คิดอกุศลอยู่เรื่อย ทำอย่างไรดี
มีผู้ถามมาว่า ชอบคิดเรื่องไม่ดีอยู่เรื่อย เิกิดความกลุ้มใจมาก จะทำอย่างไรดี
เรื่องนี้ ผมจะขอนำสิ่งที่พระพุทธองค์สอนให้แก่พุทธบริษัทเพื่อพิจารณาด้วยปัญญา พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ขันธ์ 5 นั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา นี่คือคำสอนจากพระพุทธองค์
ทีนี้ ผมขอให้พิจารณาคำสอนของพระพุทธองค์อีกทีหนึ่ง อย่าได้มองไปผ่าน ๆ ในขันธ์ 5 นั้นประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ถ้าพระพุทธองค์สอนว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันไม่เทียง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ก็แสดงว่า อันความคิด ซึ่งก็คือ หนึ่งอย่างในสังขาร ย่อมไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตาครับ
ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจคิดไม่ดี แต่จิตตสังขารมันปรุงของมันขึ้นมาเอง ไม่ว่าปรุงดี หรือปรุงไม่ดี ก็ตาม มันย่อมไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตา ครับ ดังนั้น ผมจึงขอให้ท่านที่ถามผมมา ให้เกิดความสบายใจว่า สิ่งที่คิดไม่ดี ถ้าจิตมันปรุงของมันเอง โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจคิดแล้ัวละก็ ขอให้พิจารณาคำสอนของพระพุทธองค์ครับว่า มันไม่ใช่ของเรา มันไม่ใช่เราด้วย เมื่อมันไม่ใช่ของเรา มันไม่ใช่เรา แล้ว ก็ขอให้สบายใจได้ครับในเรื่องนี้
อนึ่ง เมื่อเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมา ถ้าเราพยายามจะไปหยุดมัน มันจะยิ่งคิดไม่ดีต่อไป ครับ สำหรับท่านที่กำลังจิตยังไม่แข็งแรง ผมก็ขอแนะำนำว่า อย่าไปดูมันด้วยครับ เพราะถ้าท่านกำลังจิตไม่แข็งแรง แล้วไปดูมัน มันจะลากท่านเข้าไปเล่นด้วย แล้วท่านจะ ยิ่งทุกข์ ยิ่งกลุ้มใจครับ ทีนี้ท่านจะเหมือนตกนรกทั้งเป็นทีเดียว
ผมขอให้ท่านอ่านเรื่องนี้ดูเป็นแนวทางการแก้ไข //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2010&date=05&group=8&gblog=9
แต่ถ้าท่านเป็นผู้ฝึกฝนจิต ทีมีกำลังสัมมาสติตั้งมั่่นแล้ว จิตปรุงแต่งลากท่านเข้าไปไม่ได้ ท่านจะดูจิตปรุงแต่งแสดงละครให้ท่านดูก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไรถ้าท่านจะดูมัน แต่ในธรรมชาติของจิตแล้ว ถ้าท่านมีกำลังจิตตั้งมั่นดีแล้ว พอท่านเห็นจิตปรุงแต่งเมื่อใด จิตปรุงแต่งจะหยุดทันทีโดยอัตตโนมัต และท่านทีีมีกำลังจิตตั้งมั่นดีแล้ว ก็จะเห็นจิตปรุงแต่ง ตามที่พระพุทธองค์สอนไว้ทุกข์ประการว่า มันไม่ใช่เรา ไมี่ใช่ของเรา มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตาครับ
สำหรับท่านมือใหม่ในตอนนี้ที่กำลังจิตยังอ่อนปวกเปียก ไม่เห็นจิตปรุงแต่งดังที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ ก็ขอให้สบายไว้ก่อนครับ เมื่อสบายใจแล้ว ก็ขอให้ตั้งใจฝึกฝน สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ต่อไป จนจิตตังมั่น แล้วท่านก็จะเห็นจริงดังที่พระพุทธองค์ทรงสอนชาวพุทธไว้ครับ
ที่ผมเขียนมา คงไม่ทำให้คุณมือใหม่สับสนนะครับ
Create Date : 08 พฤษภาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:12:37 น. |
Counter : 1921 Pageviews. |
|
|
|
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน