาจนึกถึง
Pitera
ของ
SK-II
ซึ่งค้นพบโดยบังเอิญจากการสังเกตุว่าหญิงชราที่ทำงานในโรงหมักเหล้าสาเกนั้นมีผิวมือที่อ่อนเยาว์ดุจสาวน้อยทั้งที่ใบหน้าของเธอเหล่านั้นเต็มไปด้วยริ้วรอย ปูเป้ก็นึกได้แค่สองแบรนด์นี้เท่านั้น...จนกระทั่งได้มาทำความรู้จักกับ
Biotherm
อีกครั้งและพบว่าแบรนด์นี้ก็มีส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์กับเขาด้วยเหมือนกัน...
ย้อนกลับไปสิบปีกว่าปีที่แล้ว ชื่อของแบรนด์ Biotherm ดังกระหึ่มขึ้นมาด้วย Wording ทรงพลัง
"สารสกัดเข้มข้นจากน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ให้คุณค่าฟื้นบำรุงเทียบเท่าน้ำแร่ร้อน 5,000 ลิตรต่อครีมหนึ่งกระปุก"
เพราะในตอนนั้น "น้ำแร่" เป็นส่วนผสมที่แปลกใหม่จึงดึงความสนใจได้ดี... ทว่าปัจจุบันนี้ "น้ำแร่" มีใช้กันทั่วไปในเครื่องสำอาง สิ่งที่ทำให้ Biotherm เคยดูน่าสนใจกลับไม่โดดเด่นอีกแล้วในสายตาของใครหลายคน (รวมถึงตัวผมเองด้วย)
แต่....
หากว่าสิ่งที่เราเคยรับรู้เกี่ยวกับ "น้ำแร่" 5000 ลิตรในกระปุก นั้นเป็นการสื่อสารที่ผิดประเด็น และ
แท้จริงแล้วในผลิตภัณฑ์
Biotherm
นั้นไม่ได้มีน้ำแร่อยู่เลยสักหยดในผลิตภัณฑ์แต่กลับเป็นส่วนผสมที่มีความ Unique ไม่เหมือนใคร
ล่ะ? ประโยคนี้ทำให้เรื่องราวของ Biotherm ดูเริ่มจะน่าสนใจขึ้นอีกครั้ง
ในตอนแรกปูเป้ก็เป็นเหมือนอีกหลาย ๆ คนที่เข้าใจว่าส่วนประกอบหลักของ Biotherm คือ "น้ำแร่" แต่แล้วในผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้มีน้ำแร่อยู่สักหยด กลับเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ดำรงชีวิตอยู่ในน้ำแร่ร้อน หรือ
Pure Thermal Plankton (PTP)
ซึ่งมีตำนาน เรื่องราวเชิงวิทยาศาสตร์ และ ชีววิทยาที่อยู่เบื้องหลังมากมาย และวันนี้ปูเป้จะเอาข้อมูลที่ปูเป้ได้ฟังและได้ค้นคว้ามาเล่าให้ทุกคนได้รู้กันด้วย
'Pure Thermal Plankton' The Heart of Biotherm...
Pure Thermal Plankton
ที่เป็นส่วนผสมหลักในทุกผลิตภัณฑ์ของ
Biotherm
นั้น คือแพลงก์ตอนน้ำแร่ร้อนสายพันธ์ที่มีชื่อว่า
Vitreoscilla Filliformis
แพลงก์ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกโดยมีอายุมากว่าสามพันล้านปีแล้ว แพลงก์ตอนน้ำแร่ร้อนสายพันธ์นี้ค้นพบครั้งแรกที่เทือกเขา
Pyrenees
ในประเทศฝรั่งเศส ในสมัยโบราณนั้นคนเรายังไม่มีความรู้ว่าในบ่อน้ำแร่นั้นมีส่วนประกอบของอะไร แต่เป็นเรื่องที่เล่ากันเรื่อยมาว่าน้ำแร่ร้อนบนเทือกเขาแห่งนี้มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษา โรคสะเก็ดเงิน อาการระคายเคือง โรคผิวหนังอื่น ๆ ฟื้นบำรุงให้ผิวอ่อนเยาว์ หรือแม้กระทั่งรักษาบาดแผลอย่างนักรบสมัยโรมันยังเดินทางมาที่บ่อน้ำร้อนแห่งนี้เพื่อช่วยในการรักษาบาดแผลจากการสู้รบ จากสรรพคุณนี้เองที่ทำให้หลายคนพยายามนำน้ำแร่ไปใช้ที่บ้าน แต่ก็พบว่ามันไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับการมาใช้ที่บ่อ...
