ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการ 12
^ ^ ^ สนใจสมัคร จิ้มเข้าไปดูเลยค่ะ
โจทย์โดย : กะว่าก๋า
หลับตา... แล้วจินตนาการว่า คนที่คุณเกลียดชังที่สุดในชีวิต ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร... เป็นศัตรู คู่แข่งทางธุรกิจ คนที่แย่งคนรักของคุณ คนรักเก่า เพื่อนทรยศ ญาติผู้คดโกง คนที่มีนิสัยใจคออันน่ารังเกียจ นักการเมืองที่คุณเหม็นขี้หน้า ฯลฯ ใครก็ได้ที่คุณเกลียดเขามากที่สุด....
หลับตา... แล้วจินตนาการว่าเขามานอนอยู่แทบเท้าคุณ เขานอนหายใจรวยริน เลือดท่วมร่าง และกำลังจะตายภายในเวลาไม่ถึงห้านาที
คนที่คุณเกลียดชังมากที่สุดในชีวิตคนนี้กำลังจะตาย.... เขาหันมาร้องไห้ แล้วขออโหสิกรรมกับคุณ เขาพูดถึงความเลวที่ตัวเองได้ทำกับคุณ เขาขอโทษ ร่ำไห้ เจ็บปวดจากบาดแผล
คุณยืนนิ่งและพยายามนึกหาถ้อยคำที่จะพูดกับคนๆนี้ . . . คุณจะพูดอะไรกับคนๆนี้และคำๆนั้น คืออะไร ?
:: วินาทีสุดท้ายแห่งการจากลา ::
ท่ามกลางเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ
เด็กชายหญิงวัยไล่เรี่ยกัน วิ่งเล่นกันกลางสนามเด็กเล่น
ฉันนั่งอ่านหนังสือแนวแฟนตาซี เล่มเล็กๆ
คิดว่าจะอ่านรวดเดียวให้จบ
พี่ติ๊กรู้ว่าฉันชอบอ่านหนังสือทุกประเภท
แต่ยังไม่เคยเห็น ฉันอ่านหนังสือแนวนี้เลย
พี่ติ๊กอุตส่าห์ซื้อมาให้
เมื่อคราวไปเที่ยวงานหนังสือเอ็กซโปที่ประเทศแคนาดา
ฉันวางมันไว้นานแล้วไม่ได้หยิบมาอ่านซักที
พี่ติ๊กถามถึงหนังสือเล่มนี้ หลายครั้งแล้ว
เธอบ่นเสียหลายกระบุง รู้งี้ไม่ซื้อมาให้
รู้ไม๊ หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าสำหรับเธอมาก
พี่ติ๊กบ่นจนฉันรำคาญ
สุดท้ายฉันจำใจหยิบมันขึ้นมาอ่านเสียที
ก็แนวแฟนตาซีไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย
หนังสือยังถูกผนึกอยู่ในซองพลาสติด
ฉันค่อยๆเอาคัตเตอร์ตัดขอบออกอย่างระมัดระวัง
หน้าปกสวยๆอย่างนี้ ข้างในคงไม่มีอะไรน่าสนใจ
ส่วนใหญ่คนขายก็จัดการกับหน้าปกให้สวย
เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
อ่านง่ายๆแบบนี้ ฉันก็เลยหยิบมันมานั่งอ่านกลางสนามเด็กเล่น
คงเข้ากับบรรยากาศ ยามเย็นตะวันกำลังโพล้เพล้
ฉันคลี่ปกหนังสือออกค่อยๆอ่านไปทีละหน้า
แต่ละบรรทัดที่ผ่านสายตา ฉันอ่านมันอย่างฉงน
ยิ่งอ่าน น้ำตามันก็เริ่มเอ่อจนคลอเบ้า
ฉันใช้ปลายนิ้วปาดน้ำตา มันล้นจนไม่เห็นตัวหนังสือ
