สิ่งที่มีชีวิตต้องเคลื่อนไหว
ถ้าไม่เคลื่อนไหว ก็คงเหมือนกันตายไปแล้ว
ใจคนเรายังไม่นิ่งเลย
ประมาอะไรกับสิ่งอื่นๆ
พอวิ่งไปแล้วตัน ไม่เจอทางออก
มันก็ต้องดิ้นรน
หาทางออกทางอื่นกันต่อไป
บางทีไม่อยากวิ่ง ไม่อยากเดิน
แต่อย่างที่บอกว่าถ้าไม่ไปไหน...ก็คงเหมือนกันตายไปแล้ว
เราไม่อยากเปลี่ยน แต่สถานการณ์มันเปลี่ยน
เราไม่ยอมเปลี่ยน คนเจ็บปวดก็คือเราเอง
ใครนะบอกว่า
ให้เปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลง
คงเป็นเพราะเปลี่ยนแปลงเองมันควบคุมได้ละมัง
บางทีอาจจะไม่ถูกใจ ต้องกัดฟันทนบ้าง
แต่ก็คงคุ้มกว่า
เพราะถ้า "ถูกบังคับ" ให้เปลี่ยนแปลง
นั่นหมายความว่า...จะไม่มีอะไรเป็นอย่างใจเราเลย
ในวิชาเรียนการอ่าน
อาจารย์เล่าให้ฟังถึงความสำคัญของจุดหมาย ละ เส้นทางไปสู่จุดหมาย
คนที่อยู่ที่จุดสูงสุดที่ใฝ่ฝันเล่าว่า
วินาทีแรกดีใจเหลือเกินที่มาถึงได้
แต่วินาทีต่อมาก็ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
เส้นทางที่ผ่านมาต่างหาก
เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำ
เส้นทางการเดินมันเป็นของแต่ละคน
บางทีเลือกเลี้ยวมาทางนี้ ดูเหมือนจะดี แต่โคตรจะขรุขระ
เดินมาแล้วก็หันกลับไปคิดว่า ไม่น่าจะเดินมาทางนี้เลย
แต่อย่างที่พูดไว้
สถาณการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว
จะดึงดันทำตัวเหมือนเดิม ก็คงรังแต่จะเจ็บตัว
เส้นทางมันโหด
เราก็คงต้องโหดไปกับมัน
บางที่เส้นทางนี้มันก็แค่สะท้อนสิ่งที่เราควรจะได้รับบ้าง
สบายมานานแล้วนี่ มีความสุขกับความสบายมาพอแล้ว
บกพร่องมาพอแล้ว
ตอนเดินก็ได้แต่หวังว่า
ปลายทางข้างหน้าจะมีอะไรดีๆรออยู่
ไม่ใช่แค่จะรอดไปให้ได้
แต่จะรอดไปอย่างสวยงาม
จากเส้นทางนี้
ที่ต้องผ่านไป
ปล. บล๊อกวันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง....จริงๆนะ
ปล. สอง รูปจากถนนตัดใหม่ตรงจากสายเชียงใหม่-หางดงไปงานพืชสวนโลก
ไม่รู้ทำไม...รู้สึกว่าเป็นถนนที่สวยมาก ขับรถสบายมาก
และมีความสุขทุกครั้ง ที่อยู่บนถนนสายนี้
คงไม่ต้องบอกว่า...ขี่จักรยานบนถนนเมืองปักกิ่ง...รู้สึกยังไง
หากคุณมั่นใจว่ามาถูกทิศทาง ก็จงก้าวต่อไป
สู้ สู้ ค่ะ