(หน้าตาของ Vitreoscilla Filliformis หรือ Pure Thermal Plankton)
ปริศนานี้ต้องรอจนกระทั่งปี 1935 กว่าที่วิทยาศาสตร์จะมีความก้าวหน้าพอ จึงได้ทราบว่าหลังจากที่ตักน้ำแร่ร้อนออกมาจากบ่อสักระยะหนึ่ง ปริมาณแร่ธาตุจะลดหายไปกว่าครึ่งเนื่องจากแพลงก์ตอนที่อยู่ในน้ำแร่นั้นตายหมด เพราะสภาพแวดล้อมที่แพลงก์ตอนอาศัยอยู่นั้นปราศจากออกซิเจน แสง มีอุณหภูมิและความกดดันสูง และแพลงก์ตอนยังต้องใช้แร่ธาตุ Sulfur ในการดำรงชีวิต
(Jeannine Marissal ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Biotherm)
การศึกษาเพิ่มเติมทำให้พบว่าท่ามกลางแพลงก์ตอนหลากหลายสายพันธุ์ในน้ำแร่ร้อน มีเพียง Vitreoscilla Filliformis สายพันธุ์พิเศษนี้ที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับองค์ประกอบสำคัญหลายชนิดในเซลล์ผิวของมนุษย์ โดยมีดีเอ็นเอเหมือนกับเซลล์ผิวมากกว่า 80% และเมื่อถึงปี 1950 นักชีววิทยาหญิงชื่อ Jeannine Marissal ได้ริเริ่มนำส่วนผสมของแพลงก์ตอนสายพันธุ์พิเศษนี้นำมาผสมลงในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นี่คือการถือกำเนิดของแบรนด์ที่ชื่อว่า Biotherm
การนำ Vitreoscilla Filliformis หรือ Pure Thermal Plankton (PTP) มาใช้ในช่วงแรกนั้นมีความยากลำบากมาก เพราะใช้ต้องอุปกรณ์พิเศษในการดำดิ่งลงไปในปล่องน้ำแร่ร้อนเพื่อเก็บน้ำแร่ร้อนในบริเวณที่ลึกหรือใต้ชั้นหินที่ปราศจากแสงส่องถึง ซึ่งอุดมไปด้วยแพลงก์ตอนมาสกัดเอาเฉพาะแพลงก์ตอนสายพันธ์พิเศษนี้ ในช่วงแรกสายพันธุ์ของแพลก์ตอนที่สกัดได้ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตและเป็นธรรมชาติมากๆ ปริมาณองค์ประกอบสำคัญในตัวแพลงก์ตอน เช่น กรดอะมิโน โปรตีน น้ำตาล เกลือแร่ แร่ธาตุ ที่เหมือนกับเซลล์ผิวของมนุษย์ยังไม่สม่ำเสมอ เพราะสามารถแปรเปลี่ยนมากน้อยตามปัจจัยของความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมและฤดูกาล แถมเจ้าแพลงก์ตอนสายพันธุ์นี้ยังมีการแบ่งตัวเพียงปีละ 4 ครั้งเท่านั้น ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ...
(Dr.Lucien Aubert)
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
Dr.Lucien Aubert
นักชีววิทยาผู้อำนวยการสถาบันวิจัย Biotherm ได้คิดค้นวิธีการที่จะเพาะเลี้ยงแพงก์ตอนเหล่านี้ขึ้นในสภาวะจำลองที่มีความดัน ความร้อน ความเป็นกรดด่าง สัดส่วนของแร่ธาตุที่จำเพาะเหมือนกับในปล่องน้ำแร่ร้อนที่แพลงก์ตอนชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้น ใช้เวลายาวนานกว่า 20 ปีในการพัฒนากระบวนการ
Bio-Fermentation Process
ในที่สุดเขาก็สามารถเพาะเลี้ยง Pure Thermal Plankton ที่มีความบริสุทธิ์สูงสุด มีปริมาณองค์ประกอบสำคัญ ที่เหมือนกับเซลล์ผิวของมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ที่สำคัญสามารถแบ่งตัวได้ในทุก ๆ 4 ชั่วโมง กระบวนการสกัดจะจบลงที่การ Dry Freeze คือการระเหยน้ำออกจากเซลล์ของแพลงก์ตอนและทำให้ถึงจุดเยือกแข็งอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นผง ทำให้ได้สารสกัดแพลงก์ตอนที่มีคุณสมบัติเข้มข้นเหมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ปปแทุกประการ โดยสารสกัดแพลงก์ตอนเพียง 1% ที่ใส่ในผลิตภัณฑ์ Biotherm นั้นจะมีคุณค่าเทียบเท่ากับการฟื้นบำรุงผิวด้วยน้ำแร่ร้อนถึง 5,000 ลิตร เลยทีเดียว
(สถาบันวิจัย Biotherm และเครื่องเพาะเลี้ยง Pure Thermal Plankton)
จุดเด่นของ Pure Thermal Plankton อยู่ตรงที่มันมีองค์ประกอบสำคัญและดีเอ็นเอเหมือนกับเซลล์ผิวของมนุษย์กว่า 80% องค์ประกอบสำคัญที่ว่านี้ก็คือพวกกรดอะมิโน โปรตีน น้ำตาล เกลือแร่ แร่ธาตุ ที่เซลล์ใช้ในการสร้างเอนไซม์เพื่อสื่อสารและสั่งการทำงานระหว่างเซลล์นั่นเอง และเนื่องจาก Pure Thermal Plankton ไม่ใช้สามารถใช้ออกซิเจนในการสันดาบ ตัวมันเองจึงไม่มีอนุมูลอิสระอีกต่างหาก พูดง่าย ๆ ว่า Pure Thermal Plankton สามารถเข้าไปช่วยทดแทนสิ่งที่ขาดหายของเซลล์ไปเหมือนกับการให้อาหารแก่เซลล์ผิวด้วยเซลล์ที่สมบูรณ์แบบ
ทันทีที่สัมผัสผิว แพลงก์ตอนเหล่านี้จะช่วยลดการระคายเคืองและปรับสมดุล จากนั้นจะกระตุ้นกลไกการทำงานและการสื่อสารระหว่างเซลล์ มีการศึกษาอันหนึ่งที่บ่งชี้ว่าสามารถกระตุ้นการสร้างเอนไซม์พิเศษ
Manganese Superoxide Dismutase
ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ปกป้องเซลล์ตามธรรมชาติจากอนุมูลอิสระได้อีกด้วย พูดสรุปง่าย ๆ คือช่วยให้เซลล์มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาผิวต่างๆลดเลือนไป ผิวได้รับการฟื้นฟู และสามารถปกป้องซ่อมแซมตนเองได้จากปัจจัยทำร้ายผิว อย่างแสงแดด มลภาวะ ความเครียด รวมถึงฆ่าอนุมูลอิสระได้ด้วยตัวเอง และเนื่องจากมีความที่เหมือนกับเซลล์ผิวของมนุษย์มาก จึงไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีการส่งผ่านหรือย่อโมเลกุลใด ๆ เพื่อเข้าสู่ผิว
(Source :
Induction of the skin endogenous protective mitochondrial MnSOD by Vitreoscilla filiformis extract.
,
Improvement of atopic dermatitis skin symptoms by Vitreoscilla filiformis bacterial extract.
,
Effects of nonpathogenic gram-negative bacterium Vitreoscilla filiformis lysate on atopic dermatitis: a prospective, randomized, double-blind, placebo-controlled clinical study
.)
จากที่เล่ามาเนี่ย ปูเป้เชื่อว่าคงทำให้ใครหลายคนอยากเอาหน้าไปจุ่มแพลงก์ตอนนั้นเต็มแก่แล้ว แต่ปูเป้ก็ไม่อยากให้ทุกคนเชื่อในทันทีหรอกนะครับ (การเสพข้อมูลที่ดี ต้องใช้วิจารณญาณและหาข้อมูลก่อนจะเชื่อเสมอ) ตอนที่ปูเป้ได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้มาก็ได้มีการหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการศึกษาตีพิมพ์ไว้จริงหรือไม่...ก็พบงานวิจัยที่ทางแบรนด์อ้างถึงบ้างเหมือนกัน... แต่มีสถาบันวิจัย Loreal เป็นผู้นำเสนอ ในแง่ของความน่าเชื่อถือนั้นมันก็น้อยกว่างานวิจัยโดยหน่วยงานอิสระอยู่แล้ว
ทว่าปูเป้ก็พยายามมองในแง่ดีว่า Pure Thermal Plankton ของ Biotherm นั้นดูจะเป็นส่วนผสมเพียงตัวเดียวท่ามกลาง Signature หรือ Miracle Ingredients อื่น ๆ ที่ปูเป้เห็นว่าอย่างน้อยก็มีงานวิจัยหรือการศึกษาที่ออกมาเป็น Paper และตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะอย่างจริงจัง...ในตอนนี้ถึงผมจะไม่เชื่อที่ทางแบรนด์บอกมาทั้งหมดแต่ก็ถือว่ายังดีที่มีหลักฐานหรือสถิติให้จับต้องได้มากกว่าการอาศัยความศรัทธาและความเชื่อมั่นแต่เพียงอย่างเดียว...