และเมื่ออ่านไปเรื่อยๆ ฉันก็เริ่มสะอื้น
ฉันไม่สามารถที่จะหยุดอ่าน ตัวหนังสือมันมีเหมือนมีมนต์
สะกดให้อ่านไปเรื่อยๆ น้ำตาเอ่อล้นตามด้วยเสียงสะอื้นไห้
สุดท้าย มันก็จบ ฉันเหมือนหลุดจากพันธนาการ
นี่เองที่พี่ติ๊กรบเร้าให้ฉันอ่านมัน
มันเป็นแค่ตัวการ์ตูนในฝัน นิยายสั้นๆ
แต่ลึกซึ้งโดนใจฉันสุดๆ
ฉันเจ็บปวดมาอย่างแสนสาหัส เพราะผู้ชายคนหนึ่ง
เมื่อนึกถึงเขาทีไร เลือดในกายมันฉีดพุ่งขี้นไปถึงสมอง
ท้องไส้มันปั่นป่วนแทบจะทะลักออกมา
ชาตินี้ฉันคงไม่ให้อภัยชายคนนี้แน่นอน
แต่เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เลือดในกายฉันก็ฉีดแรงขึ้นมาอีก
แต่หลังจากนั้นมันสงบ นิ่ง รู้สึกสมองมันโปร่ง
ท้องไส้ไม่ปั่นป่วนแต่กลับรู้สึกสบาย
ฉันนั่งหลับตา แล้วคิดตามเนื่อเรื่องในหนังสือ
หากตัวแสดงตนนั้นเป็นฉัน ในความรู้สึกเช่นนี้ฉันจะพูดว่าอะไร
มันคงไม่ง่ายหรอก แต่ฉันได้คิด
แค่คิดฉันก็รู้สึกดีแล้ว แต่โอกาสที่จะได้ทำฉันไม่แน่ใจ
ถึงเวลานั้นฉันจะทำได้ดั่งที่คิดไม๊
มันไม่ง่ายเลย แต่ฉันก็จะคิด
คิดว่าฉันอภัยให้เขาแล้ว อโหสิกรรมให้เขาแล้ว
ทั้งที่ชายคนนั้นไม่เคยมาขออโหสิกรรมต่อหน้าฉัน
ฉันแน่ใจว่า ณวันนี้เวลานี้ฉันคงทำอย่างที่คิดไม่ได้
แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป ฉันฝึกคิดที่จะให้อภัยเขาตลอดไป
เมื่อถึงวันนั้นฉันคงไม่ต้องฝืนอารมณ์
ที่จะกล่าวว่า ฉันให้อภัยและอโหสิกรรมในสิ่งที่แล้วมา
ขอให้ความสุขจงเกิดแก่เธอและฉัน
และเราก็จะไม่จองเวรจองกรรมข้ามภพข้ามชาติกันอีกต่อไป
ฉันหลุดพ้นจากพันธนาการแล้ว จริง จริง......
คุยกันท้ายเรื่อง
คราวนี้โจทย์ยากมาก นั่งคิดนอนคิด
เอาตีนก่ายหน้าผากคิด ตายแน่ ไอ้หวังตายแน่
จะเอาตรงไหนคิดเป็นเรื่องประสพการณ์ล้วนๆ
เอาแค่สมมติคงเขียนไม่ได้ดีเท่าเรื่องจริงที่เราประสพ
แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะมีประสพการณ์กันง่าย
เพื่อนๆอ่านแล้วคิดว่าคนเขียนอ่อนประสพการณ์ก็ยอมรับ อิอิ
จบเรื่องคุยกันท้ายเรื่องค่ะ
ขอบคุณ BG สวยจากเย็นตาโฟ & ภาพสวยจากอากู๋
Create Date : 26 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 9:57:39 น. |
|
60 comments
|
Counter : 1410 Pageviews. |
|
|
คุณแม่ยังคงมุ่งมั่นกับการเขียนงานในแนวเรื่องสั้นนะครับ
เดี๋ยวผมตามเข้ามาอ่านคำวิจารณ์ของคุณลุงแว่นด้วยคนนะครับ
ผมเองก็เรียนรู้การเขียนเรื่องสั้นพร้อมบล็อกคุณแม่นี่ล่ะครับ