รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

กลุ้มใจไม่ยอมเลิก จะทำอย่างไรดี

เมื่อท่านเกิดอาการกลุ้มใจ ไม่ยอมหยุดกลุ้ม นี่คืออาการที่เกิดจิตปรุงแต่งขึ้น และ ท่านถูกจิตปรุงแต่งมันลากเข้าไปแล้ว ผลก็คือ ท่านกลุ้มใจไม่ยอมหยุด

เกิดเป็นคนต้องมีเรื่องทำให้กลุ้มใจอยู่เสมอ เศรษฐีก็กลุ้มแบบเศรษฐี ยาจกก็กลุ้มแบบยาจก ไม่มีใครหนีพ้นไปได้ พอเกิดเรื่องกลุ้มใจ ถ้ายิ่งอยากให้หยุดกลุ้มใจ จะยิ่งเหมือนเอาน้ำมันราดเข้ากองไฟ จะยิ่งกลุ้มใจต่อเนื่องไปอีก และก็หยุดไม่ได้

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม เรื่องกลุ้มใจ ก็คืออาการจิตตกครับ
อย่าไปเชื่อใครที่บอกว่า ภาวนาแล้วจิตดี มีความสุข (คงมีแต่พระอรหันต์กระมังที่เป็นแบบนี้ )
บนเส้นทางการภาวนาจะต้องมีจิตตกเสมอ เพราะจิตตกจะเป็นด่านสำคัญก่อนที่จะเข้าสู่นิพพิทา และจิตตกจะมีหลายครั้งเสีบด้วย ไม่ใช่ครั้งเดียว

เมื่อกลุ้มใจ หรือ จิตตก ถ้าท่านเป็นมือใหม่มาก ๆ ที่กำลังจิตยังไม่มี
ผมแนะนำให้ใช้คำบริกรรมครับ คำบริกรรม ก็คือ การนึกคำอะไรบางอย่างขึ้นมา และ การบริกรรมจะเป็นยาที่แรงสำหรับจิตตก กลุ้มใจไม่ยอมเลิก การที่เราบริกรรม เพื่อให้จิตเขาทำงานอยู่ที่คำบริกรรม แทนที่จิตไปคิดเรื่องกลุ้มใจ พอจิตไปทำงานคำบริกรรม มันก็จะค่อย ๆ เลือนความคิดที่กลุ้มใจลงไปเอง อันเป็นธรรมชาติของจิตเองที่เป็นอย่างนี้
คำบริกรรมจะใช้อะไรก็ได้ที่ถนัด เช่นพุทโธ
นับเลข บริกรรมมันเข้าไป ใหม่ ๆ อาจใช้เวลาบ้าง เช่น 5 วัน 7 วัน หรือ นานกว่า อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง แต่ถ้าท่านไม่ใช่มือใหม่นัก เพราะภาวนามาบ้างแล้ว เวลาที่ใช้แก้จิตตกจะร่นเร็วขึ้นเรือย ๆ ตามกำลังจิตที่ท่านมี

แต่ถ้าท่านไม่ชอบคำบริกรรม ก็ให้หันมาใช้กายานุปัสสนาสติปัฏฐานที่แรง ๆ เช่น การเดินจงกรม เดินให้มาก เดินให้เหนื่อย ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเช่นกัน

หวังว่า ท่านคงเข้าใจในหลักการ และมองวิธีแก้ใขออกนะครับ

เมื่อจิตตก อย่าปล่อยไว้ มันจะเป็นแผลเรื้อรัง เป็นภัยทั้งจิตใจและร่างกายด้วยครับ ความเครียดจะตามมา โรคภัยจะมาเยือน ให้รีบรักษาโดยเร็ว

อนึ่ง มีคำสอนบางสำนัก ที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง ที่เขาสอนลุกศิษย์ของเขาว่า เมื่อจิตตก ให้เพ่งมองลงไปที่จิต จนจิตเลิกคิดและหายจิตตก
ผมเพียงแต่บอกว่า ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง แต่ผมของดการวิจารณ์กับคำสอนประเภทนี้ ผมปล่อยให้ท่านพิจารณาเอาเองด้วยปัญญา

*********




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553
2 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:12:55 น.
Counter : 1791 Pageviews.

 

แนะนำอ่าน ตัวอย่างการฝึกเพื่อการรู้กาย ที่
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=30-05-2009&group=1&gblog=20

 

โดย: นมสิการ 8 พฤษภาคม 2553 21:20:16 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:49:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.