เห็นว่า Blog นี้มีประโยชน์ ก็ช่วยกันกดปุ่ม
มุมขวาล่างเป็นกำลังใจให้ให้ปูเป้ด้วยนะคร้าบ
Create Date : 25 เมษายน 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 16:34:06 น.
10 comments
Counter : 6805 Pageviews.
Share
Tweet
เคยเข้าฟังใน workshop เหมือนกันค่ะ จากข้อมูลน่าสนใจทีเดียว รอชมรีวิวของคุณปูเป้อยู่นะคะ
โดย: peepo66 IP: 182.53.137.169 วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:17:25:52 น.
เพิ่งจะซื้อตัวใหม่ ของไลน์นี้มาเมื่อ2เดือนที่แล้ว เพราะเพื่อนน้าทุกคนที่ใช้ บอกว่าแจ่มมาก แต่เมื่อมาอยู่บนหน้าเราแล้ว ไม่มีความแตกต่างอะไรเลย ไม่ขาว แต่หน้านุ่มขึ้นมาก สุดท้ายเลยขายต่อให้เพื่อนน้าไปแบบตัดราคา ซื้อมาสามพันกว่า ขายไปสองพัน แต่ปริมาณที่ขายไป ไม่แตกต่างจากตอนซื้อ คือ แทบไม่ลดลงเลย ^^
ก็อย่างที่คุณปูเป้บอก ของดี แต่บางดีมันก็อาจไม่เหมาะกับทุกคนก็ได้ - -,
โดย:
pitchayapatsorn
วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:17:34:32 น.
หน้านี้ มีแต่ความรู้จริงๆครับผม !!
โดย: Genk IP: 58.8.218.235 วันที่: 25 เมษายน 2554 เวลา:21:00:59 น.
มีประโยชน์มากค่ะ
โหวตให้แล้วนะคะ
ชวนเสียเงินอีกแล้ว
อิอิ
โดย:
หนูลีลี
วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:7:59:51 น.
what wud be good skincare for women at 40 ?
Biotherm answers the question ?
โดย: felicis IP: 182.53.225.103 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:14:41:58 น.
แพรงค์ตอน อยู่ในน้ำร้อนได้ด้วยเหรอครับ มันน่าจะตายนะ
โดย: art IP: 58.9.23.127 วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:0:41:18 น.
felicis - ไบโอเธิมมีไลน์ SKin-Vivo นะครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่้าคาดหวังเรื่องใดบ้าง ถ้าเป็นเรื่องริ้วรอย ปูเป้ยังเชียร์วิตามินซี 10 % ขึ้นไปมากกว่าอยู่ดีครับ
art - ต้องลองอ่านข้อมูลเรื่อง Thermal Vent ดู แล้วจะพบว่าเจอสิ่งมีชีวิตที่มากกว่าเซลล์เดียว อาศัยอยู่ในจุดที่ร้อนยิ่งกว่าน้ำเดือดเยอะแยะเลย
โดย:
PuPe_so_Sweet
วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:12:04:20 น.
ชอบ comment k PuPe มากคะ
โดย: กาญจนา IP: 124.122.231.217 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:57:13 น.
แพลงตอนชนิดนี้ อาศัยในที่อุณหภูสูง ความกดดันสูง ต้องใช้แทคโนโลยี
ระดับสูงเลี้ยงมัน แล้วเอามาผสมครีม ทิ้งไว้อุณหภูปกติ คนชื้อมา เอามาแช่ตู้เย็นอีก
แพลงตอนคงตายไปหมดแล้วหล่ะ. แตส่วนผสมอย่างอื่นดีเลยให้อภัย
โดย: Sansan IP: 14.207.177.168 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:1:43:45 น.
เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เขาให้คำตอบว่าใช้การ Dry Freeze เพื่อคงคุณค่าก่อนผสมในผลิตภัรฑ์ ตามนี้อ่ะครับ
โดย:
PuPe_so_Sweet
วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:0:50:40 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [
?
]
Advertisement
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ
Web Counter
Counter Start on 29 September 2008
Search by Google
ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ
Custom Search
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.