เมื่อบ่ายนี้เพิ่งได้ข่าวว่าลุงของเพื่อน
ซึ่งอยู่แถวบ้านนี่เสีย
เพราะแม่ไปช่วยงานแต่งงานของคนแถวนั้น
แล้วอยู่ดีๆก็มีคนมาบอกว่า
ลุงคนนี้เสีย
คนช่วยงานแต่งก็เลยต้องไปช่วยงานศพซะงั้น
ได้ข่าวว่าเครียดมาก
ก็เลยวูบ
แล้วก็ไปเลย
แม่เล่าให้ฟังว่าไปช่วยเค้าอาบน้ำให้ลุงคนนี้
เค้าเหมือนหลับอยู่
เพราะตัวยังอุ่นๆ
อ่อนๆอยู่เลย
ฟังแล้วก็นึกถึงน้องแมวตัวน้อย
(ใครติดตามบ๊อกช่วงหลังสงกรานต์คงยังจำกันได้)
สิ่งมีชีวิตที่ตายใหม่ๆ
ยังอุ่น
เหมือนกำลังหลับอยู่
ทำให้เราไม่เชื่อว่า
สิ่งที่กำลังหลับอยู่นี้
จะไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้อีก
เค้าจะไม่หายใจ
ไม่ลืมตา
และไม่ส่งเสียงใดๆอีก
ยังจำได้ดี
ตอนที่อุ้มน้องแมวออกมาจากโรงบาลสัตว์เล็ก
อุ้มไปร้องไห้ไปจนถึงบ้าน
พอถึงบ้านน้องเค้าก็แข็งแล้ว
เหมือนตุ๊กตาที่มีโครงแข็งๆ
ไม่ขยับเขยื้อน
ถ้าปล่อยให้ตกบนพื้น
ก็คงกลิ้งเหมือนตุ๊กตา
คิดไปคิดมาก็รู้สึกเฉยๆกับความตาย
มันเป็นเหมือนกิจกรรมหนึ่งของชีวิต
ที่ต้องเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่ง
เรากลัวมันนักหนา
กลัวว่ามันจะพรากคนที่เรารักไปจากเรา
หรือพรากเราไปจากคนที่เรารัก
เราจึงจัดให้มันอยู่ไกลตัว
ไม่นึกถึง ไม่พูดถึง
ทั้งๆที่มันเกิดขึ้นทุกวัน
ตอนคนแต่งงาน คลอดลูก ฉลองวันเกิด
อีกมุมหนึ่งของโลก ก็คงมีคนกำลังร้องไห้
เพราะไอ้เจ้าความตายนี้
เฮ้อ
ปล. วันนี้เขียนบ๊อกออกแนวปริศนาธรรม
เลยต้องเรียกเจ๊ประจำกล่องคอมเม้นมาใช้งาน
จะได้ดูเข้ากะบรรยากาศหน่อย
เสียใจด้วยนะคะ
แอบจุ๊บๆๆ ก่อน